เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - บทที่ 874 การต่อสู้ครั้งสุดท้าย
บทที่ 874 การต่อสู้ครั้งสุดท้าย
แต่เจียงฮุ่ยซินไม่ให้โอกาสหวีหรูเจี๋ยอธิบาย: “หรูเจี๋ย เธอตั้งใจจะยืมมือฉันช่วยลูกชายของเธอออกมาใช่มั้ย แล้วก็ถือโอกาสนี้เอาตำแหน่งนายหญิงของตระกูลเป่หมิงไปใช่มั้ย? ฉันยอมรับ ตอนนั้นฉันเป็นห่วงเรื่องสุขภาพร่างกายเธอ แถมเป็นแม่แท้ๆ ของโม่ เพราะงั้นฉันจึงสั่งให้คนไปเอาน้ำซุปบำรุงร่างกายไปให้เธอดูแลร่างกาย แต่ฉันก็คิดไม่ถึงเลย เธอยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ขณะที่ฆ่าลู่ลู่ ก็จะทำชื่อเสียงของฉันป่นปี้ ถ้าหากเธออยากจะนั่งตำแหน่งนี้จริงๆละก็ เธอแค่บอกฉันตรงๆ ก็ได้ ฉันจะให้ตำแหน่งนี้กับเธอแน่ๆ ฉันไม่แข่งกับเธอหรอก”
สิ่งที่เจียงฮุ่ยซินพูดไม่ได้เว้นโอกาสให้หวีหรูเจี๋ยพูดแก้ตัวเลย บนใบหน้าเธอเต็มไปด้วยความผิดหวังในตัวหวีหรูเจี๋ย และทำให้ตัวเองดูอ่อนแอ
“เจียงฮุ่ยซิน!เธอมีสิทธิ์อะไรมาพูดว่านี่เป็นฝีมือของหรูเจี๋ย” ในตอนนี้ โม้จิ่งเฉิงที่นั่งอยู่ที่นั่งผู้เข้าฟังก็นั่งไม่ติดเก้าอี้ เขาทนฟังเธอกล่าวหาหรูเจี๋ยต่อไปไม่ไหวแล้ว
“คุณผู้ชายท่านนี้เชิญนั่งลงก่อน ที่นี่คือศาล กรุณาอยู่ในความสงบด้วย ถ้าหากคุณทำเช่นนี้อีก พวกเราคงต้องเชิญคุณออกไปก่อน” ผู้พิพากษาห้ามโม้จิ่งเฉิงไว้
เจียงฮุ่ยซินที่โดนโม้จิ่งเฉิงว่าเมื่อกี้ ก็ตกใจอยู่ครู่ แต่ว่าในตอนนี้เธอทำได้แค่หันกลับไปยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า: “คุณโม้ ใจเย็นก่อน ฉันรู้ ว่าหรูเจี๋ยโดนว่าแล้วคุณไม่พอใจ แต่ว่านี่ไม่ใช่ความจริงหรอกเหรอ? อย่าคิดว่าฉันไม่รู้อะไรเลย พวกเด็กๆ กับพวกคุณก็ติดต่อกันอยู่ไม่น้อย ยากที่จะยืนยันว่าพวกคุณไม่ได้บอกให้เด็กๆ ทำเรื่องอะไรพวกนี้ แต่ว่าคุณโม้ฉันก็ไม่กล้าจะยืนยัน เรื่องที่ทำไมต้องทำร้ายลู่ลู่ นั่นก็เพราะในปีนั้นเป็นหรูเจี๋ยที่ทำลูกของลู่ลู่หายไป ตอนที่ลู่ลู่พักฟื้นถึงแม้พวกเธออาจจะดูเหมือนคืนดีกันแล้ว แต่เธอก็คงกลัวว่าหลังจากที่ลู่ลู่หายดีแล้ว จะมาแก้แค้นเธอมั้ย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสามีของลู่ลู่ พ่อแท้ๆ ของเด็กคนนั้นโผล่มา ในที่สุดเธอก็หาโอกาสได้ ใช้ประโยชน์จากความใจดีของฉันส่งยาบำรุงไปให้เธอ หลังจากเล่นตุกติกกับของแล้วก็ให้โม่เอาสิ่งนั้นไปมอบให้ลู่ลู่”
แม่งเอ๊ยอยู่ๆ เกมก็พลิก ทำเอาผู้พิพากษากลับไปสงสัยในตัวของหวีหรูเจี๋ย โม้จิ่งเฉิงทำได้แค่จ้องเจียงฮุ่ยซินตาเขม็ง จนใบหน้าเริ่มแดง
แม้แต่ผู้เข้าฟังอย่างหลี่เชินก็ถูกเจียงฮุ่ยซินพูดหว่านล้อม เขากำหมัดแน่น
“คุณพูดเองเออเอง!” เสียงของเด็กดังขึ้นมาในศาล มันไม่ใช่เสียงของหยางหยาง แต่เป็นเฉิงเฉิง
แต่เดิมเขายังคงมีความเห็นอกเห็นใจเจียงฮุ่ยซินอยู่บ้าง ถึงไม่ขึ้นมาพูดด้วยตัวเขาเอง ก็เพราะคิดว่าหลายปีที่ผ่านมาตัวเขาเองเติบโตมา เป็นเธอที่เป็นห่วงเขาที่สุด เป็นคุณย่าที่ใจดีที่สุด แต่หลังจากที่ได้ยินเธอพูดเมื่อครู่ ก็ได้ทำลายความประทับใจที่เขามีต่อเจียงฮุ่ยซินไปหมด
***
“เฉิงเฉิง……” เจียงฮุ่ยซินหันมา แล้วทำสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ แล้วมองไปที่เด็กที่เธอเลี้ยงจนโตมากับมือ
ผ่านไปสักพักเธอก็ยิ้มอย่างเสียใจ: “คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าจะเป็นเธอ ฉันเลี้ยงดูเธอจนโตมาอย่างยากลำบาก ราวกับเป็นหลานแท้ๆ ของตัวเอง แต่เธอก็ทำให้ฉันผิดหวังมากๆ ถึงกระทั่งทำหลายเรื่องลับหลังฉัน ฉันคิดแล้ว อย่างหยางหยาง ยังไงก็คงคิดเองไม่ได้ว่าต้องติดกล้องวงจรปิด เห็นทีเรื่องเธอก็มีส่วนเอี่ยวด้วยแล้วแหละ”
เฉิงเฉิงรีบปัดมือ บนหน้าก็เห็นได้ชัดว่ากำลังเสียใจ: “คุณย่า ไม่ใช่อย่างที่ย่าคิดทั้งหมดนะ……”
“เหอะๆ ไม่ใช่ทั้งหมด? งั้นแสดงว่าใช่สินะ งั้นก็ดี ถ้าเธอคิดว่าฉันพูดโกหก งั้นก็เอาหลักฐานออกมาสิ อย่าคิดว่าแค่วิดีโออันเดียวจะสามารถกล่าวหาว่าฉันเป็นฆาตกรได้” ท่าทางโมโหของเจียงฮุ่ยซินดูก้าวร้าวมาก เธอไม่อยากให้ของแค่นี้ มาทำให้เธอก้มหัวยอมรับหรอกนะ
“คุณไม่ต้องร้อนตัวจะได้มั้ย ถ้าหากคุณไม่โผล่หางออกมา พวกเราก็ไม่อยากจะสนใจคุณหรอก ต้องการหลักฐานใช่มั้ย งั้นก็ง่ายๆ ”
หยางหยางกับเฉิงเฉิงเป็นพี่น้องแท้ๆ ถึงแม้ปกติจะทะเลาะกันบ้าง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น โดยเฉพาะเมื่ออีกฝ่ายถูกรังแก พวกเขาก็จะสามัคคี เป็นหนึ่งเดียวกัน
เขาเห็นเฉิงเฉิงโดนเจียงฮุ่ยซินว่าแบบนี้ แถมเฉิงเฉิงก็ทำอย่างกับเป็นคนร้าย จึงทำให้หยางหยางรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะเป็นเฉิงเฉิงที่โดนด่า แต่ก็ไม่ต่างอะไรกับตัวเองโดนด่า อาจเป็นเพราะว่านี่คือสิ่งที่ฝาแฝดควรรู้สึกมั้ง
หยางหยางพูดกับเฉิงเฉิง: “นายทำหน้าน้อยใจแบบนั้นทำไมกัน พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิด เป็นเธอที่เลือดเย็น จะมาหาว่าเราไม่ยุติธรรมไม่ได้”
จากนั้นก็เพิ่มระดับเสียงของตัวเองให้ดังขึ้น: “เมื่อครู่ที่ให้ทุกคนดูนั้นก็แค่ ‘เรียกน้ำย่อย’ เนื่องจากมีคนหิวมาก งั้นผมขอนำอาหารจานหลักมาเลยแล้วกัน”
ต่อมา วิดีโอก็เล่นต่อไป เจียงฮุ่ยซินหยิบบางอย่างที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไรใส่ลงไปในชาม จากนั้นก็ใช้ช้อนคนซุปบำรุง ในขณะที่กำลังทำ ภาพที่เงียบสงัดอยู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้น จนสามารถได้ยินเสียงช้อนคนที่กระทบกับชาม และเสียงที่ออกมาจากปากของเธอที่กำลังด่าทอสาปแช่งหวีหรูเจี๋ย
สุดท้าย เธอก็เรียกสาวใช้ให้มาเอาชามที่เธอเอาอะไรก็ไม่รู้ใส่ลงไปในซุปบำรุงร่างกายเอาไปให้หวีหรูเจี๋ย
วิดีโอเล่นมาถึงตรงนี้ หน้าของเจียงฮุ่ยซินก็เปลี่ยนไปไม่ก้าวร้าวเหมือนเมื่อครู่ และดูไม่เป็นอันตราย เธอยืนแข็งทื่ออยู่อย่างนั้น ไม่ขยับราวกับเป็นรูปปั้น
หยางหยางทำสีหน้าภูมิใจ: “ฮี่ๆ ทำไมไม่โวยวายแล้วล่ะ? ความมั่นใจเมื่อกี้หายไปไหนซ่ะแล้วล่ะ? เอาล่ะ งั้นผมก็พูดเรื่องที่เกิดขึ้นต่อจากนี้แล้วกัน:ไม่ต้องให้ผมพูด คุณลุงผู้พิพากษาก็คงจะเข้าใจแล้ว คนที่เธออยากฆ่าที่จริงแล้วไม่ใช่คุณยาย แต่เป็นคุณย่าแท้ๆ ของผมกับเฉิงเฉิง แต่แค่คิดไม่ถึงว่าคนที่ถูกทำร้ายจะกลายเป็นคุณยาย ไม่เพียงแค่นั้น ยังโยงมาถึงคุณพ่อของพวกเราด้วย ผมคิดว่า สิ่งที่เธอพูดก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการแข่งขันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งนายหญิงของตระกูลเป่หมิง คงจะพูดถึงตัวเธอเอง เธอกลัวว่าคุณย่าแท้ๆ ของพวกเราจะกลับมา แล้วแย่งตำแหน่งของเธอไป จึงคิดวิธีทำร้ายคนแบบนี้”
เมื่อวิดีโอเล่นจบ ตอนที่หยางหยางยังไม่ได้อธิบายรายละเอียด ที่จริงหวีหรูเจี๋ยกับเป่หมิงโม่ก็เข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว พวกเขามองไปที่เจียงฮุ่ยซินอย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง
***
เมื่อเทียบกับเป่หมิงโม่ หวีหรูเจี๋ยยิ่งรับความจริงของเรื่องนี้ไม่ได้ เธอมองเจียงฮุ่ยซินอย่างผิดหวัง: “หลิง ทำไมเธอต้องทำแบบนี้กับฉันด้วย พวกเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนี่ หรือว่าตำแหน่งนายหญิงของตระกูลเป่หมิงมันสำคัญกับเธอมากเหรอ? สำหรับตำแหน่งนั้น ฉันไม่ได้มีความคิดที่ต้องการมันเลยสักนิด ฉันแค่สงสารลู่ลู่ ที่จริงแล้วเธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้เลยสักนิด แต่ก็ต้องมาตายจากไปโยที่ไม่รู้อะไรเลย”
เจียงฮุ่ยซินโดนฉีกหน้ากลางที่สาธารณะ ก็คงไม่จำเป็นจะต้องปิดบังอะไรต่อไปแล้ว บนหน้าก็ไม่ได้มีรอยยิ้มอย่างเช่นก่อนหน้านี้แล้ว แต่มันเป็นใบหน้าที่เย็นชาแทน ราวกับว่าเธอเปลี่ยนเป็นคนละคนเธอแสยะยิ้มแล้วมองไปทางหวีหรูเจี๋ย: “เหอะๆ เธอไม่มีความคิดที่ต้องการอะไรเลย? ใครจะไปเชื่อกัน โม่เขาดูแลบริษัทเป่หมิง แถมนายท่านก็เสียไปแล้ว ที่เธอกลับมาคราวนี้ไม่ใช่เพราะอยากจะมาแย่งที่นั่งตรงนี้ไปจากฉันเหรอ?”
น้ำตาบนหน้าของหวีหรูเจี๋ยไหลลงมา เธอเอาแต่ส่ายหน้า: “หลิง ทำไมเธอถึงคิดแบบนั้น ฉันคิดว่าเธอรู้ดี ตระกูลเป่หมิง เป่หมิงเจิ้งเทียนมอบให้กับฉันไม่ใช่ตัวตนที่มีเสน่ห์หรือสง่าราศีเหมือนเธอ ฉันรู้สึกถึงแค่ความเจ็บปวด เจ็บปวดอย่างไม่รู้จบ เธอบอกฉันสิว่าฉันหนีมันออกมาได้แล้ว ทำไมยังจะต้องกระโดดลงไปอีกล่ะ? ที่ฉันกลับมา ทั้งหมดนั่นก็เป็นเพราะว่าฉันกับโม่เราแยกกันมานานมากแล้ว ในฐานะแม่ฉันคิดว่าเธอน่าจะมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเรื่องนี้นะ”
“เหอะๆ หรูเจี๋ย เธอไม่ต้องมาเสแสร้ง กลับมาหาลูกชาย? นั่นคงจะเป็นข้ออ้างที่เธอหามาพูดมากกว่า เธอเห็นนายท่านเป่หมิงตายแล้ว แถมลูกชายเธอก็ดูแลตระกูลเป่หมิงอยู่ นี่คงเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะกลับมา อีกอย่าง มีใครที่ไม่รู้เรื่องที่บริษัทGTร่วมมือกับบริษัทเป่หมิง อีกอย่างบริษัทGTไม่ใช่ของพวกเธอหรอกเหรอ พูดอย่างดีว่าร่วมมือ แต่ความจริงแล้ว บางทีพวกเธออยากจะหุบบริษัทเป่หมิงสินะ สำหรับฉันที่เป็นคนของตระกูลเป่หมิง จะไม่ยอมให้พวกเธอทำอะไรแบบนั้นหรอก ฉันจะไม่ยอมให้สิ่งที่นายท่านเป่หมิงลงทุนลงแรงสร้างมันมากับมือถูกพวกเธอแย่งไปหรอก!” เจียงฮุ่ยซินทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ร่างเธอก็เริ่มสั่นเล็กน้อย
เป่หมิงโม่ที่ถูกคุมตัวตรงที่นั่งของจำเลย เบื้องหน้าเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน แต่อย่างน้อยตอนนี้ก็สามารถยืนยันได้เรื่องนึงแล้วว่า ลู่ลู่ไม่ได้ถูกตัวเองหรือว่าแม่ของตนฆ่าตาย เจียงฮุ่ยซินเป็นฆาตกรตัวจริง
“ป้าซิน ตั้งแต่คุณมาอยู่ในตระกูลเป่หมิงของพวกเรา ผมไม่เคยมองคุณเป็นคนนอกเลย ผมคิดว่าคุณเป็นคนฉลาด เรื่องทั้งหมดที่ผมทำไปก็เพื่อให้บริษัทเป่หมิงพัฒนาและมีศักยภาพ และทำไมถึงต้องร่วมมือกับบริษัทGT นั่นก็เป็นเรื่องปกติของวงการธุรกิจ และแม่ของผม……” เป่หมิงโม่พูดถึงตรงนี้ ก็มองไปทางหวีหรูเจี๋ย: “เธอมีชีวิตของตัวเองแล้ว และผมก็มองออก เธอพอใจและมีความสุขกับชีวิตเธอในตอนนี้มาก ไม่จำเป็นต้องไปแย่งชิงตำแหน่งนายหญิงตระกูลเป่หมิงอะไรนั่นกับคุณอีก ที่คุณพูดมาเมื่อกี้ทั้งหมด นั่นก็เป็นเพียงสิ่งที่คุณคิดขึ้นมาเอง นั่นคือเหตุผลว่าทำไมคุณต้องทำเรื่องผิดพลาดเช่นนี้ ป้าซิน ผมยังคงเห็นคุณเป็นคนตระกูลเป่หมิง ผมอยากให้คุณยอมรับความผิด”
เจียงฮุ่ยซินยิ้มอย่างเศร้าๆ : “รับผิด? ฉันผิดข้อหาอะไรล่ะ สรุปแล้วฉันทำผิดอะไร? ฉันไม่ได้เป็นคนฆ่าลู่ลู่ เป็นหวีหรูเจี๋ยที่ฆ่าเธอ!เป็นเธอที่ส่งชามใบนั้นที่เธอควรจะกินไปให้กับลู่ลู่”
***
คำพูดของเจียงฮุ่ยซินทำให้หวีหรูเจี๋ยช็อกไปในทันที แม้แต่เป่หมิงโม่กับผู้พิพากษาละคนส่วนใหญ่ที่อยู่ที่นี่ ในใจก็ไม่พอใจมากๆ
หวีหรูเจี๋ยคิดไม่ถึงจริงๆ คำๆ นี้จะออกมาจากปากคนที่เคยเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดต่อกัน: “หลิง หรือว่าเธออยากจะให้ฉันหายไปจากโลกนี้จริงๆ ใช่มั้ย ฉันไปทำอะไรให้เธอกันแน่เธอถึงต้องทำแบบนี้กับฉัน?”