เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - บทที่ 887 ลาออก
บทที่ 887 ลาออก
แต่ตอนนี้ความคิดแบบนั้นเปลี่ยนไปแล้ว เพราะเฉิงเฉิงรู้แล้วว่าตัวเองไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของคุณพ่อ
“คุณพ่อ ตั้งแต่เด็ก แม้ว่าคุณพ่อจะสั่งสอนผมค่อนข้างเข้มงวด แต่ผมก็เข้าใจชัดเจนว่าที่คุณพ่อทำแบบนั้นก็เพื่อผม รวมไปถึงเรื่องที่มอบผมให้กับคุณแม่และพาหยางหยางกลับบ้านไปด้วย”
“อ่อ ลูกคิดอย่างนั้นจริงๆหรือ อยู่ที่นี่กับคุณแม่นั้นไม่เหมือนกับอยู่ที่บ้านใหญ่นั่น อาหารการกิน เสื้อผ้าที่สวมใส่ ที่อยู่อาศัย หรือจะเดินทางไปไหนล้วนสะดวกสบายขนาดนั้น……” คำตอบที่เฉิงเฉิงตอบออกมานั้นทำให้เป่หมิงโม่รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
เฉิงเฉิงเข้าใจความหมายทั้งหมดที่คุณพ่อพูด “บ้านของคุณแม่นั้นแม้ว่าจะเทียบกับบ้านของคุณปู่ไม่ได้ แต่สำหรับผมแล้วสิ่งเหล่านี้ถึงจะเป็นสิ่งที่ผมต้องการจริงๆ”
“คุณพ่อ ตั้งแต่เด็กผมก็ไม่มีคุณแม่ และก็ไม่เคยรู้สึกถึงความรักและเอาใจใส่ของคุณแม่มาก่อน แม้ว่าคุณย่าและคุณปู่ พวกเขาจะปฏิบัติกับพวกเราดีมาก แต่เมื่อเห็นเด็กคนอื่นๆที่มีคุณพ่อคุณแม่อยู่เป็นเพื่อนด้วยแล้ว ในใจของผมก็ปรารถนาที่จะมีคุณแม่ที่รักและเอาใจใส่ผมคนหนึ่งแบบนี้ จนกระทั่งในภายหลัง ผมพบกับหยางหยาง รู้ว่าบนโลกใบนี้ยังมีพี่น้องอีกคนหนึ่งที่เหมือนกับผมอยู่ด้วย ที่สำคัญก็คือ ผมเป็นเด็กที่มีแม่ คุณพ่อ คุณพ่อรู้ไหมครับว่า ตอนนั้นผมอิจฉาหยางหยางมาก เพราะว่าเขามีคุณแม่แต่ผมไม่มี ภายหลัง เมื่อผมรู้ว่าต้องกลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านคุณแม่อีกก็ดีใจมาก ตื่นเต้นจนแทบจะนอนไม่หลับทั้งคืน ช่วงระยะเวลาที่ได้ใช้กับชีวิตคุณแม่นี้ ผมรู้สึกได้ถึงความรักที่คุณแม่มีให้ผมจริงๆ”
พูดถึงตรงนี้ เฉิงเฉิงก็ยื่นมือเล็กออกมาจับมือใหญ่ของคุณพ่อเอาไว้ เอ่ยพูดเสียงเบาว่า “คุณพ่อ ผมกับหยางหยางล้วนมีคุณแม่ อีกทั้งพวกเราก็รู้ว่าคุณพ่อดีต่อผมและหยางหยางมาก แต่ทำไมระหว่างคุณพ่อกับคุณแม่ถึงได้มีเรื่องขัดแย้งกันมากขนาดนี้ล่ะครับ”
***
เป่หมิงโม่เคยจัดการปัญหาตึงมือมากมาย แต่ปัญหาเหล่านั้นล้วนเทียบกับสิ่งที่ลูกชายเอ่ยออกมาในเวลานี้ไม่ติด ทำให้เขารู้สึกว่าไร้หนทางลงมือและตอบคำถาม
ใช่แล้ว ไม่ว่าตัวเองหรือว่ากู้ฮอน แม้ว่าพวกเขาทั้งสองคนจะปฏิบัติกับลูกๆตามวิธีการของตัวเอง แต่ก็มีเป้าหมายเดียวกันเป้าหมายหนึ่ง นั่นก็เพื่อลูก
เฉิงเฉิงรออยู่นาน รอคอยว่าคุณพ่อจะสามารถให้คำตอบกับตัวเองได้คำตอบหนึ่ง แต่ว่าสุดท้ายแล้วก็ยังคงว่างเปล่า เขามองเห็นคุณพ่อค่อยๆลุกขึ้นยืนจากโซฟา จากนั้นก็หันกลับมามองตัวเอง แล้วเดินไปทางประตูโดยไม่หันกลับมาอีก
เป่หมิงโม่มาที่นี่เดิมก็อยากเห็นลูกสาวที่ไม่เคยพบกันจริงๆจังๆของตัวเอง แต่ก็นับว่าเรื่องไม่เป็นไปอย่างที่ใจหวัง ต้องไปจากที่นี่โดยไม่ได้อะไรเลย
ตอนที่เขากำลังยื่นมือออกไปจับลูกบิดประตู ต้องการจะจากไปนั้น ก็ได้ยินเสียงลอยมาจากด้านหลังเสียงหนึ่ง “ในเมื่อคุณออกมาแล้ว อย่างนั้นฉันก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่บริษัทเป่หมิงเพื่อดำรงตำแหน่งท่านประธานต่อไปอีก ตอนนี้ฉันจะขอลาออกและคืนตำแหน่งนี้ให้คุณ”
นี่เป็นเสียงของกู้ฮอน เธอลงมาจากชั้นสามตั้งแต่เมื่อไรกัน ทำไมตัวเองถึงไม่รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อย อาจจะเป็นเพราะว่าตัวเองครุ่นคิดจมอยู่กับคำถามที่ลูกชายถามออกมาเมื่อครู่นี้ตลอด
เป่หมิงโม่หมุนร่างกลับมาอีกครั้ง ก็เห็นว่ากู้ฮอนยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องรับแขกในตอนนี้ ข้างกายเธอนอกจากเฉิงเฉิงและหยางหยางแล้วยังมีแอนนิอยู่ด้วย
สีหน้าของเขากลับสู่สภาพเดิมก่อนหน้านี้อย่างรวดเร็ว เขาเอ่ยอย่างผ่อนคลายว่า “ผมจะยอมให้คุณจะมาก็มา จะไปก็ไปได้อย่างไรกัน ตอนนี้วันหยุดของผมยังไม่จบลง ดังนั้นตำแหน่งท่านประธานยังคงต้องให้คุณเป็นต่อไป”
“เฮ้…….”
ไม่รอให้กู้ฮอนเอ่ยจบ เป่หมิงโม่ก็ดึงประตูให้เปิดแล้วเดินออกไป
ถัดมาก็ได้ยินเสียงปิดประตู
นับตั้งแต่ออกมาจากบ้านพัก เป่หมิงโม่ก็ถอนหายใจโล่งอก จากนั้นคิ้วก็กระตุกเล็กน้อย มุมปากโค้งขึ้นบางๆ
กู้ฮอนคิดอยากจะวางมือไม่ทำแล้วในตอนนี้ จะปล่อยให้เธอสบายได้อย่างไรกัน ยิ่งไปกว่านั้นการที่เธออยู่ที่บริษัทเป่หมิง สำหรับใครแล้วล้วนเป็นการจัดการที่ดีที่สุด
หลังจากที่เขาเดินออกไปจาก ‘ปิ่นฮอนเป่หยวน’ อย่างสบายๆแล้ว ด้านหลังก็มีเสียงของรถยนต์ลอยมา ถัดมารถบีเอ็มดับเบิลยูคันหนึ่งก็จอดอยู่ไม่ไกลจากเป่หมิงโม่มากนัก
นั่นคือฉิงฮัวที่ขับรถตามมา เขารู้ว่าครั้งนี้เจ้านายไม่มีรถ
“เจ้านาย คุณจะไปที่ไหนครับ ผมจะไปส่งคุณเอง”
เป่หมิงโม่โบกมือ เอ่ยกับฉิงฮัวว่า “ที่บ้านนายยังมีภรรยาและลูกที่ต้องดูแล ไม่ต้องไปส่งฉันหรอก”
“เจ้านาย ตอนนี้ฟ้าก็มืดมากแล้ว คุณตัวคนเดียว ผมรู้สึกไม่ค่อยวางใจ ยังไงให้ผมไปส่งคุณเถอะครับ ที่บ้านยังมีพวกคุณผู้หญิงที่จะดูแลลั่วเฉียวพวกเธอแม่ลูกอย่างดี”
เมื่อเผชิญหน้ากับความดื้อดึงของฉิงฮัว เป่หมิงโม่ก็ทำได้เพียงแค่พยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นก็ส่งฉันกลับไปที่ด้านบนก็แล้วกัน”
ไม่นานหลังจากนั้น ในบ้านพักที่ปานซานก็มีแสงไฟสว่างขึ้นอีกครั้ง
*
เป่หมิงโม่ไม่ได้เห็นด้วยกับความต้องการที่กู้ฮอนจะลาออกจากตำแหน่งประธาน นี่ทำให้เธอโมโหเป็นอย่างมาก
“มีคนแบบนี้ที่ไหนกัน เห็นอยู่ชัดๆว่าเป็นเรื่องภายในของตัวเอง กลับให้คนนอกคนหนึ่งมาจัดการ เขานั้นใจใหญ่มากจริงๆ ไม่กลัวว่าฉันจะทำให้กิจการของเขาพังเลย”
แอนนิที่อยู่ข้างๆฟังกู้ฮอนบ่นไม่หยุด เธอเพียงแต่รักษารอยยิ้มเอาไว้จนถึงตอนจบโดยไม่เอ่ยพูดอะไรสักคำ
***
กู้ฮอนบ่นอยู่สักพักก็มองไปที่แอนนิ “เฮ้อ เธอฟังมาเยอะขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงไม่แสดงความคิดเห็นบ้างล่ะ”
“ฮอน นี่ก็เป็นเรื่องในครอบครัวเธอนะ ฉันที่เป็นคนนอกคนหนึ่ง จะแสดงความเห็นได้อย่างไรกันล่ะ”
“แอนนิ ถึงตอนนี้แล้ว ทำไมเธอยังล้อเล่นกับฉันอีก” เห็นได้ชัดว่า กู้ฮอนนั้นร้อนใจจนแทบจะไฟไหม้มาถึงขนคิ้วแล้ว
เมื่อเอ่ยจบแล้ว เธอก็หันไปพูดกับลูกทั้งสองคนว่า “ทำไมพวกลูกสองคนยังไม่ไปนอนกันอีก ดูสิว่าตอนนี้มันกี่โมงกี่ยามกันแล้ว พรุ่งนี้พวกเราต้องไปฝังศพคุณยายกันนะ ถึงตอนนั้นพวกลูกตื่นไม่ไหวก็ไม่พาพวกลูกไปนะ”
“อย่างนั้นน้องสาวจะไปด้วยไหมครับ” หยางหยางอ้าปากถาม
“แน่นอนว่าไป พวกเราทั้งครอบครัวล้วนต้องไป พรุ่งนี้ตอนหกโมงเช้า”
หยางหยางได้ยินแล้วก็คิ้วขมวด ใบหน้าเผยแววลำบากใจ “อา……หกโมงเช้าหรือ ผมจะตื่นไหวได้อย่างไรครับ”
เมื่อครู่ตอนที่อยู่ห้องใต้หลังคา ไม่ง่ายเลยที่แอนนิจะโน้มน้าวแม่ลูกคู่นี้ได้สำเร็จ ตอนนี้กู้ฮอนได้ยินน้ำเสียงแบบนี้ของหยางหยางแล้วก็เกือบจะโมโหขึ้นมาอีก เธอกลอกตามองบน เอ่ยเสียงเย็นเยียบว่า “ถ้าอย่างนั้นลูกก็จัดการไปตามสมควรแล้วกัน ตอนที่คุณยายยังมีชีวิตอยู่นั้นปฏิบัติกับลูกไม่เลวเลย……..อย่างนั้นที่เหลือลูกควรจะทำอย่างไร ก็น่าจะเข้าใจแล้วนะ”
ถัดมาเธอก็มองไปที่เฉิงเฉิง “ลูกรัก วันนี้ลูกทำได้ดีมาก รีบไปนอนเถอะ”
หยางหยางได้ยินคุณแม่ชื่นชมเฉิงเฉิง แต่ไม่ชมตัวเอง ก็เริ่มบ่นออกมาบ้าง “คุณแม่ วันนี้ผมต่างหากที่ทำคุณงามความดีมากที่สุด แต่ทำไมในตอนท้ายถึงได้ตกอยู่ในสภาพแบบนี้กัน”
“ทำไม ยังรู้สึกไม่ยอมแพ้ใช่หรือไม่ ดูท่าว่าตอนที่อยู่บนห้องใต้หลังคาจะจัดการลูกได้ไม่มากพอสินะ” กู้ฮอนพูดแล้วก็ถลึงตาใส่เขา
“อย่าๆๆ……คุณแม่ หูของผมในตอนนี้ยังเจ็บแปลบๆอยู่เลยนะ เชื่อเลยจริงๆ ล้วนเป็นลูกชายเหมือนกัน ทำไมถึงได้ปฏิบัติกับผมและเฉิงเฉิงต่างกันมากขนาดนี้ล่ะ ผมว่าผมขึ้นไปนอนจะดีกว่า” หยางหยางพูดจบก็อ้าปากหาว จากนั้นก็หมุนตัวเดินไปทางลิฟต์โดยสาร
“ใช่แล้ว ล้วนเป็นลูกชายเหมือนกัน แต่ทำไมผลการเรียนถึงได้ต่างกันมากขนาดนี้ล่ะ” เดิมกู้ฮอนก็ไม่ได้โกรธอะไรหยางหยาง ในตอนนี้ก็ตอบกลับกึ่งล้อเล่นหนึ่งประโยค
หยางหยางขึ้นไปข้างบนแล้ว แต่เฉิงเฉิงกลับยังยืนอยู่ที่เดิม เขาไม่มีท่าทีจะกลับไป
“เฉิงเฉิง ลูกยังมีเรื่องอะไรอีกไหม”
เมื่อถูกคุณแม่เอ่ยถาม เฉิงเฉิงก็ส่ายหน้าแล้วต่อมาก็พยักหน้า “คุณแม่ เมื่อครู่ตอนที่ผมกับคุณพ่อพูดคุยกันที่ชั้นล่างนั้น ผมพบว่าคุณพ่อเปลี่ยนไปเล็กน้อย”
“เปลี่ยนไปเล็กน้อยหรือ” กู้ฮอนกับแอนนิรู้สึกสงสัยกับวิธีการพูดแบบนี้ของลูกชาย
“ใช่ครับ ผมรู้สึกว่าแม้ว่าปกติแล้วคุณพ่อจะมีท่าทางดุร้าย แต่กับผมและหยางหยาง กระทั่งคุณแม่เองก็ปฏิบัติออกมาจากหัวใจ ในจุดนี้ผมเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งตั้งแต่ยังเด็ก”
ลูกชายมีความรู้สึกแบบนี้ ตัวเองทำไมถึงไม่มีบ้าง เพียงแต่เป่หมิงโม่คนนี้นั้นยากที่คนจะครุ่นคิดออกถึงความคิดของเขา
ก่อนหน้านี้เขาสามารถกระตือรือร้นเช่นนั้น กระตือรือร้นเสียจนทำให้คุณรู้สึกหายใจไม่ออก แต่ในเวลาต่อมาเขาก็เปลี่ยนเป็นเลือดเย็นอำมหิต อำมหิตเสียจนทำให้คุณรู้สึกหายใจไม่ออกเช่นเดียวกัน
“ฮอน เฉิงเฉิงพูดก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผลอะไร ในฐานะที่เป็นคนดูคนหนึ่ง ฉันมองออกว่า สำหรับปัญหามากมายนั้น ก็เป็นเพราะว่าพวกเธอสองคนถกเถียงเพื่อจะเอาชนะกันมากเกินไปแล้ว แต่ว่าในหลายๆครั้งก็แค่หลับตาข้างหนึ่ง ลืมตาข้างหนึ่ง มันก็ผ่านไปแล้วไม่ใช่หรือ”
***
กู้ฮอนมองแอนนิพลางยิ้มเฝื่อน “เธอพูดไม่ผิดเลย ลืมตาข้างหนึ่ง ปิดตาข้างหนึ่ง หลายๆเรื่องราวก็จะแก้ไขได้จริงๆ แต่เขาไม่คิดแบบนี้ ทำเป็นแต่ซักไซ้ไล่เลียงเท่านั้น เธอว่า ฉันจะสามารถปฏิบัติกับเขาอย่างไร ก่อนหน้านี้เพื่อลูก ฉันถอยให้เขามากพอแล้ว ในภายหลังเป็นอย่างไร ไม่ใช่ว่าฟ้องร้องฉันกับศาล แย่งหยางหยางไปจากมือของฉัน สาเหตุที่ฉันปฏิบัติกับเขาแบบนี้ ก็เป็นเพราะเขานั่นแหละ”
แอนนิฟังแล้วก็พยักหน้า “ฮอน ถ้าเธอพูดเรื่องกับฉันแต่ก่อน ฉันนั้นเห็นด้วยกับมุมมองนี้ทั้งหมด แต่ว่าตอนนี้ฉันกลับมาความคิดใหม่แล้ว อย่างอื่นไม่พูดถึง เอาเรื่องวันนี้มาพูดก็แล้วกัน เป้าหมายที่เป่หมิงโม่มาที่นี่นั้นในใจเธอก็รู้ชัดเจน แต่ว่าในภายหลัง เขาไม่ใช่ว่าจากไปแล้ว”
“นั่นก็เป็นเพราะว่าเขาหาทารกน้อยไม่เจอเท่านั้นเอง” กู้ฮอนชี้แจง
“เธอรู้จักกับเป่หมิงโม่นานกว่าฉันเล็กน้อย ฉันคิดว่าเธอน่าจะเข้าใจวิธีการจัดการเรื่องราวของเขามากกว่า เมื่อครู่นี้เธอพูดว่าเขาเป็นคนประเภทที่ซักไซ้ไล่เลียง ไม่ยอมวางมือยุติเรื่องราวไม่ใช่หรือ อย่างนั้น ภายในสถานการณ์แบบนี้ในวันนี้ ทำไมเขาถึงไม่ได้ทำแบบนั้น อย่าลืมเสียล่ะ แม้ว่าฉิงฮัวจะเป็นเจ้าของที่นี่ แต่ก็เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา ยิ่งไปกว่านั้นกระทั่งบ้านพักหลังนี้ เขาก็เป็นคนมอบให้ ถ้าเขาจะตามหาให้ถึงที่สุดจริงๆ ฉันคิดว่าพวกเราก็หยุดยั้งเขาไม่ได้หรอกนะ”
“แม้ว่าจะพูดแบบนี้ แต่ก็ยังคงยากที่จะรับประกันได้ว่าเขาจะทำเหมือนครั้งก่อนที่แย่งชิงหยางหยาง แล้วจะแย่งชิงจิ่วจิ่วไปอีกครั้งใช่หรือไม่ เธอก็เห็นว่าวันนี้ที่เขามา มีกลิ่นเหล้ามาด้วย เพราะฉะนั้นการกระทำทั้งหมดที่นี่เป็นเพราะปฏิกิริยาตอบสนองหลังจากดื่มเหล้า แต่หลังจากที่สร่างเมาแล้ว ใครจะรับประกันได้ว่าเขาจะยอมรามือ”
เฉิงเฉิงที่ได้ฟังบทสนทนาระหว่างคุณแม่กับคุณป้าแอนนิก็รู้สึกร้อนรนขึ้นมาบ้างแล้ว “คุณแม่ ผมคิดว่าคุณแม่คิดมากไปแล้ว แม้ว่าคุณพ่อจะดื่มเหล้า แต่ผมก็มองออกว่าวันนี้เขามีสติมากกว่าทุกเวลา คุณพ่อมาที่นี่ก็ไม่ใช่เพื่อจะพาน้องสาวกลับไป คุณพ่อเพียงแค่อยากเห็นน้องสาวเท่านั้นเอง..