เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - บทที่ 905 ในที่สุดก็ปรากฏตัว
บทที่ 905 ในที่สุดก็ปรากฏตัว
ฉิงฮัวส่ายหน้า “นี่เป็นการตัดสินใจของเจ้านายครับ เมื่อเช้าท่านโทรมาบอกว่าให้ทำ”
หมาอย่างเป่หมิงเอ้ออีกแล้วงั้นเหรอ แถลงข่าว? ขอบคุณความรอบคอบของเขา หรือว่ากลัวว่าฉันจะเทกลางคันไม่ทำแล้วงั้นเหรอ? ก็เลยทุบหม้อจมเรือ บังคับให้เธอนั่งอยู่ในตำแหน่งนี้
ถึงแม้ว่ากู้ฮอนจะคิดแบบนี้ แต่ว่าก็ไม่สามารถพูดแบบนี้ออกมาได้
“คุณผู้หญิง งั้นเอาแบบนี้ไหมครับ ผมว่าก่อนจะถึงงานแถลงข่าวยังพอมีเวลาอยู่ ผมพาคุณไปซื้อเสื้อผ้าหน่อยดีกว่า” สมกับเป็นฉิงฮัวจริงๆ พอเจอปัญหาอะไรก็สามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เป่หมิงโม่เห็นความสำคัญของเขามาก
ก็ได้แต่ต้องทำแบบนี้แล้วล่ะ กู้ฮอนพยักหน้า หลังจากนั้นก็ออกจากห้องทำงานพร้อมกับฉิงฮัว
เพื่อที่จะป้องกันนักข่าวที่รออยู่ตรงลานจอดรถหรือหน้าประตูบริษัท กู้ฮอนไม่ได้ขับรถของตัวเอง แต่ว่านั่งรถของฉิงฮัวแล้วก็ออกจากตระกูลเป่หมิงไป
ตอนที่รถแล่นมาถึงทางออกที่จอดรถนั้น อย่างที่คาดไว้จริงๆ นักข่าวที่เคยล้อมรถของกู้ฮอนยังคงนั่งเฝ้าอยู่ตรงนั้นด้วยความพยายาม แน่นอน พวกเขาก็ไม่ได้ทำเพื่อเรื่องนี้ทั้งหมด ก็ยังมีส่วนที่มารองานแถลงข่าวด้วย
ที่พวกเขาทำแบบนี้ ก็เพราะว่าอยากจะได้รายงานพิเศษไปก่อนหน้าคนอื่น
ฉิงฮัวขับรถพากู้ฮอนมาที่ห้างสรรพสินค้าอันดับหนึ่ง ที่นี่มีร้านค้าเฉพาะของแบรนด์ชั้นนำระดับโลก กู้ฮอนเองมาก็มาที่นี่เป็นครั้งคราว แต่ว่าไม่เคยซื้ออะไรเลย
สำหรับเหตุผลน่ะเหรอ……ข้อแรก, เพราะว่าเงินเธอไม่ค่อยเยอะ ข้อที่2,เธอต้องเอาเงินของเธอไปเลี้ยงลูก
อย่างที่เขาว่ากันว่า : มีลูกชายต้อง ‘สร้างธนาคาร’ , มีลูกสาวต้อง ‘หาคนมาลงทุนกับธนาคาร’
ตอนนี้ เธอมีลูกชาย2คน ยังไงก็ต้องเตรียมให้พร้อมก่อนพวกเขา2คนจะแต่งงาน ถึงแม้ว่าพ่อของลูกชายเธอเป่หมิงโม่มีเงินมากมาย แต่ว่าไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็เป็นความตั้งใจของคนเป็นแม่เหมือนกัน
ฉิงฮัวพาเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเสื้อผ้า ทำให้กู้ฮอนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย มันไม่ง่ายเลยกว่าตัวเองจะสามารถเก็บเงินได้ แล้ววันนี้ต้อง ‘ล้มละลาย’ แล้วเหรอ?
ช่างเถอะ ยังไงฉิงฮัวก็ถือว่าเป็นคนของเธอ ก็ไม่มีอะไรที่พูดไม่ได้หรอก พอคิดได้แบบนี้ กู้ฮอนก็รวบรวมความกล้าของตัวเอง “ฉิงฮัว หรือว่าพวกเราไปหาซื้อเสื้อผ้าที่อื่นดีกว่าไหม”
***
พอฉิงฮัวได้ยินกู้ฮอนพูดดังนี้ ก็รู้สึกประหลาดใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาหยุดเดินแล้วก็หันมามองหน้าเธอ “คุณผู้หญิง ที่นี่มีอะไรผิดปกติรึเปล่าครับ? ”
ใบหน้าของกู้ฮอนค่อยๆ แดง เธอก้มหน้าลงนิดหน่อย แล้วก็พูดอย่างเบาๆ และตะกุกตะกัก “คือ คือว่าเสื้อผ้าที่นี่มันแพงมากไปหน่อย นายก็รู้ ว่าฉันมีลูก3คนต้องเลี้ยง เพราะฉะนั้น ฉันไม่มีเงินมากขนาดที่จะซื้ออะไรพวกนี้ได้หรอกนะ”
หลังจากพูดจบ แม้แต่ตัวเธอเองยังรู้สึกขายหน้า ในฐานะที่เป็นหัวหน้าองค์กรชั้นนำ เป็นประธานของบริษัทเป่หมิงที่ทั้งโลกรู้จัก มาในสถานที่แบบนี้ กลับต้องมาขายหน้าเพราะเรื่องเงิน……
ถ้าเกิดว่านักข่าวพวกนั้นจับได้ แล้วก็เติมน้ำมันเข้าไป มันจะต้องกลายเป็นข่าวดังแน่นอน
ฉิงฮัวพอได้ฟังแล้วจะไม่เข้าใจได้ยังไงว่าเธอกำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่ “คุณผู้หญิง เรื่องนี้ไม่ต้องกังวลไปเลยครับ คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินสำหรับเสื้อผ้าพวกนี้เลย”
“ไม่ต้องจ่ายงั้นเหรอ? ถึงแม้ว่าฉันจะพึ่งเข้ามารับตำแหน่ง แล้วจะมาใช้เงินของตระกูลเป่หมิงได้ยังไงกัน ถ้าเกิดว่าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป มันน่าจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่หรอกมั้ง”กู้ฮอนไม่อยากจะถูกพูดถึงในเรื่องนี้ โดยเฉพาะเป่หมิงยี่เฟิงกับถังเทียนจื๋อ
ตอนนี้พวกเขา2คนร่วมมือกัน แค่นี้ก็ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากพอแล้ว แล้วอีกอย่างกู้ฮอนก็เข้าใจเป็นอย่างดีว่า พวกเขาน่าจะกำลังจ้องตำแหน่งประธานตระกูลเป่หมิงตาเป็นมัน ถ้าเกิดว่าพวกเขาเอาเรื่องนี้ไปเขียนบทความละก็ ตัวเธอพึ่งเข้ามาอยู่ที่นี่ ไม่ได้มีรากฐานอะไรในตระกูลเป่หมิง ต้องรับมือกับการกระทำเพียงเล็กน้อยของพวกเขาไม่ไหวแน่ๆ
“วางใจเถอะครับคุณผู้หญิง เงินนี้ก็ไม่ได้มาจากบัญชีของบริษัทตระกูลเป่หมิงแน่นอนครับ ค่าใช้จ่ายในครั้งนี้เจ้านายจะเป็นคนจ่ายเอง เมื่อเช้าหลังจากที่เจ้านายบอกผมเกี่ยวกับเรื่องงานแถลงข่าวแล้วนั้น ก็คิดไว้แล้วว่าคุณน่าจะไม่มีชุดที่เหมาะสม และคุณก็น่าจะไม่ยอมใช้เงินของบริษัทตระกูลเป่หมิงด้วย เพราะฉะนั้นก็เลยบอกผมว่าเขาจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเองครับ”
“ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว งั้นพวกเราก็รีบไปเลือกเสื้อผ้ากันเถอะ” กู้ฮอนพูด แล้วก็เดินเข้าไปในร้านค้า
เป่หมิงโม่คนนี้ช่างเข้าใจจิตใจคนอื่นจริงๆ เขาสามารถคาดเดาความกังวลทั้งหมดของเธอได้ เนื่องจากเขาเสนอจะจ่ายค่าใช้จ่ายให้อย่างใจกว้าง ถ้ายังงั้นจะพูดอะไรได้อีกล่ะ ถือว่ามันเป็นรางวัลสำหรับการที่เธอดูแลเขาทั้งคืนตอนที่เขาเป็นไข้แล้วกัน
กู้ฮอนคิดได้แล้ว สำหรับเป่หมิงโม่แล้วก็ไม่ต้องเกรงใจอะไรหรอก
หลังจากผ่านไป1ชั่วโมง ในมือของฉิงฮัวก็เต็มไปด้วยถุงหิ้วมากมาย ทั้งเล็กและใหญ่
ถุงใหญ่เอาไว้สำหรับงานแถลงข่าว แล้วก็ฟังคำแนะนำจากฉิงฮัว บอกว่าให้เลือกชุดที่เหมาะสมที่เอาไว้พบกับประธานบริษัทอื่นหรือว่าเอาไว้สำหรับงานเข้าสังคมด้วย
ส่วนถุงเล็ก สำหรับเธอที่เป็นแม่คนนั้น แน่นอนว่าต้องเป็นเสื้อผ้าที่เธอเลือกให้ลูกทั้ง3คนของเธอ นี่ถือว่าเป็น ‘ยืมดอกไม้มาถวายพระ’ แน่นอน ใช้เงินของพ่อของพวกเขามาซื้อเสื้อผ้า ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมอยู่แล้ว
*
ตอน9.50นาที ในห้องโถงชั้น1หนึ่งบริษัทตระกูลเป่หมิง ได้เตรียมสำหรับการแถลงข่าวไว้เรียบร้อยแล้ว
พวกนักข่าวก็มานั่งกันจนเต็มแล้ว
กู้ฮอนสวมใส่ชุดมืออาชีพสีแดงกุหลาบที่พึ่งซื้อมาเมื่อกี้นี้ เดินเข้ามาในสถานที่พร้อมกับฉิงฮัวอย่างช้าๆ การปรากฏตัวของเธอ สามารถเรียกเสียงแฟลชจากกล้องได้มากมาย
ยังไม่ต้องพูดถึงรูปร่างของกู้ฮอน ไม่ว่าเธอจะสวมใส่อะไรก็จะดูดี ผิวขาวเนียน เอวเรียวบาง ชุดสีแดงกุหลาบ พวกกับความรู้สึกที่ดูฉลาดแหลมคมจากตอนที่เธอเป็นทนาย มันเปลี่ยนภาพลักษณ์ก่อนหน้านี้ของเธอในฐานะ “ผู้ติดตาม” จริงๆ เธอได้กลายเป็นผู้หญิงที่เป็นมืออาชีพที่มีวุฒิภาวะและมั่นคงในทันที
ต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์แบบนี้ เธอเองก็ชินแล้วเหมือนกัน ฉิงฮัวจัดตำแหน่งให้เธอนั่งอยู่ด้านซ้ายของที่นั่งตรงกลาง และฉิงฮัวก็นั่งอยู่ข้างๆ เธอ ส่วนอีกด้านหนึ่งก็ยังมีที่หนึ่งว่างอยู่
***
กู้ฮอนเผชิญหน้ากับเลนส์กล้องมากมาย แต่ว่าสีหน้าของเธอยังคงรอยยิ้มไว้ แต่สายตายังคงชำเลืองมองไปยังจุดที่ว่างเปล่า.
ที่นั่งนี้เตรียมไว้ให้ใครนั่งงั้นเหรอ?
ตอน10โมง งานแถลงข่าวก็เริ่มขึ้น
ฉิงฮัวลุกขึ้นก่อน “งานแถลงข่าวของบริษัทเป่หมิงเริ่มขึ้นแล้วครับ ก่อนอื่น ขออนุญาตผมแนะนำคุณผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างผมตอนนี้ก่อนนะครับ——คุณกู้ฮอน”
เขาแนะนำกับนักข่าวด้วยความสุภาพมาก
กู้ฮอนสำหรับนักข่าวพวกนี้แล้วนั้น ก็ถือว่าเป็น ‘คนแปลกหน้าที่คุ้นเคยที่สุด’เพราะว่าพวกเขาได้รวบรวมข้อมูลและข่าวคราวเกี่ยวกับเธอมามากมาย
ใบหน้าของกู้ฮอนมีรอยยิ้ม แล้วก็ยืนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วก็ก้มหน้าให้กับนักข่าว หลังจากนั้นก็นั่งลง
ตอนนี้เอง สายตาของทุกคนก็จับจ้องที่ที่นั่งว่างด้านข้างของเธอ สรุปจะเป็นใครกันนะ?
ทุกคนรู้สึกสงสัยอย่างมาก
ฉิงฮัวก็หยิบไมโครโฟนขึ้นมาอีกครั้ง ท่าทางเขาดูไม่รีบร้อน และก็ดูเหมือนว่าเขาจะเห็นความสงสัยในสายตาของทุกคน
“ต่อไป ผมจะแนะนำอีกท่านหนึ่งครับ ท่านนี้คือท่านประธานของบริษัทเป่หมิง คุณเป่หมิงโม่”
หลังจากสิ้นเียง เป่หมิงโม่ก็ไม่ได้ออกมาจากบูธด้านหลังที่ได้จัดไว้ แต่ว่าปรากฏตัวด้านหลังของนักข่าว
ยืนอยู่เพียงตรงหน้านี้เอง แต่ว่าไม่ได้สังเกตเห็นเลย แต่ว่าตอนนี้ด้านหลังเริ่มเกิดความโกลาหลแล้ว
เป่หมิงโม่สวมใส่ชุดสูทสีดำทั้งชุด ร่างสูงและกำยำ วันนี้เขาไม่ได้สวมใส่เนกไท เขาสวมเสื้อเชิ๊ตสีขาวและปลดกระดุม2เม็ดหลวมๆ ตรงคอเสื้อ เผยให้เห็นลูกกระเดือก ที่เพิ่มอารมณ์ความเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งให้กับเขา
รปภ.สองคนด้านหน้าเคลียร์ทางให้เขา แน่นอน ในฐานะตัวเอกของการแถลงข่าวในวันนี้ นักข่าวอยากจะได้หัวข้อในการเอาไปเขียนข่าว ก็เลยหลีกทางให้เขาอย่างเชื่อฟัง
ตอนที่เขาเดินผ่านกลุ่มคนนั้น แสงแฟลชก็กะพริบทั้งด้านซ้ายและขวาของเขา
สุดท้าย เขาก็เดินอ้อมโต๊ะมา แล้วก็นั่งลงที่ที่นั่งว่างๆ ด้านข้างของกู้ฮอน
กู้ฮอนมองว่า วันนี้เป่หมิงโม่แตกต่างจากเขาเมื่อ2วันก่อนมาก ดูมีพลัง อารมณ์ของความเผด็จการและความมั่นใจในตัวเองของพระราชาได้ล้อมรอบตัวของเขาอีกครั้ง
เขาฟื้นตัวเต็มที่แล้ว และดียิ่งกว่าเดิมอีก
ตอนแรกที่กู้ฮอนตกลงทำหน้าที่ประธานของตระกูลเป่หมิงนั้น เหตุผลส่วนใหญ่เพราะว่าเธอไม่อยากจะแยกจากลูกๆ ของเธอ ส่วน10%ก็เพราะว่าเธอเห็นว่าสภาพจิตใจของเป่หมิงโม่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เธอก็เลยรู้สึกเห็นใจ
“วันนี้ดูดีเลยนะ ฉันเริ่มสงสัยแล้วว่าเมื่อวานที่หน้าแผนกต้อนรับนั้นนายเสแสร้งแกล้งทำ” กู้ฮอนพูดกับเป่หมิงโม่ด้วยเสียงที่ได้ยินแค่พวกเขา2คนเท่านั้น
สายตาของเป่หมิงโม่มองไปที่ทุกคน และก็ตอบเธอด้วยน้ำเสียงเดียวกัน “ถ้า ยังงั้นเธอก็ลองแกล้งป่วยต่อหน้าฉันดูสิ ว่ากันว่าคนเราจะรู้สึกสบายใจเมื่อเจอเรื่องที่น่ายินดี”
นี่เขาเอาเรียกเรื่องที่ตัวเองเอาตำแหน่งประธานให้คนอื่นนั่งว่าเป็นเรื่อง ‘ที่น่ายินดี’ ถ้ายังงั้น ก่อนหน้านี้ที่เขาต่อสู้เพื่อแย่งชิงตำแหน่งนี้มาอย่างลำบากมันเพราะอะไรกัน?
กู้ฮอนรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขาในตอนแรกนั้น มันกลายเป็นเรื่องที่เล็กน้อยมาก เขาบอกว่าจะเอาก็คือเอา บอกว่าไม่เอาก็คือไม่เอา
พอคิดแบบนี้ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกปวดใจ ตอนแรกรู้สึกว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บมากในเกมนี้ขของเป่หมิงโม่ ตอนนี้เปลี่ยนไปรู้สึกว่าบาดแผลเธอมันเยอะขึ้นกว่าเดิมอีก
***
ราวกับว่าเป่หมิงโม่รู้ทิศทางการเคลื่อนไหวในหัวใจของกู้ฮอนดี “ไม่ว่าในใจเธอจะคิดอะไรอยู่มากมายแค่ไหน โปรดใส่ใจเรื่องภาพลักษณ์ในตอนนี้ด้วย ตอนนี้ภาพลักษณ์ของเธอไม่ใช่แค่เป็นตัวแทนของตัวเธอเอง แต่ว่ามันยังเป็นตัวแทนของตระกูลเป่หมิงเข้าใจรึเปล่า”
ฟังดูตลอดจริงๆ คนที่ไม่เห็นตระกูลเป่หมิงอยู่ในสายตานั้น ตอนนี้กลับมาบอกให้เธอปกป้องภาพลักษณ์ของตระกูลเป่หมิง
ช่างเถอะ ยังไงตัวเองก็ถูกผลักเข้ามารับตำแหน่งนี้แล้ว ถ้ายังงั้นก็ไม่มีอะไรให้พูดแล้ว ทำแบบนี้ก็ถือว่าเพื่อลูกแล้วกัน
*
“ตอนนี้ ผมขอเชิญท่านประธานตระกูลเป่หมิง เป่หมิงโม่ประกาศการตัดสินใจของท่าน” ฉิงฮัวพูดจบแล้วก็พยักหน้าให้เป่หมิงโม่เบาๆ
เป่หมิงโม่ค่อยๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ และมองไปที่ทุกคน
ขณะนี้ห้องโถงของบริษัทนี้ก็เงียบลงในทันที
กล้องหลายตัวจากสถานีโทรทัศน์ก็จ้องมาที่เขา
“ผม ทำหน้าที่ประธานของตระกูลเป่หมิงก็ได้พักหนึ่งแล้ว ในช่วงเวลานี้ผมรู้สึกขอบคุณการสนับสนุนของพนักงานทุกคนในบริษัทเป่หมิงที่มีต่อผม วันนี้ ที่ผมเชิญทุกท่านมาที่นี่ ก็เพราะว่าอยากจะประกาศการตัดสินใจของผม โปรดวางใจเถอะครับ ผมตัดสินใจเรื่องนี้หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบในช่วง2-3วันที่ผ่านมา นั่นก็คือ ผมตัดสินใจที่จะยุติการทำหน้าที่ประธานของตระกูลเป่หมิง”
หลังจากสิ้นเสียง ผู้คนในสถานที่นั้นทั้งหมดก็ฮือฮาขึ้นมาทันที ที่จริงพวกเขาก็รู้ตั้งแต่แรกแรกแล้ว แต่ว่าการรู้จากปากของเจ้าตัวมันน่าตกใจยิ่งกว่า
“ขอให้ทุกคนเงียบก่อนนะครับ ผมยังพูดไม่จบเลย” เป่หมิงโม่พูดต่อ
ทั้งห้องโถงก็เงียบลงอีกครั้