เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - บทที่ 956 แบไพ่ออกหมด
บทที่ 956 แบไพ่ออกหมด
“อ่อ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้อีกแล้ว ผมเดาว่าผู้ชายคนนั้นคงจะถูกผมทำให้ตกใจ โชคดีที่เป็นแบบนี้ ไม่อย่างนั้นคงต้องเพิ่มโทษให้เขาอีกหนึ่งกระทงประธานกู้ คุณวางใจได้เลยนะครับ ผมส่งคนออกไปจับเขาแล้ว คนแบบนี้ช่างไม่เห็นกฎหมายบ้านเมืองในสายตาเลยจริงๆ ไม่ขังเอาไว้สักหลายปีก็ยากที่จะระบายอารมณ์โกรธของผมออกไปได้”
ไอ้หมอนี้ช่างรู้จักติดทองบนหน้าตัวเองจริงๆ ถูกต่อยจนสลบไปแล้วเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา ยังจะกล้าพูดออกมาอีกว่าตัวเองส่งคนไปจับแล้ว ช่างน่าไม่อายเสียจริง
ตอนนี้เองที่กู้ฮอนรู้สึกว่าควรจะเจรจาเรื่องสำคัญได้แล้ว “ผู้อำนวยการโกว ฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้ช่างมันเถอะนะคะ ในเมื่อคนคนนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรฉัน แม้ว่าจะทำให้คุณบาดเจ็บ ก็ให้เขาจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลให้คุณก็พอแล้วค่ะ สุภาษิตพูดเอาไว้ว่า พลังมังกรก็ไม่อาจสยบคนพาล เมื่อสักครู่ได้ยินคุณพูดแบบนี้ คนคนนี้ก็เป็นคนที่เก่งกาจคนหนึ่ง ถ้าหากว่าเขาถูกจำคุก หลังจากเขาออกมา อย่างนั้นออกมาก็ไม่ใช่ว่าจะมาแก้แค้นคุณหรือคะ ผู้อื่นอยู่ในที่มืด คุณอยู่ในที่แจ้ง……”
ผู้อำนวยการโกวที่ได้ยินคำพูดของกู้ฮอนก็อดจะขมวดคิ้วไม่ได้ เขาก็เป็นคนที่สับปลับ กลับกลอกคนหนึ่งเช่นกัน หลังจากครุ่นคิดเกี่ยวกับเหตุผลนี้อย่างละเอียดอยู่ครู่หนึ่งก็เอ่ยขึ้นว่า “ประธานกู้ ขอบคุณคุณมากสำหรับความห่วงใยที่มีให้ผม แต่ว่า คนชั่วพวกนี้ล้วนมีความโลภ แม้ว่าพวกเราจะปล่อยเขาไปครั้งหนึ่ง ก็อยากที่จะรับประกันได้ว่าครั้งต่อไปเขาจะสร้างเรื่องอะไรขึ้นมาอีก ถ้าหากว่าเขาทำร้ายผู้อื่นจะทำอย่างไร พวกเราทำแบบนั้นก็ไม่มีความรับผิดชอบต่อผู้อื่นอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ในฐานะที่ผมเป็นเจ้าหน้าที่ราชการคนหนึ่ง จะทำเรื่องที่ส่งผลร้ายต่อประชาชนออกมาได้อย่างไรกัน ไม่อย่างนั้นก็จะผิดต่อมโนธรรมในใจของผมนะครับ”
คำพูดที่เต็มไปด้วยความรู้สึกเดือดดาลนี้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะสะเทือนใจเล็กน้อย ใช้มือข้างที่แข็งแรงดีอยู่ของเขากำหมัดทุบลงไปที่หน้าอกของตัวเองไม่หยุด ถ้าหากไม่รู้แล้วล่ะก็ ไม่แน่ว่าอาจจะถูกคำพูดของเขาทำให้เกิดความรู้สึกเช่นเดียวกันไปแล้ว จากนั้นก็เชื่อว่าเขาเป็นผู้นำที่ดีคนหนึ่งที่ห่วงใยมวลชน
แต่สำหรับคนที่รู้จักหน้าตาท่าทางของเขานั้น ลูกไม้นี้ช่างทำให้คนรู้สึกคลื่นไส้จริงๆ
***
พูดความจริงเลยว่าตอนนี้กู้ฮอนนั้นไม่อยากจะเห็นหน้าตาอันอัปลักษณ์ของเขาอีกแล้ว ทำไมตัวเองถึงมักจะได้พบกับคนประเภทเดียวกับเขากัน
กู้ฮอนที่ไม่สามารถเสแสร้งต่อไปได้ก็ยอมแพ้ในที่สุด เธอตัดสินใจว่าควรจะฉีกหน้ากากทิ้งได้แล้ว ในเมื่อเขาพูดดีๆด้วยไม่ได้ อย่างนั้นก็ใช้ไม้แข็งอย่างการพูดความจริงออกไปให้หมดเลยก็แล้วกัน
กู้ฮอนหมุนตัวกลับไปอย่างไม่ยินยอมที่จะมองใบหน้าที่อัปลักษณ์นั่นอีก
เธอหันหน้าไปมองทางนอกหน้าต่าง “ผู้อำนวยการโกว เมื่อวานที่คุณส่งการ์ดเชิญมาเชิญฉัน ที่จริงแล้วไม่ใช่ว่าต้องการปรึกษาหารือเรื่องงานกับฉัน แต่มีวัตถุประสงค์อื่นใช่หรือไม่”
จู่ๆก็เอ่ยถามออกมา ทำให้ผู้อำนวยการโกวที่จมอยู่กับความภาคภูมิใจในคำโกหกหลอกลวงของตัวเองรู้สึกตะลึง ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆกู้ฮอนถึงได้เอ่ยถามคำถามแบบนี้ออกมา
สีหน้าของเขาเริ่มลนลาน โชคดีที่ตอนนี้กู้ฮอนหันหลังให้กับตัวเอง เธอไม่สามารถมองเห็นท่าทางของตัวเองในตอนนี้ได้
“ประธานกู้ ทำไมจู่ๆคุณถึงได้ถามคำถามอันน่าขันออกมากัน หากว่าผมไม่ได้เชิญคุณมาปรึกษาหารือเรื่องงาน แล้วจะให้พูดคุยเรื่องอื่นหรือครับ ผมว่าคุณน่าจะตกใจเพราะเรื่องเมื่อวานถึงได้พูดออกมาแบบนี้ ไม่อย่างนั้นคุณกลับไปพักผ่อนสักหน่อยเถอะครับ”
ผู้อำนวยการโกวฝืนแสร้งทำใบหน้ายิ้มแย้ม แต่เขากลับไม่เห็นว่ามือที่ห้อยอยู่ข้างตัวของกู้ฮอนกำหมัดแล้ว
กู้ฮอนถอนหายใจเสียงยาว เธอหันกลับมาอย่างเร็ว สีหน้าที่ทำให้ผู้อำนวยการโกวรู้สึกว่าเธอบอบบางน่าสงสารนั้นไม่เหลือแล้ว
เหลือเพียงแค่ใบหน้าเย็นชาที่เหมือนกับเป่หมิงโม่เมื่อวานตอนเผชิญหน้ากับเขา
นี่ทำให้ผู้อำนวยการโกวอดที่จะสูดลมหายใจลึกไม่ได้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเปลี่ยนสีหน้าได้เร็วเช่นนี้ ตอนนี้เขายังคงฝืนแสร้งทำเป็นนิ่ง “ประธานกู้ คุณเป็นอะไรไปครับ สีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไร จะให้ผมเรียกคุณหมอมาตรวจคุณสักหน่อยไหมครับ ผมรู้จักคุณหมอที่นี่อยู่หลายคน…….”
“ผู้อำนวยการโกว คุณไม่ต้องแสดงละครต่อหน้าฉันหรอกค่ะ เมื่อวานตอนเย็นฉันไม่ได้หมดสติไปอย่างสมบูรณ์ ภายหลังเกิดเรื่องอะไรขึ้น ฉันล้วนเห็นหมด เดิมฉันนึกว่าคุณจะเป็นผู้นำที่ดีคนหนึ่ง แต่การกระทำทั้งหมดของคุณทำให้ฉันรู้สึกผิดหวังและรังเกียจมาก!”
ผู้อำนวยการโกวกลัวจนหน้าถอดสี “ปะ ประธานกู้ คุณเห็นอะไรกัน อย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของคนพวกนั้น ผม ผมไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นนะ”
“ใช่ คุณไม่ได้ทำอะไรเลย แต่คุณทำให้ฉันรู้สึกคลื่นไส้ยิ่งกว่าทำอะไรทั้งหมด ตอนที่ใกล้จะหมดสตินั้นฉันครุ่นคิดเยอะแยะมากมาย เริ่มตั้งแต่ที่ฉันรู้สึกว่าคุณปฏิบัติกับฉันแบบแปลกๆ จนกระทั่งตอนนั้นฉันเพิ่งจะเข้าใจชัดเจนจริงๆ และเหล้าแก้วสุดท้ายที่ฉันดื่มนั้น คุณได้เล่นตุกติกกับมัน!”
“นี่ นี่จะเป็นไปได้อย่างกัน ช่างเป็นเรื่องน่าขบขันเสียจริง เหล้าแก้วนั้นคุณก็เห็นแล้ว ผมก็ดื่มเหมือนกัน ทำไมผมถึงไม่เป็นอะไรล่ะ” หลังจากที่ผู้อำนวยการโกวตื่นตระหนกอยู่ครู่หนึ่ง สีหน้าก็สงบนิ่งในทันที และเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมา “ประธานกู้ ผมจะไม่ถือสาในเรื่องนี้ เพราะถือว่าคุณเสียขวัญจากเรื่องเมื่อวานตอนเย็น ตอนนี้ผมรู้สึกไม่สบายเล็กน้อย จำเป็นต้องพักผ่อน คุณกลับไปเถอะ”
กู้ฮอนหลุบตามองผู้อำนวยการโกวที่นอนอยู่ เธอสามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ในแววตาของเขาตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าในใจของเขามีความลับอยู่ ถ้าหากไม่ใช่ว่าตัวเองพูดได้ถูกต้อง เขาจะมีท่าทางแบบนี้ได้อย่างไรกัน นี่ทำให้เธอมั่นใจในการคาดเดาของตัวเองมากขึ้น และยิ่งโมโหเป็นฟืนเป็นไฟมากยิ่งขึ้น
***
เผชิญหน้ากับคำปฏิเสธอย่างเด็ดขาดของผู้อำนวยการโกว กู้ฮอนเกือบจะมีเพียงแต่โทสะแล้วตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่มีวิธีจัดการเขาได้เลยแม้แต่น้อย
นี่คือความเจ้าเล่ห์เพทุบายของผู้อำนวยการโกวท่านนี้ แม้ว่าจะถูกผู้อื่นจับจุดอ่อนได้ แต่ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ได้ทำอะไรให้เป็นจริง ก็จะไม่ยอมรับแม้แต่น้อย
“เสียดายจริงๆที่คุณเป็นผู้ชาย แม้กระทั่งตัวเองทำอะไรก็ไม่กล้ายอมรับ แต่คุณก็คิดไม่ถึงว่าตอนนั้นฉันไม่ได้ถูกคุณทำให้หมดสติไปอย่างสมบูรณ์ ฉันล้วนมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเกิดเรื่องอะไรบ้าง เช่นเดียวกัน ฉันก็สามารถไปที่สถานีตำรวจเพื่อเปิดเผยโทษของคุณได้”
ผู้อำนวยการโกวคนนี้ดูเหมือนว่าจะไม้อ่อนหรือไม้แข็งล้วนไม่มีผล เมื่อครู่นี้ยังมีท่าทางเคร่งเครียด แต่วินาทีถัดไปก็เต็มไปด้วยความแน่วแน่ ทั้งยังลุกขึ้นมานั่งบนเตียงอย่างนอกเหนือความคาดหมายของกู้ฮอนด้วย
เขามองมาที่เธอเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้ม สีหน้าแบบนี้เหมือนกับเมื่อคืนวานในบางช่วงวินาที เขาเปิดเผยสีหน้าท่าทางออกมาเหมือนกัน “ประธานกู้ ตอนที่คุณพูดประโยคนี้ออกมาช่วยคิดก่อนด้วย ทำแบบนี้มีผลดีอะไรกับคุณ แม้ว่าจะสมมติว่า ทางตำรวจรับรองแล้วว่าที่คุณพูดเป็นไปตามนั้นจริงๆ อย่างนั้นผมก็เป็นแค่คนที่พยายามจะทำแต่ไม่สำเร็จเท่านั้นเอง กระทั่งคุณสมบัติที่จะจำคุกก็ไม่มี แบบนี้ก็จะกลายเป็นคุณล่วงเกินผม ในฐานะที่เป็นผู้นำเบื้องบนทางสายอาชีพนี้ของพวกคุณ คุณลองคิดดูสิว่าหลังจากนี้จะมีผลดีอะไรไหม”
เขาพูดไปพูดมาก็อดไม่ได้ที่จะมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยม ใบหน้าอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มลำพองใจออกมา “ประธานกู้ครับ คุณยังคงเยาว์วัยเกินไป วัยรุ่นมักจะชื่นชอบใช้อารมณ์ในการทำงานโดยไม่สนใจผลที่จะตามมาที่หลังเลยแม้แต่น้อย แต่ว่าผมน่ะก็มีจุดเด่นอยู่จุดหนึ่ง นั่นก็คือมีความโอบอ้อมอารี คำพูดที่คุณพูดเมื่อครู่นี้ ผมสามารถทำเป็นไม่ได้ยินได้ อีกอย่างก็มีแพะรับบาปที่ถูกจับอยู่ด้านในแล้ว คุณจะทำเรื่องที่ไม่เป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่ายอีกทำไมกัน”
กู้ฮอนไม่ได้เอ่ยอะไร เพียงแต่มองเขาด้วยสายตาเย็นชา สำหรับเรื่องที่เขาพูดเมื่อครู่นี้ กู้ฮอนก็ขาดการพิจารณาอยู่บ้างเล็กน้อย เขาเป็นเจ้าหน้าที่ราชการที่กอบกุมอำนาจไว้ในมือ ถ้าหากว่าไม่สามารถล้มเขาได้ในคราวเดียวล่ะก็ ปัญหาในอนาคตก็ยากที่จะจบลงด้วยดีจริงๆ ถึงตอนนั้นไม่เพียงแต่เป่หมิงโม่ กระทั่งบริษัทเป่หมิงก็จะถูกลากเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยไม่น้อย
ผู้อำนวยการโกวเห็นสีหน้ากู้ฮอนอ่อนลงเล็กน้อยก็รู้ว่าการบีบบังคับข่มขู่แบบนี้ของตัวเองนั้นเห็นผลแล้ว สำหรับการข่มขู่อย่างไรฝีมือนั้นเขาก็ไม่ได้พบเป็นครั้งแรก
แน่นอนว่าเขามีวิธีการรับมือกับเรื่องแบบนี้ ทั้งวิธีการแบบนี้ได้ทดลองไปหลายครั้งแล้วว่าอย่างไรก็ไม่พลาด
หลังจากถูกบีบบังคับข่มขู่แล้ว แน่นอนว่าก็ต้องเริ่มที่จะหลอกล่อด้วยผลประโยชน์ต่อ เขาพูดสั่งสอนแนะนำด้วยท่าทางที่จริงใจเหมือนเมื่อวานออกมา “ประธานกู้ ผมรู้ว่าคุณเป็นคนที่ฉลาดคนหนึ่ง ในเมื่อคุณก็ไม่ได้ขาดทุนอะไร ผมว่าเรื่องนี้ก็ปล่อยให้มันผ่านไปทั้งอย่างนี้เถอะ อีกอย่างผมสามารถรับประกันได้ว่า บริษัทเป่หมิงของพวกคุณจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ไม่เพียงแต่เท่านั้น พวกคุณจะได้ประโยชน์มากกว่าแต่ก่อนด้วย ขอเพียงแค่คุณให้ความร่วมมืออย่างเชื่อฟังก็พอ”
ให้ความร่วมมืออย่างเชื่อฟัง……
กู้ฮอนมองใบหน้าอัปลักษณ์ของเขาแล้วก็เหมือนกับหมาป่าตัวใหญ่ที่กางกรงเล็บออกมาทางหนูน้อยหมวกแดงตัวหนึ่ง
เธอฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ในเมื่อเขาพูดประโยคนี้ออกมาแล้ว ดูท่าไอ้หมอนี่ยังคงไม่ละทิ้งความคิดนั้น ถ้าหากว่าเป็นแบบนี้ล่ะก็ ไม่สู้ลองฟังสักหน่อยว่าเขามีความคิดไม่ดีอะไรอีก ตัวเองจะได้ป้องกันเอาไว้ล่วงหน้า และสามารถดูด้วยว่าจะสามารถหาจุดอ่อนหรือหนทางอื่นๆที่จะสามารถจัดการกับเขาได้หรือ
สีหน้าของเธอค่อยๆผ่อนคลายลง “ผู้อำนวยการโกว ไม่ทราบว่าคุณจะให้ฉันร่วมมืออย่างไร”
***
พูดไปไม่กี่ประโยค ในที่สุดหางจิ้งจอกก็โผล่ออกมาแล้ว
ตอนที่กู้ฮอนเอ่ยถามประโยคนี้ออกมา ก็เกือบจะเห็นใบหน้าของผู้อำนวยการโกวเผยรอยยิ้มออกมาทันทีในเวลาเดียวกัน “ประธานกู้เป็นคนฉลาดอย่างที่คิดเอาไว้เลย แค่นิดเดียวก็เข้าใจแล้ว มาจนถึงขั้นนี้แล้ว การพูดคุยระหว่างพวกเราไม่จำเป็นต้องปิดบังอำพรางอะไรอีก ที่จริงแล้วในใจคุณก็รู้ชัดเจนว่า หลังจากที่ผมได้พบกับคุณเมื่อวานนี้ ก็ชื่นชอบคุณเข้าให้แล้ว ถ้าหากว่าคุณติดตามผมแล้วล่ะก็…….”
กู้ฮอนถลึงตาใส่เขาอย่างดุร้าย ไอ้หมอนี่เป็นประเภทที่บาดแผลหายแล้วก็ลืมความเจ็บปวดไป จริงๆ ความโชคร้ายยังไม่ทันจะจางหายก็มีความคิดนี้อีกแล้ว
“ผู้อำนวยการโกว ในจุดนี้ฉันไม่อาจจะไม่นับถือการดีดลูกคิดที่ดีเยี่ยมเช่นนี้ของคุณ”
“ประธานกู้ คุณเอ่ยชมเกินไปแล้ว” ดูเหมือนว่าผู้อำนวยการโกวจะยังคงฟังไม่ออกว่าในคำพูดของเธอเป็นการเสียดสีเขา
“คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าคนแบบคุณจะสามารถอยู่ในตำแหน่งสำคัญทางการเมืองมาหลายปีขนาดนี้ ทั้งยังนั่งในตำแหน่งนี้ได้อย่างมั่นคงด้วย หรือว่าไม่มีคนรู้เลยว่าคุณเป็นคนที่เลวทรามต่ำช้าไร้ยางอายคนหนึ่งกัน!”
กู้ฮอนปกติแล้วจะไม่พูดคำหยาบคาย แน่นอนว่าความสามารถในการด่าว่าคนก็มีเพียงเท่านี้ คำพูดเมื่อครู่นี้น่าจะเป็นคำพูดที่เธอคิดได้ดีที่สุดแล้ว
ผู้อำนวยการโกวที่ลำพองใจเมื่อครู่ก็เข้าใจความหมายได้อย่างรวดเร็ว เขาเก็บรอยยิ้มและมองมาทางหญิงสาวที่ถลึงตามองตัวเองเหมือนกันอยู่ข้างเตียง
ท่าทางร้ายกาจของเขาปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง “ประธานกู้ คุณอย่าเป็นพวกที่ใช้คำพูดดีๆไม่ฟังแล้วต้องให้ใช้กำลังบังคับ เมื่อครู่ที่ผมพูดสิ่งเหล่านี้กับคุณก็เป็นเพราะว่าผมเห็นค่าของคุณ จะบอกความจริงกับคุณก็แล้วกันน่าว่าสาเหตุที่ผมไม่เกรงกลัวก็เป็นเพราะว่าเบื้องหลังผมมีที่พึ่งพิงอันแข็งแกร่ง แม้ว่าจะมีคนมาหาเรื่องผม นั่นมันก็ไร้ประโยชน์”