เดิมพันเสน่หา - ตอนที่ 241 ประชาชนพากันพูดถึงซือคงอวี้
กงฉี่เป็นลูกหลานของตระกูลหนานกง ต้องให้ความเคารพกับผู้มีอำนาจคนปัจจุบันของตระกูลหนานกง
กงฉี่ยืนขึ้นด้วยความเคารพ ”คุณชายเยี่ยคะ ครั้งนี้โมโหหนัก ถึงขั้นคว่ำบาตรประเทศซีหลิง เป็นเพราะเรื่องอะไรคะ”
หนานกงเยี่ยวางแก้วน้ำในมือลงเบาๆ แววตานิ่งงัน ”เพราะซือคงอวี้แย่งภรรยาของฉันไป”
“คะ? เป็น…เป็นไปได้ยังไง” กงฉี่ตกใจมาก ความเป็นจริงไม่ผิดที่เธอจะตกใจ เรื่องนี้ไม่ว่าเกิดขึ้นกับใครก็ต้องตกตะลึงมากเหมือนกัน บนโลกใบนี้ใครจะกล้าแย่งภรรยาของหนานกงเยี่ย
ถึงแม้หนานกงเยี่ยจะไม่ได้จัดงานแต่ง แต่ตอนจดทะเบียนสมรสกับเหลิ่งรั่วปิงไม่ได้ปิดบังใดๆ ทำอย่างเปิดเผย ดังนั้นเรื่องการจดทะเบียนสมรสของเขาจึงแพร่ออกไปนานแล้ว กงฉี่เองก็รู้ แต่เธอเองก็ไม่อยากเชื่อ ซือคงอวี้จะทำเรื่องบ้าคลั่งแบบนี้ แย่งผู้หญิงของหนานกงเยี่ยเลยหรอเนี่ย
สายตาเย็นยะเยือกของหนานกงเยี่ยกวาดมองไปที่กงฉี่ ”ทำไม ฉันเหมือนคนที่เอาผลประโยชน์ของตระกูลหนานกงมาเล่นสนุกหรือไง”
สำหรับลูกหลานของตระกูลหนานกง ผลประโยชน์ของตระกูลอยู่สูงสุด เพราะมีเพียงแค่สายเลือดของตระกูลหนานกงแข็งแกร่ง มีความมั่งคั่ง จึงจะปกป้องทายาททุกคนของตระกูลหนานกง จึงจะทำให้ทายาทของตระกูลหนานกงมีความสามัคคี ไม่มีวันล่มสลาย
แววตาของหนานกงเยี่ยบีบบังคับกงฉี่ ทำให้เธอรีบก้มหน้าลง ”ไม่ค่ะ กงฉี่ไม่กล้า เพียงแต่…นี่มันเรื่องอะไรกันคะ”
ใบหน้าของหนานกงเยี่ยไร้ความรู้สึก ”เธอไม่จำเป็นต้องรู้ ตอนนี้เธอกลับไป เตรียมงานเลี้ยงให้พร้อม เชิญทหารนักการเมืองและนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงทุกคน รวมถึงซือคงอวี้ด้วย ฉันจะไปร่วมงานเลี้ยงนั้น” รังสีน่าเกรงขามทำให้คนไม่กล้าปฏิเสธ ”อีกเรื่องหนึ่ง ลอบปล่อยข่าวบอกคนทั้งสามแวดวงการทั้งทหารนักการเมืองและนักธุรกิจ ว่าสาเหตุที่ฉันคว่ำบาตรซีหลิง เป็นเพราะซือคงอวี้ชิงตัวภรรยาของฉันไป”
กงฉี่เป็นผู้หญิงฉลาด เข้าใจทันทีว่าหนานกงเยี่ยต้องการให้คนทั้งสามแวดวงทั้งการทหารนักการเมืองและนักธุรกิจกดดันซือคงอวี้ ”กงฉี่เข้าใจแล้วค่ะ กงฉี่จะกลับไปเตรียมตัวให้พร้อม แล้วรายงานคุณชายเยี่ยนะคะ”
“อื้ม ไปเถอะ” หนานกงเยี่ยผายมือขึ้น กิริยาท่าทางของเขาประกายออร่าความเป็นราชา ทำให้กงฉี่อดชื่นชมไม่ได้
หลังจากกงฉี่ออกไป หนานกงเยี่ยกลับไปยังห้องรับแขก ถังเฮ่านั่งรออยู่ด้านใน ”หนานกง สนมกงฉี่อยากจะทำอะไร”
หนานกงเยี่ยทำเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ”แน่นอนว่าต้องการให้ฉันกลับไปร่วมทำธุรกิจกับซีหลิง” ถึงแม้ถังเฮ่าจะเป็นเพื่อนสนิท แต่หนานกงเยี่ยไม่มีวันเปิดเผยตัวตนของทายาทตระกูลหนานกงเด็ดขาด
ถังเฮ่า ”แกคิดจะทำยังไง”
หนานกงเยี่ย ”สนมกงฉี่มีแผนจะจัดงานเลี้ยงขึ้น โดยเชิญพวกเราไปด้วย ในวันนั้นจะมีคนสำคัญทั้งสามแวดวงมาด้วยทั้งทหารนักการเมืองและนักธุรกิจใหญ่ คิดว่าคงจะพูดคุยเรื่องความสัมพันธ์กับเรา ก็ดีเหมือนกัน พวกเราอาศัยโอกาสนี้ ใช้ทหารนักการเมืองและนักธุรกิจกดดันซือคงอวี้”
ถังเฮ่าพยักหน้า ”เป็นวิธีที่ดี”
*****
กลางดึก เหลิ่งรั่วปิงนั่งอยู่บนเตียง ยากที่จะนอนหลับ
ทราบเรื่องหนานกงเยี่ยมาถึงประเทศซีหลิง เธอไม่อาจนิ่งนอนใจได้ ตอนที่ตัดสินใจแต่งงานกับเขาที่เมืองไห่ เธอก็เป็นกังวลว่าสักวันหนึ่งเขากับซือคงอวี้จะมีปัญหากัน คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าวันนี้จะมาถึงแล้ว
เธอไปจากหนานกงเยี่ย เพื่อที่จะแบ่งเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจน แก้แค้นหนานกงจวิ้นได้ เธอกลับมาอยู่เคียงข้างซือคงอวี้ เพื่อช่วยอาเธอร์
ทำไมโลกใบนี้ถึงไม่ปล่อยให้มนุษย์เราทำทุกอย่างตามอำเภอใจ
เหลิ่งรั่วปิงจับโทรศัพท์แน่น นิ้วมือเรียวยาวเลื่อนอยู่บนหน้าจอดโทรศัพท์ ลังเลอยู่พักใหญ่ สุดท้ายเธอก็โทรศัพท์ไปหาหนานกงเยี่ย
หนานกงเยี่ยในตอนนี้ ก็นอนไม่หลับเหมือนกัน เขายืนอยู่ตรงหน้าต่างภายในห้องนอน มองทิวทัศน์ยามค่ำคืนของซีหลิง ส่งความคิดถึงไปยังวิหารซีหลิง เขานึกถึงตอนที่พวกเขาเจอกันครั้งแรก นึกถึงการจากลาครั้งแล้วครั้งเล่าของเขากับเหลิ่งรั่วปิง ทุกครั้งที่ลาจากกัน เหลิ่งรั่วปิงก็ยิ่งมีค่ากับเขามากขึ้น ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ตลอดหลายวันที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เขานอนไม่หลับเลย
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นกะทันหัน หนานกงเยี่ยขมวดคิ้วเป็นปม นอกจาก่กวนอวี้แล้ว เขาคิดไม่ออกว่าใครจะโทรหาเขาในกลางดึกแบบนี้ หยิบโทรศัพท์ออกมา พบว่าเป็นเบอร์แปลกของซีหลิง ภายในใจเบิกบานขึ้นมาทันที รีบรับสาย ”สวัสดีครับ”
ปลายสาย เงียบอยู่นาน มีเพียงเสียงลมหายใจเท่านั้น
หัวใจของหนานกงเยี่ยเต้นแรง น้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความดีใจ ”ที่รัก!” ถึงแม้เธอจะไม่พูด แต่เขารู้ว่าเป็นเธอ
“ที่รัก” สองคำนี้ ดังก้องในใจของเหลิ่งรั่วปิง ถูกต้อง ตอนนี้เธอไม่ใช่ภรรยาของเขาแล้ว
“คุณหนานกงเยี่ย คุณต้องการอะไรกันแน่” หลังจากเงียบอยู่หลายวินาที ในที่สุดเหลิ่งรั่วปิงก็พูดออกไป
“ผมต้องการให้คุณกลับมาอยู่กับผม”
“อะไรที่ควรพูด ฉันพูดกับคุณชัดเจนทุกอย่างตั้งแต่อยู่เมืองหลงแล้ว ทำไมคุณถึงต้องมายุ่งกับฉันแบบนี้”
หนานกงเยี่ยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ”ที่รัก ผมเคยบอกแล้ว ผมไม่มีวันปล่อยคุณไป ผมรู้ว่าคุณอยากแก้แค้น แต่ก็เหมือนอย่างที่ผมพูด พ่อแก่มากแล้ว สุขภาพร่างกายของท่านแย่มาก จะมีความหมายอะไรในการฆ่าท่าน คุณกลับมานะครับ พวกเรามีลูกด้วยกันสักคนหนึ่ง ถ้ามีลูกคุณก็จะไม่ทรมานแบบนี้อีก หืม?”
“คุณหนานกงเยี่ย ทำไมคุณถึงไม่เข้าใจ ลูกแก้ไขปัญหาทุกอย่างไม่ได้”
“คุณไม่ลองดูแล้วจะรู้ได้ยังไง”
เหลิ่งรั่วปิงเงยหน้าขึ้น ไม่ให้น้ำตาไหลลงมา ”คุณหนานกงเยี่ย พวกเราไม่มีโอกาสในการลองแล้ว ในเมื่อฉันตัดสินใจไปจากเมืองหลง ฉันก็ไม่อยากกลับไปแล้วค่ะ ฉันขอร้องคุณแค่เรื่องเดียว หยุดเถอะค่ะ คุณคว่ำบาตรซีหลิงเพราะฉันเพียงคนเดียว มันเกินไปแล้ว”
เงียบอยู่นาน หนานกงเยี่ยพูดด้วยความโหดร้าย ”ผมต้องการให้คุณรู้ ถ้าคุณไม่กลับมาผมจะทำลายซีหลิง ซือคงอวี้ ไม่มีวันมีความสุขแน่นอน”
หนานกงเยี่ยหัวแข็งมาก แต่เขาลืมไป เหลิ่งรั่วปิงดื้อดึงยิ่งกว่าเขา การข่มขู่ของเขาทำให้เธอโมโห ”คุณหนานกงเยี่ย ถ้าคุณไม่อยากให้วันหนึ่งปลายดาบของฉันชี้ไปที่คุณ ยุติทุกอย่างตั้งแต่ตอนนี้เถอะค่ะ”
พูดจบ เหลิ่งรั่วปิงตัดสาย พร้อมกับแกะแบตเตอรี่โทรศัพท์
ความเงียบที่เกิดขึ้นกะทันหัน ทำให้หนานกงเยี่ยหายใจลำบาก เขารีบโทรกลับไป แต่ปลายสายกลับปิดเครื่องไปแล้ว ด้วยความโมโห หนานกงเยี่ยปาโทรศัพท์ทิ้งอย่างแรง แววตาฉายความเหี้ยมโหด ”คุณปกป้องซือคงอวี้ขนาดนี้ ผมก็ยิ่งอยากเห็นเขาตกต่ำ!”
*****
หลังจากเจอกับสนมกงฉี่เป็นเวลาสั้นๆ หนานกงเยี่ยและถังเฮ่าก็ปฏิเสธที่จะรับแขกทุกคน พร้อมกับถอนเงินลงทุนเร็วขึ้นทุกวัน เรื่องนี้ทำให้ทหารนักการเมืองและนักธุรกิจพากันเป็นกังวลมากขึ้นทุกวัน
ราชวงศ์ส่งคนมาที่วิหารเพื่อพูดคุยกับซือคงอวี้หลายครั้ง ขอร้องให้เขาไปพบหนานกงเยี่ยและถังเฮ่าด้วยตนเอง เพื่อให้ทั้งสองบริษัทใหญ่กลับมาร่วมงานด้วย แต่ซือคงอวี้ยึดมั่นในการตัดสินใจเดิมของเขา มุ่งมั่นที่จะสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศอื่นๆ หาบริษัทอื่นมาร่วมทำการค้าด้วย
สิ่งที่ซือคงอวี้คิดเป็นแผนการระยะยาว เปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของซีหลิง ยืนกรานที่จะแก้ไขสัดส่วนในการพึ่งพิงตระกูลหนานกง เพื่อที่จะไม่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขใดๆ อีก แต่ทางราชวงศ์ ทหาร นักการเมืองและนักธุรกิจกลับไม่เข้าใจในความคิดของเขา ประเทศซีหลิงทำธุรกิจร่วมกับตระกูลหนานกงมานานเกือบร้อยปี มีหลายภาคส่วนที่ต้องพึ่งพิงตระกูลหนานกง การที่ตระกูลหนานกงคว่ำบาตรกะทันหันแบบนี้ ส่งผลต่อเศรษฐกิจของซีหลิงอย่างหนัก ผลกระทบนี้ ทำให้ทหารนักการเมืองและนักธุรกิจเสียผลประโยชน์ ดังนั้นพวกเขาจึงขัดค้านการตัดสินใจของซือคงอวี้อย่างหนัก
แต่ซือคงอวี้มีอำนาจเด็ดขาดในซีหลิง ราชวงศ์และพวกทหารนักการเมืองนักธุรกิจทั้งสามแวดวงการไม่กล้าพูดอะไร ซือคงอวี้ไม่ลงนามในคำสั่ง ใครหน้าไหนก็เปลี่ยนการตัดสินใจของเขาไม่ได้ เพราะไม่มีเหตุผลร้ายแรงในการโค่นล้มเขาได้
เหมือนเป็นการตอบความต้องการของทุกคน เวลานี้ ข่าวใหญ่ได้แพร่กระจายออกมา โดยพูดกันว่าสาเหตุที่หนานกงเยี่ยโมโหขนาดนี้ คว่ำบาตรซีหลิง เป็นเพราะซือคงอวี้ชิงตัวภรรยาของเขา
ข่าวนี้ เป็นข่าวใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย รู้กันทั่วราชวงศ์และทั้งสามวงการได้แก่การทหารนักการเมืองและนักธุรกิจ ทุกคนต่างพูดกล่าวโทษซือคงอวี้นำพาความอยุติธรรมมาให้ซีหลิงเพื่อประโยชน์ส่วนตน
นักการเมือง ทหารและนักธุรกิจของซีหลิง มีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน พูดได้ว่ามีผลประโยชน์ร่วมกัน การคว่ำบาตรของหนานกงเยี่ยและถังเฮ่าส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของพวกเขา
สำหรับพวกเขา ความยุติธรรมของประเทศชาติไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่สำคัญที่สุดของพวกเขาคือผลประโยชน์ต่างหาก ข่าวนี้เป็นเหตุผลที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยในการคัดค้านซือคงอวี้ ดังนั้น ไม่มีใครยอมทิ้งโอกาสนี้ในการโจมตีซือคงอวี้
ด้วยเหตุนี้ ในการประชุมของรัฐสภา มีการพูดตำหนิอย่างดุเดือด ความผิดทั้งหมดถูกโยนไปที่ซือคงอวี้ แน่นอน ซือคงอวี้ไม่ได้ออกมายอมรับ เพียงแค่ข่าวลือเท่านั้น พวกนักการเมืองไม่กล้าเอาเรื่องนี้มาตำหนิเขาจนเกินกว่าเหตุ เพียงแต่สร้างแรงกดดันเท่านั้น
แต่อำนาจใหญ่อยู่ในมือซือคงอวี้ ฆ่าฟันเหี้ยมโหด แข็งแกร่งดุจภูเขา ไม่เกรงกลัวการข้อครหาทุกอย่าง ขจัดทุกความเห็นต่าง ยึดมั่นในการตัดสินใจของตนเอง วิหารซีหลิง ควบคุมผู้คนในนามความเชื่อและศรัทธามานานกว่าพันปี ความน่าเกรงขามฝังรากลึก ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน ดังนั้นราชวงศ์และพวกทหารนักการเมืองรวมถึงนักธุรกิจต่างทำอะไรเขาไม่ได้ ทั้งสองฝ่ายเข้าสู่สงครามเย็น
เป็นแบบนี้สลับไปมา นานกว่าสิบวัน ซีหลิงเข้าสู่การขัดแย้งรุนแรง เรื่องนี้สร้างความตกตะลึงให้กับเจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อซือคงเอ้าที่รับพระคุณสวรรค์อยู่บนภูเขาห่างไกล อย่างรวดเร็ว เขานั่งเครื่องบินส่วนตัวมายังวิหารซีหลิง นั่งอยู่บนเก้าอี้สีทองตัวในวิหาร คนที่กลับมาพร้อมกับเขา คือลูกชายคนที่สอง ซือคงหลิง
ซือคงหลิง อายุยี่สิบสี่ หน้าตาหล่อเหลาพระเจ้าประทาน ร่างสูงโปร่ง เทียบกับคนที่หล่อร้ายอย่างซือคงอวี้ เขาดูเลือดเย็นและเหี้ยมโหดยิ่งกว่า คล้ายกับนกอินทรีย์
การกลับมาของซือคงเอ้า นำพาความหวังมาให้กับราชวงศ์วงการทหารนักการเมืองและนักธุรกิจ พวกเขาโน้มน้าวใจซือคงอวี้ไม่ได้ แต่เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อทำได้
ถ้าหากซือคงอวี้ยืนกรานไม่เปลี่ยนการตัดสินใจ พวกเขาตกลงกันแล้วว่าจะร่วมมือกันกดดันบีบบังคับซือคงเอ้าให้ถอนฐานันดรศักดิ์ผู้สืบทอดของซือคงอวี้ เพราะยังมีซือคงหลิง
ซือคงหลิงคนนี้ อยากจะแย่งตำแหน่งรัชทายาทมาโดยตลอด ครั้งนี้เป็นโอกาสดี ที่ยากจะพบเจอ เขารักษาโอกาสนี้ไว้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงแอบดำเนินการ ผลักดันเรื่องนี้ ให้ใหญ่มากกว่าเดิม
ซือคงเอ้าโมโหมาก เมื่อกลับมาถึงวิหารซีหลิงก็เรียกพบซือคงอวี้และเหลิ่งรั่วปิงทันที
วิหารที่กว้างใหญ่ เคร่งขรึมและเข้มงวด ซือคงเอ้านั่งอยู่บนเก้าอี้ทองคำเหนือขั้นบันได สายตาหลักแหลมมองทะลุทะลวงทุกคน ลูกชายคนที่สองของเขา ซึ่งก็คือลูกชายที่เขารักมากที่สุด ซือคงหลิง ยืนอยู่ฝั่งขวามือ มองซือคงอวี้ที่อยู่ใต้บันไดด้วยสายตาเย้ยหยัน
ใบหน้าของซือคงอวี้ไร้ความรู้สึก ยืนตัวตรง ราวกับเตรียมรับมือกับเรื่องนี้มานานแล้ว มือของเขาจับมือเหลิ่งรั่วปิงแน่น ให้พลังกับเธอโดยไร้ซึ่งเสียง