เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - บทที่ 183 เกาเหวินหายตัวไป
หนิงเส่าเฉินไม่ตอบเธอ เขากำลังปลดกระดุม เย่หลินคิดๆแล้ว ก็พูดขึ้นว่า “คุณเองก็สืบได้แล้วใช่ไหมว่าสายนั้นโทรออกจากบ้านหลังนี้?”
เย่หลินเห็นมือของหนิงเส่าเฉินนิ่งไป ก็พูดต่อว่า “ฉันคิดว่าน่าจะเป็นน้าทำความสะอาดที่เพิ่งมาใหม่ ที่จริงตอนเย็นอยากจะถามเธอตรงๆ แต่พอคิดดูแล้ว ก็รอคุณกลับมาก่อนดีกว่า”
หนิงเส่าเฉินหันมา ลูบหัวเธอ แล้วก้มหน้ามองดูเธอ “ที่จริง คุณเองก็น่าจะเดาออก ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังคือใคร ไม่ใช่เหรอ?”
เย่หลินทิ้งน้ำหนักลงที่เท้าข้างหนึ่ง เตะพื้นเบาๆ ใช่ เรื่องนี้ ที่จริงจะว่าเป็นเรื่องใหญ่ก็ไม่ใช่ เป็นเรื่องเล็กก็ไม่ได้ ถ้ามองในมุมเล็กๆ คนคนนั้นอาจจะแค่อยากหลอกให้เธอตกใจ มองในมุมใหญ่ๆ วันนี้เป็นวันเปิดตัวของบริษัทซีเอกซ์ เธอเชิญผู้คนมามากมายขนาดนั้น แต่ตัวเองกลับไม่ออกงาน ถ้าหากมีคนใช้โอกาสนี้บอกว่าเธอดูถูกทุกคน หลอกทุกคนมางาน ถ้าเป็นแบบนั้นอาจจะมีผลกระทบต่อการพัฒนาของบริษัทซีเอกซ์ในอนาคต
และคนที่ทำเรื่องแบบนี้ได้ นอกจากเกาเหวิน เธอก็นึกไม่ออกแล้วว่าจะมีใครอีก
แต่ว่าหนิงเส่าเฉินบอกว่าเกาเหวินบ้าไปแล้ว
เธอจึงไม่กล้าพูดไปเรื่อย
หนิงเส่าเฉินกอดเธอไว้ “คุณน่ะ ยังคิดว่าผมเป็นคนนอกใช่ไหม?”
เย่หลินส่ายหัว แน่นอนว่าเธอไม่ได้คิดแบบนั้น เพียงแต่ ตอนนั้นเคยรับปากกับพ่อหนิงว่าจะไม่บังคับให้หนิงเส่าเฉินหย่ากับเกาเหวิน
อีกอย่าง เธอก็ไม่อยากเพิ่มความกดดันให้หนิงเส่าเฉินจริงๆ
“เธอไม่ได้บ้า ที่จริงผมรู้มาตลอด แต่ผมต้องการหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้บ้า และมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน เดิมที ผมยังคงคิดอยู่เลยว่าจะพิสูจน์ยังไง แต่เธอกลับส่งตัวเองมาซะแล้ว”
เย่หลินดีใจ “คุณหมายความว่า แค่มีคนเป็นพยานเรื่องนี้ว่าเกาเหวินเป็นคนสั่ง ก็จะสามารถพิสูจน์ได้ว่าแท้จริงแล้วเธอไม่ได้บ้า ใช่ไหม?”
หนิงเส่าเฉินพยักหน้า
ต่อมา เย่หลินเดาไม่ผิดเลย ว่าเป็นน้าคนทำความสะอาดบ้านจริงๆ เธอยอมรับว่าเกาเหวินให้เงินกับเธอก้อนหนึ่ง ให้เธอแอบเปลี่ยนเบอร์มือถือในโทรศัพท์ แล้วโทรหาเย่หลิน
จากที่คิดว่าเรื่องมาถึงตรงนี้ พวกเขาก็จะทำสำเร็จแล้ว
แต่ว่าตอนที่หนิงเส่าเฉินเตรียมทนายไว้จะไปหาเกาเหวิน เกาเหวินก็ได้หายตัวไป
เธอขายหุ้นทั้งหมดของเธอให้กับบริษัทตระกูลเกาในราคาที่ต่ำ เอาเงินเล็กน้อยเหล่านั้น แล้วหายตัวไป
เธอเหมือนระเหยหายไปจากโลกมนุษย์ หายไปอย่างไร้ร่องรอย
หนิงเส่าเฉินส่งคนไปค้นหาที่สนามบิน สถานีรถไฟ และสถานีขนส่ง แต่ก็ไม่พบบันทึกการเดินทางของเธอเลย เห็นได้ชัดว่าเธอได้หลบหนีออกจากเมืองc ด้วยตัวตนของบุคคลอื่น
เรื่องนี้ ทำให้เย่หลินรู้สึกกลัวเล็กน้อย กังวลว่าระเบิดเวลาลูกนี้ อาจจะระเบิดได้ทุกเมื่อ
เห็นได้ชัด ว่ากับสถานการณ์ตอนนี้หนิงเส่าเฉินเองก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน
“โทษฉันคนเดียวเลย ที่ต้องการอยากจะเล่นเกมกับเธอช้าๆ ฉันควรทำให้เธอเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาตั้งแต่ฉันกลับมาแล้ว ตอนนี้ยุ่งเลย ไม่รู้ว่าเธอหนีไปอยู่ที่ไหน ต่อไป เธออยู่ในที่มืด ฉันอยู่ในที่สว่าง คิดๆแล้วก็รู้สึกกลัว”คืนที่รู้ว่าเกาเหวินหายตัวไป เย่หลินนอนบ่นอยู่ในอ้อมกอดของหนิงเส่าเฉิน
รู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจเมื่อตอนนั้น
มือใหญ่ของหนิงเส่าเฉินสอดไว้ระหว่างผมของเธอ“ อย่าโทษตัวเองมากไป ผมจะส่งคนไปหาเธอเอง”
“เธอมีเจตนาที่จะซ่อน ตราบใดที่เธอไม่ออกมา โลกกว้างใหญ่ขนาดนี้ พวกเราคงหาตัวเธอยาก”
ตั้งแต่เกาเหวินจากไป หนิงเส่าเฉินก็พาแม่นมหลิวกับลุงจางและคนอื่นๆที่ดูเชื่อถือได้มาพักยังที่ที่พวกเขาอยู่ และเพิ่มการรักษาความปลอดภัยรอบๆบ้าน
ไม่มีเกาเหวิน ชีวิตของพวกเธอ ก็กลับไปเป็นปกติ
พัฒนาการของบริษัทซีเอกซ์ดีเกินคาด หนิงเส่าเฉินเองก็ดีต่อเธอและครอบครัวนี้มาก นอกจากสถานะคุณนายหนิงที่เขาไม่ได้ให้ เขามอบทุกสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝันกับเธอ เขารักเธอ ความมั่งคง ความเข้าใจ ความอดทน การสนับสนุน…
ระหว่างนี้ เธอก็โทรหาคุณตาหลายครั้ง แต่กลับไม่มีใครเอ่ยถึงเรื่องพ่อเกาเลยสักคน
เกาไห่เองก็ได้ส่งโพสต์การ์ดมาให้เธอจากหลายๆประเทศ เห็นได้ชัดว่าเขากลับมามีชีวิตปกติแล้ว เธอดีใจแทนเขามาก
ชีวิตที่เป็นขั้นเป็นตอนแบบนี้ ผ่านไปเร็วมาก แค่กะพริบตาก็จะสิ้นปีแล้ว
เย่หลินได้รับโทรศัพท์จากแม่หนิง บอกว่าปีนี้พวกเขาจะไม่กลับมาฉลองปีใหม่ อยากไปเที่ยวประเทศอื่นๆ
นึกถึงท่องเที่ยว เย่หลินก็นึกถึงเมืองs จึงเสนอความคิดเห็นกับหนิงเส่าเฉินว่า สิ้นปีนี้ กลับเมืองsไหม เพราะเมืองcเป็นเมืองที่ติดทะเล จึงแทบจะไม่เคยเห็นหิมะเลย เธออยากพาเย่เสี่ยวโม่กับหนิงเสี่ยวซีไปดูวิวหิมะ
และก็อยากให้พวกเขาเห็นที่ที่เธอโตมาตั้งแต่เด็ก
หนิงเส่าเฉินตามใจเธอ และบอกเธอว่าปีนี้จะจัดการงานให้เสร็จโดยเร็ว จากนั้นจะใช้เวลาอยู่กับเธอและลูกๆ
วันที่ถึงเมืองs หิมะตกหนักมาก เด็กทั้งสองคนดีใจมากจนกระโดดโลดเต้น มุมปากของหนิงเส่าเฉินเองก็ยิ้ม
ตอนที่ตื่นขึ้นมา ก็มีหนิงเชี่ยนกับหลิวซู พี่ซวี่ แม่นมหลิว ลุงจาง เจอกับคนกลุ่มใหญ่
ตอนที่รู้เรื่องของหนิงเชี่ยนกับหลิวซู เย่หลินตกใจมาก แต่ก็คิดว่าทั้งสองคนเหมาะสมกันดี
เดิมทีเธอต้องการเช่าบ้านพักตากอากาศที่นี่ เพื่อให้ทุกคนได้อยู่ด้วยกันในช่วงปีใหม่ ให้มันมีชีวิตชีวาหน่อยๆ
แต่ใครจะรู้ ว่าหนิงเส่าเฉินจะรวยถึงขนาดให้หลิวซูซื้อบ้านพักตากอากาศหลังนี้ในนามของเธอ
เมืองsไม่ถือว่าเป็นเมืองใหญ่ บ้านพักตากอากาศหลังนี้อยู่ในเมืองใหม่ ดูเงียบสงบ สภาพแวดล้อมดี
มีพื้นที่เปิดโล่งกว้างใหญ่ด้านหน้าของบ้านพัก และในบ้านพักมีเครื่องทำความร้อน ทุกคนเองก็คิดว่ามันไม่เลว หนิงเสี่ยวซีเอาแต่พูดว่าจะมาฉลองปีใหม่กันที่นี่ทุกปี
“คุณดูสิ นี่เป็นโรงเรียนมัธยมต้นกับมัธยมปลายของฉัน ฉันกับหยูจี้ก็รู้จักกันที่นี่แหละ ” เย่หลินชี้ไปยังโรงเรียนที่ถูกหิมะปกคลุมข้างหน้า พูดขึ้นอย่างดีใจ
หนิงเส่าเฉินขมวดคิ้ว “ถ้ารู้จักกับคุณเร็วกว่านี้ก็ดี เราจะได้เป็นคู่รักที่มีใจให้กันตั้งแต่เด็กๆ”
เย่หลินปิดปากหัวเราะ “ไป ฉันจะพาคุณไปดูบ้านที่ฉันเติบโตมายี่สิบปี”
เป็นเรื่องที่หาได้ยากที่จะมีคนมาช่วยดูแลเด็ก และหาได้ยากที่จะมีโอกาสพาเขาไปดูเส้นทางชีวิตของเธอที่ผ่านมา
เย่หลินมีความสุขมากจนเหมือนเด็กๆ
เนื่องจากหิมะตกหนักมาก หลังคาบ้านเก่าที่เย่หลินเคยอาศัยอยู่ จึงถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ
“คุณดูสิ ตอนเด็กฉันเติบโตมาในที่แห่งนี้ นี่คือบ้านของฉัน มีทางรถไฟอยู่หลังบ้าน ทางรถไฟมีเนินเล็กน้อย ตอนเด็กๆ มีหิมะตกหนักเมื่อไหร่ ฉันกับเพื่อนบ้านข้างๆก็จะเอาถุงผ้าไปเล่นสไลด์ที่นั่น และในฤดูใบไม้ผลิ เดินผ่านเส้นทางรถไฟนั้นขึ้นไป บนภูเขาจะมีบ่อน้ำแร่ น้ำแร่ที่นั่นหวานมากเลย พอถึงฤดูร้อน ทั้งภูเขา……”
เย่หลินหยุดพูดไป เพราะเห็นสีหน้าของหนิงเส่าเฉินผิดปกติ
“เส่าเฉิน คุณ เป็นอะไรหรือเปล่า?”
เห็นเพียงหนิงเส่าเฉินหลับตาไว้ ขมวดคิ้ว สักพัก เขาก็ถามเย่หลินอย่างตื่นเต้นว่า“หลังบ้านหลังนี้มีคูน้ำเล็กๆใช่ไหม?”