เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - บทที่ 195 คุณชายหนิงกับหยูซื่อหนาน
ต่อมา เย่หลินออกจากบ้านได้แล้ว เธอก็เริ่มไปบริษัท เพียงแต่หนิงเส่าเฉินไม่อนุญาตให้เธอทำงาน ฉะนั้นเธอเลยได้แต่ทำงานซ้ำไปซ้ำมา
แต่หนิงเส่าเฉินเองหลังจากที่กลับมา ก็ยังทำงานจนดึกดื่น
ตอนแรกเย่หลินคิดว่าเขายุ่งกับงาน ต่อมามีอยู่ครั้งหนึ่งเธอพบว่า เขานอนหลับอยู่ในห้องหนังสือ ไม่ได้ทำงาน แต่เขาก็ไม่ได้กลับห้องเช่นกัน
สิ่งนี้ทำให้เย่หลินรู้สึกมีปมในใจ
หนิงเส่าเฉินยังคงปฏิบัติกับเธอดีมาก รักใคร่เอ็นดู เอาใจใส่ยิ่งกว่าเมื่อก่อน แต่……
ครึ่งเดือนมานี้ เมื่อถึงเวลาที่เขาจะพักผ่อน ก็เหมือนหลีกหนีจากเธอ รอให้เธอหลับแล้ว เขาจึงจะเข้ามานอน เมื่อเธอตื่น เขาก็ลุกขึ้นไปนานแล้ว
คืนนี้ เย่หลินเลยแกล้งหลับเร็วมาก เป็นอย่างที่คิดไว้ เห็นได้ชัดว่าหนิงเส่าเฉินก็กลับมาที่ห้องเร็วกว่าเดิม
เย่หลินรู้สึกว่าเขานอนลงข้างๆ ตน
ต่อมา ก็จูบลงที่หน้าของตน จากนั้นก็นอนลงอย่างสงบ เย่หลินเลยแกล้งทำเป็นพลิกตัว จงใจขยับเข้าไปใกล้ๆ เขาเล็กน้อย แล้วเอามือไปแตะบนเอวของเขา
ไม่นาน เธอก็ได้ยินเสียงลมหายใจของหนิงเส่าเฉินถี่ขึ้นเล็กน้อย เมื่อเธอกำลังแอบดีใจ มือก็ถูกยกขึ้น จากนั้นเธอก็รู้สึกได้ว่าหนิงเส่าเฉินพลิกตัวลงจากเตียง จากนั้นก็ได้ยินเสียงน้ำในสระว่ายน้ำ
น้ำตาเธอก็ไหลออกมา
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เคยคิดมาก่อน ว่าชีวิตคู่เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม แต่ในเมื่อทั้งสองคนอยู่ด้วยกันแล้ว นี่ก็เป็นรูปแบบหนึ่งที่จะรักษาความรักไว้ อีกทั้งเธอรู้จักหนิงเส่าเฉิน เขาแทบจะติดลบในการควบคุมพละกำลังของตนเอง เมื่อก่อน เธอแทบจะไม่ต้องไปกระตุ้นเขา เขาก็เร่าร้อนอย่างมาก
แต่ว่า……หลังจากครั้งที่แล้วที่เธอได้รับบาดเจ็บ เขาก็ไม่เคยแตะต้องเธอเลย
ในตอนแรก เธอคิดว่าขาของเขายังไม่หายดี แต่ว่าตอนนี้เห็นเขาเดินได้คล่องแล้ว ก็เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่สาเหตุนี้ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะคิดมาก
หรือเป็นเพราะในตอนนั้นตนเองดูหน้าตาน่าเกลียดเกินไป จึงทำให้เขามีสิ่งกีดขวางทางใจกับเธอ?
ยิ่งคิดก็ยิ่งน้อยใจ แล้วก็ยิ่งโกรธ เธอก็เลยหันกลับไป ไม่สนใจเขาอีก
หลายวันต่อมา เธอก็นอนหันหลังให้เขา ความโกรธในใจที่สะสมไว้เป็นวันเป็นเดือน ก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่เธอก็ไม่ได้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ถึงอย่างไรนอกเสียจากด้านนี้แล้ว เรื่องอื่นที่หนิงเส่าเฉินปฏิบัติต่อเธอ ยังคงไร้ที่ติ
วันนี้อู่เล่อเล่อนำเอกสารสัญญามาให้เธอ “ประธานเย่ เอกสารสัญญาของเรากับหนิงกรุ๊ป ใกล้หมดอายุแล้ว ถ้าคุณมีเวลาก็นำกลับไปให้ประธานหนิงเซ็นหน่อยนะ”
เย่หลินพยักหน้า คิดๆ ดูก็ไม่ได้ไปที่บริษัทของหนิงเส่าเฉินนานแล้ว อยากจะไปดูเขาสักหน่อย แล้วถือโอกาสทานอาหารกลางวันกับเขา
เมื่อเย่หลินมาถึง คนในบริษัทก็เลิกงานพอดี
“สวัสดีคุณนาย……”
“สวัสดีคุณนาย! ”
เพราะฐานะของเธอ เป็นความลับที่เปิดเผยแล้ว ดังนั้นทุกคนจึงเรียกเธอว่าคุณนายโดยจิตใต้สำนึก
ในตอนแรกเย่หลินก็รู้สึกเขินอาย หลังๆ ก็เริ่มชินไปแล้ว
เมื่อเดินไปถึงลิฟต์ จู่ๆ เธอก็ปวดท้องขึ้นมา เลยหันกลับไปเข้าห้องน้ำ
ประตูเพิ่งจะปิดลง ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามา
“เมื่อกี้คุณเห็นไหม? เย่หลินคนนั้นมาแล้ว”
“เห็นสิ มีลูกสองคนแล้ว ยังเหมือนกับสาววัยรุ่นเลย ผิวพรรณอ่อนเยาว์กว่าเมื่อก่อนอีก”
“ดูอ่อนเยาว์ แล้วจะมีประโยชน์อะไร ส่วนคนคนนั้น มองมานานแล้ว ก็ไม่รู้สึกสวยเลยสักนิด”
“จริง ช่วงนี้ฉันเห็นท่านประธานของพวกเรากับหยูซื่อหนานคนนั้นเข้าๆ ออกๆ กันบ่อยครั้ง ดูแล้วความสัมพันธ์คงไม่เลวเลย”
“ใช่ๆๆ คุณก็เห็นใช่ไหม? มีครั้งหนึ่ง ฉันเข้ากะตอนกลางคืน เกือบสี่ทุ่มแล้ว คนทั้งสองเพิ่งจะออกมาจากห้องทำงาน”
“คุณพระ พวกเขาคงไม่…..ในห้องทำงาน…..”
“พอๆ นี่ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราควรจะยุ่ง ไปเถอะ”
หลังจากเย่หลินออกมาจากห้องน้ำ คนทั้งหมดก็ต้องทึ่มทื่อไป
หนิงเส่าเฉินกับหยูซื่อหนาน? ผู้หญิงคนที่เท่สง่าคนนั้นน่ะเหรอ?
ไม่ ถึงผู้ชายทุกคนบนโลกจะเจ้าชู้ เธอก็ไม่เชื่อว่า หนิงเส่าเฉินจะนอกใจ สี่ปีนั้น คือเครื่องพิสูจน์ที่ดีที่สุด
คิดถึงตรงนี้ ก็พ่นลมหายใจ ขึ้นลิฟต์ มาถึงชั้นที่เป็นห้องทำงานท่านประธาน
คนของห้องเลขาฯ เห็นเธอมา แต่ละคนก็มีใบหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัด
เห็นเธอเดินไปยังห้องท่านประธาน ก็มีคนหนึ่งออกมา ดึงเธอเอาไว้ “คุณนาย ช่วงนี้ดูคุณสวยเป็นพิเศษเลยนะ มีเคล็ดลับอะไรเหรอ? ”
คนอื่นๆ เห็นเช่นนี้ ก็เข้ามารายล้อม
เย่หลินนับว่าเป็นแขกประจำที่มาที่นี่ เลขาฯ ของที่นี่ เธอก็รู้จัก แล้วก็รู้ดีอยากมากว่า ปกติหนิงเส่าเฉินไม่อนุญาตให้พวกเขาซุบซิบนินทากันในเวลางาน
การกระทำในวันนี้ ดูผิดปกติเกินไปจริงๆ
คิดถึงตรงนี้ ในสมองของเธอก็กลับไปนึกถึงคำพูดเหล่านั้นที่ได้ยินในห้องน้ำเมื่อกี้นี้ สีหน้าจึงเคร่งขรึม แต่ยังอดกลั้นยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า: “ฉันมาหาหนิงเส่าเฉินมีธุระเล็กน้อย อีกสักครู่ออกมา ค่อยมาคุยกับพวกคุณ”
ต่อจากนั้น เธอก็ผ่านฝูงชน เดินไปยังห้องทำงานของหนิงเส่าเฉินอย่างรวดเร็ว แต่ในใจกลับเป็นกังวลไม่หยุด
เมื่อเปิดประตู ก็เห็นหนิงเส่าเฉินและหยูซื่อหนานสองคนนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานตรงข้ามกัน ตรงกลางมีแบบแปลนแผ่นใหญ่แผ่นหนึ่ง คนทั้งสองคล้ายกับกำลังหารือเรื่องอะไรกันอยู่
หนิงเส่าเฉินเห็นเย่หลินเข้ามา ก็รีบลุกขึ้น “เย่จึ คุณมาได้ยังไง? ”
เย่หลินยิ้มให้เขาเล็กน้อย “คิดถึงคุณ ก็เลยมาหาคุณ อยากจะนัดคุณทานข้าวกลางวันด้วยกัน”
หนิงเส่าเฉินจูบที่บนแก้มขวาของเธอเล็กน้อย “ได้ คุณนั่งรอที่นั่นสักครู่ก่อน ทางด้านของพวกเราก็จะเสร็จแล้ว” พูดพลาง ก็เข้าไปประคองเย่หลินให้นั่งลงบนโซฟา
เย่หลินก็ส่งยิ้มให้เธอเล็กน้อย
ต่อจากนั้นหนิงเส่าเฉินและหยูซื่อหนานก็พูดคุยกันอีกราวๆ สิบกว่านาที เย่หลินไม่ได้ฟังให้ละเอียดว่าพวกเขาพูดอะไรกัน ได้ยินเพียงหนิงเส่าเฉินที่อยู่ด้านหลังลุกขึ้น พูดอย่างเย็นชาว่า: “ประธานหยู นี่คือส่วนประกอบที่สำคัญของฉัน ถ้าคุณยึดมั่นที่จะไม่เห็นด้วย เช่นนั้น ระหว่างพวกเราก็ไม่มีอะไรต้องปรึกษาหารือกันอีก คุณไปเถอะ! ”
พูดจบ ก็เดินอ้อมโต๊ะทำงาน มายังตรงหน้าเย่หลิน “ไปกันเถอะ คุณอยากทานอะไร ฉันจะพาคุณไปทาน”
“อาหารเผ็ด! ”
“ไม่ได้ ร่างกายของคุณเพิ่งจะดีขึ้น คุณหมอกำชับว่า จะต้องงดอาหารบางอย่าง” เห็นเย่หลินเบะปาก เขาก็ลูบๆ ที่หัวของเธอ “เชื่อฟังสิ นอกจากของเผ็ดแล้ว อย่างอื่นก็ตามใจคุณเลย โอเคไหม? ”
เย่หลินพยักหน้า ดึงแขนของเขา ลุกขึ้นยืน
เมื่อคนทั้งสองเดินผ่านหยูซื่อหนาน เย่หลินก็เอ่ยปากว่า: “ประธานหยู ไปทานข้าวด้วยกันไหมคะ? ”
หยูซื่อหนานกำลังเก็บแบบแปลน เมื่อได้ยิน ก็พยักหน้าเล็กน้อย “ตอนกลางวันมีนัด ต้องขอโทษด้วยค่ะ”
ต่อจากนั้นเย่หลินก็โอบเย่หลินออกไปจากห้องประธาน ระหว่างทาง ก็จัดผมให้เธอ และก็พูดคุยเรื่อยเปื่อยกับเธอ
ท่าทีที่หวานชื่นนั้น ทำให้กลุ่มผู้หญิงกลุ่มหนึ่งอิจฉาตาร้อน แล้วก็นำการคาดเดาทั้งหมดก่อนหน้านี้ ตีกลับไปอย่างเดิม
เย่หลินที่พยายามแสดงออกถึงท่าทีที่มีความสุขตั้งแต่ต้นจนจบ แต่มือทั้งสองที่อยู่ข้างตัวอดไม่ได้ที่จะกำไว้แน่น