เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - บทที่ 196 อะไรคือชำระบัญชี?
“เห็นไหม ยังจะบอกว่าผู้จัดการหยูกับประธานของเรามีอะไรกัน? พวกคุณดูเขาทำท่าทางรักใคร่เอ็นดูกับประธานเย่คนนั้น พวกคุณอะ……มองพลาดแล้ว! ”
“เฮ้อ ประธานเย่คนนี้ดวงดีจริงๆ เลย”
ตลอดจนเดินไปถึงรถ หนิงเส่าเฉินก็ไม่ปล่อยมือเย่หลินเลย
แต่ต่อจากนั้น เย่หลินก็ดึงเปิดประตูด้านหลัง แต่หนิงเส่าเฉินเปิดประตูด้านคนขับ
“ในรถมีกลิ่นหึงหวงนะ” หลังจากหนิงเส่าเฉินสตาร์ต ก็พูดประโยคนี้
เย่หลินทำเสียงไม่พอใจ หันไปมองนอกรถ
ในทันทีหลังจากนั้น รถก็เลี้ยวขวา แล้วจอดที่ข้างทาง
หนิงเส่าเฉินลงจากรถ ดึงประตูด้านหลังเปิดออก แล้วเข้าไปนั่ง
จับไหล่ของเย่หลิน เผชิญหน้ามองเธอ “พูดมา มีเรื่องอะไรไม่สบายใจ อย่าเก็บกดเอาไว้”
ประโยคนี้ของเขา ทำให้เย่หลินน้ำตาไหล เดิมทีอยากจะเก็บไว้ไม่พูดออกไป แต่อดกลั้นไว้ไม่ไหว พูดออกมา : “หนิงเส่าเฉิน คุณรังเกียจฉันใช่ไหม? ”
หนิงเส่าเฉินเลิกคิ้ว สีหน้าเคร่งขรึมลงมา “รังเกียจคุณ รักคุณมากขนาดนี้ จะรังเกียจคุณได้อย่างไร? ”
“คุณโกหก ทั้งวันมีผู้หญิงสวยๆ รายล้อมคุณมากมายขนาดนี้ ฉะนั้น คุณดูจนพอแล้ว ตอนกลางคืนจึงไม่อยากแตะต้องฉัน”
แต่ว่า เธออัดอั้นมาหลายวันแล้ว ถ้าไม่พูดออกไป เธอรู้สึกว่าตนเองจะเป็นบ้าแล้ว
มือของหนิงเส่าเฉินบนไหล่ของเธอ เห็นได้ชัดว่าสั่นเล็กน้อย
ยกแขนขึ้น แล้วตรวจดูวันที่บนนาฬิกาข้อมือ หนิงเชี่ยนบอกว่า ภายในสองเดือนเป็นอย่างต่ำ ไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ นี่ยังขาดอีกหนึ่งวัน ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ใช่ไหม?
เขาไม่อยากรีบร้อนแบบนี้ เพื่อเย่หลินแล้วอย่าพูดว่าสองเดือนเลย สองปีเขาก็อดทนได้
แต่ว่า เขาทำให้เย่หลินเสียใจขนาดนี้ ถ้าเขาไม่ทำอะไรสักอย่าง กลัวเธอจะระแวงจนจิตใจว้าวุ่น
คิดๆ แล้วก็ก้มลงไป จูบริมฝีปากเธอ แล้วกระซิบข้างหูเธอ : “หมอบอกว่า ร่างกายของคุณต้องพักผ่อนอย่างสงบ ฉันกลัวว่าคุณจะอ่อนเหนื่อยเกินไป ฉันจึงอดทนไว้ ไม่กล้าแตะต้องคุณ เพราะว่า……มีอะไรกันหนึ่งครั้ง ก็จะไม่ได้นอน แล้วก็ต้องอาบน้ำเย็น คุณไม่มีน้ำใจเลย คาดไม่ถึงว่าคุณจะสงสัยฉัน”
พูดจบ ก็ลงโทษอยู่บนริมฝีปากเธอ กัดเบาๆ แล้วพูดกระซิบกระซาบอีกครั้งว่า : “คุณ……ต้องการ? ”
เย่หลินตกตะลึง แต่รู้สึกดีใจ เธอคาดไม่ถึงว่าที่หนิงเส่าเฉินทำอย่างนี้ก็เพื่อเธอ
ดีใจจนพยักหน้า จากนั้นก็ส่ายหัวทันที ผลักหนิงเส่าเฉินออก “คุณ……คุณทำไมไม่พูดออกมาล่ะ? คุณไม่รู้หรอก ว่าหนึ่งเดือนนี้ของฉัน เป็นทุกข์แค่ไหน”
ทว่าในใจก็เกลียดตัวเอง น่าจะถามออกมาเร็วกว่านี้
หนิงเส่าเฉินสูดลมหายใจ “ฉันคิดว่าคุณไม่ได้สนใจ ปกติ……ปกติเวลาอยู่กับคุณ…… คุณหลีกเลี่ยงทุกวิถีทางมาใช่เหรอ? ” พูดจบ ก็ก้มลงไปพูดว่า : “ใครจะคิดว่าคุณ แอบมีความสุขล่ะ? ”
เย่หลินเห็นใบหน้าที่น้อยใจของเขา ก็หัวเราะออกมา นำมือไปคล้องคอหนิงเส่าเฉิน “ร่างกายของฉันเอง ฉันไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ คุณไม่ถามฉันหน่อยเหรอ? ฉัน……ฉันบอกว่าได้ ก็ได้สิ! ”
หลังจากนั้น เธอก็เห็นดวงตาของชายคนนั้นแดงก่ำ ชั่วขณะก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย แล้วปล่อยเขา “เอ่อ ฉันหิวแล้ว”
หนิงเส่าเฉินหลับตา ดึงมือของเย่หลิน “รู้สึกได้ด้วยตนเอง? คุณสนใจไหม? ”
มือของเย่หลินสัมผัสวัตถุที่แข็ง ใบหน้าก็แดงก่ำ “คุณ……คุณหน้าไม่อาย! ”
พูดจบ ก็เปิดประตูลงจากรถ ไปนั่งข้างคนขับ แต่มุมปากยกขึ้นสูง แล้วก็เสียใจเล็กน้อยที่เมื่อกี้ตนเองใจแคบ
สองสามนาทีต่อมาหนิงเส่าเฉิน จึงกลับไปนั่งที่นั่งคนขับ มองเย่หลิน ขมวดคิ้วแน่น แต่มุมปากมีรอยยิ้มเล็กน้อย มองดูแล้วอารมณ์ดีอย่างมาก
ตอนเย็น เลิกงานมาเร็ว เย่หลินกำลังเล่นเป็นเพื่อนเย่เสี่ยวโม่และหนิงเสี่ยวซี เห็นเขากลับมา ก็แปลกใจ “วันนี้กลับมาเร็วจัง? ”
หนิงเส่าเฉินชำเลืองมองเธอ พูดอย่างเอาจริงเอาจังว่า: “อืม มาชำระบัญชี”
เย่หลินตอบ”อ้อ”คำหนึ่ง แล้วก็ไม่ได้ตอบสนอง เล่นเป็นเพื่อนกับลูกต่อไป
“แม่ อะไรคือชำระบัญชี? ”
เย่หลินส่ายหน้า “ฉัน….ก็ไม่รู้เหมือนกัน”
เธอคล้ายกับค่อยๆ มีปฏิกิริยาตอบสนอง บนใบหน้าก็แดงระเรื่อ “เอ่อ แม่จะลองไปถามพ่อให้นะ”
พอเข้าห้อง คนยังไม่ทันยืนได้อย่างมั่นคง ก็ถูกดึงเข้าไปในอ้อมกอดหนึ่ง
“หนิงเส่าเฉิน ต่อไปคุณห้ามพูดส่งเดชต่อหน้าลูกแบบนี้นะ พวกเขารู้เข้า มันจะน่าอายขนาดไหน”
หนิงเส่าเฉินหรี่ตา “นี่เรียกว่าเป็นการอบรมสั่งสอนล่วงหน้า ไม่มีอะไรน่าอายเลย”
เย่หลินพูดไปออก เห็นท่อนบนที่เปลือยเปล่า ใบหูก็แดงระเรื่อ ผลักเขาออกไป
“เอ่อ ฉัน…..ฉันลงไปดูทีวีก่อน”
มือร้อนผ่าว จากนั้น เธอก็ถูกชายหนุ่มโอบเอวเอาไว้
“ขาของคุณ……”
“ไม่มีปัญหาอะไรมาก”
“คุณ…..รีบร้อนเกินไปหรือเปล่า? นี่…..”
“ไม่รีบร้อน ก็ผิด รีบร้อน ก็ผิด คุณบอกมาซิว่า เมื่อไรถึงจะเหมาะสม? ”
เย่หลินลูบหน้าผาก “เอ่อ…..ฉัน…..” พูดไม่ออกบอกไม่ถูกเล็กน้อย
ทั้งคืนนี้ หนิงเส่าเฉินปฏิบัติต่อเธออย่างนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เอาใจใส่ดูแล ทำให้หัวใจที่ว่างเปล่าของเย่หลินในช่วงนี้ ในที่สุดก็เติมเต็ม
แล้วก็ทำให้เธอเข้าใจ วันเวลาที่คนทั้งสองผ่านมา ถ้าในใจมีเรื่องอะไร ก็ต้องพูดออกมา บางครั้ง ก็อาจจะเป็นความหวังดีของอีกฝ่าย แต่เพราะความหวาดระแวงของตนเอง อาจจะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสอง
หลังจากเรื่องนี้ เธอก็ไว้วางใจหนิงเส่าเฉินยิ่งขึ้นไปอีก
วันเวลาก็กลับมาสงบอีกครั้ง จนกระทั่งเกาไห่โทรศัพท์มาหาเธอ บอกว่าอยากจะพาแฟนสาวกลับมา
เธอดีใจอย่างมาก ถึงอย่างไรพ่อแม่ก็ไม่อยู่แล้ว เธอก็คือครอบครัวของเกาไห่ เขาพาแฟนสาวกลับมา เธอจึงดีใจกับเขาเป็นพิเศษ
“คุณดูพี่สะใภ้ในอนาคตสิ? ”
หนังจากพี่สะใภ้กลับมา เย่หลินก็นำรูปภาพในมือถือให้เขาดู หนิงเส่าเฉินรับมือถือมา มองคร่าวๆ เล็กน้อย แล้วก็ส่งให้เย่หลิน ทันใดก็คล้ายกับนึกอะไรขึ้นได้ หยิบมือถือของเย่หลินมา มองดูอีกครั้ง ต่อจากนั้น ในสายตาก็ปรากฏความงุนงง
จึงแสร้งทำเป็นถามเย่หลินว่า “แฟนสาวคนนี้ของพี่ชายคุณ ทำงานอะไร? ชื่ออะไร? ”
“อืม เขาไม่ได้พูดรายละเอียดนะ พูดแต่ว่า เป็นนางแบบคนหนึ่ง” เธอมองรูปภาพอีกสองครั้ง “ถึงแม้จะไม่สวยมาก ไม่เหมาะกับเกาไห่เล็กน้อย เพียงแต่ แค่พี่ชายฉันชอบ พวกเขาดีต่อกัน ก็พอแล้ว คุณว่าไหม? ”
หนิงเส่าเฉินหรี่ตา “ตอนนี้เขาไม่มีครอบครัว คุณในฐานะที่เป็นน้องสาวของเขา ก็ต้องตรวจสอบให้สักหน่อย ถึงอย่างไร ที่ก็เป็นเรื่องที่อยู่ไปชั่วชีวิต’
หนิงเส่าเฉินเอาใจใส่กับเรื่องของคนอื่นน้อยมาก เย่หลินคิดว่าที่เขาเตือนสติเธอแบบนี้ ก็เพื่อตนเอง จึงอบอุ่นใจเล็กน้อย แล้วก็ไม่ได้คิดมาก