เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - บทที่ 224 ระยะเวลาสิบวัน
“คุณอา เขาไม่เคยโทรหาฉัน แต่ เขาจะต้องโทรหาคุณแน่เลยใช่ไหม ?” เย่หลินมองคุณอา และพูดอย่างมั่นใจ
ในช่วงนี้ หลังจากสงบสติลงแล้ว เย่หลินก็ค่อยค่อยเข้าใจสิ่งต่างต่างมากขึ้น
อย่างเช่นทำไมหนิงเส่าเฉินถึงไม่เก็บเธอไว้ในตอนนั้น
ทำไมเขาถึงไม่อธิบาย และก็ไม่ตอบคำถามเธอ ?
ในกรณีนั้น ถ้าเขาบอกว่า เขาเชื่อเธอ ถ้าอย่างนั้นเย่หลินจะไม่ยอมออกไปแน่นอน เธอไม่สามารถทำให้เขารู้สึกแย่ เพียงเพราะตัวเธอเองได้หรอก
ถ้าเขาบอกว่า เขาไม่เชื่อเธอ เขาก็เกรงว่าเขาจะทำร้ายเธอ
อันที่จริงแล้วในตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นกับพ่อหนิง พระเจ้ารับรู้ เธอและพ่อหนิงรู้ แต่หนิงเชี่ยนเห็นเพียงความพัวพันระหว่างเธอกับพ่อหนิง จากนั้นพ่อหนิงก็ตกลงมาจากหน้าผา เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้น ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น เธอจึงมีเหตุผลให้เข้าใจผิดตัวเธอ และไม่เชื่อเธอ
และถ้าพ่อหนิงหมดสติและไม่ฟื้น อย่างที่หนิงเส่าเฉินบอก แม้ว่าเขาจะเชื่อเธอ เธอกลับไปกับเขา และสิ่งที่เธอจะต้องเผชิญอาจจะเป็นความโกรธระหว่างหนิงเชี่ยนและแม่หนิง และยังมีพวกญาติของตระกูลหนิงที่ไม่ยอมให้อภัยอีก และยิ่งมีแนวโน้มที่จะถูกบังคับให้อยู่ในห้องขัง
เธอก็ไม่ใช่แม่พระ ในสถานการณ์แบบนั้น เธอเกลียดหนิงเส่าเฉินจริงๆ เกลียดความไม่ไว้วางใจของเขา เกลียดที่เขาไม่รักษาเธอเอาไว้
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เธอสงบลง เธอก็เข้าใจแล้ว พวกเขาสองคนได้ผ่านหลายสิ่งหลายอย่างมาหลายปีแล้ว ร่วมทั้งชีวิตและความตาย !
ผู้ชายที่สามารถเพิกเฉยต่อชีวิตเพื่อตนเอง เขาทำลายเธอขนาดนั้น ดังนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะปฎิบัติกับเธอแบบนี้
เธอเชื่อมั่น !
ดังนั้น เธอจึงรอ รอให้พ่อหนิงฟื้น รอความเมตตาจากพระเจ้า
คุณอากระแอมเบาๆ แต่แล้วจะยังไงล่ะ ถ้าหากว่าเขาเชื่อคุณ ทำไมเขาถึงไม่มารับคุณกลับไป ?
เย่หลินหยิบขนมขึ้นมาชิ้นหนึ่งแล้วเอาใส่เข้าปาก ขนมค่อยค่อยละลายในปาก “เธอยกมุมปากขึ้น เขาแค่กลัวว่าถ้าฉันกลับไปแล้ว จะทำให้ฉันถูกทำร้าย และฉันจะตกอยู่ในอันตราย และ ตอนนี้พ่อของเขายังอาการโคม่าอยู่ มันจึงยังไม่เหมาะสมให้ฉันแสดงตัว ไม่ว่าอย่างไร ที่เขาล้มก็เป็นเพราะฉันจริงๆ คุณอา ที่จริงแล้วฉันรู้สึกผิดมาก ลองค่อยค่อยคิดดู ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะมีคุณสมบัติพอที่จะตำหนิพวกเขาได้ ดังนั้น ฉันจึงเต็มใจที่จะรอ”
คุณอาเลิกคิ้วขึ้น และจ้องมองเธออย่างเย็นชา แล้วจู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า:“ ถ้าหากว่าชั่วชีวิตนี้พ่อหนิงไม่ฟื้นขึ้นมาล่ะ ? หรือว่าคุณก็จะรอแบบนี้ไปชั่วชีวิต ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่หลินก็รู้สึกว่าริมฝีปากและลำคอของเธอแห้ง เธอไม่เคยคิดเกี่ยวกับปัญหานี้มาก่อน
ถ้าหากว่าชั่วชีวิตนี้ไม่ฟื้นขึ้นมา เธอจะทำอย่างไรดีล่ะ ?
“มีบางเรื่อง ผมอยากคุยกับคุณก่อน คุณปู่ให้เวลาเขาสิบวัน บอกว่าภายในสิบวันนี้ถ้าหากเขาคิดแก้ปัญหาไม่ได้ ชายชราจะเป็นผู้ตัดสินใจแทนคุณเอง ใบหน้าของคุณอาไม่มีการแสดงออกเหมือนรูปปั้น ด้วยบุคลิกของคุณปู่ เขาไม่พูดเล่นอย่างแน่นอน”
เมื่อเย่หลินได้ยิน เธอก็ลุกขึ้นยืนอย่างกังวลใจ “ตัดสินใจ ? ตัดสินใจอะไร ?”
“ตัดสินใจอะไร ผมบอกคุณไม่ได้ แต่ เย่หลิน คุณปู่หวังดีกับคุณ ไม่ว่าเขาจะตัดสินใจอะไร เขาไม่อยากเห็นคุณเป็นเหมือนกับแม่ของคุณ ที่ติดอยู่กับความรักตลอดชีวิต” เขาก้มศีรษะลงมองเธอ ด้วยสายตาที่ล้ำลึก สีหน้าของเขาดูไม่ดีนัก มันดูเย็นชาไปหมดเลย
เย่หลินได้ยินเขาพูดแบบนี้ จู่ๆก็รู้สึกขนลุกเล็กน้อย คุณปู่คนนั้น ถึงแม้ว่าเธอไม่ค่อยได้ติดต่อกับเขามากนัก แต่สถานที่เช่นเกาะเหลียนอู้ เขาจัดการมาหลายปีแล้ว การจัดการมีระเบียบดี ความสามารถและวิธีของเขาจะต้องไม่ประมาท “คุณอา เส่าเฉินดีกับฉันมาก จริงๆนะ !และ ฉันก็มีหนิงเสี่ยวซีและเย่เสี่ยวโม่แล้ว คนตระกูลหนิงไม่เห็นแก่หน้าพระภิกษุสงฆ์ก็ควรเห็นแก่หน้าพระพุทธรูปใช่ไหมคะ ? คุณเชื่อฉัน เมื่อผ่านช่วงเวลานี้ไป พวกเขาให้ฉันกลับไปแน่นอน ฉันไม่เหมือนกับแม่ และเรื่องในครั้งงนี้ ฉันเชื่อว่า ในตอนนี้เส่าเฉินจะต้องอึดอัดมากกว่าฉันแน่”
เพราะว่ารีบร้อนของเธอ ทำให้คำพูดของเธอไม่ค่อยต่อเนื่องกัน
เย่หลินบิดมือทั้งสองข้างด้วยความกังวล แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าคุณปู่คนนั้นจะตัดสินใจอะไร แต่ว่า เธอก็รู้ดีว่า ผลการตัดสินนั้น จะต้องเป็นการให้เธอกับหนิงเส่าเฉินแยกจากกัน อย่างแน่นอนโดยไม่ต้องสงสัย
คุณอายิ้ม และลูบริมฝีปากที่ยาวของเธอ ปัดผมที่กระจัดกระจายอยู่บนใบหน้าของเธอไปที่หลังหู จากนั้นก็ยิ้มเยาะอย่างใจเย็น:“เขาไม่มีแม้แต่ความสามารถจะปกป้องคุณ เขามีอะไรดีกัน ?”
ร่างกายของเย่หลินชา ตัวเธอแข็งทื่อด้วยความมึนงง:“ คุณอา นั่นเป็นพ่อของเขา ไม่ว่าจะใช่ฉันผลักหรือไม่ ตอนนี้เขาก็ยังอยู่ในอาการโคม่า นั่นก็เป็นเพราะฉันจริงๆ เขาต้องการเผชิญหน้ากับครอบครัวเขา ในกรณีนี้ ถ้าหากว่าเขาปกป้องฉันแบบสุ่มสี่สุ่มห้า มันก็จะยิ่งทำให้ครอบครัวของเขาโกรธเขามากขึ้นไปอีก”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ความอ่อนโยนในดวงตาของเขาก็หายไปทันที และเขาก็กระตุกริมฝีปากบางของเขา และพูดว่า:“ เขาต้องการปกป้องญาติของเขา พวกเราไม่คัดค้าน แต่ ใครจะปกป้องญาตของเขาล่ะ ?”
ญาติของพวกเรา ? เย่หลินตกสะดุ้งตามสัญชาติญาณ เธอมองไปที่ชายที่อยู่ข้างๆเธอ และสำลักออกมา
ดวงตาของคุณอาก้มลงมองบนร่างกายของเย่หลินที่คลุมเคลือและเต็มไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง รวบรวมปฎิกิริยาทั้งหมดของเธอไว้ที่ด้านล่างของดวงตาอย่างใจเย็น จากนั้นแสงวาบที่ตาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เร็วเกินกว่าจะจับภาพได้
“โอเค พูดจบแล้ว ผมยังมีธุระอื่นอีก ไปก่อนนะ”
“อา……..คุณอา คุณบอกฉันหน่อยได้ไหมว่าคุณปู่กำลังคิดจะทำอะไร ? ”เย่หลินรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก หน้าอกของเธอยกขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง “คุณให้คุณปู่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้ไหม ?”
คุณอาส่ายศีรษะ “เย่หลิน คุณให้กำเนิดลูกสองคนให้กับเส่าเฉิน ถ้าอย่างนั้น ครอบครัวของเขา ก็คือครอบครัวของคุณ คำพูดนี้ ถูกต้องใช่ไหม ?”
เย่หลินไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร แต่ เธอก็ยังพยักหน้า
“ถ้าอย่างงั้น ในหมู่สมาชิกใสครอบครัว สิ่งพื้นฐานที่สุด ก็คือควรไว้วางใจก่อนไม่ใช่เหรอ ? ใช่ เรื่องนี้ทำให้คนเข้าใจผิดได้อย่างง่ายดาย แต่ ในเมื่อเป็นครอบครัวของคุณ พวกเขาก็ควรจะเชื่อคุณ หรือว่าพวกเขาไม่เข้าใจ ? เมื่อเกิดเรื่อง พวกเขาไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่เชื่อคุณ ครอบครัวแบบนี้ แม้ว่าคุณจะกลับไปวันนี้ ขอร้องให้พวกเขาให้อภัย ในอนาคต ถ้าหากมีเรื่องที่คล้ายกันเกิดขึ้นอีก เย่หลิน คุณก็ยังจะเป็นคนแรกที่ถูกทอดทิ้ง”
ขณะที่เธอถือโทรศัพท์ มือของเย่หลินก็ยังสั่นเล็กน้อย ที่คุณอาพูดมามันไม่ผิดเลย
หัวใจเธอของเริ่มรู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก
แม่หนิงและหนิงเชี่ยน เธอรู้ดีเสมอว่าพวกเขาปฎิบัติต่อเธอดีมาเสมอ แต่ หลังจากเกิดเรื่องนี้ บุคคลที่เกี่ยวข้องคือพ่อหลิน ในตอนนั้น พวกเขามีปฎิกิริยาที่สามารถเข้าใจได้ดี แต่หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขายังคงรู้สึกอยู่ภายในใจว่าเธอ นี่แตกต่างออกไป
อย่างน้อยก็หมายความว่า ในใจของพวกเขา ไม่เชื่อเธอเลยจริงๆ
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอขมวดคิ้วและรู้สึกเจ็บปวดภายในใจ มือทั้งสองข้างกำแน่น และจ้องมองไปที่ด้านหลังของคุณอา อย่างตกใจ