เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - บทที่ 245 การเข้าใจผิดในโรงแรม
“เสี่ยวหวู่”นี่……
“จยาจยา เธอเม่ออะไรอยู่ รีบเข้ามาสิ?” ซูหย่าไม่ได้สังเกตเห็นว่าอาการเธอผิดปกติ แค่คิดว่าเธอเก้ๆกังๆ จึงเดินเข้าไปดึงเธอ“มา เธอนั่งตรงนี้”
เงยหน้าขึ้น กลับพบว่า สายตาของผู้ชายตรงข้ามตกอยู่ที่เล่อจยา
ซูหย่าอึ้งไป “พวกเธอสองคนรู้จักกันเหรอ?”
เล่อจยาพยักหน้าแบบอึดอัดเล็กน้อย “เพื่อนร่วมโต๊ะสมัยมัธยม”
“ไม่เจอกันสิบปีแล้ว เมื่อคืนเพิ่งได้เจอกัน ไม่คิดว่าจะได้เจอกันเร็วขนาดนี้”ระหว่างคิ้วของชายคนนี้ ดูมีรอยยิ้ม เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ดี
“อ๋อๆ ที่แท้แบบนี้นี่เอง” หันกลับมามองเล่อจยา “ทำไมหลายปีมานี้ไม่เคยได้ยินเธอพูดถึงคนคนนี้เลย?”
เล่อจยาตอบกลับเสียงเบา“ไม่เคยพูดถึง? ฉันคงคิดว่าไม่ได้ติดต่อกันมาหลายปีแล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องพูดถึงล่ะมั้ง”
เสียงเธอเบามาก แต่ภายในห้องนั้นเงียบมาก ดังนั้น ผู้ชายที่อยู่ตรงข้ามยังคงได้ยิน
ท่าทางการดื่มน้ำของเขา นิ่งไปเล็กน้อย
“พวกเธอเป็นเพื่อนกันเหรอ?”
“เพื่อนมหาลัย”ซูหย่าอธิบาย
“ดูเหมือนจะมีวาสนานะ สวัสดีครับ ขอแนะนำตัวหน่อยนะ ผมชื่อเซียวอู๋”
“เซียวอู๋ เสี่ยวหวู่? ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง”ซูหย่าถือแก้วชาไว้ต่อหน้าเล่อจยา “ไม่ต้องเล่นมือถือแล้ว ดื่มน้ำหน่อยเถอะ”
เล่อจยาพยักหน้า ที่จริง เธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ที่คู่นัดบอทของซูหย่าคือเซียวอู๋
จากนั้น ทุกคนก็หาคำพูดมาคุยเล่นกัน เห็นได้ชัด ว่าซูหย่าเหมือนจะมีความประทับใจเซียวอู๋ พยายามหาหัวข้อมาสนทนาด้วยตลอด
แต่เซียวอู๋กลับถามคำตอบคำ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้มีความสนใจซูหย่า
พูดตามตรงว่า เล่อจยาไม่ได้รู้จักพวกเขาดีพอขนาดนั้น แม้จะบอกว่าเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะกับเซียวอู๋ แต่นั่นก็เป็นเรื่องเมื่อสิบกว่าปีก่อนแล้ว การเปลี่ยนแปลงของมนุษย์ในช่วงเวลาสิบปีเป็นเรื่องน่าตกใจมาก เพราะฉะนั้น เธอจึงไม่เข้าใจเขา
และซูหย่า ความสัมพันธ์ของพวกเขาเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ แต่เธอกลับความจำเสื่อม จึงทำให้ความเข้าใจที่มีต่อซูหย่านั้นว่างเปล่า
ดังนั้น ถ้าไม่ใช่ว่าพวกเขาคุยกับเธอ เธอก็จะไม่เอ่ยปากพูดอะไรเลย
เมื่อเห็นว่าบรรยากาศดูหดหู่ขึ้นเรื่อยๆ เล่อจยาจึงลุกขึ้น“พวกเธอคุยกันไปก่อนนะ ฉัน ไปห้องน้ำแป๊บหนึ่ง”
เธอรู้สึกว่าถ้ายังนั่งอยู่ตรงนั้น พวกเขาไม่เป็นอะไรหรอก แต่เธอจะกดดันจนเป็นบ้าไปก่อน
เล่อจยาอยู่ในห้องน้ำสักพักถึงได้ออกมา เพิ่งจะเดินมาถึงหน้าประตู ก็ถูกคนดึงไว้
เธอต้องการจะโต้กลับ “เล่อจยา นี่ฉันเอง”
มือที่ยกขึ้นก็ต้องเอาลง “เสี่ยวหวู่ ทำไมนายถึงออกมาด้วยล่ะ?”
“จยาจยา เธอมีแฟนหรือยัง?”
เล่อจยาส่ายหน้า แต่พูดในใจว่า “เธอมีสามี”
เซียวอู๋อดที่จะโล่งใจไม่ได้ “ฉันกับเพื่อนเธอไม่เหมาะสมกัน” เขาพูดตรงๆ เหมือนกับตอนนั้น ที่เขาทำร้ายเธอ ไม่อ้อมค้อมเลยสักนิด “เธอดูสิ ทั้งห้องมีแฟนกันหมดแล้ว นั่นหมายความว่าอะไรล่ะ มันหมายความว่าคนอื่นไม่เห็นเธอเป็นผู้หญิงไง”
เธอจำได้ ตอนนั้น เธอตอบกลับเขาไปว่า “นายมีสิทธิอะไรมาว่าฉัน นายเองก็ไม่มีแฟนไม่ใช่เหรอ?”
“ฉันน่ะมีทางเลือกเยอะ ไม่ชอบให้มันยุ่งยาก”
เซียวอู๋ในตอนนั้นถึงจะพูดไม่ได้ว่าหล่อ แต่ เห็นบอกว่าฐานะทางบ้านดี บุคลิกดี เพราะฉะนั้น ผู้หญิงที่ชอบเขาจึงมีไม่น้อย
“นายยังไม่ได้รู้จักเธอจริงๆเลย ทำไมถึงบอกว่าไม่เหมาะสมกันแล้วล่ะ?นายดูซูหย่าสิ สวย บุคลิกดี ฐานะทางบ้านก็ไม่เลว นายลองทำความรู้จักก่อนค่อยตัดสินใจก็……”
“ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนเธอไม่ได้เป็นคนเสแสร้ง ทำไมแค่สิบปี เธอถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้”เสียงที่มีความดึงดูดของชายคนนี้พูดขัดเล่อจยาขึ้นมา
เล่อจยาก้มหน้าลง กุมขมับ ไม่รู้ว่าควรจะต่อคำพูดของเซียวอู๋ยังไง เสแสร้ง?ไม่ เธอแค่คิดว่า เป็นคำโกหกที่หวังดี ดีกับคนอื่น และดีกับตัวเองด้วย
“ทุกคนเปลี่ยนไปตลอดนั่นแหละ” สักพัก เธอก็พูดคำเหล่านี้ออกมา
“ใช่เหรอ?”
“ใช่สิ นายดูตัวเองสิ เมื่อก่อนอ้วนขนาดนั้น เตี้ยอีก ตอนนี้ล่ะ? ทั้งสูงทั้งหล่อ”เธอเปลี่ยนประเด็น
“อืม แต่เธอไม่เปลี่ยนไปเลย ยังคงเตี้ยและอ้วน”
เล่อจยาได้ยินแบบนั้น สูดหายใจเข้า หลับตา แล้วลืมตาอีกครั้ง “เสี่ยวหวู่ สิบปีแล้วอยากโดนสั่งสอนอีกใช่ไหม นายว่าใครเตี้ย ใครอ้วนกัน?”
พูดไป ก็ชูหมัดขึ้นมาต่อหน้าเซียวอู๋ ยู่ปาก
มือใหญ่ของเซียวอู๋แตะที่กลางริมฝีปาก แล้วยิ้มมุมปาก“ใช่…..อยากมาก ชอบคิดถึงมันบ่อยๆ”
เล่อจยากรอกตาใส่เขา “ขี้เกียจเถียงกับนายละ ไป เข้าไปกันเถอะ ซูหย่าอยู่คนเดียว……”
หันหลัง เล่อจยาก็เห็นซูหย่าเดินออกมาจากมุมข้างๆ สีหน้าดูแย่ เห็นได้ชัด ว่าเธอได้ยินบทสนทนาของพวกเธอ รวมถึงคำพูดนั้น คำพูดที่ว่าไม่เหมาะสม
เธอบีบนิ้ว “ซูหย่า ทำไมเธอถึงออกมาด้วยล่ะ?”
ซูหย่ามองเล่อจยาแล้วมองเซียวอู๋ “จยาจยา ฉันไม่ค่อยสบาย กลับก่อนนะ เธอให้คุณเซียวไปส่งเธอละกัน”
พูดจบ ก็หันหลังจากไป
เล่อจยาไล่ตามไปสองสามก้าว แล้วก็หยุดลง ทิ้งมือทั้งสองข้างไว้ข้างตัว หันกลับมามองเซียวอู๋ “นายเนี่ยนะ ผ่านไปสิบปีแล้ว ทำไมปากยังร้ายขนาดนี้ นายนัดบอทแบบนี้ ผู้หญิงที่ไหนจะอยู่กับนาย?”
เซียวอู๋เผชิญกับคำพูดเสียดสีของเธอ ไม่ได้โกรธแต่กลับหัวเราะ “ไม่เลว ยังคงจำได้แม่นแบบนี้”
“สื่อสารกันไม่ได้แล้ว”เล่อจยาพูดจบ หันหลังกำลังจะไป ส่วนของแขนก็อุ่นขึ้น
“กินข้าวก่อนค่อยไปไหม?”
เล่อจยาก้มหน้ามองมือใหญ่นั่น แอบประหลาดใจเล็กน้อย หลังมือนั้น มีแต่รอยแผลเป็น เธอจำได้ว่าเมื่อก่อนมือของนายคนนี้ ทั้งนิ่มทั้งขาวกว่าของเธอ สิบปี……มานี้ เขาไปทำอะไรมา?
คิดๆแล้ว ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ควรมีความรู้สึกแบบนี้กับผู้ชายคนอื่น จึงดึงความคิดของตัวเองกลับมา “ตัวเอกเขากลับไปแล้ว ฉันยังจะกินข้าวอะไรอีก?”
“จยาจยา……อย่างน้อยเราก็เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะกันมาหลายปี…….”
“ปล่อยมือก่อน”
“ไม่ เธอตอบตกลงกินข้าวกับฉันก่อน ฉันถึงจะปล่อย”คนบางคนเบะปาก ทำท่าปลิ้นปล้อน ท่าทางแบบนั้น ทำให้เล่อจยาประหลาดใจมาก สิบปีก่อน หลังจากที่โดนเธอสั่งสอน หากเขามีเรื่องขอร้องเธอ ก็จะมีท่าทางแบบนี้ สันดอนขุดได้ สันดานขุดยาก อืม ไม่ผิดเลย!
แต่เซียวอู๋กลับมองเล่อจยา เขาจะไม่บอกเธอ ว่าสิบปีมานี้เขาไม่เคยทำแบบนี้กับใครเลย
“ดูเหมือนว่า วันนี้ไม่ให้นายเห็นดี นายคงไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ”เล่อจยาพูดไป ก็โยนกระเป๋าบนไหล่ไปไว้ที่พื้น เธอยกแขนขึ้น ยังไม่ทันได้ขยับ
“เล่อจยา?”เสียงผู้หญิงดังขึ้นทางด้านขวา
เล่อจยาหันไป ก็เห็นเย่หลินที่จับมือหนิงเส่าเฉิน ยืนอยู่ในตำแหน่งที่ซูหย่ายืนเมื่อกี้ สายตาตกอยู่ที่แขนของเธอ
“เย่หลิน?”น้องสาวของเกาไห่ เล่อจยาร้องในใจ จบแล้วทีนี้ ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วมาฉุดกระชากลากดึงกับผู้ชายที่โรงแรม เย่หลินต้องเข้าใจเธอผิดแล้วแน่ๆ