เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - บทที่ 247 ผู้หญิงในอ้อมแขนของเขาเป็นใคร?
“ไม่ต้องขอร้องหรอก คุณแค่บอกมาก็พอ” เล่อจยาพูดจบ ก็หันกลับไปมองเขา
“ไม่ว่าในอนาคต หลังจากที่คุณฟื้นความทรงจำแล้ว คุณจะจำอะไรได้ คุณจะตีฉันจะด่าฉันจะโกรธฉันได้หมดทุกอย่าง แต่อย่าจากฉันไปได้ไหม? ”
เล่อจยาขมวดคิ้ว “คุณพูดอย่างนี้ ทำไมฉันรู้สึกว่าก่อนหน้านี้คุณทำเรื่องอะไรที่ผิดต่อฉันมาก่อนใช่ไหม? พอดีฉันความจำเสื่อม เลยลืมใช่ไหม? ” ชั่วขณะเธอก็ตาโต “หรือว่าคุณเคยนอกใจ? ”
เกาไห่หยิกแก้มเธอเบาๆ “คุณไม่คิดว่าฉันจะดีกว่านี้หน่อยเหรอ? ”
“ไม่ได้นอกใจ? ถ้าไม่ได้นอกใจ ปัญหาอื่น ก็น่าจะเป็นปัญหาเล็กน้อยแล้ว”
เห็นเธอยิ้มอย่างไม่คิดอะไรมาก ชั่วขณะเกาไห่ก็พูดไม่ออก จริงๆ ก็ไม่รู้ว่านิสัยอย่างนี้ของเธอดีหรือไม่ดี?
แต่มีสิ่งที่ยืนยันได้ เล่อจยาของเขา ไม่เพียงแต่เขาชื่นชมอยู่คนเดียว คนอื่นๆ ก็อยากจะได้ด้วย นึกถึงตรงนี้ เขากลัวว่าวันหนึ่งเธอฟื้นความทรงจำขึ้นมา ก็จะจากเขาไป
“ภาพวาดการออกแบบเตรียมส่งไปให้ตรวจสอบแล้ว สองสามวันนี้ทางด้านคุณนั้นอาจจะต้องทำงานหนักหน่อย” เมื่อถึงชั้นล่างของบริษัท เกาไห่ก็บอกกับเล่อจยา
“อืม ช่วงบ่ายฉันจะตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ถ้าไม่มีปัญหา ก่อนเลิกงานจะส่งให้คุณ”
เกาไห่พยักหน้า “โอเค”
ถึงบริษัทแล้ว เล่อจยาก็ได้ทำการปรับปรุงแก้ไขภาพวาดการออกแบบก่อนหน้า เธอใช้สมองอย่างหนัก พยายามทำให้ดีที่สุด นี่เป็นผลงานชิ้นแรกของเธอ ถึงแม้เธอจะไม่ได้อยากอาศัยสิ่งนี้เพื่อมีชื่อเสียง แต่เธอก็ไม่อยากทำให้เกาไห่ผิดหวัง
งานยุ่งจนเวลาผ่านไปเร็วมาก หลังจากเล่อจยาแก้ไขปรับปรุงเสร็จ ก็เห็นว่าคนในสำนักงานหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“เกาไห่ ฉันมีธุระนิดหน่อย ตอนเย็นไม่ได้ไปทานข้าวกับคุณ” เธอส่งข้อความถึงเกาไห่ หลังจากพูดประโยคสุดท้ายว่าไว้ค่อยไปทานกันใหม่ ข้อความก็ไม่ได้ตอบกลับอีกเลย เธองานยุ่งมากก็เลยไม่ได้สนใจ
“จยาจยา ทำไมวันนี้ยังไม่กลับอีก? ” ผู้จัดการเป็นคนบ้างาน โดยปกติทุกๆ ครั้งจะออกจากสำนักงานเป็นคนสุดท้าย วันนี้เห็นเล่อจยายังอยู่ จึงแปลกใจเล็กน้อย
เล่อจยาเคารพเธออย่างมาก ลุกขึ้นยืน “อยากจะเร่งทำภาพวาดการออกแบบอันนั้นสักหน่อย อีกสักครู่ทำเสร็จก็จะไปแล้ว”
แล้วนั่งลงมา หลังจากตรวจสอบภาพวาดการออกแบบอย่างละเอียด เวลาก็สองทุ่มกว่าแล้ว
มองดูมือถือ เกาไห่ก็ยังคงไม่ได้ตอบข้อความกลับ
คิดๆ แล้วก็ลุกขึ้นยืน หยิบกระเป๋าและซองเอกสารที่ใส่ภาพวาดการออกแบบไว้ แล้วตรงไปที่ลิฟต์
เพราะช่วงนี้ไปห้องประธานเป็นประจำ ฉะนั้น เล่อจยาเลยไม่ได้เคาะประตู
เธออยากเซอร์ไพรส์เกาไห่ ฉะนั้นจึงเปิดประตูอย่างเบามากๆ เพียงแต่ภาพที่ปรากฏอยู่ในสายตาทำให้เลือดของเล่อจยาไหลจากด้านล่างทะลักขึ้นด้านบน
ในภาพนั้น เกาไห่อุ้มผู้หญิงคนหนึ่งออกมาจากห้องนอนด้านใน แขนเรียวเล็กของหญิงสาวคนนั้นโอบรอบคอของเขา ทั้งสองคนไม่รู้ว่าพูดอะไรกัน ศีรษะของหญิงคนนั้นก็มุดอยู่ในอ้อมแขนของเกาไห่ แล้วหัวเราะคิกคักออกมา
เล่อจยาปล่อยมือจากที่จับประตู แล้วถอยออกมาเบาๆ บังเอิญว่าตนเองสะดุดล้มลงกับพื้น เธอเอาแต่บอกกับตนเองว่า บางทีอาจจะเพียงแค่เข้าใจผิด เพียงแค่เข้าใจผิดเท่านั้น……
แต่ผู้ชายที่เธอเรียกว่าสามีนี้อุ้มผู้หญิงอื่นอยู่ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไร เธอก็รับไม่ได้
เธอค้ำพยุงพื้นที่เย็นยะเยือก ค่อยลุกขึ้นมา ยืนอยู่ตรงประตูด้านนอกนั้น ชั่วขณะเธอก็อยากเข้าไปจู่โจมพวกเขา เธออยากเข้าไปถามเกาไห่ว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร? ออกมาจากห้องนอนเขาได้อย่างไร ทำไมเขาต้องอุ้มเธออย่างนั้นด้วย?
แต่ในท้ายที่สุด เธอก็ขี้ขลาด เธอได้แค่ก้มลงและยัดภาพวาดการออกแบบเข้าไปในห้องทำงานจากใต้ประตู
แล้วก็หันกลับวิ่งเข้าลิฟต์ไป
เธอไม่ได้กลับบ้าน เธอยืนอยู่บนถนนที่คนผ่านไปผ่านมา ทันใด ในสมองก็ว่างเปล่า
เธอไม่รู้ว่าตกลงจะทำอะไร? เธอคิดมาตลอดว่ากล้ารักก็กล้าเกลียดได้ แต่ว่า วันนี้เธอไม่กล้าถามเกาเหวินว่าผู้หญิงคนนั้นคือใคร?
มองเพียงด้านข้างก็สวยจนทำให้คนหยุดหายใจได้ รูปร่างหน้าตานั้น ถึงจะถูกเกาไห่โอบกอด ก็สามารถมองออกว่า เป็นสาวสวยที่มีเสน่ห์อย่างแน่นอน
แล้วเธอล่ะ มีความสำคัญอะไร?
เธอไม่รู้ว่า ทำไมเกาไห่ถึงมาแต่งงานกับตนเอง ในสมองของเธอว่างเปล่าเกี่ยวกับอดีตของคนทั้งสอง
เธอนั่งอยู่ที่ป้ายรถสาธารณะ พร้อมกับฝูงชนที่ขึ้นรถสาธารณะ แล้วก็ลงรถสาธารณะ ต่อจากนั้น ก็ขึ้นๆ ลงๆ …..
เห็นสิ่งปลูกสร้างที่ไม่คุ้นเคยตรงหน้า เล่อจยาจึงรู้สึกตกใจ ว่าตนเองมาถึงสถานที่หนึ่งที่ไม่รู้จักแล้ว
สิ่งปลูกสร้างนี้ล้วนเป็นศิลปะอย่างมาก แต่ละอาคารล้วนมีลักษณะพิเศษ ในความทรงจำของเธอ ไม่มีสถานที่แห่งนี้
“คุณผู้หญิง พักโรงแรมไหม? ” หญิงสูงอายุที่อยู่ข้างถนน กล่าวถามเธอด้วยอัธยาศัยที่ดี
เธอคลำๆ กระเป๋าที่ว่างเปล่าด้วยจิตสำนึก…..แล้วก็ส่ายหน้า
เธอไม่มีเงิน ไม่ใช่แค่ไม่มีเงินเวลานี้ แต่แรกเริ่มเดิมทีก็ไม่มีเงินอยู่แล้ว เรื่องนี้ พูดออกมา ใครก็ไม่เชื่อ ตั้งแต่วันนั้นที่ความทรงจำเธอกลับมา เธอก็รู้ตัวว่า เธอไม่มีเงิน นอกจากเหรียญในกระเป๋าที่นั่งรถสาธารณะได้ไม่กี่ครั้งแล้ว เธอก็ไม่มีเงินเลย
เพียงแต่ว่า เพราะรู้สึกว่ากินอยู่กับเกาไห่ทุกวัน ดังนั้น เธอจึงไม่เคยคิดถึงเรื่องความต้องการเงินนี้ ก็เลยไม่เคยพูดกับเกาไห่ แล้วก็ไม่เคยพูดกับซูหย่า
และคาดว่าพวกเขาก็ไม่เคยคิดถึงปัญหานี้ ก็เลยไม่มีใครเคยถามเธอ
ต่อมา เล่อจยาได้เรียนรู้Alipay วีแชตจากเพื่อนร่วมงาน เธอจึงศึกษาเป็นพิเศษ จึงได้พบว่า ในAlipayและวีแชตของเธอมีเงินเพียงไม่กี่หยวน
เธออายุเท่านี้แล้ว ด้วยเหตุผลแล้ว งานก็ทำมาหลายปีแล้ว เธอไม่เข้าใจ ว่าเพราะอะไรเธอถึงไม่มีเงิน
หยิบมือถือออกมา เปิดเครื่อง เธออยากโทรไปหาซูหย่า มองแบตเตอรี่มือถือแล้ว เหลือเพียงแค่1% เธอยังไม่ทันได้กดต่อสายไป มือถือก็ปิดไปเอง ชั่วพริบตา เธอก็ยิ่งรู้สึกว่า เรื่องราวคล้ายกับจะร้ายแรงเล็กน้อย
ที่นี่น่าจะเป็นชานเมือง อุณหภูมิในช่วงกลางคืนค่อนข้างต่ำ เธอสวมเสื้อยีน ด้านในสวมเสื้อTเชิ้ตสีขาวและกางเกงลำลอง ก่อนหน้าในสมองเต็มไปด้วยเรื่องของเกาไห่กับผู้หญิงคนนั้น เลยไม่ได้สังเกตว่าอากาศเย็นแค่ไหน เวลานี้พอมาสังเกตแล้ว ก็รู้สึกว่าความหนาวจู่โจมขึ้นมา
มองๆ บนถนน คนเดินเท้ามีน้อยมากแล้ว
เธอขมวดคิ้ว ครุ่นคิด ต่อไปควรจะทำอย่างไรดี?
อีกด้านหนึ่ง
“พี่ คุณอุ้มฉันขึ้นบนรถเข็นได้ไหม? ฉันจะไปอ่านหนังสือข้างๆ รอคุณทำงานเสร็จแล้ว ค่อยกลับไปด้วยกันกับคุณ” ไห่ยุ่นเก็บถ้วยชามบนโต๊ะเล็กน้อย มองเกาไห่แล้วกล่าว
เกาไห่พยักหน้า เดินเข้าไป อุ้มไห่ยุ่นนั่งบนรถเข็น แล้วก็นำหนังสือบนโต๊ะน้ำชาส่งให้เธอ
“พี่ ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะ รู้ว่าคุณยุ่ง ฉันก็ยังจะเข้ามารบกวนคุณอีก” ไห่ยุ่นพูดพลาง ก้มหน้าลง
“เด็กโง่ ยังจะมาพูดแบบนี้กับพี่ชายของคุณอีก คุณรอให้ฉันทำงานเสร็จก่อน ฉันจะพาคุณกลับบ้าน ได้ยินพ่อคุณบอกว่า คุณมาครั้งนี้ เพื่อฝึกงานใช่ไหม? ช่วงนี้คุณก็พักอยู่ที่บ้านของพี่ ทักษะการทำอาหารของพี่สะใภ้คุณน่าทึ่งมาก ถึงเวลา……”
“พี่สะใภ้? ” หนังสือในมือของไห่ยุ่นตกลงบนพื้น