เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - บทที่ 275 แยกกัน
“คุณไม่สมควรที่จะเรียกสองคำนี้” น้ำเสียงเย็นชาส่งออกมา
เล่อจยาหมุนถ้วยในมือ ชั่วขณะสีหน้าก็อึดอัดใจ “คุณพูดจาให้มันปกติได้ไหม”
เซียวอู๋ได้ยินก็เงยหน้ามองเล่อจยา “ปกติ คุณคิดว่าคนคนหนึ่งที่ถูกบังคับให้แต่งงาน จะถือว่าเป็นเรื่องปกติได้อย่างไร? ‘
“เธอมีศักดิ์ศรีขนาดนั้น เธอก็ไม่กลัวจะเอาพิมเสนมาแลกกับเกลืออย่างฉันเหรอ? ”
แววตาที่โหดเหี้ยมของเขาเล่อจยาอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น เซียวอู๋ทำอย่างนี้เธอไม่คุ้นเคยอย่างมาก
“เสี่ยวอู๋ ซูหย่าเธอกำลังตั้งท้องลูกของคุณ คุณไม่เห็นแก่เด็ก……”
“ไม่เห็น” เซียวอู๋ไม่รอให้เธอพูดจบ พูดตัดบทเธอเลย
เล่อจยาสูดลมหายใจ “อันที่จริงคุณยังไม่เคยรู้จักเธออย่างถ่องแท้เลย คุณก็ตัดสินชี้ขาดว่าไม่ชอบเธอแล้วเหรอ? ”
“เช่นนั้นคุณก็ไม่ได้รู้จักฉันอย่างถ่องแท้เหมือนกัน แล้วคุณจะตัดสินได้อย่างไรว่าคุณไม่ได้รักฉัน? ” เซียวอู๋พูดจบก็ยื่นมือออกมาจับมือของเล่อจยาไว้ “จยาจยา ฉันมีวันนี้ ทั้งหมดนี้ก็เพราะคุณ เพราะคุณบอกว่าชอบทหาร ฉันเลยเดินเส้นทางนี้ แต่คุณล่ะ? ”
เล่อจยาอยากจะดึงมือตัวเองกลับ แต่เซียวอู๋ไม่ยอมปล่อย
“คุณไม่ได้อยากให้ฉันลงมือใช่ไหม? ” สีหน้าเธอเคร่งขรึมลง
“ตอนนี้คุณอาจจะไม่สามารถเอาชนะฉันได้” ชายคนนั้นยกยิ้มขึ้น
เล่อจยากัดริมฝีปากล่าง ผ่านไปสักพัก เธอก็มองชายตรงหน้า “คุณบอกว่าคุณชอบฉัน? เซียวอู๋ ท้ายที่สุดแล้วคุณโกหกฉันหรือโกหกตัวเองกันแน่? ” หลายปีมานี้ถ้าคุณชอบฉันจริงๆ ตั้งแต่จบมัธยมปลายมาจนถึงปัจจุบัน ก็สิบปีแล้ว แต่คุณไม่เคยตามหาฉันเลย คุณอย่าบอกนะว่าหาไม่เจอ ด้วยอำนาจและอิทธิพลของครอบครัวพวกคุณแล้ว คิดอยากจะหาใครสักคนนั้นมันเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่คุณก็ไม่ตามหา มันพิสูจน์ว่าอะไร? พิสูจน์ว่าคุณก็แค่หาข้ออ้างให้ไปในที่ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เท่านั้น”
เธอพูดจบ เธอก็สังเกตเห็นสีหน้าของเซียวอู๋เปลี่ยนไปเล็กน้อย ในใจก็ใจ ดูเหมือนว่าเธอจะเดาถูก
อันที่จริง ตั้งแต่หลังจากเซียวอู๋บอกว่าชอบเธอ เธอก็คิดว่ามันไร้สาระมาตลอด รักคนคนหนึ่งมาสิบปี ก็ไม่ได้เกินจริงหรอก แต่ว่าสิบปีนี้ไม่เคยถามไถ่เลย แล้วจะมาบอกว่าตนเองชอบมาเป็นสิบปีแล้ว ก็ไม่สมเหตุสมผล
“อีกอย่าง คุณอาจจะไม่รู้ ที่ฉันแต่งงานกับเกาไห่ ก็เพียงแต่เป็นเรื่องของช่วงเวลานี้ ถ้าคุณมีใจให้ฉันจริงๆ คุณจะไม่ปล่อยให้ผู้หญิงที่ชอบเดียวดายมาสิบปีหรอก ฉะนั้น เซียวอู๋ คุณอย่าโกหกตัวเอง อย่าใช้ฉันเป็นข้ออ้างอีกต่อไปเลย ซูหย่าอาจจะไม่สมบูรณ์แบบ แต่หงส์เข้าฝูงหงส์ ถ้าคุณยอมรับฉันได้ เธอคือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน แน่นอนว่าจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง ยิ่งไปกว่านั้น เธอเก่งกว่าฉันในทุกๆ ด้าน” พูดถึงตรงนี้ เล่อจยาก็จิบกาแฟหนึ่งอึก
“ฉันขอร้องคุณล่ะ ให้โอกาสเธอสักครั้ง ถ้าเธอต้องเสียใจเพราะคุณ เซียวอู๋ ฉันจะเกลียดคุณ”
“เอาล่ะ คุณคิดเอาเองแล้วกัน ฉันไปก่อน” ครั้งนี้ เล่อจยาดึงแขนกลับมาได้อย่างสบาย
เธอไม่รอให้เซียวอู๋ตอบกลับ แล้วก็ไม่อยากรอด้วย
ออกจากร้านกาแฟไป เธอก็หยิบมือถือออกมาโทร “เป็นอย่างไรบ้างนะเหรอ? ฉันเดาไม่ผิด ซูหย่า เขาไม่ได้รักฉัน รักคนคนหนึ่ง ไม่สามารถทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้มาเป็นสิบปีได้ เหมือนฉันกับเกาไห่ แต่ไหนแต่ไรฉันไม่เคยดูข่าวการเงิน ไม่เคยชอบซุบซิบนินทา แต่ว่าไม่เคยปล่อยให้เขาหายไปเลย ในสองสามปีนั้นที่เขาหายไป ฉันใช้ชีวิตอย่างเจ็บปวดทรมานมาก คุณก็เห็น แต่เซียวอู๋บอกว่าเขารักฉันมาสิบปี หลายปีมานี้คุณก็เห็นแล้ว ว่าเขาเคยตามหาฉันไหม? ถ้าไม่ใช่เกาไห่ ฉันคงแต่งงานกับชายอ้วนคนนั้นไปแล้ว นี่คือความรักเหรอ? เขาไร้สาระ”
สายทางด้านนั้น เงียบตลอด
“ซูหย่า คุณฟังฉันอยู่ไหม? ”
“ฮัลโหล……”
“ขอบคุณนะ จยาจยา” ซูหย่าพูดออกมา เล่อจยาก็ฟังออก เธอร้องไห้
นิสัยที่ไม่สนใจไยดีของซูหย่า ยังสามารถทำให้เธออารมณ์แปรปรวนได้ขนาดนี้ จริงก็เพราะเซียวอู๋ “เอาล่ะ อย่าร้องไห้เลย หมอไม่ได้บอกเหรอ ว่าสามเดือนแรก อารมณ์เป็นสิ่งสำคัญมาก”
“ตื๊ดๆ …..” มีอีกสายหนึ่งโทรเข้ามา
เล่อจยาดู คือคุณอารอง
“เสี่ยวหย่า ฉันต้องวางสายก่อน คุณดูแลตัวเองให้ดีๆนะ เดี๋ยวเราค่อยติดต่อกันอีกที”
“ฮัลโหล คุณอารอง”
“จยาจยา พรุ่งนี้ คุณและเสี่ยวไห่ เข้ามาเช้าๆ หน่อยนะ เดี๋ยวจะให้เสี่ยวอวี๋ส่งที่อยู่ไปให้คุณ”
เล่อจยานิ่งอึ้งไปเล็กน้อย ใช่แล้ว พรุ่งนี้เล่อเสี่ยวอวี๋แต่งงาน เธอลืมไปเลย “อื้ม โอเคค่ะ คุณอารอง”
มือถือเพิ่งจะวางสาย ข้อความก็ส่งเข้ามา เล่อจยากดเปิดดู เป็นแถวบ้านของเซียวอู๋ เป็นสถานที่ที่ไปเป็นเพื่อนซูหย่านัดดูตัวครั้งที่แล้ว
ค่าใช้จ่ายของโรงแรมนั้นนับว่าไม่ถูกเลย มิน่าล่ะวันนั้นอาสะใภ้รองถึงได้อวดดีแบบนั้น ดูท่า อีกฝ่ายจะชาติตระกูลไม่เลวจริงๆ
โทรศัพท์ไปหาเกาไห่ พอรับสาย เธอก็เอ่ยปากถามโดยตรงเลยว่า: “คุณยังทำงานอยู่หรือเปล่า? ”
“สวัสดีค่ะ ประธานเกากำลังประชุมอยู่ อีกสักครู่รบกวนคุณโทรมาใหม่นะคะ” เสียงพูดนั้นเป็นเสียงผู้หญิง เล่อจยานิ่งอึ้งไป แล้วจึงพยักหน้า “โอเคค่ะ”
พอวางสาย เล่อจยาก็เดินทางไปยังบริษัทของเกาไห่ ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เดินทางประมาณสี่สิบกว่านาที
เมื่อมาถึงชั้นล่างของบริษัท เล่อจยาหาเก้าอี้ข้างๆ ทางเพื่อนั่งลง
แต่รอจนคนเดินไปเดินมาน้อยลงแล้ว ก็ยังไม่เห็นเกาไห่ออกมา คิดๆแล้ว เธอก็โทรศัพท์ไปหาเขา
พอสัญญาณโทรศัพท์ดังก็ถูกกดรับ
“ฮัลโหล….” เสียงของเกาไห่
“สามี คุณยังประชุมไม่เสร็จเหรอ? ”
เกาไห่ขมวดคิ้ว กดปลดล็อกลายนิ้วมือ “ฉันอยู่บ้านแล้ว…..” เปิดประตู เห็นว่าไม่มีรองเท้าแตะคู่นั้น “คุณไม่อยู่บ้านเหรอ? ”
เล่อจยาน้อยใจเล็กน้อย “ฉันมารอคุณอยู่ที่หน้าทางเข้าบริษัทคุณ ทำไมถึงไม่เห็นคุณออกมาล่ะ? ”
เกาไห่นิ่งอึ้งไปเล็กน้อย “คุณรอฉันอยู่ที่นั่นนะ ฉันจะไปรับคุณ” พูดพลาง ปิดประตู
“คุณได้ใช่กำลังประชุมอยู่เหรอ? ทำไมไม่เห็นคุณออกมาเลยล่ะ? ”
เกาเดินเข้าไป โอบกอดเธอ “ฉันขับรถออกมาจากที่จอดรถโดยตรง อาจจะไม่ได้สังเกตเห็นคุณ”
“แล้วผู้หญิงที่รับสายคนนั้น เป็นใคร? ” เล่อจยาจ้องมองใบหน้าเกาไห่ ไม่ทิ้งร่องรอยการแสดงออกแม้แต่น้อย
“เลขาฯ ”
“จริงเหรอ? ”
เกาไห่หันหน้าไปมอง ยิ้มมุมปาก หยิกที่บนแก้มของเล่อจยาเล็กน้อย “อย่าคิดมากสิ”
เปิดประตูรถให้เธอ “ทำไมวันนี้ถึงอยากมารอฉันที่บริษัทล่ะ? ” ขณะที่พูดจบ เกาไห่ก็เดินอ้อมรถไปยังอีกด้านหนึ่ง แล้วก็เข้ามานั่งในที่นั่งคนขับ
“พรุ่งนี้ ลูกสาวคุณอารองแต่งงาน ต้องการให้พวกเราไปเข้าร่วมงานแต่ง ก่อนหน้านี้ฉันเคยบอกคุณไปแล้ว”
คิดๆแล้ว ก็รีบกล่าวเพิ่มเติมว่า “ถ้าคุณไม่อยากไป ก็ไม่เป็นไร”
เกาไห่ขมวดคิ้ว “อย่ากังวลไปเลย ธาตุแท้ของพวกเขา ฉันเคยเห็นมาแล้ว ญาติพี่น้องของคุณ ฉันไม่หลบหนีหรอก”
วันต่อมา เมื่อเกาไห่ตื่นขึ้นมา ก็ไม่เห็นเงาของเล่อจยาแล้ว ออกมาจากในห้องก็ไม่เจอ
“คุณผู้ชาย คุณเล่อบอกว่า อีกสักครู่จะกลับมา ให้คุณทานอาหารเช้าก่อน”
เกาไห่โทรไปหาเล่อจยา “ไปไหน? ”