เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god) 混沌剑神 - ตอนที่ 50 แกนอสูรระดับ 1 เกือบร้อยอัน
Chaotic Sword God ตอนที่ 50 แกนอสูรระดับ 1 เกือบร้อยอัน
แกนอสูรถูกนับอย่างรวดเร็ว อาจารย์ผู้ตรวจสอบกล่าวว่า มีแกนอสูรทั้งหมด 98 อัน นี่คือเข็มขัดมิติของเจ้า โปรดส่งคืนเข็มขัดมิติของสำนักในตอนนี้ ผู้อาวุโสส่งมอบเข็มขัดสีเขียวมรกตไปให้เจี้ยนเฉิน นี่เป็นเข็มขัดมิติที่บิดาของเจี้ยนเฉิน เจียงหยางป้า ได้ให้เขาเป็นของขวัญก่อนที่จะจากตระกูลเจียงหยางมา
เจี้ยนเฉินเหลือบมองไปยังเข็มขัดของทางสำนักเล็กน้อย และกล่าวออกมาด้วยท่าทีลังเลบางอย่าง ท่านอาจารย์ ได้โปรดให้ข้าเก็บเข็มขัดมิติของข้าไว้ก่อน หลังจากการตรวจสอบจบลง ข้าจะส่งคืนเข็มขัดมิติของทางสำนักให้กับท่าน
ได้ยินเช่นนี้แล้ว คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันและถามด้วยท่าทีสับสน อะไร ? บางทีมันอาจจะเป็นเพราะ เจี้ยนเฉินได้รับแกนอสูรเกือบ 100 อัน แต่ทัศนคติของผู้อาวุโสที่มีต่อเจี้ยนเฉินนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด
ท่านอาจารย์ ข้ายังมีแกนอสูระดับ 2 ในเข็มขัดมิติของข้า ดังนั้นดังนั้นข้าต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการตรวจสอบแกนอสูรในภายหลัง เจี้ยนเฉินกล่าวออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ ตอนนี้เป็นเพียงการตรวจสอบแกนอสูรระดับ 1 เท่านั้น ซึ่งการตรวจสอบแกนอสูรระดับ 2 จะไม่เริ่มต้น การตรวจสอบอย่างแรกจะเสร็จสิ้นลงไป
หืม เช่นนั้นแล้ว? เจ้ายังคงมีแกนอสูรระดับ 2 หรือ ? ได้ยินอย่างนี้แล้ว ก็ปรากฏความไม่เชื่อเด่นชัดบนใบหน้าของเขา และเขามองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความสงสัย มันไม่ได้แต่เพียงเพียงกับอาจารย์ท่านนี้ แต่อาจารย์ท่านอื่น ๆ ที่นั่งอยู่บนแท่นเวที กลับมองไปยังเจี้ยนเฉินด้วยแววตาเช่นเดียวกัน
เจี้ยนเฉินพยักหน้า ใช่ขอรับ ท่านอาจารย์!
ได้ยินอย่างนี้แล้ว อาจารย์สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ สายตาของเขาที่มีต่อเจี้ยนเฉินมีความจริงจังมากขึ้น ตอนนี้เขาเพียงแค่ตระหนักถึงข่าวลือรอบ ๆ บริเวณสำนักเกี่ยวกับเจียงหยางเซียงเทียนดูจะไม่เกินจริงเลยสักนิด แต่เขาไม่ได้ให้ความสนใจในเรื่องเช่นนี้ และโบกมือ เอาล่ะ จัดเก็บแกนอสูรเหล่านี้ เจ้ายังคงสามารถที่จะเข้าร่วมการตรวจสอบรอบสองได้
หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็ได้เก็บแกนอสูรเข้ามาในเข็มขัดมิติของเขาและเดินออกจากแท่นนั้น แต่ตอนนี้ทั้งอาจารย์บนแท่นเวทีและลูกศิษย์ที่อยู่รอบตัวเขาต่างมองเจี้ยนเฉินด้วยท่าทางที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง อาศัยการมองตาของพวกเขา จะเห็นถึงความซับซ้อนผสมกับความอิจฉาริษยาและแม้กระทั่งความรังเกียจ
หลังจากที่เดินออกจากแท่นเวที เจี้ยนเฉินไม่ได้ไปสมทบกับฝูงชน แต่เขาเดินขึ้นไปยังกลุ่มคนที่รอคอยการตรวจสอบแกนอสูรระดับ 2 และเข้าแถวรออยู่ตรงนั้น ลูกศิษย์ทุกคนที่รอตรวจสอบ ต่างก็เป็นระดับเซียนทั้งสิ้น และนอกเหนือจากกลุ่มเจียงหยางหู่ ทุกคนมองไปที่เจี้ยนเฉินอย่างตกตะลึงและสงสัย ในขณะที่เจี้ยนเฉินเดินขึ้นไปยังพวกเขา พวกเขาไม่เคยได้พบกับเจี้ยนเฉินในเขตแดนชั้น 3 และมันก็เห็นได้ชัดว่า พวกเขาพบว่ามันผิดปกติมากสำหรับคนที่ยังไม่ได้อยู่ในระดับเซียนซึ่งจะสามารถมีแกนอสูรระดับ 2 ได้ จริง ๆ พบว่ามันเป็นสิ่งที่ยากจะเชื่อว่าเจี้ยนเฉินได้เข้ามายังเขตแดนชั้น 3 และสังหารสัตว์อสูรระดับ 2 ได้ ไม่เพียงเท่านั้น เขากลับได้รับมันอย่างน้อยถึง 2 อัน
จากนั้นก็เป็นคราวของเถี่ยต้า หลังจากเจี้ยนเฉินเดินออก เถี่ยต้าก็เดินมายังด้านหน้าของอาจารย์ผู้ตรวจสอบ
ในตอนนี้ การที่เถี่ยต้านั้นเป็นศิษย์ส่วนตัวของอาจารย์ใหญ่นั้นไม่ใช่ความลับอีกต่อไป อาจารย์ทุกคนจำเขาได้ เมื่อเถี่ยต้าเดินขึ้นไป ช่วยไม่ได้ที่อาจารย์ท่านนั้นจะยิ้มขณะออกมา ในขณะที่เขากล่าวว่า เถี่ยต้า ข้าสงสัยว่าผลลัพธ์ของเจ้าจะเป็นเช่นไร
เถี่ยต้าหัวเราะแต่ไม่ได้กล่าวตอบอะไร เช่นเดียวกับเจี้ยนเฉิน เขาเอื้อมมือเข้าไปยังเข็มขัดมิติโดยตรงและดึงแกนอสูรออกมาหนึ่งกำมือ ก่อนที่จะวางเบา ๆ ลงบนโต๊ะ กำมือหนึ่งของเถี่ยต้ามีขนาดใหญ่กว่าเจี้ยนเฉินเล็กน้อย ดังนั้นทุกครั้งที่หยิบออกมามันจึงได้ออกมาราว 14-15 ชิ้น
เห็นแกนอสูร 14-15 ชิ้น บนโต๊ะ อาจารย์ตรวจสอบเริ่มที่จะยิ้มในใจ ขณะที่เขาคิดกับตัวเอง เป็นเช่นที่คาดคิดไว้ บุคคลที่ถูกจับจองโดยอาจารย์ใหญ่ แม้ว่าเขาจะมีหัวใจและร่างกายของพยัคฆ์ และดูเหมือนจะขาดความอดทน แต่ความสามารถของเขานั้นอดที่จะชมเชยมันออกมาไม่ได้
หลังจากนำแกนอสูรออกมา 14-15 ชิ้น การเคลื่อนไหวของเถี่ยต้านั้นก็ไม่ได้หยุดลง เขาเอื้อมมือเข้าไปในเข็มขัดมิติของเขาอีกครั้ง เพื่อที่จะดึงแกนอสูรออกมาอีกหนึ่งกำมือ ลูกศิษย์และอาจารย์ทุกคน จ้องมองมาที่โต๊ะ จำนวนแกนอสูรค่อย ๆ เพิ่มขึ้นมากขึ้นและมากขึ้นจนมีหลายโหล
เพียงไม่นาน หลังจากนั้น ในที่สุดเถี่ยต้าก็หยุดมือ เห็นแกนอสูรกองอยู่เกือบ 100 อัน เมื่อเห็นแกนอสูรทั้งหมดที่เขาได้รับ เถี่ยต้าหัวเราะอย่างตรงไปตรงมาและมีความสุข กล่าวว่า อาจารย์ เหล่านี้เป็นแกนอสูรที่ข้าได้รับ
ในขณะที่อาจารย์และลูกศิษย์ทุกคนในบริเวณใกล้เคียงถึงกับตกตะลึง พวกเขาทุกคนเหลือบมองไปยังแกนอสูรเกือบ 100 ชิ้น ด้วยสายตาที่ไม่อยากเชื่อ
อาจารย์ผู้ตรวจสอบถอนหายใจยาวออกมา และจ้องไปที่เถี่ยต้าด้วยสายตาจริงจัง กล่าวออกมาอย่างช้า ๆ ว่า เยี่ยม เยี่ยม เถี่ยต้า เจ้าทำได้ดีมากและไม่ได้ทำให้อาจารย์ของเจ้าเสียชื่อเลยสักนิด หลังจากพูดเช่นนี้ อาจารย์เริ่มก้มหน้านับแกนอสูร เขาไม่ได้สอบถามวิธีการที่เถี่ยต้าได้รับแกนอสูรเหล่านั้น ในหัวใจของเขาเขามีการเชื่อมโยงเข้าด้วยกันกับการเก็บรวบรวมแกนอสูรของเจี้ยนเฉิน
อาจารย์ได้นับแกนอสูรเสร็จสิ้นแล้วและกล่าวออกมา มีแกนอสูรที่นี่ทั้งหมด 97 อัน คำพูดนี้ที่อาจารย์บันทึกลงไปในสมุดจด
หลังจากที่เขาจดบันทึกเสร็จสิ้น อาจารย์หยิบเอาเข็มขัดสีดำที่ประดับไปด้วยอัญมณีไม่กี่ชิ้นและส่งมันไปพร้อมกับเข็มกลัดเกียรติยศ และกล่าวว่า เถี่ยต้า นี่เป็นเข็มขัดของเจ้าที่อยู่ในการดูแลของเรา เช่นเดียวกับเข็มกลัดเกียรติยศที่เจ้าได้รับ เก็บแกนอสูรของเจ้าและส่งคืนเข็มขัดของสำนัก
มันเห็นได้ชัดจากการจ้องมองว่าเข็มขัดมิติระดับสูงของเถี่ยต้านั้นได้รับมาจากอาจารย์ใหญ่ หลังจากได้กลายเป็นศิษย์ส่วนตัว มิฉะนั้นเด็กที่เกิดมาในครอบครัวที่ธรรมดาสามัญเช่นเขาจะมีปัญญาซื้อสินค้ามีคุณภาพสูงเช่นเข็มขัดมิตินี้ได้หรือ แม้ว่าเข็มขัดนี้จะมีลักษณะที่ไม่ธรรมดา ในทวีปเทียนหยวน มันไม่ใช่สิ่งของที่บุคคลธรรมดาจะมีไว้ในครอบครองได้
เถี่ยต้าจ้องมองไปยังเข็มขัดมิติสีดำครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะส่ายหัวและกล่าวว่า ท่านอาจารย์ ข้าอยากจะให้เข็มขัดมิตินี้อยู่ภายใต้การดูแลของท่าน ข้ายังคงมีแกนอสูรระดับ 2 อีก
อะไรนะ! เจ้ายังมีแกนอสูรระดับ 2 อีกงั้นหรือ? ได้ยินอย่างนี้แล้ว อาจารย์ผู้ตรวจสอบมองไปที่เขาอย่างตกใจมาก ซึ่งท่าทีไม่อาจเชื่อก็ปรากฏอยู่ในนั้นด้วย
ได้ยินคำพูดของเถี่ยต้า อาจารย์คนอื่น ๆ ที่ยังคงนั่งอยู่บนแท่นเวทีสบตากันด้วยสายตาที่ไม่อาจเชื่อ พวกเขาไม่เคยคิดว่านอกจากเจี้ยนเฉินแล้ว จะมีลูกศิษย์คนอื่น ๆ ไม่ได้อยู่ที่ในระดับเซียนได้รับแกนอสูรระดับ 2 ด้วย
อาจารย์ผู้ตรวจสอบลังเลเล็กน้อย ก่อนจะตอบ เถี่ยต้า เจ้าเข้าไปยังเขตแดนชั้น 3 ? แม้ว่าคำถามของอาจารย์จะอยู่เหนือขอบเขตความรับผิดชอบของเขา แต่เขาไม่อดถามออกมาด้วยความสงสัยไม่ได้ แม้เขาจะเดาได้อยู่แล้วถึงคำตอบนั้น แต่แน่นอนว่าเขาจะไม่กล้าที่จะเชื่อ เว้นแต่ว่าเถี่ยต้าจะยืนยันมันออกมา
เถี่ยต้าพยักหน้าและพูดด้วยเสียงอู้อี้ ใช่ ข้าไปเข้าไปยังเขตแดนชั้น 3.
อาจารย์ผู้ตรวจสอบยังคงถามอย่างต่อเนื่องว่า เจ้าได้รับแกนอสูรระดับ 2 จากการสังหารสัตว์อสูรงั้นหรือ? แม้จะมีความจริง สิ่งที่เขาถามจะเกินขอบเขตของเขา แต่ไม่มีใครพยายามที่จะหยุดเขาเพราะมันไม่ได้เป็นเพียงอาจารย์ผู้ตรวจสอบเท่านั้นที่อยากรู้คำตอบ แม้แต่อาจารย์ทุกคนบนเวทียังรู้สึกแบบเดียวกันและพวกเขาต้องการการยืนยันให้ชัดเจน
ส่วนหนึ่งของมันได้มาจากการที่เจียงหยางเซียงเทียนและข้าได้ฆ่าสัตว์อสูรเหล่านั้น เถี่ยต้าไม่ได้มีความตั้งใจที่จะปกปิดแต่อย่างใด แต่เขากล่าวเพียงครึ่งเดียวของเรื่อง
ได้ยินเช่นนี้แล้ว อาจารย์ผู้ตรวจสอบถามออกมาด้วยความตกตะลึงและไม่อาจเชื่อ อะไรนะ ! เจ้ากำลังบอกว่า เจ้าและเจียงหยางเซียงเทียนได้สังหารสัตว์อสูรระดับ 2 งั้นหรือ?
เถี่ยต้าพยักหน้าและตอบว่า ใช่
คำตอบนี้ทำให้อาจารย์ทุกคนบนเวทีต้องตกตะลึง พวกเขาหลายคนไม่สามารถเชื่อว่าสิ่งที่พวกเขาได้ยินนั้นจะเป็นเรื่องจริง สำหรับลูกศิษย์สองคนที่ยังไม่เป็นเซียนแต่กลับสามารถสังหารสัตว์อสูรระดับ 2 ได้ เรื่องนี้มันเป็นประวัติศาสตร์ของสำนักคากัตเลยด้วยซ้ำ
หลังจากนั้นเถี่ยต้าเก็บแกนอสูรของเขาและเดินออกจากเวที เขาเข้าร่วมกลุ่มกับคนที่รอการตรวจสอบแกนอสูรระดับ 2 และยืนอยู่ข้างหลังเจี้ยนเฉิน แต่ ณ จุดนี้ เถี่ยต้าและเจี้ยนเฉินได้กลายเป็นศูนย์รวมความสนใจของทุกคน และคนที่ล้มเหลวในภารกิจซึ่งกำลังยืนอยู่เบื้องล่าง พวกเขามองไปที่ทั้งสองคนด้วยสายตาริษยาเป็นอย่างมาก มีคนอีกจำนวนมากที่หนีไปทั่วอย่างน่าสงสารและพยายามที่จะเสาะหาแกนอสูรระดับ 1 อย่างยากลำบาก และพวกเขาก็ไม่เคยคิดว่าเจี้ยนเฉินและเถี่ยต้าจะอยู่ในระดับสูงที่ซึ่งเขาไม่สามารถจัดการได้ ไม่เพียงแต่ได้รับแกนอสูรระดับ 1 นับร้อยในเขตแดนชั้น 2 แต่ยังได้รับแกนอสูรระดับ 2 อีก นี่เองที่ทำให้พวกเขารู้สึกงุนงงเป็นอย่างมาก และคนที่อยู่ในระดับสูงกว่าพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกละอายใจ
หลังจากนั้นไม่นานชั้น การตรวจสอบแกนอสูรระดับ 1 ก็จบลง คนที่มีจำนวนมากที่สุดของแกนอสูรนั้นคือ เจี้ยนเฉินที่มีทั้งหมด 98 แกนอสูร ในขณะที่เถี่ยต้าอยู่ในลำดับ 2 ซึ่งห่างเพียงแค่ชิ้นเดียว ทั้งสองคนได้รับแกนอสูรมากมาย ซึ่งมากกว่ามู่เทียนซึ่งเป็นที่ 3 เป็นเท่าตัว
ท่ามกลางฝูงชน ตาของมู่เทียนเป็นประกายด้วยความประหลาดใจ ขณะมองไปยังเจี้ยนเฉินและเถี่ยต้า และเขาก็บ่นพึมพำกับตัวเองว่า เถี่ยต้า เจียงหยางเซียงเทียน ชื่อเสียงของเจ้านั้นเป็นสิ่งที่พวกเจ้าทั้งสองควรได้รับจริง ๆ เจ้าทั้งสองคนถึงกับสามารถโค่นล้มเซียนลงได้ มันคงดี หากข้าจะมีโอกาสที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับเจ้าทั้งคู่
แม้ว่าเจี้ยนเฉินและเถี่ยต้าจะขโมยความเป็นจุดสนใจไปจากเขา แต่มู่เทียนไม่ได้ความไม่พอใจออกมาแต่อย่างใด เขายังคงมีท่าทีไม่แตกต่าง ราวกับเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่มีนัยสำคัญกับเขาแต่อย่างใด
ในขณะที่เจียงหยางหู่เดินไปหาเจี้ยนเฉินด้วยสีหน้ามีความสุขและพูดด้วยเสียงเบา น้องสี่ พวกเจ้าสองคนไม่ธรรมดาจริง ๆ ภายใน 3 วัน พวกเจ้านั้นกลับได้รับแกนอสูรมาเกือบคนละ 100 อัน น้ำเสียงของเจียงหยางหู่ไม่สามารถที่จะปกปิดความสุขได้มิด ขณะที่เขาจ้องมองเจี้ยนเฉินด้วยความภาคภูมิใจ
เจี้ยนเฉินยิ้ม ไร้ซึ่งคำพูดใด ๆ ทันใดนั้นสายตาของเขาก็เปลี่ยนไปในขณะที่เขารู้สึกถึงบางอย่าง เขามองอยู่ข้างหลังของเขา ที่จะเห็นเด็กหนุ่มที่สวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งกำลังจ้องมองเขาท่าทีเกลียดชัง เด็กหนุ่มคนนั้นจ้องกลับมีสายตาที่แสดงเจตนาฆ่าอย่างชัดเจน และช่วยไม่ได้ที่เจี้ยนเฉินจะขมวดคิ้วของเขา
อย่างไรก็ตาม เมื่อเจี้ยนเฉินตรวจสอบรูปร่างหน้าตาของเด็กหนุ่มคนนั้นแล้วเขาก็ใม่ได้สนใจ คนผู้นั้นคือลั่วเจี้ยนที่แกนอสูรของเขาถูกปล้นทั้งหมดโดยเจี้ยนเฉิน แกนอสูรที่ถูกขโมยไปอย่างไร้ความปราณีและเขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก แม้ว่ามันจะไม่ส่งผลกระทบอย่างมากในการเคลื่อนไหวของเขา เนื่องจากเขาและกลุ่มเพื่อนฝูงของเขาสูญเสียจิตวิญญาณการต่อสู้ไปหมด พวกเขาไม่สามารถรวบรวมพลังเพื่อขโมยแกนอสูรของผู้อื่นหรือล่าสัตว์อสูรได้หลังจากนั้น ดังนั้นลั่วเจี้ยนจึงจบภารกิจลงด้วยความล้มเหลว
เจี้ยนเฉินยิ้มออกมา เขาแสดงให้เห็นถึงท่าทีดูถูก เจี้ยนเฉินไม่ได้ให้ความสนใจใด ๆ ไปที่ลั่วเจี้ยน เจี้ยนเฉินพบคนเป็นจำนวนมากจากการเดินทางในชีวิตก่อนของเขา แต่อย่างไรก็ตาม มีจำนวนน้อยมากที่จะสามารถกระตุ้นอารมณ์ของเขาได้
รอบที่สองของการตรวจสอบแกนอสูรกำลังจะเริ่มในไม่ช้า ลูกศิษย์ที่มาถึงระดับเซียน จากนั้นก็เดินไปยังแท่นเวทีด้วยท่าทีได้รับชัยชนะ แต่ยกเว้นเพียงแต่เจี้ยนเฉินและเถี่ยต้าที่ยังก้าวมาไม่ถึงระดับเซียนเหมือนกับทุกคน
อาจารย์ที่ทำการประเมินแกนอสูรระดับสอง ยังเป็นอาจารย์คนเดียวกันและการตรวจสอบนั้นก็รุดหน้าอย่างรวดเร็ว เพราะทุกการขโมยที่เกิดขึ้นในเขตแดนที่ 3 แกนอสูรของลูกศิษย์นับร้อยกลับรวบรวมที่อยู่ที่คน ๆ เดียว ดังนั้นทั้งหมดของพวกเขามีมากกว่า 2 อันขึ้นไป และอีกหลายคนที่มีมากกว่า 10 อัน หรือมีแม้กระทั่งคนที่ได้รับแกนอสูรถึง 23 อัน