เทพบุตร ทวงแค้น / เทพศึกมังกรหวนคืน - บทที่ 105 บริษัท กึ่งซานหยวน จำกัด
เสี่ยวเสี่ยวเพิ่งจะ26ปี ครั้งก่อน ก็เป็นเพราะว่าที่บ้านบีบบังคับ เธอไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆ ถึงได้ทำเรื่องแบบนี้ได้
เฉินจื่อซวนถือไม้เท้า ค่อยๆเดินออกมาจากด้านในทีละก้าว
เสี่ยวเสี่ยวเห็นแล้ว ก็รีบเข้าไปประคองทันที แถมยังพูดตำหนิหน่อยๆว่า : หมอให้คุณพักผ่อนให้ดีๆนะ
โอเคๆๆ
เฉินจื่อซวนพยักหน้าแล้ว
ฉินเฟิงมองไปที่สองคนแวบหนึ่ง เขาก็ไม่ใช่คนโง่อะไร ก็พอจะมองอะไรออกบ้างแล้ว แต่ว่าเขาก็ไม่ได้คิดอยากจะเข้าไปร่วมด้วย นี่เป็นเรื่องของพวกเขาเอง
แต่ว่า เมื่อเปรียบเทียบกับซูเยว่คนนั้นแล้ว
เขายังคงค่อนข้างที่จะสนับสนุนเสี่ยวเสี่ยวนะ
บางเวลา คนเราก็ ไม่อาจทำตามใจตนเองได้จริงๆ คนสองคนคบหาดูใจกัน ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีนะ
คนนี้คือใคร?
เฉินจื่อซวนถามไปยังผู้ชายคนนั้นที่อยู่ด้านหลังของฉินเฟิง ดังนั้น เขาก็สังเกตเห็นเขาแล้ว
เรียกฉันว่าต้าตาวก็พอแล้ว
ต้าตาวริเริ่มที่จะตอบกลับมาแล้ว : พี่ใหญ่ให้ผมมาช่วยคุณดูสถานที่
คุณน่าจะอายุมากกว่าผมหน่อยนะ งั้นผมเรียกว่าพี่ต้าตาวแล้วกัน
เฉินจื่อซวนก็ไม่ใช่คนโง่ ในทางกลับกัน เขาฉลาดมาก ไม่งั้นไม่มีทางที่จะเข้ามาทำงานในแวดวงนี้ได้ ดำเนินธุรกิจผับบาร์ได้นานขนาดนี้หรอก
พูดออกมาสามสี่ประโยค ก็ได้มีความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกับคนเหล่านี้ของต้าตาวแล้ว
อันที่จริง ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาเจอซูเยว่ ไม่แน่ ก็อาจจะมีอนาคตที่ก้าวไกล
ไปกันเถอะ สองวันนี้ ตกแต่งแบบพอประมาณสักหน่อย
เฉินจื่อซวนพาพวกฉินเฟิงเข้าไปแล้ว หลังจากที่เข้าไปแล้ว พบว่าสภาพแวดล้อมไม่เหมือนกับเมื่อก่อนเท่าไหร่ ขนาดที่ว่าค่อนข้างเป็นสไตล์ศิลปะกับวรรณกรรมเลย
ดูแล้วรู้สึกสบายอย่างมาก มีอารมณ์ในวรรณกรรม
เมื่อก่อน ซูเยว่เป็นคนทำ ฉันไม่ชอบมาโดยตลอด ครั้งนี้ก็พอดีเลยเปลี่ยนเป็นสไตล์แบบนี้ เป็นผับที่ดูมีระดับขึ้นมาหน่อย เส้นทางการพัฒนาในอนาคต ฉันก็คิดไว้เรียบร้อยแล้ว……
ถึงอย่างไรสมองที่ชาญฉลาด สองวันนี้ เขาได้วางแผนตำแหน่งการพัฒนาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่ว่า ตอนที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ก็มีผู้ชายกว่าหลายสิบคนเดินเข้ามาจากด้านนอกแล้ว หนึ่งในนั้นที่นำทีมมาก็คือเจ้าบาดแผลต้าตาว เจ้าบาดแผลต้าตาวกวาดสายตามองรอบๆแล้ว : เฮ้ย นี่ตกแต่งเรียบร้อยดีแล้ว รวดเร็วดีนะ อยากให้พวกเราพังทลายอีกครั้งไหม
เจ้าบาดแผลต้าตาว สถานที่แห่งนี้ พวกเราคุ้มกันอยู่
ต้าตาวเดินออกมาแล้ว
ฉันได้ยินจากลูกน้องฉัน ว่ามีกลุ่มคนมา ฉันก็ยังคิดอยู่เลยว่าใครมา คิดไม่ถึงว่า ก็คือแกนี่เอง แม่งเอ้ย ต้าตาว แกนี่ใจกล้าบ้าบิ่นมากสินะ
เจ้าบาดแผลต้าตาวมองไปยังต้าตาว มุมปากเผยความดูถูกออกมาแล้ว
เขารู้จักต้าตาว อยากเข้าไปเป็นบอดี้การ์ดมังกรของพวกเขามาโดยตลอด แต่ว่าไม่มีคุณสมบัติพอ ถูกคนขว้างอยู่ที่หน้าประตูไม่ให้เข้าไปตลอด แต่คิดไม่ถึงว่า วันนี้ไอ้หมอนี่ จู่ๆกล้าที่จะมายั่วยุบอดี้การ์ดมังกรแล้ว
ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วจริงๆ
ฉันไม่ได้อยากจะทะเลาะกับแกนะ ฉันก็แค่มาคุ้มกันผับแห่งนี้ แต่ว่า ถ้าหากแกมาก่อเรื่องวุ่นวายล่ะก็ งั้นก็อย่ามาโทษฉันแล้วกัน
ต้าตาวเอียงๆคอแล้ว ส่งเสียงดังก๊อกแก๊กแล้ว
เหอะ แกจะทำอย่างไรได้?
ต้าตาวเดินก้าวขึ้นมาแล้ว กำยำล่ำสัน สีหน้ามั่นใจ ต้าตาวไม่มีความกล้าหาญมากขนาดนั้น ที่จะกล้าต่อยเขา
แต่ว่า วินาทีถัดมา หมัดกำปั้นก็กระแทกเข้าไปที่ใบหน้าของเขาแล้ว
สมควรตาย!
เขาตอบสนองกลับมาทันที คิดอยากจะหลบ
แต่จู่ๆก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ขาของเขาถูกอะไรทุบเข้าแล้ว รู้สึกชาขึ้นมาทันที ทันใดนั้นก็ขยับไม่ได้แล้ว ตามมาด้วยเสียงดังปัง
กำปั้นนั้นต่อยเข้ามายังใบหน้าที่มีรอยแผลเป็นอย่างรุนแรงแล้ว
เขากลับว่าไม่สามารถหลบหลีกได้เลย
ต้าตาวสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ ก็ไม่ใช่คนที่ธรรมดา ต่อยออกไปเลย ปล่อยหมัดออกไปไกลกว่าหลายเมตรแล้ว ถึงกับอาเจียนออกมาเป็นเลือดเลย
พี่ใหญ่
คนของเจ้าบาดแผลต้าตาว รีบล้อมเข้าไปอย่างรวดเร็ว
สมควรตาย
เจ้าบาดแผลต้าตาวนอนลงบนพื้น จับที่ใบหน้าของตัวเอง คางถูกตีจนบิดเบี้ยวแล้ว คาดว่ากระดูกด้านน่าจะแตกแล้ว หลังจากนั้นก็มองไปยังต้าตาว ทิ้งคำพูดที่โหดเหี้ยมไว้ : เด็กอย่างแกรอเลยนะ!ไป
ทันใดนั้นพวกลูกน้องเหล่านั้น ก็พาไปแล้ว
พี่ใหญ่ คุณลงมือจัดการแล้วใช่ไหม?
ต้าตาวหันหลังกลับ มองไปยังฉินเฟิงแล้ว
ช่วยอะไรหน่อย ฉินเฟิงพูดกล่าว
สาเหตุที่เขาให้ต้าตาวออกมา ก็เพราะว่าไม่อยากให้เรื่องนี้บานปลายไปกันใหญ่ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ยมบาลเจียงนั่นพูดออกมาเรื่อยเปื่อย ตอนนี้เรื่องราวยังตรวจสอบไม่ชัดเจนเลย
จะแหวกหญ้าให้งูตื่นเช่นนี้ไม่ได้
และเป็นเรื่องของพวกนักเลง เจ้าบาดแผลต้าตาวและต้าตาวทั้งสองล้วนแต่มีฝีมือไล่เลี่ยกัน พวกเขาเป็นแบบนี้ไม่มีทางที่จะร้องขอความช่วยเหลือแน่ เจ้าบาดแผลต้าตาวก็ไม่มีทางเรียกคนของบอดี้การ์ดมังกรคนอื่นๆแน่
นี่สำหรับเขาแล้ว เรียกว่าศักดิ์ศรี
เมื่อเขาเรียกคนอื่นๆ ก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าพี่ใหญ่คนนี้ไม่มีประโยชน์ ลูกน้องก็ไม่มีทางที่จะยอมรับและนับถือ
และเมื่อต้าตาวได้ยินคำพูดของฉินเฟิงแล้ว ในใจก็ตกใจมาก ขนาดที่ว่าเขาไม่รู้เลยว่าฉินเฟิงใช้วิธีการอะไร ก็ทำให้เจ้าบาดแผลต้าตาวตัวแข็งทื่อได้แล้ว ทำให้เขาคว้าโอกาสไว้ได้
เรื่องราวลึกลับอย่างมากจนยากที่จะคาดเดาได้
พี่ใหญ่คนนี้ ไม่เพียงแค่มีเบื้องหลังที่น่ากลัว สถานะยังน่ากลัวด้วยเช่นกัน
แต่ว่า นี่สำหรับเขาแล้ว เป็นโอกาสอย่างหนึ่ง
หลังจากนั้น ต้าตาวก็ประจำการอยู่ที่ผับแล้ว เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของผับ ไม่ว่ายังไงผับ ก็เป็นสถานที่ที่วุ่นวาย เฉินจื่อซวนต้องการเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อรับรองความสงบและความปลอดภัย
ขอเพียงแค่รักษาความปลอดภัยได้แล้ว เด็กผู้หญิงถึงจะมา เมื่อเด็กผู้หญิงมาแล้ว ผู้ชายถึงจะมา
นี่ถึงจะเป็นวิธีการดำเนินกิจการผับบาร์ที่ถูกต้อง
หลังจากที่ถึงวันที่สอง ฉินเฟิงก็ได้ไปที่คลังสินค้านั่น ไม่ ไม่ควรพูดว่าคลังสินค้า และควรที่จะพูดว่าเป็นอาคารสํานักงานใหม่
บริษัท กึ่งซานหยวน จำกัด
ฉินเฟิงเดินมาถึงหน้าประตู มองไปยังกึ่งซานหยวนนั่น ในใจคิดว่า ภรรยาของตัวเอง ทำไมถึงได้ชอบคำว่าซานหยวนนี้เป็นพิเศษ
ลุงหลี่ ลุงหลี่
ฉินเฟิงทักทายกับคนแก่ที่เกือบจะเข้าโลงสองคนนั้น
ถึงอย่างไร นี่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัท
ล่วงเกินไม่ได้
เอนหลังอยู่บ่อยๆ ทำให้คุณตกใจ ต้นทุนต่ำ ประสิทธิภาพดี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแบบนี้จะหาได้ที่ไหน
ดี ดี
ฟันของทั้งสองคนแทบจะหักจนเกลี้ยงแล้ว แต่ว่าก็ยังพูดทักทายกลับมาแล้ว
ฉินเฟิงเดินเข้าไปแล้ว เห็นอิ่นซิน สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ท่อนล่างก็ใส่กางเกงทรงตรงสีดำ มัดผมขึ้นมาแล้ว แสดงให้เห็นถึงความสะอาดสะอ้าน ใจกว้าง มองแล้วสบายตา
แต่ว่าเป็นครั้งแรกที่เห็น ว่าอิ่นซินที่กำลังทำงานในตอนนี้ บนตัวมีบุคลิกลักษณะที่เย็นชาแล้ว
ถึงอย่างไรก็เป็นประธานจอมเผด็จการ
ที่รัก
เอ๊ะ คุณมาได้ยังไง
อิ่นซินเงยหน้าขึ้น มองไปยังฉินเฟิงแล้ว เธอคิดไม่ถึงว่าฉินเฟิงจะมาที่นี่
ก่อนหน้านี้ผมก็บอกแล้วไงว่า ผมมีเพื่อนที่เป็นวิศวกรคนหนึ่ง แต่ว่าตอนนี้เขากำลังอยู่ระหว่างทางกำลังมา ต้องรอสักครู่หนึ่งถึงจะถึงนะ ผมมาหาคุณก่อน
เมื่ออิ่นซินฟังประโยคนี้แล้ว สีหน้าไม่เปลี่ยน
แต่ว่า เธอทำแบบนี้เพียงเพราะว่าไม่อยากทำให้ฉินเฟิงหน้าแตก คนที่เป็นนักศึกษาปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยหยุนเจียง นั่นเป็นบุคคลที่มีความสามารถและสูงส่งแค่ไหน ทั่วทั้งเมืองเจียงเฉิง คาดว่าหาไม่ได้แม้แต่คนเดียว
จริงสิ ผมอยากจะถามคุณมาโดยตลอด ทำไมสำหรับคำว่า ‘ซานหยวน’สองคำนี้ ถึงได้ชอบเป็นพิเศษ ?
ฉินเฟิงนึกถึงคำถามนี้ขึ้นมาได้
เขาอยากจะถามมาโดยตลอด
บริษัทซานหยวนกรุ๊ป
บริษัท กึ่งซานหยวน จำกัด
ผู้หญิงคนนี้ ชอบ ‘ซานหยวน’สองคำนี้มากมาโดยตลอด
ฉันก็มีความลับของฉัน
อิ่นซินส่ายหน้าแล้ว กลับว่าไม่ยินยอมที่จะพูดให้ฉินเฟิงฟัง แต่ว่ายังพูดเพิ่มมาอีกประโยคว่า : ถ้าหากมีวันหนึ่ง คุณสามารถเอาชนะตัวและใจของฉันมาได้แล้ว งั้นฉันก็จะบอกคุณ