เทพบุตร ทวงแค้น / เทพศึกมังกรหวนคืน - บทที่ 111 หวงจงถึงกับอึ้ง
อะไร พวกคุณจะไล่ฉัน?แถมยังใช้กำลังด้วย?
ได้ยินเช่นนั้น หลี่ซานซานก็มองหัวหน้ารปภ.อย่างไม่อยากจะเชื่อ คนที่เข้าไปในวิลล่าหยุนติ่งล้วนเป็นคนมีระดับ
แต่ตอนนี้กลับไล่เธอ!
ใช่ครับ เบื้องบนสั่งมา ให้คุณรีบเก็บของ ไม่งั้นก็ต้องให้พวกเราจัดการ
หัวหน้ารปภ.เริ่มเอาจริงแล้ว
พวกแก!
หลี่ซานซานมองรปภ.พวกนี้หน้าเขียวปั้ด: ฝากไว้ก่อนเถอะ รอสามีฉันกลับมา พอประมูลคฤหาสน์หลังนั้นได้ เมื่อถึงตอนนั้นพวกแกต้องเสียใจภายหลังแน่นอน
ตึงๆๆ
เธอหอบลูกออกไป
หลังจากออกไป ก็รีบกดโทรออกทันที: ที่รัก ฮือๆๆ มีคนรังแกฉัน……วิลล่าหยุนติ่งไล่พวกเราออกมา
ไม่นานนัก
หวงจงหน้าเขียวกลับมา โดนวิลล่าหยุนติ่งไล่ออกมา นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตั้งแต่หลังจากสร้างวิลล่าหยุนติ่งเสร็จ
นี่เท่ากับเป็นการเหยียบหน้าเขาอย่างจัง
เกิดอะไรขึ้น?
หวงจงถามหลี่ซานซาน
ขณะอยู่ในสายหลี่ซานซานร้องไห้ตลอด เธอพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง
มีผู้ชายหนึ่งผู้หญิงหนึ่งอยู่ดีๆก็มาบอกว่าพวกเราไม่เหมาะสมอยู่ที่นี่ พวกเราไม่ได้ทำอะไรเลย แล้วโทรออกไปสายหนึ่ง จากนั้นพวกเราก็โดนไล่ตะเพิดออกมา
หลี่ซานซานมีท่าทางน่าสงสารมาก
หวงจงขมวดคิ้ว พลางกดโทรออก: ผู้จัดการ ไล่พวกเราออกทั้งอย่างนี้เลย?ไม่ไร้มนุษยธรรมเกินไปหน่อยเหรอ หรือว่าวิลล่าหยุนติ่งของพวกคุณเห็นผมหวงจงอ่อนแอขนาดนั้นเลย?
คุณครับ ต้องขอโทษด้วย นี่เป็นคำสั่งจากสำนักงานใหญ่ อีกอย่างเราตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว ภรรยาของคุณเป็นฝ่ายหาเรื่องเจ้าของบ้าน001ก่อน
ผู้จัดการฝ่ายนิติตอบกลับอย่างสุภาพ
เจ้าของบ้าน001!
หวงจงวางสายอย่างอึ้งๆ วันนี้เขาไปประมูลคฤหาสน์หลังนั้นนี่แหละ แต่โดนคนที่ให้ราคา70ล้านประมูลไปได้ เขาไม่พอใจมาตลอด แต่เขารู้ว่าคนคนนั้นภูมิหลังน่ากลัวมากแน่นอน
เพราะผู้จัดการบอกว่าเป็นคำสั่งจากสำนักงานใหญ่
รู้แค่ว่าเบื้องบนของวิลล่าหยุนติ่งต้องเป็นคนที่มีอำนาจมากๆ แม้แต่วิลล่าหยุนติ่งก็ไม่กล้ามีปัญหากับเจ้าของบ้าน001หลังนั้น ถึงแม้พังป้ายราคาก็ไม่กล้าขัด
อยากรู้มากว่าเป็นใครกัน!
ที่รัก คุณประมูลคฤหาสน์หลังนั้นได้แล้วใช่ไหม พวกเรารีบกลับไปไล่หัวหน้ารปภ.นั่นออกกันเถอะ แล้วก็ไล่ตะเพิดผู้ชายคนนั้นออกไป
คำว่า จากนั้น เพิ่งพูดออกไป
เสียง เพียะ ดังขึ้น
ตบไปบนหน้าหลี่ซานซานหนึ่งที
ที่รัก คุณ?
หลี่ซานซานโดนตบถึงกับงง กุมหน้าตัวเองพลางมองหวงจงด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
ผมตรวจสอบแล้ว เห็นๆอยู่ว่าคุณเป็นคนก่อเรื่อง แถมยังยุให้รำตำให้รั่ว คิดว่าคนอื่นเป็นฝ่ายผิด ผมเคยบอกคุณแล้วว่าต้องถ่อมตัว ต้องเจียมตัว ไปเตรียมตัว พวกเราต้องย้ายบ้าน
เรื่องมาถึงขั้นนี้ หวงจงก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
เขาไม่อาจไปมีเรื่องกับเจ้าของบ้าน001นั่นได้ จะมีเรื่องไม่ได้ ทำได้แค่หลบซ่อน ซ่อนไปให้ไกล
หลังจากเล่นเสร็จ ฉินเฟิงก็พากั่วกั่วกลับมา
ต่อให้วิลล่าหยุนติ่งดีแค่ไหน ก็ดีไม่เท่าที่ที่มีอิ่นซินอยู่ด้วย ได้นอนกับภรรยาตัวเองนั้นเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว แม้ตอนนี้คนหนึ่งนอนบนเตียงอีกคนนอนพื้นก็เถอะ
ทำไมวันนี้ทั้งสองคนกลับมาเร็วจังล่ะ?
อิ่นซินที่อยู่ในห้องหันมาถาม เธอเห็นรอยยิ้มที่เปี่ยมล้นหยุดไม่ได้ของฉินกั่วกั่ว จึงถามขึ้นอย่างสงสัย
ผมพาลูกไปเที่ยวเล่นมาน่ะ
ฉินเฟิงขยี้หัวฉินกั่วกั่ว
ฉินกั่วกั่วใช้หน้าเล็กๆถูมือของฉินเฟิงอย่างมีความสุขสุดๆ
อิ่นซินมองทั้งคู่ด้วยสายตาชื่นใจ ความคิดในตอนนั้นถูกแล้ว ฉินกั่วกั่วต้องการพ่อจริงๆ เธอทำงานยุ่ง คอยดูแลไม่ได้
พ่อแม่ของเธอก็ไม่ยอมดูแล
ตอนเย็น มีสายหนึ่งโทรเข้ามาฉินเฟิงกดรับทันที
ฉินเฟิง ฉันหาที่อยู่ของเสี่ยวเยว่ได้แล้วแถมยังอยู่ในเมืองนี้ ขาของฉันไม่สะดวก พรุ่งนี้นายไปดูก่อน ยังไงเมื่อตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขา ตอนนี้พวกเราอาจอดตายไปแล้วก็ได้
เป็นเสียงของเฉินจื่อซวน
โอเค
ฉินเฟิงตอบตกลง
ตอนนั้นที่พวกเขาเป็นขอทาน มีครั้งหนึ่งที่ขอทานแล้วไม่ได้อะไรเลย แถมยังหิมะตก ลมพัดหนาวมาก สุดท้ายพวกเขาก็เป็นลมล้มพับไปตรงหน้าบ้านหลังหนึ่ง
ตอนแรกทั้งสองคิดว่าต้องตายแน่ๆ แต่คิดไม่ถึงว่าคนบ้านนั้นจะช่วยไว้
พอฟื้น ไม่เพียงได้นอนบนเตียงใหญ่อันอบอุ่น ข้างๆเตียงยังมีนมร้อนๆอีกสองแก้ว เจ้าของบ้านหลังนั้นเป็นผู้หญิง กับเสี่ยวเยวลูกสาวของเธอ
เมื่อแผลหายดีเฉินจื่อซวนกับฉินเฟิงก็ออกมา เพราะพวกเขาจะอยู่ต่อไปก็ไม่ได้
ตอนนี้รู้แล้ว หลังจากเมืองเจียงเฉิง ฉินเฟิงจะไปดูแน่นอน
ถนนทักษิณ89 เมืองเจียงเฉิง
วันต่อมา ฉินเฟิงเดินทางมาตามที่อยู่นั่น พบว่าอยู่ชานเมืองเมืองเจียงเฉิง เขตพื้นที่นั้นเรียกได้ว่าเป็นสลัม ล้วนเป็นบ้านแบบเรียบง่าย
ฉันจำน้าจางได้ ครอบครัวค่อนข้างดีมากไม่ใช่เหรอ?
ฉินเฟิงขมวดคิ้วเป็นปม
น้าจางเป็นแม่ของเสี่ยวเยว่ ชื่อจริงของเสี่ยวเยว่คือหลี่เสี่ยวเยว่ พ่อตายจากไปเร็ว
ถนนทักษิณ
มองไปเห็นแต่ความพังยับเยิน ระเกะระกะไปหมด ในนั้นมีรถขุดรถตักดินสิบกว่าคัน กำลังพังบ้านเหล่านั้นอย่างดุดัน
เสียงดังกึกก้อง
บ้านพังลงไปหลังแล้วหลังเล่า
หนึ่งในบ้านในนั้น น้าจางกำลังยืนอยู่ตรงหน้าประตูกอดเสี่ยวเยว่ไว้ในอ้อมแขน เสี่ยวเยว่อายุประมาณ11ปี รูปร่างดี น่ารักบริสุทธิ์แต่วินาทีนี้กลับถามขึ้นอย่างกลัวๆ: แม่คะ พวกเราต้องไปจากที่นี่เหรอคะ?
ไม่จ่ะ นี่เป็นบ้านของเรา
น้าจางกอดเสี่ยวเยว่
โห พวกเธอสองคนไม่ออกไปจริงๆงั้นเหรอ?
ขณะนั้นเอง มีรถขุดสองคันขับมาหน้าบ้านน้าจาง แล้วมีชายสวมชุดสูทแต่งตัวดีคนหนึ่งลงมาจากรถขุด
สวีเสี่ยน เป็นหัวหน้ารับผิดชอบที่นี่
ที่นี่เป็นการก่อสร้างผิดกฎหมาย ไม่อนุญาตให้อยู่อาศัย รีบย้ายออกไปเดี๋ยวนี้พวกเราต้องทำการรื้อถอน สวีเสี่ยนพูดพลางโบกมือไปมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ
ก่อสร้างผิดกฎหมาย?ครอบครัวสามีฉันอาศัยอยู่ที่นี่มาหลายชั่วอายุคน ตอนนี้กลับมาบอกว่าที่นี่เป็นก่อสร้างผิดกฎหมาย?ฉันไม่ไป นี่เป็นบ้านของพวกเรา
น้าจางกัดฟันกรอด ไม่ยอมถอย
ฉันบอกว่าก่อสร้างผิดกฎหมายก็ผิดกฎหมายสิ ไม่ง่ายเลยกว่าพวกเราจะติดต่อกับเบื้องบนได้ว่าให้รื้อถอนสลัมแห่งนี้ แถมยังไม่ต้องออกเงิน แต่คุณกลับกล้ามาขวางพวกเรางั้นเหรอ?
สวีเสี่ยนทำหน้าดุๆ
บริษัทเรากว่าจะได้เอกสารนี้มา บ้านพวกนี้เป็นสลัมสามารถรื้อถอนได้ แต่ไม่ต้องจ่ายค่ารื้อถอน นี่เป็นการได้เปรียบมากๆ
ที่ดินกว้างขวางขนาดนี้ คงสร้างสถานบันเทิงได้มากมาย
คนอื่นๆเขาไล่ออกไปโดยใช้ความรุนแรงแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่ายังเหลือสองคนนี้อีก นี่เป็นแผนการใหญ่ของบริษัท ถ้าผู้หญิงสองคนนี้ไม่หลบไปจริงๆ เขาก็ไม่ถือถ้าต้องใช้ความรุนแรง
ยังไงตรงนี้ก็ไม่มีใครอื่นแล้ว