เทพบุตร ทวงแค้น / เทพศึกมังกรหวนคืน - บทที่ 117 โหวเฟย
บุญคุณที่ให้ชีวิตใหม่ เรื่องอะไรกัน? ฉินเฟิงถาม
แบ็คหลังของผมคือคุณตู้
โหวเฟยพูดออกมาเช่นนี้ ฉินเฟิงก็พอจะเข้าใจแล้ว ตู้ต้วนเทียนอยากประจบเขา ถึงได้ช่วยโหวเฟยเพียงเพราะการเจอกันโดยพรหมลิขิต
บางที สักวันอาจได้ใช้
แต่เรื่องบังเอิญคือ ความคิดนี้ของตู้ต้วนเทียนเป็นจริงพอดี
จริงสิ พนักงานของคุณรับเงินแล้วจะไล่พวกเราออกไป ฉินเฟิงพูด
คุณฉิน ผมจะจัดการให้เดี๋ยวนี้
โหวเฟยหน้าเปลี่ยนสี ฉินเฟิงเป็นคนระดับไหน นี่เป็นถึงผู้มีพระคุณของเขา เป็นคนที่ทำให้คนระดับตู้ต้วนเทียนเกรงกลัว แต่พนักงานของเขากลับกล้าไล่เนี่ยนะ?
อยากตายรึไง
เขารีบหันไปยังผู้จัดการตรงล็อบบี้ทันที
เจ้านาย คือ……ผม……
ผู้จัดการตรงล็อบบี้ตัวสั่นเทา พูดจาไม่ได้ศัพท์ เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าเจ้าหนุ่มจนๆที่ถูกรังแกก่อนหน้านี้ จะทำให้เจ้านายที่เขาเกรงกลัวโค้งคำนับให้ได้
เจ้านายคนนี้มีแบ็คหลังใหญ่โต
งะ……งั้นฉินเฟิง ต้องเป็นคนระดับไหนกัน
แม่เจ้า
ซวยแล้ว
รปภ. ค้นตัว
โหวเฟยเป็นเจ้านาย แน่นอนว่ารปภ.พวกนั้นต้องเชื่อฟัง หลังจากค้นเสร็จ พวกเขาก็ค้นได้นาฬิกาออกมา ทองสว่างไสว แค่เห็นก็รู้แล้วว่ามีราคามาก
ฉันจำได้ นายไม่ได้มีนาฬิการาคาแพงขนาดนี้นี่
โหวเฟยถือนาฬิกาเรือนนั้น หน้าเคร่งขรึม ทว่าขณะนั้นเองผู้จัดการอีกคนโผล่มา แล้วพูดกับโหวเฟย: เจ้านาย ตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว นาฬิกาเป็นของหวงจงคนนั้น
ผู้จัดการคนนี้ชี้ไปยังหวงจง
โหวเฟยหันไปมองหวงจงด้วยสายตาไม่เป็นมิตรทันที
หวงจงเห็นเช่นนั้นก็รีบหนีทันที ถ้ายังไม่หนีซะตอนนี้ รอให้โหวเฟยเล่นงานหรือไง
การรับสินบน ในกฎของร้านไม่อนุญาตไม่ใช่เหรอ รปภ.จัดการ อัดให้สุดแรง อัดเสร็จแล้วก็โยนออกไป
โหวเฟยโกรธขึ้นมาทันที โบกมือไปมาพลางพูด
ครับ
รปภ.เหล่านั้นจับตัวผู้จัดการตรงล็อบบี้ทันที แล้วพาไปอีกด้านหนึ่ง ผู้จัดการตรงล็อบบี้ดิ้นสุดกำลัง แต่เขาจะดิ้นพ้นรปภ.ที่ผ่านการฝึกมาได้ยังไง
สำหรับฉินเฟิง เป็นแค่สวะก็เท่านั้น
ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงร้องน่าเวทนาออกมา แต่จากนั้นไม่กี่วินาทีเสียงก็หายไป คนที่เดินผ่านเห็นผู้ชายหัวแตกเลือดไหลคนหนึ่งกำลังนอนอยู่บนถนน
คุณฉิน ต้องขอโทษด้วย ร้านเราให้บริการไม่ดีเอง วันนี้ให้กินฟรีทั้งหมดเลยครับ
หลังจากจัดการเสร็จ โหวเฟยก็มาพูดกับฉินเฟิงอย่างระมัดระวัง กลัวจะทำให้ฉินเฟิงไม่พอใจเข้า
อืม
ฉินเฟิงจึงหายโกรธขึ้นมาหน่อย
อิ่นซินคือเกล็ดใต้คอมังกรของเขา ทว่ากลับมาด่าเขาว่าหน้าไม่อาย และมาด่าภรรยาของเขาก็เท่ากับรนหาที่ตาย โชคดีที่อยู่ที่นี่ ถ้าอยู่ที่อื่นแขนหมอนั่นอาจหักครึ่งไปแล้วก็ได้
จากนั้นโหวเฟยก็พูดกับคนอื่นๆ: วันนี้กินฟรีทั้งร้าน
ข่าวดังกล่าวทำเอาคนอื่นๆต่างพากันส่งเสียงร้องดีอกดีใจ
เพราะการทะเลาะกันในร้าน สามารถส่งผลกระทบกับธุรกิจได้
และหลังจากฉินเฟิงนั่งลง อิ่นซินที่กำลังตกตะลึง ดึงมือฉินเฟิงด้วยความสงสัยพลางถาม: เกิดอะไรขึ้นๆ ทำไมเจ้าของร้านถึงคำนับให้คุณ
คุณเดาดูสิ
รีบบอกมาสิ……บอกมา……
อิ่นซินอ้อนๆ เพราะยังไงเวลาเธอถอดลุคนี้ออก เธอก็เป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง ไม่เคยมีแฟนมาก่อน
คิคิ แม่น่ารักมากๆเลย
กั่วกั่วนั่งไร้เดียงสาอยู่อีกด้าน
ฉินเฟิงเห็นแล้วน่ารักมาก แต่กั่วกั่วน่ารักกว่า เด็กผู้หญิงน่ารักๆคนนี้อยากกอดแม่ของเธอ คิดอยู่ครู่หนึ่งก็ค่อยๆอธิบาย: แบ็คหลังของเจ้าของร้านนี้คือตู้ต้วนเทียน คุณลืมไปแล้วเหรอว่าตู้ต้วนเทียนรู้จักผม
แบบนี้นี่เอง
อิ่นซินเข้าใจในทันที
แต่เข้าใจก็ส่วนเข้าใจ ความผิดหวังในแววตายังคงมีอยู่ เธอนึกว่าสามีตัวเองอนาคตสดใสแล้วซะอีก ไม่คิดว่าว่ายังคงยืมแสงสว่างของน้องสาวตน
อิ่นหนิงหยู่เก่งเกินไปแล้ว หาผู้ชายทั้งทีได้ถึงคนระดับตู้ต้วนเทียน
ไม่ใช่ว่าเธออิจฉาริษยาหรอกนะ แต่เธอกลัวจะเปรียบเทียบ ทันทีที่เปรียบเทียบก็เห็นความแตกต่างชัดเจน เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นประธานหญิงผู้เย็นชา
เรื่องการแสดงออก เธอควบคุมได้ดี
ดูจากภายนอกไม่เห็นความผิดหวังแม้แต่น้อย กลับกัน เห็นแต่ความสุข
ไม่มีทางเลือก
มันผ่านไปแล้ว เธอไม่หวังเกินตัวอะไรแล้วล่ะ ธรรมดาก็ธรรมดา
หลังจากกินข้าวเสร็จ ฉินเฟิงทั้งสามคนไปสวนสนุกด้วยกัน ไปทั้งบ้านผีสิง สวนน้ำและสถานที่ต่างๆที่เด็กๆมาเล่นกัน เพราะวันนี้อุตส่าห์หาเวลาออกมาเป็นพิเศษ ที่จะมากับสาวน้อยกั่วกั่วคนนี้
6ปีแล้ว
นี่เป็นครั้งแรกที่มาเที่ยวเล่นกันลูก
ขณะเดินทางกลับ ก็มีคนโทรหาฉินเฟิง ฉินเฟิงจึงรับสายทันที
ใช่คุณฉิน ฉินเฟิงไหมคะ?
มีเสียงผู้หญิงอันไพเราะดังออกมา อายุคงรุ่นราวคราวเดียวกับเขา น่าจะ25-26ปี
ผมเอง
ฉินเฟิงตอบกลับ
คุณฉิน พอจะมีเวลาคุยไหมคะ ขอเวลาคุณสัก5นาที ถ้าสะดวกละก็ฉันกำลังรอคุณอยู่ในร้านกาแฟที่ไม่ไกลจากบ้านคุณ
ฉินเฟิงได้ยินเช่นนั้นก็หันไปมอง แถวบ้านเขามีร้านกาแฟอยู่จริงๆ
และมีแค่ร้านเดียว
น่าสนใจ ผมจะไป
หลังจากฉินเฟิงไปส่งกั่วกั่วกับอิ่นซินก็มายังร้านกาแฟ เห็นผู้หญิงคนนั้นสวมเสื้อคลุมยีนส์ หน้าเรียวเล็ก คิ้วโก่ง หน้าตาสะสวย แต่ความรู้แรกที่ให้คือผู้หญิงคนนี้มีความสามารถมาก
ขณะเพิ่งเข้ามาฉินเฟิงก็พบว่า
ผู้หญิงคนนี้มีออร่าความเป็นผู้นำ
สวัสดีค่ะคุณฉิน จริงๆแล้ววันนี้ฉันอยากมาเจรจาสัญญากับคุณ
ผู้หญิงคนนั้นดันเอกสารไปบนโต๊ะ
ทว่าฉินเฟิงไม่ได้หยิบเอกสารนั้นขึ้นมา แต่มองไปด้านหลังผู้หญิงคนนั้นแทน มีผู้หญิงสวมหมวกแก๊ปนั่งอีกโต๊ะหนึ่ง จึงไปเคาะโต๊ะ
ก็อกๆๆ
ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
หลิวหลิน ไม่ถึงทางตันก็ไม่ยอมรับใช่ไหม?ผมเห็นคุณแล้วยังไม่ยอมออกมาอีก ?ในเมื่อเป็นสัญญาก็ซื่อสัตย์กันหน่อย คุณมาคอยสังเกตการณ์อยู่ข้างๆนี่หมายความว่าไง
คุณว่าจริงไหม?คุณมู่หรง
ฉินเฟิงหันไปมองผู้หญิงตรงหน้าตนอีกครั้ง
……
ผู้หญิงคนนี้ชะงัก ถูกจับได้ง่ายๆแบบนี้เลย?
เหอะ
จากนั้นได้ยินเสียงชิชะออกมา หลิวหลินยืนขึ้นจากโต๊ะอีกด้านแล้วเดินมา บางทีอาจเพราะฝึกต่อสู้มานานหลายปี กางเกงยีนส์ตัวนั้นจึงเผยให้เห็นรูปร่างลีนๆออกมา
หลิวหลินสวยมาก ได้ชื่อว่าเป็นสาวสวยเบอร์หนึ่งในเมืองเจียงเฉิง
แต่ตอนนี้เธอนั่งลงด้วยสีหน้าไม่พอใจ มองฉินเฟิงเหมือนแทบจะกินเนื้อ: คุณเห็นฉันได้ยังไง?ครั้งนี้ฉันปลอมตัวเนียนมากเลยนะ!
ครั้งก่อนพูดได้ว่าเดาครึ่งหนึ่งหลอกครึ่งหนึ่ง แต่ครั้งนี้เธอลังเล ไม่ยอมรับในทันที จะถูกจับได้อีกครั้งไม่ได้
แต่ว่าฉินเฟิงก็ยังจับได้อยู่ดี
ตกลง……รู้ได้ยังไง เธอเปิดเผยออกมายังไง โมโหจริงๆ