เทพบุตร ทวงแค้น / เทพศึกมังกรหวนคืน - บทที่ 55 มารับลูก
ถนนตงเจีย เมืองเจียงเฉิง
บนถนนสายนี้มีโรงเรียนอนุบาลอยู่แห่งหนึ่ง ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียนพอดี ครูคอยดูแลนักเรียนและส่งพวกเขาออกจากประตูโรงเรียนทีละคน ฉินกั่วกั่วอยู่ในชุดกระโปรงหลากสีสันยืนอยู่ที่ประตู
เธอกำลังรอฉินเฟิงอยู่
ตั้งแต่ฉินเฟิงกลับมา ฉินเฟิงก็เป็นคนมารับส่งเธอ
อย่างไรก็ตามในเวลานี้ มีเด็กชายตัวเล็กออกมา เขาสูงกว่าฉินกั่วกั่วหนึ่งศีรษะ เขาชี้ไปที่ฉินกั่วกั่วแล้วพูดเยาะเย้ย วันนี้ไม่มีคนมารับเธออีกแล้วเหรอ? จะรออยู่ตรงนี้คนเดียวจนมืดหรือเปล่า แล้วก็เอาแต่ร้องไห้ ร้องไห้ตลอดเวลา แต่ไม่มีใครมาตามหาเธอเลย
หนิงจวิ้น
ฉินกั่วกั่วสะพายเป้นักเรียนใบเล็กไว้ บุ้ยปาก มองไปที่นักเรียนชายตัวน้อยอย่างไม่พอใจ
เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เธออยู่ชั้นอนุบาล อิ่นซินบังเอิญออกไปทำงาน เธอขอให้จางลี่ผู้เป็นแม่มารับส่งเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าวันนั้นจางลี่จะเอาแต่เล่นไพ่นกกระจอกจนลืมเรื่องนี้ไปเลย
ส่วนฉินกั่วกั่วก็ร้องไห้อยู่ที่ประตูโรงเรียนอนุบาลตลอดทั้งคืน
เรื่องนี้แพร่กระจายไปทั่วโรงเรียนอนุบาล เรื่องนี้ทำให้อิ่นซินรู้สึกว่าเธอเป็นหนี้กั่วกั่ว ต่อมาเธอก็เลือกที่จะยอมรับฉินเฟิงเพราะกั่วกั่ว
เธอยังต้องไปทำงาน ตัวคนเดียวหมดแรงไม่มีสมาธิ สำหรับพ่อแม่ของเธอ ทั้งสองคนก็ไม่ค่อยชอบหลานสาวคนนี้มากนัก โดยเฉพาะจางลี่ เธอไม่เคยยอมให้กั่วกั่วได้ใส่เสื้อผ้าใหม่
บอกว่าเป็นแค่ลูกนอกสมรส จะใส่เสื้อผ้าใหม่ไปทำไม
เธอไม่ต้องรอหรอก ก็คงจะเหมือนครั้งที่แล้ว ไม่มีใครมารับเธอ เธอน่ะ ต้องร้องไห้อยู่ตรงนี้ไปตลอด ร้องไห้ไปตลอด ฮ่าฮ่า คนที่ไม่มีใครรัก
เด็กนักเรียนชายหัวเราะคิกคัก
ฉันมีคนรัก ฉันมีพ่อ
ฉินกั่วกั่วพูดอย่างแข็งกร้าว พ่อของฉัน กำลังจะมารับฉันเร็วๆ นี้
พ่อเหรอ? ฮ่า ทุกคนรู้ว่าเธอไม่มีพ่อ เธอเป็นลูกนอกสมรส ลูกนอกสมรสที่ไม่มีใครรัก แล้วจะเอาพ่อมาจากไหน โผล่มาจากไหนเหรอ? ดูสิ พ่อแม่ของฉันมารับแล้ว
ทันใดนั้น เด็กนักเรียนชายก็ชี้ไปที่ด้านหน้า รถเบนท์ลีย์คันหนึ่งจอดลง หญิงอ้วนดัดผมก้าวลงมาจากรถ อีกคนคือชายกำยำในชุดสูท คาบบุหรี่อยู่ในปาก
เสี่ยวจวิ้นไปกันเถอะ
ผู้หญิงเดินมาข้างหน้าแล้วจูงมือเด็กนักเรียนชาย เด็กนักเรียนชายทำหน้าทะเล้นใส่ฉินกั่วกั่ว ไม่มีใครรักเธอ เธอไม่มีพ่อ เธอเป็นแค่ลูกนอกสมรส ฮ่าๆๆ
ตอนเดินผ่าน ฉินกั่วกั่วกำลังอยู่ตรงนั้นพอดี เธอขวางทางพวกเขาไว้ ผู้หญิงคนนั้นยกฝ่ามือขึ้นแล้วตบฉินกั่วกั่ว หลีกไป สวมเสื้อผ้าขาดๆ อย่ามาขวางทางพวกเรา
โอ๊ย!
ฉินกั่วกั่วตกใจขวัญหนีดีฝ่อ หลับตาลง
แต่ทว่า อีกสองวินาทีต่อมา เธอพบว่าเธอไม่ได้ถูกตบ และตัวเองก็ยังอยู่ในอ้อมแขนของอีกคน ต่อมาจึงพูดขึ้นว่า ลูกสาวของผม คุณกล้าตีเหรอ?
คุณพ่อ
ทันใดนั้นฉินกั่วกั่วก็ลืมตาขึ้นและเงยหน้าขึ้นมอง เห็นใบหน้าที่เธอคุ้นเคย ฉินกั่วกั่วกระโจนเข้าไปในอ้อมกอดของฉินเฟิงทันที เอาหน้าเล็กๆ ซุกร่างกายของฉินเฟิง
เด็กดี
ฉินเฟิงลูบผมของฉินกั่วกั่ว
คุณเป็นใคร ปล่อยแม่ผมนะ
ผู้หญิงคนนั้น เดิมทีเธอเอาฝ่ามือฟาดลงไป แต่ถูกฉินเฟิงจับไว้ ทำให้เธอไม่พอใจอย่างมาก เธอดิ้นรนและตำหนิเขาในเวลาเดียวกัน
ได้สิ
ฉินเฟิงตอบตกลงแล้วปล่อยมือออกทันที
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังตุ้บ
ก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะทันได้ตอบโต้อะไร เธอก็ล้มลงกับพื้นทันที สีหน้าดูเป็นทุกข์ น่าเวทนา ถึงกับร้องออกมา โอ๊ย…เจ็บจัง
ที่รัก
ชายในชุดสูทที่ยืนพิงรถเบนท์ลีย์คันนั้นเห็นภาพนี้เข้าก็เดินเข้ามาทันที รูปร่างค่อนข้างแข็งแรง ช่วยประคองผู้หญิงคนนั้นให้ลุกขึ้น จากนั้นก็มองไปที่ฉินเฟิงแล้วพูดอย่างโกรธจัด คุณกล้าผลักภรรยาของเหรอ?
เธอต้องให้ผมปล่อยมือ หรือว่าผมต้องจับเธอไว้ตลอดเวลา?
ฉินเฟิงยักไหล่ ความหยอกล้อฉายผ่านดวงตา แล้วพูดต่อว่า อันที่จริง มันน่าเกลียดเกินไป ผมก็ไม่ชอบทำแบบนี้เหมือนกัน
คุณ!
หญิงสาวได้ยินฉินเฟิงด่าเธอน่าเกลียดก็โกรธมากขึ้น เธอดึงชายในชุดสูทเข้ามาข้างกาย ที่รัก ผู้ชายคนนี้รังแกฉัน เข้าไปต่อยเขา
ใช่แล้ว คุณพ่อ คุณพ่อ ต่อยเขาเลย
เด็กนักเรียนชายโบกกำปั้นแล้วพูดขึ้น
ฉินเฟิงเหลือบมองเด็กนักเรียนชายคนนั้น ส่ายหน้าทันทีแล้วพูดว่า การสั่งสองอบรมของคุณล้มเหลวจริงๆ ลูกชายของคุณ เอะอะก็ต่อยๆๆ ไม่สืบดูให้ดีว่าเรื่องนี้ใครถูกใครผิดกันแน่
พูดจบเขาก็มองฉินกั่วกั่วที่อยู่ในตัวเขาแล้วพูดสอนว่า เมื่อก่อน พ่อไม่เคยสอนลูก แต่วันนี้พ่อจะสอนหลักทำนองคลองธรรมให้ลูก ถ้าวันหนึ่งลูกมีอำนาจหรือตำแหน่ง แต่ถ้าหากคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเป็นคนดี ลูกจะใช้อำนาจไปรังแกคนอื่นไม่ได้ ลูกต้องเรียนรู้ที่จะตัดสินอย่างมีเหตุมีผล สำหรับคนเลว ลูกสามารถจัดการให้หนักได้
ในฐานะพ่อ นี่คือการประณามเรื่องการอบรมสั่งสอนลูก
เขาไม่เคยสอนเด็กมาก่อน แต่จากนี้ไปเขาจะค่อยๆ สอนไปทีละจุด ต้องมีทัศนคติที่ถูกต้อง ไม่สามารถใช้กำลังกลั่นแกล้งผู้ที่อ่อนแอได้
ฮ่า จัดการให้หนัก คุณคิดว่าตัวเองเป็นใคร แค่ผมยังเอาชนะไม่ได้เลย ยังคิดจะจัดการให้หนัก จริงสิ ขอแนะนำตัวเองหน่อยนะ ผมชื่อนิ่งจื้อ เป็นแชมป์ซ่านโฉ่วปีนี้ หนึ่งต่อสิบยิ่งสบายมาก คุณมาเจอผมวันนี้ ช่างโชคร้ายจริงๆ เพราะคุณก็รู้ว่าคนที่ทำให้ผมขุ่นเคืองคราวก่อน ตอนนี้อยู่ที่ไหน?
นิ่งจื้อบิดคอแล้วเดินเข้ามาทีละก้าว เขากำหมัดทั้งสอง ตอนนี้เขาอยู่ในโรงพยาบาล นอนมาสามเดือนแล้ว ผมหักกระดูกของเขาไปหกท่อน
กล้ายั่วยุผม วันนี้ผมจะทำให้คุณต้องทรมาน!
นิ่งจื้อยิ้มเยาะ สองขาตั้งหลัก ต่อยเข้าไปที่ใบหน้าของฉินเฟิง หมัดนี้เพียงพอที่จะทำให้เสียโฉมแล้ว
จากนั้น
การเตะของฉินเฟิงทำให้สีหน้าของนิ่งจื้อเปลี่ยนไป ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบโต้ เขาก็ถูกถีบกระเด็นออกไปแล้ว โครม เขากระแทกเข้ากับด้านข้างรถ สภาพน่าเวทนายิ่งกว่าฝ่ายหญิงเมื่อครู่เสียอีก
จัดการกับคนเลว ต้องเรียนรู้ที่จะป้องกันตัวเอง แต่ต้องรู้ขนาดด้วย เมื่อใดที่ต้องใช้แรงแบบไหนก็ใช้แรงแบบนั้น เหมือนพ่อตอนนี้ ใช้กำลังเพียงหนึ่งส่วนจากหนึ่งพันเท่านั้น กำลังดี
ฉินเฟิงมองไปที่ฉินกั่วกั่ว ค่อยๆ พูดทีละประโยค
คุณพ่อสุดยอดมาก!
ก่อนหน้านี้ฉินกั่วกั่วยังรู้สึกเป็นห่วง แต่พอเห็นฉินเฟิงเอาชนะคนเลวได้ในระยะเวลาสั้นๆ เธอก็มีกำลังใจขึ้นมา
หนึ่งส่วนจากหนึ่งพัน คุณ…อวดดีเกินไปแล้ว
นิ่งจื้อที่นอนอยู่บนพื้นรู้สึกถึงความเจ็บปวดจากร่างกาย เขาโกรธมาก แต่สิ่งที่ทำให้เขายิ่งโกรธไม่ใช่ความเจ็บปวดบนร่างกาย แต่เป็นคำพูดของฉินเฟิง
ใช้พละกำลังเพียงหนึ่งส่วนจากหนึ่งพันเท่านั้น
เป็นที่รู้กันดีว่า เขาเป็นแชมป์ซ่านโฉ่ว มีชื่อเสียงสมคำร่ำลือ ปกติต่อสู้หนึ่งต่อสิบก็ไม่เคยมีปัญหา แต่วันนี้เขาพ่ายแพ้ให้กับผู้ชายคนนี้ด้วยการเตะเพียงครั้งเดียว
แล้วยังเป็นพละกำลังแค่หนึ่งส่วนจากหนึ่งพัน?
สบประมาทกันชัดๆ