เทพบุตร ทวงแค้น / เทพศึกมังกรหวนคืน - บทที่ 62 หลิวลานเมิ่งจะขอโทษ
วันรุ่งขึ้น ฉินเฟิงไปถามไถ่สถานการณ์ของอิ่นซิน ได้รับรู้ว่าคุณท่านอิ่นยังพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ตราบใดที่เขาไม่มาสักวันหนึ่ง ถ้าอย่างนั้นตำแหน่งประธานก็ไม่สามารถส่งมอบให้ได้วันหนึ่ง
คุณท่านคนนี้ ไร้ยางอายจริงๆ
ฉินเฟิงนั่งอยู่ในห้องรักษาความปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนนั่งอยู่ข้างๆ ทั้งสองคนกำลังตรวจสอบงานอย่างระมัดระวัง แต่พวกเขาเป็นผู้มาใหม่ ก็ไม่ค่อยรู้จักฉินเฟิงมากนัก และก็ไม่รู้เรื่องราวในตอนนั้นด้วย
มีสาวสวยคนหนึ่งมา
ทันใดนั้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชี้ไปที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ข้างนอกและพูด
โอ้โห สาวสวยคนนั้น รูปร่าง หน้าตาก็ดีมาก จริงๆเลย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกคนก็พูดตาม
ฉินเฟิงก็ไม่ได้สนใจ หลับตา นั่งอยู่บนเก้าอี้ กำลังพักผ่อนอยู่ แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นตรงหน้าของเขา: ฉินเฟิง ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย
หลิวลานเมิ่ง
เสียงนี้ ฉินเฟิงฟังเสียงนี้ออก ก็คือหลิวลานเมิ่ง ลืมตาขึ้น ผมลอน ถึงประมาณเอว แต่งหน้าบางเบา เป็นความต้องการของมืออาชีพ สวมชุดOLทั้งตัว และรูปร่างปีศาจนั่น เห็นได้ชัดว่าเฉียบคมและชัดเจน
เนื่องจากว่าเป็นหัวหน้าฝ่ายของฝ่ายประชาสัมพันธ์ และเป็นหน้าเป็นตาของบริษัท
อะไร?
ฉินเฟิงขมวดคิ้ว
สำหรับเขาผู้หญิงอื่นนอกจากอิ่นซิน ก็ไม่ค่อยจะสนใจ
เปลี่ยนเสื้อผ้า ไปรอฉันที่ร้านกาแฟตรงโน้น
หลิวลานเมิ่งชี้ไปที่ร้านกาแฟอีกฝั่งหนึ่ง ท่าทางค่อนข้างหยิ่งผยอง
หลังจากที่พูดจบ ไม่รอให้ฉินเฟิงตอบ เธอก็กลับไปในบริษัท เห็นชัดได้ว่าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเช่นกัน บริษัทมีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นพิเศษ เนื่องจากว่าชุดOL ก็มีไว้สำหรับทำงาน
เธอต้องการคุยเรื่องส่วนตัวกับฉินเฟิง
ฉินเฟิง นายโชคดีมากนะ ผู้หญิงคนนี้ เดินเข้ามาฉันถึงพบว่า เป็นหัวหน้าฝ่ายของฝ่ายประชาสัมพันธ์ สาวสวยอันดับหนึ่งของบริษัทพวกเรา วันนี้ชวนนายทานอาหาร
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ซื่อๆคนหนึ่ง พูดใส่ฉินเฟิงด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกคน ก็พูดเสริมตามว่า: ผู้หญิงคนนี้ สุดยอดมากจริงๆ
พวกนายไม่รู้สึกว่า ผู้หญิงคนนี้น่ารำคาญมากเหรอ?
ฉินเฟิงถามกลับประโยคหนึ่ง
น่ารำคาญ นี่เป็นสาวสวยอันดับหนึ่งของบริษัทเลยนะ จะน่ารำคาญได้ยังไง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองตอบกลับ
เอาเถอะ
ฉินเฟิงไม่สนใจพวกเขา พวกเขาไม่เคยสัมผัสกับหลิวลานเมิ่งมาก่อน ไม่รู้ว่าหลิวลานเมิ่งเป็นคนแบบไหน แต่ว่าพูดตามตรง หลิวลานเมิ่งก็ยืนอยู่ในตำแหน่งของอิ่นซิน
ต่อจากนั้น ฉินเฟิงยังคงพิงเก้าอี้ และหลับตาพักผ่อนต่อไป
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเฝ้าดูอยู่ครู่หนึ่ง เหลือเพียงหนึ่งคนที่พักผ่อน และตอนนี้ก็เป็นเวลาพักผ่อนของเขา
หลังจากที่ผ่านไปสิบนาที หลิวลานเมิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดหนึ่ง เดินออกมาจากในบริษัท ถึงห้องรักษาความปลอดภัย จากนั้นก็พบว่า ฉินเฟิงไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า ขมวดคิ้วในทันทีและพูดว่า: เฮ้ย ฉันบอกให้นายไปเปลี่ยนเสื้อไม่ใช่เหรอ?
ฉันไม่มีชื่อเหรอ?
ฉินเฟิงถึงขนาดไม่อยากไม่ลืมตาด้วยซ้ำ
นี่นาย! ก็ได้ ฉินเฟิง ฉันให้นายไปเลี่ยนเสื้อผ้าไม่ใช่เหรอ? ทำไมนายยังอยู่ที่นี่
หลิวลานเมิ่งโกรธจนหน้าขึ้นลง แต่ว่ายังทนไหว
ตอนนี้เป็นเวลา17:55 น. เลิกงานหกโมง ฉันยังไม่เลิกงาน จะออกจากที่ทำงานได้ยังไง อีกอย่าง หลิวลานเมิ่ง เธอออกก่อนเวลา ออกก่อนห้านาที ก็ออกก่อนเวลาเหมือนกัน ไม่มีกฎเกณฑ์ไม่สามารถทำอะไรที่สำเร็จได้
ฉินเฟิงค่อยๆลืมตาขึ้น
ทำไม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างนายยังจะยุ่งเรื่องหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์อย่างฉัน อย่างงั้นเหรอ ไม่มีกฎเกณฑ์ นายคิดว่าบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปแห่งนี้บ้านนายเป็นคนเปิดงั้นเหรอ นายคิดว่านายเป็นประธานเหรอ นายพูดอะไร ก็ต้องเป็นแบบนั้นเหรอ?
ในดวงตาของหลิวลานเมิ่งเต็มล้นไปด้วยความโกรธ
และอยู่ที่ข้างๆ หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยคนใหม่ที่เดินผ่านมา พยักหน้า แอบพูดในใจว่า บริษัทนี้เขาเป็นคนเปิดจริงๆ ตอนนั้นเฝิงกางประธานเฝิง ก็เคารพด้วยความเกรงอกเกรงใจ
ต่อมายังออกคำสั่ง ห้ามเขาพูดจาส่งเดชไปทั่วด้วย
หลังจากครั้งนั้น พวกเขาก็รู้ว่า นี่เป็นทายาทเศรษฐีที่ปิดบังตัวคนหนึ่ง แม้ว่าจะไม่ใช่ประธาน แต่อาจจะมีอำนาจมากกว่าประธาน ไม่แน่อาจจะเป็นประธานกรรมการ และบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปนี้ส่วนใหญ่เป็นของเขาจริงๆ
ครั้งก่อนหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยถูกไล่ออกในลักษณะนี้ เขาก็ย่อมไม่มีทางซ้ำรอยเดิม ก้าวไปข้างหน้าในทันที และทำหน้าเคร่งขรึม: หัวหน้าฝ่ายหลิว ออกก่อนห้านาทีก็คือออกก่อนห้านาที ผมจะไปรายงานคุณ
แก!
หลิวลานเมิ่งมองไปที่หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยคนใหม่ ในดวงตามีความไม่พอใจเล็กน้อย ไม่รู้จักกาลเทศะจริงๆ ก็แค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่ง ยังมายุ่งเรื่องของเธอ
หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยคนก่อนเชื่อฟังกว่า และรู้จักกาลเทศะ
ก็ไม่รู้ว่า ทำไมถึงโดนไล่ออก เธอไปถามประธานเฝิง ก็ไม่ได้ตอบเธอ
และหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยมองไปที่หลิวลานเมิ่งคนนี้ ส่ายหน้าเล็กน้อย พร้อมกับตลก แอบพูดในใจว่า หลิวลานเมิ่ง เส้นทางเดินของเธอยิ่งอยู่ยิ่งแคบลงแล้ว ด่าทอประธานอยู่ที่นี่
ยังอยากที่จะทำงานอยู่ในบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปอีกหรือเปล่า
หลิวลานเมิ่งอยากจะเดินจากไป แต่นึกเรื่องราวของวันนี้ขึ้นมาได้ ก็ยังอดทนไว้: ห้านาทีก็ห้านาที ฉันรอนาย
ต่อจากนั้น ก็ยืนอยู่ข้างๆด้วยใบหน้าที่ดุร้าย และรออยู่
พี่ชาย สุดยอดมากนะ ไม่นึกเลยว่าจะสามารถทำให้สาวสวยประชาสัมพันธ์คนนี้ รอพี่อยู่แบบนี้ได้ ฉันยังคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะเดินออกไป คาดไม่ถึงว่าเสน่ห์ของพี่จะแรงขนาดนี้
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยข้างๆพูดกระซิบกับฉินเฟิง
แค่คุยธุระเท่านั้นเอง ฉันแต่งงานแล้ว
ฉินเฟิงส่ายหน้า ไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้
มีผู้ชายไหนบ้างที่ไม่นอกลู่นอกทาง วางใจเถอะ เรื่องนี้ พวกเราไม่มีทางบอกพี่สะใภ้อย่างแน่นอน
ทั้งสองขยิบตาให้ฉินเฟิง
ฉินเฟิงไม่ได้ตอบอีก บนโลกนี้ให้ภรรยาที่ดีขนาดนี้กับเขา เขายังจะแอบไปมีผู้หญิงคนอื่น นั่นเป็นเรื่องอะไรกันเนี่ย ตอนนี้เขาพอใจมากแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ไม่ใช่คนที่ทำอะไรนอกลู่นอกทางด้วย สิ่งที่เขายึดมั่นมาโดยตลอดคือ แน่ใจแล้ว ก็คือตลอดชีวิต
เอาล่ะ ครบห้านาทีแล้ว ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้
หลิวลานเมิ่งดูเวลามาโดยตลอด หลังจากที่ถึงเวลา ก็ส่งสัญญาณให้ฉินเฟิงทันที
ทำไมจะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย ชุดรักษาความปลอดภัยของฉันนี้ เจอผู้คนไม่ได้เหรอ?
ฉินเฟิงลุกขึ้นอย่างปล่อยตัวตามสบาย เดินออกจากห้องรักษาความปลอดภัย และเดินไปทางร้านกาแฟข้างบริษัท: ถ้าจะคุยธุระ เร็วๆหน่อย วันนี้ฉันยังต้องไปรับลูก
สารเลวเอ๊ย
หลิวลานเมิ่งเกลียดเป็นอย่างมาก ใช้เท้าออกแรงกระทืบบนพื้น แต่กระทืบสองครั้ง พบว่าเท้าของตัวเองเจ็บมาก สิ่งนี้ก็ยิ่งทำให้เธอโกรธมาก เมื่อมองไปที่ชุดรักษาความปลอดภัยของฉินเฟิงนั้น เธอก็ยังตามไป
เรื่องราวของวันนี้ จำเป็นต้องพูดคุยกัน
ร้านกาแฟแห่งนี้ค่อนข้างหรูหรา คนไปมาก็ล้วนแต่เป็นชนชั้นสูงที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ล้วนแต่แต่งตัวดูดี ผู้ชายมีความเป็นสุภาพบุรุษ ผู้หญิงก็แต่งตัวสวย ก็เหมือนราวกับหลิวลานเมิ่ง
และฉินเฟิงในเครื่องแบบรักษาความปลอดภัย ยังเป็นเพียงคนเดียวด้วย
เมื่อเผชิญกับสายตาส่วนใหญ่ ฉินเฟิงไม่ได้สะทกสะท้านอะไร ต่อหน้ากองทัพสามแสนคน จิตใจของเขาก็ไม่เคยสับสนวุ่นวายมากมาก่อน นับประสาอะไรกับตอนนี้ ตอนที่จิตใจสับสนวุ่นวายเพียงครั้งเดียว ยังเป็นตอนที่เผชิญหน้าอิ่นซินกับฉินกั่วกั่ว
แต่ว่าจิตใจของเขาไม่สับสนวุ่นวาย ไม่ได้หมายความว่าหลิวลานเมิ่งที่อยู่ตรงหน้าไม่สับสนวุ่นวาย ตอนนี้หลิวลานเมิ่งแทบอยากจะหาที่ดินมุดหนีไป