เทพบุตร ทวงแค้น / เทพศึกมังกรหวนคืน - บทที่ 76 บริษัทซานหยวนกรุ๊ปจะล้มละลายแล้ว
รีบโทรศัพท์ไปหาหลี่เทียนเฉิง
อิ่นป่ายครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ และพูดกับอิ่นเสี้ยงสวี่ทันที
เงินจำนวนสามร้อยล้านหยวน ตอนนี้ยังอยู่ในมือของหลี่เทียนเฉิง ถ้าทำโปรเจกต์นั้น แล้วได้เงินทุนสามร้อยล้านหยวนเข้ามา และทำผลกำไรร่วมกัน แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรอีกแล้ว
เงินค่าปรับผิดสัญญาตั้งสามสิบล้านหยวน
แต่ตอนนี้บริษัทของพวกเขามีเงินสดเพียงแค่ยี่สิบล้านหยวน ถ้าขายทรัพย์สินของบริษัททั้งหมดแล้วเอาเงินไปชดใช้ค่าผิดสัญญา บริษัทของพวกเขาคงต้องละลายอย่างแน่นอน ตอนนี้คงต้องใช้เงินสามร้อยล้านหยวนนั่นแล้ว
ได้
อิ่นเสี้ยงสวี่รับผิดชอบการเจรจาภายนอกของบริษัทซานหยวนกรุ๊ป ซึ่งเป็นงานด้านเดียวกับหลิวลานเมิ่ง เธอรีบโทรศัพท์ออกไป หลังจากที่อีกฝ่ายรับสายเธอก็พูดทันที: บอสหลี่ คือเรื่องเป็นแบบนี้……ตอนนี้พวกเราต้องการเงินบางส่วนเข้ามาลงทุนในบริษัทของเรา เพื่อเอาเงินจำนวนนี้ไปอุดรูรั่วของบริษัท
รูรั่ว? อุดรูรั่วของบริษัท ทำไมฉันต้องเอาเงินของฉันไปอุดรูรั่วของบริษัทพวกคุณด้วย
ในสายโทรศัพท์มีคำพูดเปลี่ยนใจของหลี่เทียนเฉิงดังออกมา
หลังจากนั้น ก็มีเสียงของหลี่เทียนเฉิงดังขึ้นอีกครั้ง: สามร้อยล้านหยวน คุณคิดว่าฉันโง่เหรอ ทำไมฉันต้องเอาเงินไปลงทุนกับบริษัทพังๆของพวกคุณด้วย? ตอนนี้โปรเจกต์นั้นของพวกคุณก็ถูกระงับแล้ว ทำธุรกิจแบบขาดทุน ฉันไม่เอาด้วยหรอก ฉันจะไม่ลงทุนกับบริษัทของคุณแม้แต่บาทเดียว
เมื่อพูดจบ โทรศัพท์ก็ถูกตัดสายทันที
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาไม่กล้าทำแบบนี้อยู่แล้ว ถ้าก่อนหน้านี้บริษัทซานหยวนกรุ๊ปขอเงินลงทุนกับเขาหนึ่งร้อยล้านหยวน เขาก็จะยอมควักออกมาแต่โดยดี แต่เขาได้รับข่าวมาว่าอิ่นซินโดนไล่ออกจากบริษัทซานหยวนกรุ๊ปแล้ว
ทำให้เขารู้สึกดีใจมากๆ
ในตอนนั้น คนๆนั้นเคยพูดไว้ว่า เขาได้ล่วงเกินอิ่นซิน
ในเมื่ออิ่นซินไม่ได้อยู่ที่บริษัทซานหยวนกรุ๊ปแล้ว ถ้างั้นบริษัทซานหยวนกรุ๊ปก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขา บริษัทซานหยวนกรุ๊ปก็เป็นแค่บริษัทเล็กๆเท่านั้น
อิ่นเสี้ยงสวี่จับโทรศัพท์ไว้ เธอยังไม่ทันได้ตอบอะไรเลยก็โดนปฏิเสธแล้ว จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นไปมองทุกคนและพูด: หลี่เทียนเฉิงตอบปฏิเสธแล้ว บอกว่าจะไม่ลงทุนกับบริษัทของพวกเราแม้แต่บาทเดียว
เกิดอะไรขึ้นกันแน่ โปรเจกต์นี้ใครเป็นคนรับผิดชอบในการเจรจา?
ในเวลานี้ คุณท่านอิ่นเดินเข้ามา ใบหน้าที่แก่ชราของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ: แค่มองก็รู้ว่าพวกเราล่วงเกินผิดใจกับอีกฝ่าย ใครเป็นคนเจรจาโปรเจกต์นี้ เดินออกมา ดูสิว่ายังมีโอกาสเจรจาใหม่อีกครั้งไหม
สายตาของคุณท่านอิ่นมองไปที่ทุกคน
แต่ไม่มีคนยืนขึ้นเลย
ทำไม กลัวโดนลงโทษเหรอ?
คุณท่านอิ่นมองไปรอบๆ แต่เขาพบว่าไม่มีใครขยับตัวเลย ทำให้เขาขมวดคิ้วขึ้นมาทันที: พวกคุณไม่มีใครมีความรับผิดชอบบางเหรอ? ฉันแค่ต้องการให้คนที่ไปเจรจาโปรเจกต์นี้ยืนขึ้นมา ฉันไม่ได้ต้องการจะด่าหรือต่อว่าเขา ตอนนี้พวกเราต้องการทราบว่าเรื่องที่เกิดขึ้น มันผิดพลาดตรงไหนกันแน่
ในห้องก็เงียบเหมือนเดิม
หลังจากผ่านไปสักครู่ มีคนเห็นสีหน้าของคุณท่านอิ่นเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ ก็มีเสียงเบาๆพูดออกมา: โปรเจกต์นี้ อิ่นซินเป็นคนที่ไปเจรจา
อิ่นซิน!
สีหน้าของคุณท่านอิ่นตกตะลึง เป็นอิ่นซินอีกแล้ว เขาไม่ได้มาที่บริษัทระยะเวลาหนึ่งแล้ว ทำให้เขาลืมเรื่องโปรเจกต์นี้ไปเลย แต่เขาคาดคิดไม่ถึงจริงๆว่าการลงทุนสามร้อยล้านหยวน ก็เป็นอิ่นซินที่ไปเจรจา
คุณท่านอิ่นขมวดคิ้วทันที
จากนั้น คุณท่านอิ่นถอนหายใจและพูด: อ้อ ไปยืมเงินกับอสังหาริมทรัพย์หยวนฟาง พวกเรายังทำธุรกิจกับพวกเขาอยู่ น่าจะยืมเงินสิบล้านหยวนได้ไม่ยาก
ในด้านผู้จัดจำหน่าย ก็คงเหลือแค่ตู้ซื่อกรุ๊ปกับอสังหาริมทรัพย์หยวนฟางแล้ว
สำหรับอสังหาริมทรัพย์หยวนฟาง ครั้งที่แล้วพวกเขาไม่ได้ทิ้งความร่วมมือกับบริษัทซานหยวนกรุ๊ปในระหว่างที่บริษัทฟางซื่อกรุ๊ปกลั่นแกล้งและขึ้นบัญชีดำกับบริษัทซานหยวนกรุ๊ป พวกเขาเป็นพันธมิตรที่ดีของพวกเราและไม่ทอดทิ้งพวกเราในช่วงเวลานั้น
ตอนนั้นพวกเขายังยืมเงินให้พวกเราห้าล้านหยวนด้วย
อสังหาริมทรัพย์หยวนฟางเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ถ้าขอยืมเงินสิบล้านหยวน คงไม่ใช่เรื่องยาก
ได้
อิ่นเสี้ยงสวี่รีบโทรศัพท์ไปหาอสังหาริมทรัพย์หยวนฟางทันที แต่เมื่อโทรไปสักพัก สีหน้าของเธอก็ดูแย่มากๆและก็วางสาย พูดกับคุณท่านอิ่นว่า: คุณปู่ พวกเขาบอกว่าให้พวกเราคืนเงินห้าล้านหยวนที่ยืมไปก่อนหน้านี้ภายในวันนี้ ไม่งั้นพวกเขาจะฟ้องบริษัทเรา
อะไรนะ?
คุณท่านอิ่นตกตะลึงอีกครั้ง หลังจากหายใจลึกๆสองครั้ง เขาก็รีบพูดทันที: อสังหาริมทรัพย์หยวนฟางมีความสัมพันธ์ที่ดีกับบริษัทของพวกเราไม่ใช่เหรอ แม้แต่การชำระหนี้ครั้งที่แล้ว ยังให้ดอกเบี้ยพวกเราสามล้านหยวนเลย ทำไมตอนนี้ถึงบอกให้เราชำระหนี้ละ
เขารู้สึกถึงความผิดปกติทันที
คุณปู่ ครั้งที่แล้วที่คุณไปก็เป็นแค่ไปเป็นพิธีเฉยๆ คุณลืมไปแล้วเหรอ โปรเจกต์ของอสังหาริมทรัพย์หยวนฟาง ก็เป็นอิ่นซินเป็นคนไปเจรจาจนสำเร็จ
คนที่อยู่ด้านล่าง พูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ
แล้วตระกูลตู้ที่เป็นผู้จัดจำหน่ายละ?
ก็เป็นอิ่นซินไปเจรจาจนสำเร็จเหมือนกัน
ครั้งที่แล้วคุณท่านอิ่นไม่ได้มา และไม่รู้เรื่องของตู้ซื่อกรุ๊ป เรื่องทั้งหมดนี้ อิ่นป่ายก็ไม่ได้บอกให้เขาทราบ เขารู้แค่ว่าบริษัทของพวกเขาร่วมมือทำธุรกิจกับตู้ซื่อกรุ๊ป
แต่ตอนนี้เห็นได้อย่างชัดเจน เรื่องทั้งหมดนี้อิ่นซินเป็นคนจัดการทั้งหมด
หรือว่าบริษัทขาดอิ่นซินไป ก็ไม่สามารถดำเนินการได้แล้ว?
คุณท่านอิ่นมองคนเหล่านี้ เขาทุบไม้เท้าตัวเองและรู้สึกหดหู่ในใจ: ร่วมมือทำธุรกิจกับบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ป การเข้ามาลงทุนของบริษัทชิ่งหยางกรุ๊ป การร่วมมือทำธุรกิจกับอสังหาริมทรัพย์หยวนฟาง การร่วมมือกับตู้ซื่อกรุ๊ป เรื่องทั้งหมดนี้อิ่นซินเป็นคนจัดการ แล้วพวกคุณนั่งทำอะไรอยู่?
……
ทุกคนในห้องต่างเงียบและไม่กล้าพูดอะไร
พวกเขามีทำงานบ้าง แต่เมื่อเทียบกับอิ่นซิน งานที่พวกเขาทำกลายเป็นเรื่องเล็กๆไปเลย และพวกเขาก็อายและไม่กล้าพูด และตอนที่เธออยู่ในบริษัท พวกเขากลั่นแกล้งอิ่นซินมาโดยตลอด เอางานที่ทำยากที่สุดโยนไปให้เธอจัดการคนเดียว
แต่คาดคิดไม่ถึงจริงๆ เธอจะสามารถทำงานทุกอย่างได้สำเร็จและยอดเยี่ยม
พวกคุณยังมีวิธีอื่นอีกไหม?
คุณท่านอิ่นมองอิ่นป่ายด้วยสีหน้าเย็นชา และมองหน้าอิ่นเสี้ยงสวี่และคนอื่นๆด้วย
……
ทั้งห้องยังคงเงียบสงัด
ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องหาเงินมาลงทุนให้ได้สามสิบล้านหยวน แต่ตอนนี้พวกเขาไม่มีเงินสามสิบล้านหยวน และเงินจำนวนนี้ก็เป็นเงินค่าปรับที่ผิดสัญญา ไม่มีใครโง่ขนาดนั้น ที่จะยอมเอาเงินจำนวนนี้มาลงทุน
ถ้าอิ่นซินยังอยู่ในบริษัท เรื่องทั้งหมดก็อาจจะเป็นไปได้
ในเวลานี้ ทุกคนคิดถึงอิ่นซินทันที
ทำพลาดไปจริงๆ
ในใจของทุกคนคิดถึงคำนี้ขึ้นมาทันที ก่อนหน้านี้พวกเขาดีใจมากๆที่สามารถไล่อิ่นซินออกจากตระกูลอิ่น และไล่เธอออกจากบริษัทซานหยวนกรุ๊ป แต่คาดคิดไม่ถึงจริงๆ ความร่วมมือกับบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปในครั้งนี้ มันกลับมีปัญหา
คนทั่วไปเขาไม่สนใจว่าใครจะเป็นคนที่มาเซ็นสัญญา เขาแค่สนใจแค่ว่าบริษัทไหนมาเซ็นสัญญาเท่านั้น
สำหรับนักธุรกิจ สิ่งที่พวกเขาต้องการคือผลประโยชน์
แต่ไม่รู้เป็นเพราะอะไร อิ่นซินคนนี้ ไม่รู้เธอดวงดีมาจากไหน ทำไมเธอถึงโชคดีมากขนาดนี้ เธอแค่ส่งเหล้าขาวของหนิวหลันซานให้เขาเพียงขวดเดียว เหมือนแมวตาบอดที่เจอหนูที่ตายแล้ว และเธอก็ทำให้ประธานของบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปถูกใจเธอ
เขายังบอกอีกว่าต้องให้อิ่นซินเป็นคนมาเซ็นสัญญาฉบับนี้เท่านั้น
แต่อิ่นซินได้ถูกพวกเขาไล่ออกจากบริษัทซานหยวนกรุ๊ปไปแล้ว
ควรทำยังไงดี?
อิ่นเสี้ยงสวี่หันไปมองหน้าอิ่นป่ายด้วยสีหน้าประหม่า ถ้าจัดการเรื่องนี้ไม่ดี บริษัทซานหยวนกรุ๊ปก็ต้องล้มละลายอย่างแน่นอน
หรือไม่ เธอไปหาตู้ต้วนเทียนไหม?
อิ่นป่ายพูดกับอิ่นเสี้ยงสวี่ด้วยความตื่นเต้นและประหม่า
ก่อนหน้านี้เขาเคยพูดว่าให้ใช้แผนสาวงาม แต่ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน เมื่อฟางเย้นแขนขาหักกลายเป็นคนพิการ การแก้แค้นของบริษัทฟางซื่อกรุ๊ป และสุดท้ายเรื่องการล้มละลายของบริษัทฟางซื่อกรุ๊ป ทำให้เขาลืมเรื่องนี้ไปเลย
แต่ตอนนี้ วิธีนี้คือทางเดียวที่จะช่วยบริษัทฟางซื่อกรุ๊ปได้
ฉันไปหามาแล้ว ฉันไปหาเขาตั้งแต่เมื่อคืน แต่อีกฝ่ายไม่ยอมเจอหน้าฉันเลย จากนั้นฉันก็คิดว่าวิธีจนไปอยู่ต่อหน้าเขา ฉันได้ถอดเสื้อผ้าได้แค่ครึ่งเดียว ก็โดนเขาตบหน้าทันที
อิ่นเสี้ยงสวี่จับหน้าของตัวเองและรู้สึกน้อยใจ เนื่องจากโดนตบหน้า ทำให้เธอเสียหน้ามากๆ ดังนั้นเธอก็ไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับอิ่นป่าย
เธอคิดไม่ออกจริงๆ เธอไม่ได้สวยน้อยไปกว่าอิ่นหนิงหยู่แม้แต่นิดเดียว รูปร่างก็เซ็กซี่ มีเสน่ห์ เป็นคนฉลาดและมีเล่ห์เหลี่ยม แต่ตู้ต้วนเทียนไม่มองตัวเองแม้แต่นิดเดียว
เธอยอมรับว่าตัวเองผิดหวังมากๆ