เทพบุตร ทวงแค้น / เทพศึกมังกรหวนคืน - บทที่ 77 ตระกูลอิ่นยอมจำนน
อะไรนะ!
อิ่นป่ายตกใจมากๆ ตู้ต้วนเทียนคนนั้นเป็นผู้ชายเพลย์บอยไม่ใช่เหรอ ทำไมเขาถึงตบตีผู้หญิง ?
เขาควรอ่อนโยนกับผู้หญิงไม่ใช่เหรอ
ตอนนี้ควรทำยังไงดี?
อิ่นเสี้ยงสวี่ถามอิ่นป่ายอีกครั้ง
สายตาของทุกคนจ้องมองไปที่อิ่นป่าย เขาเป็นผู้รักษาการตำแหน่งประธานบริษัท และคนส่วนใหญ่ก็เคยพูดโอ้อวด แต่อิ่นป่ายไม่สนใจสายตาของทุกคน และมองไปที่คุณท่านอิ่น: คุณปู่ คุณมีวิธีจัดการเรื่องนี้ไหม?
เขาเหมือนโยนลูกบอล โยนปัญหาไปให้อีกฝ่าย
อิ่นป่ายก็ไม่อยากทำแบบนี้ แต่เขาไม่มีทางเลือกจริงๆ ถ้าบริษัทฟางซื่อกรุ๊ปยังอยู่ละก็ เขาอาจจะส่งตัวอิ่นซินส่งให้อีกฝ่าย แลกกับให้อีกฝ่ายช่วยลงทุนกับบริษัทของเขาบ้าง
แต่ตอนนี้บริษัทฟางซื่อกรุ๊ปได้ล้มละลายไปแล้ว
และมีข่าวรั่วไหลออกมาว่าประธานของบริษัทฟางซื่อกรุ๊ปได้เสียชีวิตแล้ว
และคุณท่านอิ่นที่เป็นผู้นำตระกูลอิ่น ตอนนี้เขาขมวดคิ้วและยังหาวิธีจัดการเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะเขาก็ไม่มีทางเลือกเหมือนกัน ดังนั้นเขาก็ถามคนอื่นๆ: พวกคุณทั้งหมด ช่วยเสนอวิธีแก้ไขเรื่องนี้หน่อย?
……
ทุกคนนิ่งเงียบ ไม่ใช่พวกเขาไม่อยากพูด แต่เป็นเพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไร พวกเขาก็หาวิธีแก้ไขปัญหาไม่ได้จริงๆ
บางที พวกเราลองไปเรียกอิ่นซินกลับมาไหม
ท่ามกลางทุกคน มีเสียงนี้ดังขึ้นมา
แต่ไม่มีใครพูดเห็นด้วยเลย เพราะเมื่อก่อนพวกเขาทั้งหมดเป็นคนไล่อิ่นซินออกไป ไล่ออกจากตระกูลอิ่น ไล่เธอออกจากบริษัทซานหยวนกรุ๊ป ตอนนี้ต้องไปเชิญเธอกลับมาเหรอ?
นี่มันเป็นเรื่องอะไรกันแน่
ถึงแม้พวกเขาจะไปเชิญอิ่นซินกลับมา แต่อิ่นซินจะยอมกลับมาเหรอ?
ถึงแม้พวกเขาไปอ้อนวอนก็คงไม่มีประโยชน์
ทันใดนั้น มีพนักงานฝ่ายกฎหมายของบริษัทได้รับสายโทรศัพท์สายหนึ่ง หลังจากนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปและพูดทันที: บริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปฟ้องร้องบริษัทของพวกเราแล้ว และเรียกร้องให้พวกเราจ่ายค่าปรับที่ผิดสัญญาเดี๋ยวนี้!
พวกเขาใจร้อนเกินไปหรือเปล่า!
ทุกคนใจสั่นสะท้านทันที
เขาพึ่งจากไปไม่นาน ก็ฟ้องร้องบริษัทของพวกเราเลย
สัญญาฉบับนี้อยู่ตรงนี้ และเขียนไว้อย่างชัดเจน ถ้าหากบริษัทของเราผิดสัญญาและต้องจ่ายค่าปรับ พวกเราต้องหาเงินค่าปรับที่ผิดสัญญาให้ได้ภายในสามวัน มิฉะนั้น บริษัทของเราต้องล้มละลายอย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้ พวกเราจะหาเงินสามสิบล้านหยวนจากไหน คุณคิดว่าเงินจำนวนนี้มันจะตกลงมาจากสวรรค์เหรอ
ตอนนี้มีเพียงวิธีเดียวนั้นก็คือไปหาอิ่นซิน ไปขอร้องให้เธอยอมกลับมา เพราะสัญญาเหล่านี้เธอเป็นคนจัดการทั้งหมด ถ้าเธอยอมกลับมา บริษัทของเราก็จะผ่านพ้นวิกฤตนี้ทันที
ในที่สุดทุกคนก็ปรึกษากันและได้ข้อสรุปว่าต้องไปขอร้องอิ่นซินกลับมา
ทำไมถึงเป็นแบบนี้
สีหน้าของอิ่นป่ายมืดมนมากๆ เขากำมัดทั้งสองมือไว้แน่น เขาทำทุกวิถีทางกว่าจะได้ขึ้นมานั่งยังตำแหน่งประธานบริษัท แต่ตอนนี้เขากลับเจอเรื่องแบบนี้
เขาต้องไปอ้อนวอนให้อิ่นซินกลับมา?
แค่คนไม่สำคัญอย่างอิ่นซิน เธอคู่ควรที่ให้ตัวเองไปเชิญเหรอ?
ในเวลานี้ คุณท่านอิ่นใช้ไม้เท้ากระแทกพื้น สีหน้าของเขาดูแย่มากๆ พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งเล็กน้อย: มีวิธีเดียวคือต้องไปหาอิ่นซินแล้ว นอกจากวิธีนี้ ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว อิ่นป่าย คุณไปเชิญเธอกลับมา
ฉันเหรอ?
อิ่นป่ายอึ้งไปเลย
อืม ถ้าคุณไปเชิญ เธอจะได้เห็นความจริงใจที่พวกเรามีต่อเธอ คุณท่านอิ่นพูด
ฉันไม่ไป
อิ่นป่ายส่ายหัวและพูดปฏิเสธ
ก่อนหน้านี้เธอพยายามอย่างหนักเพื่อกลั่นแกล้งอิ่นซิน แต่ตอนนี้กลับให้เขาไปขอโทษเหรอ?
อิ่นป่าย คุณเป็นคนของตระกูลอิ่นหรือเปล่า เพื่อตระกูลอิ่นคุณเสียสละหน่อยไม่ได้เหรอ ก็แค่ไปกล่าวคำขอโทษเฉยๆ คุณก็ไม่ได้เสียประโยชน์อะไร จริงๆแล้ว ตอนนี้คุณกำลังทำเพื่อตระกูลอิ่น
คุณใช้นามสกุลอิ่นไม่ใช่เหรอ ทำเพื่อตระกูลหน่อยไม่ได้เหรอ
คนที่อยู่ข้างๆก็ด่าออกมาทันที และก็พูดด่าออกมาทีละคน
ในเวลานี้ อิ่นป่ายโดนด่าจนหน้าซีด ในที่สุดเขาก็โบกมือและพูด: ได้ ฉันไปเอง
เสี้ยงสวี่ก็ต้องไปด้วย พวกคุณต้องคิดหาทุกวิถีทางเพื่อให้อิ่นซินอภัยให้พวกเรา ความอยู่รอดของบริษัทขึ้นอยู่กับพวกคุณสองคนแล้ว
ในที่สุด คุณท่านอิ่นก็ถอนหายใจ และให้อิ่นเสี้ยงสวี่ไปด้วย
เพราะพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว
ถ้าไม่ยอมไป บริษัทซานหยวนกรุ๊ปก็จะล้มละลาย ถ้าล้มละลาย ตระกูลอิ่นก็จะล้มละลายแน่นอน
……
ในเวลานี้ อิ่นหยวนและคนอื่นๆกำลังนั่งอยู่ในห้องรับแขก อิ่นซินอุ้มฉินกั่วกั่วอยู่ จางลี่กำลังนั่งแต่งหน้าของตัวเอง และฉินเฟิงสวมเสื้อกันเปื้อนและกำลังถูพื้น
เสี่ยวซิน จากนี้ไปจะทำยังไงดี?
อิ่นหยวนเงยหน้ามองไปที่อิ่นซิน: พวกเราโดนไล่ออกจากตระกูล บริษัทซานหยวนกรุ๊ปก็ไล่พวกเราออกด้วย ตำแหน่งของคุณก็หายไปแล้ว ตอนนี้พวกเราเหลือแค่หุ้นสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว
ฉันรู้
อิ่นซินนวดหน้าผากของตัวเองและสีหน้าเธอก็ดูโศกเศร้า
สถานการณ์ในตอนนี้ มันยุ่งยากมากๆ เดิมทีภายในครอบครัวก็ไม่ค่อยมีเงิน จางลี่ที่เป็นแม่ของเธอ เป็นคนที่ชอบของแบรนด์เนมมากๆ ทุกเดือนต้องซื้อของแบรนด์เนมหลายหมื่นหยวน และบางเดือนก็อาจจะซื้อของแบรนด์เนมเป็นแสนหยวน
เดิมทีเธอและอิ่นหยวนยังมีงานให้ทำ แต่ตอนนี้พวกเขาโดนไล่ออกจากตระกูลและตกงานแล้ว
ตอนนี้พวกเราโดนตระกูลอิ่นทอดทิ้งแล้ว
อิ่นหยวนจับศีรษะของตัวเอง ตอนนี้เขายังรับความจริงเรื่องนี้ไม่ได้ เขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับการสืบสกุลมากๆ เมื่อโดนไล่ออกจากตระกูล ทำให้เขายอมรับเรื่องนี้ไม่ได้
ฮ่าๆๆ ฉันคิดว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็เพราะฉินเฟิง ถ้าพวกเราไม่ล่วงเกินผิดใจกับบริษัทฟางซื่อกรุ๊ป พวกเราก็คงไม่เป็นแบบนี้
จางลี่โยนความผิดทั้งหมดฉินเฟิงและพูดด้วยความโกรธ
คุณแม่ คุณโทษสามีของฉันทำไม เขาทำเพื่อช่วยฉันไว้ และตอนนี้บริษัทฟางซื่อกรุ๊ปก็ล้มละลายไปแล้ว ปัญหาของพวกเราก็ไม่มีแล้ว เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเขา
อิ่นซินทำตัวเหมือนภรรยาที่แสนดี เธอยืนอยู่หน้าฉินเฟิงเพื่อปกป้องเขา
อันที่จริง เธอเป็นคนที่เจ็บปวดใจมากๆ เพราะบริษัทซานหยวนกรุ๊ปเป็นบริษัทที่เธอก่อตั้งขึ้นมากับมือตัวเอง บางครั้งเธอยังฝันว่าตัวเองได้กลับไปดำรงตำแหน่งประธานบริษัท แต่ตอนนี้เธอโดนไล่ออกจากบริษัทแล้ว
สำหรับเธอ เป็นเรื่องที่เธอรับไม่ได้จริงๆ
ซึ่งหมายความว่าเธอจะไม่มีวันได้กลับไปที่บริษัทซานหยวนกรุ๊ปอีกแล้ว
ถึงแม้จะไม่มีอะไรเลย แล้วยังไงล่ะ คนในตระกูลจะยอมยกโทษให้เธอเหรอ เธอยังอาละวาดที่บริษัท บอกว่าตระกูลอิ่นทำไม่ดีต่อเธอ เรื่องนี้เธอทรยศออกจากตระกูลเอง ถ้าตอนนั้นเธอยอมอ่อนข้อ สถานการณ์ของพวกเราอาจจะไม่เป็นอย่างนี้ก็ได้
อิ่นหยวนเงยหน้าขึ้นมาและมองไปที่อิ่นซินด้วยสีหน้าที่โกรธ
ถ้าตอนนั้นเธอยอมอ่อนข้อก็ไม่มีประโยชน์ จุดประสงค์ของพวกเขาก็คือไล่เสี่ยวซินออกมา
ฉินเฟิงที่อยู่ข้างๆพูดขัดจังหวะทันที
คุณมีสิทธิ์พูดเหรอ คุณมันก็แค่ผู้ชายกระจอกที่แต่งเข้าตระกูลผู้หญิง เป็นแมงดาที่มาเกาะผู้หญิงกินเท่านั้น
จางลี่พูดประชดใส่ฉินเฟิง จากนั้นก็พูดอีกว่า: ด้วยนิสัยของคนในตระกูล เธอไปอาละวาดขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะยอมให้เธอกลับเข้าตระกูลอีก จากนี้ไปพวกเราก็รีบๆขายหุ้นสิบเปอร์เซ็นต์นี้ได้แล้ว ฉันมีนักธุรกิจใจดี เขาต้องการหุ้นสิบเปอร์เซ็นต์นี้ เขายอมจ่ายสองล้านหยวน
จางลี่ชูนิ้วมือขึ้นสองนิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ
เมื่อคืนมีคนมาหาเธอ บอกว่าจะซื้อหุ้นที่อยู่ในมือของพวกเธอ เขายอมจ่ายสองล้านหยวน นี่เป็นราคาที่สูงมากๆแล้ว ถ้าขายหุ้นจริงๆ เธอก็จะสามารถซื้อกระเป๋าLVได้หลายๆใบ
ขายหุ้น? ฉันไม่ยอม!
อิ่นซินส่ายหัวทันที
ไม่ขายเหรอ? ทำไม เธอคิดว่าตัวเองยังสามารถกลับไปที่บริษัทซานหยวนกรุ๊ปเหรอ คุณไม่สามารถเอาตำแหน่งของประธานบริษัทคืนได้แล้ว เธอตัดใจได้แล้ว ตระกูลอิ่นไม่ยอมให้เธอกลับไปแน่นอน
จางลี่พูดหว่านล้อมอิ่นซิน
บางทีเธออาจจะได้กลับไปก็ได้ ฉินเฟิงพูด
ได้กลับไป? ฮ่าๆๆ มันเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อทะเลาะกันจนถึงขนาดนี้แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะยอมให้เสี่ยวซินกลับไป ฉินเฟิงคุณเป็นคนโง่หรือเปล่า คุณคิดว่าตระกูลอิ่นจะยอมให้เธอกลับไปเหรอ
ไม่ ไม่ได้ให้กลับไป บางทีพวกเขาอาจจะมาเชิญเธอกลับไปด้วยตัวเองก็ได้
ฉินเฟิงสะบัดไม้กวาดและพูด