เทพบุตร ทวงแค้น / เทพศึกมังกรหวนคืน - บทที่ 78 มาเชิญกลับไปด้วยตัวเอง
มาเชิญกลับไปด้วยตัวเอง? ฮ่าๆๆ คุณพูดล้อเล่นใช่ไหม
จางลี่หัวเราะออกมาทันที: ฉินเฟิง สมองของคุณมีปัญหาใช่ไหม หรือว่าทำงานบ้านมากจนเกินไป คุณเกิดภาพหลอนใช่ไหม คำพูดที่เสี่ยวซินเคยพูดไว้ได้ล่วงเกินผิดใจกับตระกูลอิ่นไปแล้ว และเธอก็ไม่สามารถเรียกคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา
คุณแม่ พูดจาเกรงใจหน่อยได้ไหม
อิ่นซินมองเห็นแม่ของตัวเอง เพราะเธอพูดจาแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เธอขมวดคิ้วและพูดออกมาทันที
ทำไมฉันต้องพูดเกรงใจ? เขาก็แค่ผู้ชายที่เป็นแมงดาและเกาะผู้หญิงกิน ฮ่าๆๆ ยังพูดว่าคนในตระกูลจะมาเชิญเธอกลับไปด้วยตัวเอง ถ้าคนในตระกูลมาจริงๆ ฉันจะกินไม้กวาดที่เขาถืออยู่
จางลี่ชี้ไปที่ไม้กวาดที่อยู่ในมือของฉินเฟิง
เธอรู้จักคนในตระกูลเป็นอย่างดี พวกเขาทุกคนหยิ่งผยองมากๆ และตอนนี้พวกเขาได้เปรียบ อยากให้พวกเขามาเชิญกลับไปด้วยตัวเอง มันเป็นไปไม่ได้
ก๊อกๆๆ!
แต่ในเวลานี้ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
ใครคะ?
จางลี่เดินไปข้างหน้า เปิดประตูด้วยหงุดหงิดเล็กน้อย ทันใดนั้นก็มีคนสองคนเดินเข้ามาจากประตู ทำให้อิ่นหยวนและคนอื่นๆอึ้งไปเลย
เพราะสองคนนี้คืออิ่นป่ายกับอิ่นเสี้ยงสวี่
ป้าสะใภ้ใหญ่
เมื่ออิ่นป่ายมองเห็นจางลี่ เขายิ้มด้วยความดีใจมากๆ เขายื่นกระเป๋าใบหนึ่งให้เธอทันที: ป้าสะใภ้ใหญ่ เนื่องจากฉันงานยุ่งมากๆ ก็เลยไม่มีเวลามาเยี่ยมคุณเลย นี่เป็นของเล็กๆน้อยๆที่ผมซื้อมาให้คุณ โปรดรับไว้ด้วย
LVรุ่น65 นี่เป็นกระเป๋าแบบใหม่เลยนะ
จางลี่มองเห็นกระเป๋าLVใบนั้น ทำให้ตาของเธอเป็นประกาย
อิ่นป่าย อิ่นเสี้ยงสวี่ พวกคุณมาทำไม?
อิ่นซินยืนขึ้นและมองไปที่พวกเขาสองคน สีหน้าของเธอไม่พอใจเล็กน้อย
เป็นเพราะสองคนนี้ กลั่นแกล้งเธอสารพัด ในที่สุดก็ไล่เธอออกจากบริษัทซานหยวนกรุ๊ป ไล่เธอออกจากตระกูลอิ่น
พวกเราเหรอ พวกเรามาขอโทษคุณด้วยตัวเอง และมาเชิญคุณกลับไป เพราะคุณปู่ไตร่ตรองและรู้สึกกว่าพวกเราทำเกินไป เพราะพวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ควรทะเลาะกันจนถึงขนาดนี้
อิ่นป่ายพูดเกลี้ยกล่อมไม่ยอมหยุด และพูดอย่างจริงจัง
อันที่จริง เขาไม่อยากมาที่นี่เลย ก่อนหน้านี้พวกเขาไล่อิ่นซินออก ตอนนี้พวกเขาต้องมาที่นี่เพื่อพูดอ้อนวอนและเชิญเธอกลับไป นี่มันเรื่องอะไรกันแน่
แต่พวกเขาไม่มีทางเลือกและจำเป็นต้องมา ถ้าไม่มาก็จะทำให้บริษัทล้มละลาย
ตอนนี้บริษัทซานหยวนกรุ๊ปเป็นสิ่งที่พวกเขาครอบครองอยู่ มันจะล้มละลายแบบนี้ไม่ได้
อะไรนะ คุณท่านอิ่นเสียใจมากๆที่ตัดสินใจผิด ตอนนี้อยากให้พวกเรากลับไปเหรอ?
อิ่นหยวนที่กำลังสูบบุหรี่ทีละม้วนๆ ยืนขึ้นด้วยความตื่นเต้น เขายังนึกว่าตัวเองไม่สามารถกลับไปอีกแล้ว เขาไม่คาดคิดเลยว่าจะเกิดเรื่องดีๆแบบนี้ ตอนนี้คุณท่านอิ่นเปลี่ยนใจอีกครั้ง
ใช่ครับ คุณปู่ครุ่นคิดมาหนึ่งคืนและรู้สึกผิดต่อพวกคุณมากๆ ดังนั้นเขาก็เลยให้พวกเรามาเชิญพวกคุณกลับไปที่บริษัทในวันนี้ สิ่งของพวกนี้เป็นคำขอโทษจากพวกเรา
อิ่นป่ายชี้ไปที่สิ่งของต่างๆจำนวนมากที่อยู่ด้านหลังของเขา
เมื่อชำเลืองมอง ก็รู้ว่าสิ่งของเหล่านี้มีราคาแพง มีมูลค่าแสนกว่าหยวน เหตุผลที่ซื้อของแพงขนาดนี้ก็เพื่อต้องการมัดใจจางลี่ไว้ เพื่อมัดใจของเธอ พวกเขาใช้เงินในการซื้อของไปจำนวนมาก
เกรงใจมากเกินไปแล้ว
จางลี่พูดจาอ่อนน้อมถ่อมตน แต่มือของเธอหยิบของขึ้นมาทีละชิ้นๆ เธอหัวเราะและดีใจมากๆ
ได้ พวกเรารับปาก……
อิ่นหยวนกำลังจะรับปาก แต่โดนอิ่นซินพูดขัดจังหวะทันที: เดี๋ยวก่อน ฉันไม่รับปากเรื่องนี้
เสี่ยวซิน เพราะอะไร นี่คือโอกาสที่พวกเราสามารถกลับไปที่ตระกูลอิ่นนะ อิ่นหยวนพูดกับอิ่นซินด้วยสีหน้ากังวล
แต่อิ่นซินกลับมีสีหน้าที่สงบ เธอกอดอกและนั่งอยู่บนโซฟา เผยรอยยิ้มที่มุมปาก: อิ่นป่าย เรื่องมันไม่ง่ายขนาดนั้นใช่ไหม ด้วยนิสัยของคุณ มาเพื่อขอโทษฉันเฉยๆเหรอ ฉันคิดว่าบริษัทน่าจะเกิดปัญหาใหญ่แล้วใช่ไหม
ถ้ามีความผิดปกติย่อมมีเรื่องอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้นแน่ๆ
อิ่นป่ายรู้จักอิ่นซินเป็นอย่างดี ดังนั้นอิ่นซินก็รู้จักอิ่นป่ายเป็นอย่างดีเช่นกัน อิ่นป่ายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอคนนี้เป็นคนที่หยิ่งผยองและอวดดี เมื่อเขาได้รับความโปรดปรานจากคุณท่านอิ่น และเขาก็ต้องการครอบครองบริษัทซานหยวนกรุ๊ปมาโดยตลอด และอยากจะไล่เธอออกจากบริษัทซานหยวนกรุ๊ปตลอดเวลา
ให้อิ่นป่ายมาขอโทษ?
และมาขอโทษด้วยตัวเอง และมาพูดอ้อนวอนฉัน?
บริษัทซานหยวนกรุ๊ปจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
ให้ตายสิ!
อิ่นป่ายแอบด่าอยู่ในใจ เขาไม่คาดคิดว่าอิ่นซินจะเดาเรื่องนี้ออก ถ้าไม่ใช่บริษัทเกิดวิกฤต เขาไม่ยอมมาที่นี่อย่างแน่นอน แต่เขาก็ยังคงยิ้มกว้างๆและพูด: บริษัทเกิดเรื่องขึ้นเล็กน้อย แต่มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่
ไม่ใช่ปัญหาใหญ่? ถ้างั้นฉันคงไม่ต้องกลับไปแล้ว ปัญหาไม่ใหญ่ ฉันจะกลับไปทำไม
อิ่นซินนั่งอยู่บนโซฟา และเธอก็ไม่อยากกลับไป
ผู้หญิงชั้นต่ำ!
อิ่นป่ายกำมือข้างหนึ่งของตัวเองไว้แน่ ในอกของเขาเต็มไปด้วยไฟโทสะ ตอนนี้เขาอยากจะหันหลังและเดินจากไปทันที แต่เมื่อคิดถึงวิกฤตของบริษัท เขาก็ต้องจำใจยืนอยู่ตรงนี้
บริษัทเกิดปัญหาใหญ่นิดหน่อย บริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปมาที่บริษัทของเรา บอกว่าสัญญาฉบับนั้นให้คุณเซ็นและบอกว่าต้องเป็นคุณเท่านั้นที่มารับผิดชอบโปรเจกต์นี้
ถึงแม้อิ่นป่ายไม่อยากพูด แต่เขาก็ต้องพูดออกมา
ไม่แปลกใจเลย
ตอนนี้อิ่นซินเข้าใจทันที แต่เธอกลับมองไปที่ฉินเฟิงที่อยู่ข้างๆ เรื่องเซ็นสัญญาของเธอกับบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปได้รับความช่วยเหลือจากฉินเฟิง และเมื่อก่อนหน้านี้ฉินเฟิงก็พูดว่า พวกเขาต้องมาเชิญเธอกลับไปด้วยตัวเอง
และพวกเขาก็มาเชิญเธอกลับไปด้วยตัวเองจริงๆ
หรือว่า……เดี๋ยวค่อยถามละกัน
น้องสาว พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องทะเลาะกันขนาดนี้ก็ได้ คุณกลับไปที่บริษัทเถอะ พวกเรายังเก็บตำแหน่งเดิมไว้ให้คุณ และตำแหน่งเดิมของคุณก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
อิ่นป่ายพูดจาโน้มน้าวจิตใจของเธอ
แต่อิ่นซินหัวเราะอย่างเย็นชา: ตำแหน่งเดิม ฮ่าๆๆ อิ่นป่ายคุณคิดแผนการได้ยอดเยี่ยมและได้เปรียบกับตัวเองจริงๆ เดิมทีฉันก็เป็นประธานของบริษัทซานหยวนกรุ๊ป บริษัทนี้ฉันสร้างขึ้นมาด้วยมือของตัวเอง ก่อนหน้านี้คุณปู่เคยพูดไว้แล้ว ใครสามารถเซ็นสัญญาและได้โปรเจกต์ของบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ป คนๆนั้นก็จะเป็นประธานบริษัท
ฉันได้โปรเจกต์นั้นมา แต่หลังจากนั้นพวกคุณก็พูดว่า ฉันล่วงเกินผิดใจกับบริษัทฟางซื่อกรุ๊ป ทำให้บริษัทเกิดปัญหามากมาย และฉันก็จัดการปัญหาเหล่านั้นทั้งหมด จนตอนนี้บริษัทฟางซื่อกรุ๊ปล้มละลายไปแล้ว
คุณคิดว่าตำแหน่งประธานบริษัทควรเป็นของฉันไหม?
อิ่นซินถามอิ่นป่ายทีละประโยค
อิ่นป่ายสีหน้าขาวซีดทันที เขาคิดไว้แล้ว ครั้งนี้อิ่นซินจะต้องขอตำแหน่งประธานบริษัทอย่างแน่นอน แต่เขาทำทุกวิถีทางและทำทุกอย่างกว่าจะได้ตำแหน่งนี้มาครอง ตอนนี้ต้องยกตำแหน่งนี้ให้อิ่นซินเหรอ
แต่เขาไม่เต็มใจที่จะสละตำแหน่งนี้
ดังนั้น อิ่นป่ายครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและก้มหน้าพูดกับอิ่นซิน: น้องสาว พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน และใช้นามสกุลอิ่นเหมือนกัน คุณจำเป็นต้องทำถึงขนาดเลยเหรอ? และเรื่องแบบนี้ ฉันตัดสินใจไม่ได้ ต้องให้คุณปู่เป็นคนตัดสินใจ เอาอย่างนี้ละกัน คุณกลับไปที่บริษัทและทำงานก่อน จากนั้นรอให้สุขภาพของคุณปู่แข็งแรงกว่านี้หน่อย ค่อยยกตำแหน่งประธานบริษัทให้คุณ คุณคิดว่าไง?
อิ่นป่าย ยังรอให้คุณปู่มีสุขภาพแข็งแรงกว่านี้อีกหน่อยเหรอ? ถ้าสุขภาพของเขาไม่ดีขึ้นละ และเขาไม่เข้าบริษัทเลย ถ้างั้นตำแหน่งประธานบริษัทซานหยวนกรุ๊ปก็คงเป็นของคุณใช่ไหม?
อิ่นซินเข้าใจความหมายจากคำพูดของอิ่นป่าย เขาอยากจะยืดเวลาออกไป ทำให้เธอหัวเราะอย่างเย็นชา: ถ้าอยากให้ฉันกลับไป ก็ให้คุณปู่มาหาฉันด้วยตัวเอง พวกคุณยังไม่คู่ควร
อ้อ ฉันจะไม่กลับไปที่ตระกูลอิ่นอีก ฉันเคยพูดแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานที่ฉันทรยศออกจากตระกูลอิ่นแล้ว ตอนนี้ฉันแค่ใช้นามสกุลอิ่นเฉยๆ สำหรับตระกูลที่แล้งน้ำใจและมีแต่ความเย็นชาแบบนั้น ฉันไม่กลับไปหรอก