เทพบุตร ทวงแค้น / เทพศึกมังกรหวนคืน - บทที่22 หลิวลานเมิ่งจำคนผิด
บทที่22 หลิวลานเมิ่งจำคนผิด
เขา……คือฮีโร่คนหนึ่ง……ฉะ……ฉัน……
สีหน้าของหลิวลานเมิ่ง ในตอนนี้ ซีดลงมาทันที ร่างกายทรงตัวไม่อยู่ ตึกๆๆถอยหลังไปสองก้าว ปากยังพูดพึมพำ ฉันปรักปรำ……ฉะ……ฉินเฟิง
ใช่ครับ คุณผู้หญิง ฉันเป็นพนักงานที่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณเมื่อคืนเองค่ะ เพราะว่าเมื่อคืนคุณดื่มจนเมาหนักมาก อาเจียนจนเปรอะเปื้อนเสื้อผ้าไปหมด คุณผู้ชายคนนั้นจึงให้ดิฉันไว้ห้าร้อยหยวน ให้ดิฉันช่วยเอาเสื้อผ้าของคุณไปซัก แต่แล้ววันที่สอง ในตอนที่ฉันกำลังจะเอาเสื้อผ้ามาให้คุณ คุณกลับไม่อยู่แล้ว
พนักงานที่อยู่ข้างๆตำรวจคนนั้น เดินออกมาพูดเพื่ออธิบาย
ฉันดื่มจนเมา แล้วอ้วกเปื้อนไปทั้งตัว คุณเป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉันหรอคะ?
เหมือนฟ้าผ่าลงมาก็ไม่ปาน หลิวลานเมิ่งตื่นขึ้นมาพบว่าเสื้อผ้าของเธอได้หายไปหมดแล้ว คิดมาโดยตลอดว่าฉินเฟิงเป็นคนชั่วที่ทำเธอ แต่คิดไม่ถึงว่า กลับเป็นเพราะตัวเอง
ฉินเฟิงช่วยตัวเองไว้ ถ้าหากไม่ได้ฉินเฟิงช่วยไว้ วันนั้นเธอคงจะไม่รอดแล้ว
แต่ ตัวเธอเองกลับไปใส่ร้ายเขาไว้!
ไม่เพียงแต่ไม่ขอบคุณเขา ยังด่าฉินเฟิงไปฉาดใหญ่ กระทั่งยังทำให้อิ่นซินกับฉินเฟิงทั้งคู่ร้าวฉาน!
เป็นคนผิด!
เสี่ยวซิน ฉันขอโทษนะ
หลิวลานเมิ่งหันไปมองอิ่นซินอย่างช้าๆ รู้สึกแข็งทื่อเล็กน้อย ใบหน้าขาวซีด นัยน์ตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด หล่อนยื่นมือออกไป อยากจะจับสัมผัสอิ่นซิน แต่กลับหยุดชะงักไว้ ขอโทษด้วยนะ ฉันเข้าใจฉินเฟิงผิดไป เขาคือฮีโร่คนหนึ่งเลย
สามี……
นัยน์ตาทั้งสองของอิ่นซินเหม่อลอยทันที ในมือจับการ์ด VIP ใบนั้นไว้จนแน่น วินาทีต่อมา รอบดวงตาแดงก่ำ น้ำตาหยดรินไหลลงมาทั้งสองข้าง ขอโทษนะคะ ขอโทษ ฉันไม่ควรไม่เชื่อใจคุณ ฉันไม่น่าไม่เชื่อใจคุณเลยจริงๆ
ฝ่ามือหนึ่ง
เธอตบพลาดแล้ว
น่าจะตบหน้าของตัวเอง
ฉินเฟิงไม่ได้หักหลังเธอ เป็นเธอเองที่เข้าใจฉินเฟิงผิดไป
เวลานี้เอง อิ่นซินเหมือนคนรู้สึกตัวขึ้นมาได้ รีบล้วงหยิบมือถือออกมา โทรศัพท์ออกไปทันที ฮัลโหล……คุณสามีคะ ฉันผิดไปแล้ว ขอโทษด้วยนะคะ คุณอยู่ไหนคะ ฉันจะไปหาคุณ……
คำพูดที่ร้อยเรียงต่อกัน พูดขึ้นอย่างรวดเร็ว มีเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุด
ยัยเมียบ๊องเอ้ย อย่าร้องไห้นะ ผมไม่โทษคุณหรอก
เสียงของฉินเฟิงจากปลายสายของโทรศัพท์ดังขึ้นมา แล้วฉินเฟิงก็พูดต่อไปว่า ผมอยู่บนชั้นดาดฟ้า คุณขึ้นมาเถอะครับ
ได้ค่ะ
หลังจากที่วางสายไปแล้ว อิ่นซินก็สูดฟุดฟิดตรงจมูก รีบวิ่งขึ้นไปลิฟต์อย่างไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
นี่ ลูก กำลังอยู่ในขั้นเซ็นสัญญานะลูก ขอเพียงแค่เซ็นสัญญากับบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปแล้ว ขอแค่เซ็นเรียบร้อย หนูก็ชนะพนันที่เดิมพันไว้แล้วนะลูก หนูจะสามารถเอาตำแหน่งประธานกรรมการกลับมาได้ คุณลูกขา
จางลี่เห็นอิ่นซินที่วิ่งออกไป จึงรู้สึกร้อนใจมาก ต่อไปใกล้ได้เวลาเซ็นสัญญาแล้วนะลูก ถึงจะเป็นเรื่องใหญ่มากขนาดไหนก็ตาม หนูจะออกไปจากตรงนี้ในเวลานี้ไม่ได้นะคะลูก
แต่ อิ่นซินไม่ได้หันกลับมา ราวกับไม่ได้ยินเสียงอะไรยังไงอย่างงั้น ตรงเข้าไปที่ลิฟต์ทันที
ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
ภาพนี้ ทำให้ผู้คนต่างรู้สึกตกใจไปตามๆกัน
วิ่งออกไปแบบนี้เนี่ยนะ?ทิ้งประธานกรรมการบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปไปเลยอย่างงั้นหรอ?นี่มันบังอาจเกินไปแล้วนะ คิดว่าพิธีตัดริบบิ้นฉลองเปิดงานเป็นบ้านของพวกเขารึไง คิดจะไปก็ไป จะมาก็มา
อิ่นซินคนนี้ ได้ใจเกินไปแล้ว โชคดีหน่อย รู้ว่าประธานกรรมการของบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปชอบอะไร แต่ไม่รักษาโอกาสไว้เลยแม้แต่น้อย กลับวางหนังสือสัญญาไว้ไม่เซ็น วิ่งออกไปดื้อๆ จริงๆเลยเชียว
ผู้หญิงคนนี้ ทำธุรกิจไม่เป็น เรื่องอะไร จะไปสำคัญเท่ากับการเซ็นหนังสือสัญญาล่ะ ดูสิ เธอกำลังผิดใจกับบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปนี่ โปรเจคนี้ เธอคว้าไว้ไม่ได้แล้วล่ะ
ในใจของทุกคนกำลังหัวเราะอย่างชั่วร้าย เนื้อที่มจ่อมาถึงปากแล้ว ยังทำให้หลุดมือไปได้
จริงๆเลยเชียว
โง่เกินไปแล้ว
ในตอนแรกนั้นใบหน้าของอิ่นป่ายกับฟางเย้นเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง แต่ก็เหมือนกับเห็นความหวังขึ้นมา อิ่นซินผู้หญิงคนนั้น ทิ้งของที่อยู่ในมือไป บริษัทใหญ่ที่มาจากจิงตูแบบนี้ ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์มากที่สุด ทิ้งไว้แบบนี้ ต้องผิดใจเป็นอย่างมากแน่
ประธานเฝิง อิ่นซินเดินจากไปแบบนี้ เกรงว่าจะทำผิดกติกานะครับ ในงานแบบนี้ แม้แต่การบอกกล่าวก็ไม่มีแม้แต่น้อย นี่เป็นการไม่ไว้หน้าประธานเฝิงรึเปล่าครับ โปรเจคนี้……เอาให้หล่อน ต้องพังไม่เป็นท่าแน่ครับ เอาให้บริษัทฟางซื่อกรุ๊ปของเราไม่ดีกว่าหรอครับ บริษัทฟางซื่อกรุ๊ปของเราเป็นบริษัทใหญ่ ยังเป็นบริษัทที่ทำการก่อสร้างโดยเฉพาะ……
ฟางจือฮุยในฐานะผู้จัดเก่าแก่ของบริษัทฟางซื่อกรุ๊ป แน่นอนว่าต้องเห็นตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีมาก สายตาของเขาพราวระยิบระยับขึ้นทันที เดินเข้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เพื่อยืนต่อหน้าของเฝิงกาง พิจารณาเป็นขั้นเป็นตอน
เขารู้อยู่แล้วว่า สำหรับประธานที่มาจากจิงตูแบบนี้ เห็นความสำคัญของภาพลักษณ์มาก
ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้ เฝิงกางยังรับเงินของเขาไปแล้วสองล้าน ต้องไว้หน้าเขาแน่ๆ
แต่ ในตอนที่เขายังได้ใจอยู่นั้น เฝิงกางก็โบกมือไปมา นี่มัน ยังต้องอีกเดี๋ยวครับ รออิ่นซินมาก่อน แล้วค่อยๆเซ็นสัญญาเถอะครับ
ทุกคนพากันตะลึงไปตามๆกัน
รอยยิ้มบนใบหน้าของฟางจือฮุยแข็งทื่อ
ล้อกันเล้นอะไรเนี่ย!
รอก่อนงั้นเหรอ?
ทั้งบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ป ได้ชื่อว่าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในเมืองเจียงเฉิง บวกกับคนเยอะมากมายขนาดนี้ ต้องรออิ่นซินกลับมา?
ถ้าเธอไม่ลงมาล่ะ จะทำยังไงล่ะ?
รอย่างนี้เนี่ยนะ?
ประธานเฝิง คุณไม่ได้กำลังล้อผมเล่นใช่ไหม?
ฟางจือฮุยยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง แล้วพูดออกไปแบบนี้
คุณว่า ผมเหมือนคนกำลังล้อคุณเล่นงั้นเหรอ?ผมบอกว่ารอเธอลงมาก่อน ก็ต้องรอเธอลงมาก่อนสิ
สีหน้าของเฝิงกางเคร่งขรึม คิ้วขมวดเป็นปม ความเคร่งครัดจากการเป็นประธานที่มาจากจิงตูยังคงมีอยู่ ทำให้ฟางจือฮุยต้องพยักหน้า ได้ครับ ได้ครับ ได้ครับ พวกเราจะรอเธอลงมาครับ
ในใจของฟางจือฮุยรู้สึกโกรธมาก!
แกเป็นเถ้าแก่ที่มาจากจิงตูไม่ใช่รึไงวะ ความยโสโอหังของคนจิงตูไปไหนหมดแล้วล่ะ อารมณ์ของแกล่ะ แกหลับต้อนรับผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนนี้เนี่ยนะ คนที่ไม่รู้ ยังคิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นหัวหน้าของแก!
ยังมีอีก แกรับเงินสองล้านฉันไปแล้วไม่ใช่เหรอวะ รับเงินไปยังไง ถึงจัดการอะไรไม่ได้เลย!
หลังจากนั้น ฟางจือฮุยไม่รู้ว่า อีกมุมหนึ่งของอิ่นซิน เป็นหัวหน้าของเฝิงกางจริงๆ อย่างไรเสียก็เป็นถึงเถ้าแก่เนี้ย อีกทั้ง ไม่มีคนรู้ แผ่นหลังของเฝิงกางในตอนนี้อาบไปด้วยเหงื่อ
เป็นเพราะว่าหนิวหลันซานเอ้อกัวโถวราคาเจ็ดหยวนนั่นแท้ๆเลย
ก่อนหน้านี้เขามองไปแวบหนึ่ง ไม่ได้สังเกตเห็นว่าใครเป็นคนมอบให้ เขาเลยพูดออกไปคำหนึ่ง เอ้อกัวโถวราคาแค่เจ็ดหยวนยังมีหน้าเอาออกมาได้ คิดว่างานของพวกเขาเป็นงานขยะรึไง
แต่ เขาคิดไม่ถึงว่า จะเป็นของที่อิ่นซินมอบให้ ฉินเฟิงบอกแล้วว่า นั่นคือเถ้าแก่เนี้ย!
ทำให้เขาตกใจมากจริงๆ
ฉินเฟิงกับฉีหยุนทั้งสองคนนี้ อะไรนิดๆหน่อยๆก็จะฆ่าเขาแล้ว ทำให้คนตกใจมากจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้ดีว่าฉินเฟิงกล้าฆ่าเขาจริงๆ
ในเวลานี้นั่นเอง เฝิงกางก็ยิ่งไม่กล้าไปผิดใจกับอิ่นซิน ต้องรู้ว่าถ้าไม่ใช่คำสั่งของฉินเฟิง ตอนนี้เฝิงกางคงจะหาที่ให้อิ่นซิน เพื่อกราบไหว้ทุกวัน ขอพรให้โชคดีไปแล้วล่ะ
นี่ พวกคุณรีบดูเข้าสิ ด้านนอกมีเครื่องบินรบด้วย
ทันใดนั้น เสียงตกใจก็ดึงดูดความสนใจของผู้คน ทำให้มองไปยังด้านนอก พบเข้ากับเครื่องบินรบสองลำที่กำลังเริงระบำอยู่บนน่านฟ้าจริงๆด้วย ต่อมาด้วยเครื่องบินรบได้โปรยกลีบกุหลาบลงมายังพื้นดิน
บนท้องฟ้าเต็มไปด้วยกลีบดอกไม้สีแดง ที่กำลังเริงระบำ
นี่มัน ดอกกุหลาบแดง?สารภาพรักงั้นเหรอ!
หลิวลานเมิ่งยังไม่ได้เดินจากไปไหน ยืนอยู่ตรงหน้าต่างรับกลีบกุหลาบแดงมาหนึ่งกลีบ ทุกคนต่างรู้ดี เกี่ยวกับความหมายของกุหลาบแดง นี่เป็นสิ่งที่ใช้สำหรับการสารภาพบอกรัก ตามมาด้วย เธอพบว่าตึกตรงข้ามมีไฟสว่างวาบออกมา!
ร้อยเรียงเป็นตัวหนังสือหนึ่งแถว!
สูญเสียช่วงเวลาวัยรุ่นไป ผมจะเติมเต็มมันคืนให้กับคุณเอง พันเท่า หมื่นเท่า คุณภรรยาของผม!