เทพบุตร ทวงแค้น / เทพศึกมังกรหวนคืน - บทที่34 แข่งรถ
บทที่34 แข่งรถ
ในโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่ง
ฟางเย้นกับอิ่นป่ายกำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ ซึ่งกำลังกินอยู่ดีๆ สายจากนายท่านอิ่นก็โทรเข้ามา หลังจากที่วางสายไปแล้ว สีหน้าของอิ่นป่ายก็เปลี่ยนเป็นลำบากใจทันที แย่แล้ว
เกิดอะไรขึ้นเหรอ?
ฟางเย้นมองไปครู่หนึ่ง แล้วถามขึ้น
ฝั่งพี่สาวผมแผนการล้มเหลวแล้ว ไม่สามารถเซ็นสัญญาอีกฉบับได้ กระทั่งยังไปสร้างเรื่องกับบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปอีก ตอนนี้ถูกคนของบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปไล่ตะเพิดออกไปแล้ว อีกทั้ง จากที่พวกเราสืบมา ประธานกรรมการเฟิงซิ่งคนนั้น ยังมียศสูงมาก สามารถขนกองทัพได้โดยตรง
สีหน้าของอิ่นป่านดูซึมขึ้นมาเล็กน้อย
คนมาจากจิงตู ต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว แต่พวกเราจะต่อกรกับพวกเขาซึ่งๆหน้าไม่ได้เด็ดขาด ที่อิ่นซินได้เซ็นสัญญาฉบับนี้ได้ เป็นเพราะโชคดีไป แต่ดีนะว่าได้รับความชอบจากท่านประธาน
ฟางเย้นหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นมาอีกว่า แต่ผมคิดไม่ออกจริงๆนะ ทหารยศสูงขนาดนี้ กลับชอบดื่มหนิวหลันซานเอ้อกัวโถวที่ราคาแค่เจ็ดหยวน เซ็งชะมัด คนระดับนี้ ควรจะชอบดื่มพวกเหล้าราคาแพงอย่างเหมาไถหรอกเหรอ(เหล้าขาวชนิดหนึ่งที่มีราคาแพง) จริงๆเลยเชียว
จริงสิ ครั้งนี้ยัยบ้าอิ่นซินนั่น ไปทวงตำแหน่งประธานกรรมการกับคุณปู่อีกแล้ว หล่อนเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง มีสิทธิ์อะไรไปนั่งตำแหน่งนั้น จริงๆเลยเชียว ตำแหน่งนี้มันถูกเก็บไว้ให้ผมต่างหาก
อิ่นป่ายกัดฟันกรอด รู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อย เขารีบพูดกับฟางเย้นไปว่า ต่อไป ถึงตาคุณต้องลงมือแล้วล่ะ
แน่นอนสิ หลังจากนี้พวกเรากับบริษัทซานหยวนกรุ๊ปก็จะเกิดข้อพิพาทกัน ปัญหาพวกนี้ พวกคุณจะต้องโยนไปให้อิ่นซินจัดการเองทั้งหมด ทำให้หล่อนที่ดูแลตัวเองยังไม่ได้ แต่อยากจะดันทุรังดูแลคนอื่น จริงสิ ไอ้ฉินเฟิงนั่นน่ะ ผมก็จะไม่ยอมปล่อยมันไปเหมือนกัน
ฟางเย้นที่พอพูดถึงฉินเฟิง นัยน์ตาก็มีประกายรังสีอยากฆ่าขึ้นมาทันที
อะไรกัน ก็แค่ไอ้ขอทานกระจอกคนหนึ่ง ทำลายแผนการของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือยังทำให้เขาดื่มเหล้าจนเป็นพิษสุราเรื้อรังอีกด้วย จนต้องหามเข้าส่งโรงพยาบาลด่วน
แค้นนี้ เขาจะต้องชำระให้ได้
แต่ ต้องใช้แผนการบางอย่าง
……
หลังจากนั้น อิ่นซินก็ไปทำงาน จัดการปัญหาเล็กๆน้อยๆ ที่เบื้องบนโยนทิ้งลงมาให้เธอจัดการ บอกว่าเธอไปก่อเรื่องมา อิ่นซินไม่สามารถปฏิเสธได้ แต่สุดท้ายเธอที่มีความสามารถอยู่แล้วแต่แรก ก็จัดการปัญหาได้อย่างไม่ยากเกินความสามารถของเธอ
แต่ในเวลานี้เอง อิ่นหนิงหยู่เจ้าเด็กคนนี้ก็เข้าไปหาฉินเฟิง
นี่ ฉันจะทำธุรกิจกับนาย สนใจจะทำไหม?
อิ่นหนิงหยู่ที่สวมชุดสีดำรัดรูปทั้งตัว ด้านนอกมีแจ็คเก็ตคลุมหนึ่งตัว ทำให้เห็นสรีระอันบอบบางเล็กน้อย ในมือยังมีหมวกกันน็อคใบหนึ่ง ตัวยืนพิงกำแพง แล้วถามฉินเฟิงออกไป
ธุรกิจ ธุรกิจอะไร?
ฉินเฟิงที่บนตัวมีผ้ากันเปื้อน กำลังถูพื้นอยู่
ทำธุรกิจหารายได้กับนายไง ตอนนี้นายเป็นรปภ.รักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว เดือนๆหนึ่งอย่างมากก็ได้แค่สี่พันกว่า อยากจะเก็บออมไปจนถึงสองล้านเหมือนที่พ่อฉันเคยบอกไว้ มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ตอนนี้ฉันมีทางให้นายอยู่ทางหนึ่ง มันสามารถทำให้นายหารายได้ได้
อิ่นหนิงหยู่ท่าทางเหมือนกำลังสะกดจิตฉินเฟิงอยู่
นี่เป็นสิ่งที่ฉินเฟิงตั้งใจแสดงออกมา บอกกับคนที่บ้านว่าตนทำงานรปภ.รักษาความปลอดภัย อยู่ที่บริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ป
สำหรับหลิวลานเมิ่งที่อยู่บริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปนั้น ตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งก่อน ก็ไม่ได้ติดต่อกับอิ่นซินและฉินเฟิงอีกเลย กระทั่งอิ่นซินไปหาหลิวลานเมิ่งถึงบ้าน หลิวลานเมิ่งก็ไม่กล้าออกมาพบพวกเขา
เหมือนจะยังรู้สึกผิดอยู่
เธอไม่ชอบฉันไม่ใช่หรอ อยากให้ผมออกไปตลอด ครั้งนี้มาคิดหาวิธีช่วยผม เก็บผมไว้?เสียดายผมเหรอครับ?
ถุ้ย ใครจะไปเสียดายนายกันห้ะ ฉันแค่กำลังขาดแคลนเงินแค่นั้นแหละ ถึงจะไม่รู้ว่าเพราะอะไรพี่ต้าตาวถึงไม่หาฉันแล้วก็เถอะ แต่ยังไงซะก็ติดหนี้คนอื่นอยู่ อย่างน้อยก็ต้องคืนเงินต้นทุน
ธุรกิจที่เธอว่ามาน่ะ คืออะไรเหรอ?
แข่งรถใต้ดิน ค่าผ่านทางเข้าสนามสองพันหยวน คนที่ได้ที่หนึ่งจะได้รับเงินรางวัลสามแสน ที่สองจะได้หนึ่งแสนห้าหมื่น ที่สามจะได้แค่ห้าหมื่น รถที่แข่งมีทั้งหมดยี่สิบสี่คัน
อิ่นหนิงหยู่หยิบใบประกาศรับสมัครขึ้นมาหนึ่งใบ ด้านบนเขียนรายละเอียดอย่างชัดเจน
แข่งอะไรแบบนี้ เธอไม่กลัวว่าพี่สาวเธอจะจัดการเธอเหรอ? ฉินเฟิงเอ่ย
จัดการฉัน ฉันก็จะบอกว่านายเป็นคนพาฉันไปไงล่ะ ยังไงซะพี่สาวฉันไม่รู้อยู่แล้ว สองล้านน่ะ เวลาแค่ครึ่งปี นายควรจะจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆนั่นแหละ
อิ่นหนิงหยู่เหมือนจะจับไต๋จุดอ่อนของฉินเฟิงยังไงอย่างงั้น
เธอติดหนี้สามล้าน!
ไม่สนแหละ นายต้องไปแข่ง เจ็ดต่อสาม ฉันเจ็ดนายสาม
เก้าต่อหนึ่ง ฉันเก้าเธอหนึ่ง
ฉินเฟิงก็เล่นกับเด็กคนนี้ด้วย หลังจากที่ตกลงกันแล้ว ต่อราคากันจนเหลือหกต่อสี่ ฉินเฟิงได้หก อิ่นหนิงหยู่ได้สี่ แต่ฉินเฟิงก็เอ่ยขึ้นมาอีกว่า ผมยังมีอีกเงื่อนไขหนึ่ง
เงื่อนไขอะไร?
เธอต้องบอกฉันมาก่อน ว่าเธอจะเอาเงินนี่ไปทำอะไร
มันไม่เกี่ยวกับนาย
ถ้างั้นฉันไม่แข่ง
ก็ได้ ถ้านายได้ที่หนึ่ง เอาไว้ฉันค่อยบอกนายแล้วกัน
อิ่นหนิงหยู่โบกมือไปมาบอกปัด เป็นอีกครั้งโอนอ่อนผ่อนปรนอีกครั้ง
หลังจากที่ยุ่งมาทั้งวัน ฉินเฟิงก็เดินขึ้นไปด้านบนของบ้าน ด้านล่างมีรถมอเตอร์ไซค์ของอิ่นหนิงหยู่หนึ่งคัน ฉินเฟิงขมวดคิ้วเป็นปมแล้วถามขึ้นมาว่า พี่สาวเธอขับรถออกไปแล้ว เดี๋ยวฉันจะใช้อะไรแข่งล่ะ?
ฉันจะยืมให้นายเอง
อิ่นหนิงหยู่กวักมือเรียกฉินเฟิง บอกให้เขาขึ้นมา
หลังจากผ่านไปสิบกว่านาที ทั้งคู่ก็มาถึงสนามแข่งรถ สถานที่ดูใหญ่โอ่โถงมาก มันกินเนื้อที่ไปหลายพันเมตร นอกจากนี้ยังคนจำนวนมากมารวมตัวกันที่นี่ ทำให้สนามแข่งรถใต้ดินที่นี่ดูคึกคักขึ้นมาทันที
รถล่ะ?
ฉินเฟิงกวาดตามองไปรอบๆ ไม่เห็นรถที่อยู่คันเดียวสักคัน
นี่ไง
อิ่นหนิงหยู่เดินไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง สถานที่แห่งนั้นมีคนล้อมไว้จำนวนมาก หล่อนรีบพูดไล่คนอื่นๆ ทุกคน ถอยหน่อย ช่วยถอยหน่อย
รอจนบอกให้ทุกหลีกไปจนหมดแล้ว ฉินเฟิงถึงได้พึ่งเห็นรถแข่งคันหนึ่ง
รถหวูหลิงหงกวง!
รถหวูหลิงหงกวงเจ็ดที่นั่งคันหนึ่ง ดูไปแล้ว ไม่ใช่รถใหม่เลย ดูเก่าด้วยซ้ำ ด้านบนยังมีสัญลักษณ์อันหนึ่ง ตัวเลข 24 อยู่บนนั้น นั่นก็คือผู้เข้าแข่งขันคนสุดท้าย
เอ๋ เจ้าของมาแล้วสินะ?พวกเธออยากจะมาขายหัวเราะกันรึไง ฉันใช้ชีวิตอยู่ในสนามแข่งรถมาตั้งหลายปี พึ่งเคยเห็นคนเอารถหวูหลิงหงกวงมาแข่งเนี่ยแหละ ขำชะมัด
ด้านข้างรถ มีผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่ง หลังจากที่มองเห็นอิ่นหนิงหยู่ก็เกิดหัวเราะขึ้นมา
คนดูสวยไม่ใช่น้อย แต่น่าเสียดาย สมองมีปัญหา เอารถหวูหลิงหงกวงมาแข่ง หลายปีมานี้พึ่งเจอครั้งแรก พวกเธอนิคิดได้เนอะ
รถหวูหลิงหงกวง เป็นรถที่ถูกที่สุด คันหนึ่งใช้เงินแค่สองสามหมื่น พวกแกรู้ไหม รถบนสนามที่นี่ มีบางคันที่ลำพังแค่เครื่องยนต์ก็ราคาไม่ต่ำกว่าสองสามหมื่นแล้ว บางคันสองสามแสนหรือมากกว่านั้น แกไปเอารถหวูหลิงหงกวงมาแข่งเนี่ยนะ?
พวกแก ตั้งใจมาทำให้ครบจำนวนคันใช่ไหมห้ะ
ทุกคนต่างพากันตลกขบขัน ที่พวกเขามารวมกันอยู่ที่นี่ได้ ความจริงก็เป็นเพราะรถหวูหลิงหงกวงที่ดูจะแปลกประหลาดมาก นับตั้งแต่ที่มีการสร้างสนามแข่งรถแห่งนี้ขึ้นมา ก็ไม่เคยเห็นใครเอารถหวูหลิงหงกวงเข้ามาแข่งเลย
สายตาของฉินเฟิงมองไปยังอิ่นหนิงหยู่
จน
อิ่นหนิงหยู่ตอบกลับเขาไปหนึ่งคำ แล้วพูดต่อว่า นี่เป็นเงินที่ฉันยืมเขามา นายห้ามแพ้เด็ดขาดนะ ถ้าแพ้ พี่สาวฉันไม่เอานายไว้แน่
อั้ยหยา ฉันได้ยินมาว่าวันนี้มีคนใช้รถหวูหลิงหงกวงมาแข่งรถงั้นเหรอ ฉันจะมาดูหน่อยว่าเป็นใครกัน?
หลังจากนั้นด้านหลังก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินออกมา
คุณชายเฉิน
ทุกคนต่างพากันขานชื่อคุณชายเฉินสองคำนี้ ทำให้เฉินป๋อรู้สึกได้ใจมาก เดินเข้ามา แล้วใช้หางตามองไปฉินเฟิงกับอิ่นหนิงหยู่ แล้วพูดอย่างเยาะเย้ยไปว่า จากสายตาฉันแล้ว พวกแกไม่เหมาะที่จะขับรถหรอก ครั้งนี้พวกแกแพ้แน่นอน เพราะว่า ครั้งนี้ฉันจะลงแข่งด้วย พวกแกจะต้องถูกรั้งท้ายไกลแน่