เทพปีศาจผงาดฟ้า - ตอนที่ 152
ตอนที่ 152 คํามั่นสัญญา
คํามั่นสัญญานั่น เป็นเหตุให้ผู้คนล้มตาย. และทําให้จักรพรรดิแห่งเฉียนตี้ในครั้งนั้น โกรธจนแทบคลุ้มคลั่ง! ซู่จิงเอ่ยตอบด้วยน้ําเสียงที่เบาราวกระซิบ
เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นเพราะท่านปูของพวกเจ้า.. ครั้งนั้นแคว้นเฉียนตี้และแคว้นเอสเทอเรียต่างก็ยังเป็นเพื่อนบ้านที่รักใคร่กลมเกลียวกันประหนึ่งสหายใกล้ชิด แต่ถึงแม้แคว้นเอสเทอรียของเราจะใกล้ชิดสนิทสนมกับแคว้นเฉียนตี้ แต่เราก็สนิทสนมกับแคว้นไทรเขียนด้วยเช่นกัน เหล่าเชื้อพระวงศ์จากทั้งสองแคว้นต่างก็ไปมาหาสู่กันอย่างสม่ําเสมอ..
ว่ากันว่า ในการเยี่ยมเยียนครั้งหนึ่งนั้น องค์หญิงใหญ่แห่งแคว้นเฉียนตี้ นามว่าองค์หญิงหมิน ได้มาตกหลุมรักองค์รัชทายาทของแคว้นเอสเทอเรีย นามว่าองค์ชายหวง. นางได้บอกเรื่องนี้ให้กับพระบิดาของนางทราบ และเขาก็ได้มาเจรจาเรื่องนี้กับท่านปูใหญ่ของพวกเจ้าทั้งสอง จากนั้น.. การสมรสของทั้งสองแคว้นก็ได้ถูกกําหนดขึ้น!
โดยที่ทุกคนหารู้ไม่ว่า องค์ชายหวงได้มีคนรักอยู่ก่อนแล้ว ทันทีที่องค์ชายหวงทราบว่าได้มีการเตรียมงานสมรสระหว่างสองแคว้นขึ้น เขาจึงรีบไปหาพระบิดาและบอกเรื่องที่ตนเองมีคนรักอยู่แล้ว และมิต้องการแต่งงานกับองค์หญิงแห่งแคว้นเฉียนตี้ องค์ชายหวงได้ขอให้ท่านปูใหญ่ยกเลิกงานแต่งงานครั้งนี้เสีย แต่กลับถูกปฏิเสธ พระชายาซู่จิงยังคงเล่าต่อ
ท่านแม่ เรื่องนี้ก็มิได้เหนือความคาดหมาย. คําสัญญาในเรื่องเช่นนี้ใช่ว่าจะสามารถยกเลิกกันได้ง่ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นคํามั่นสัญญาระหว่างแคว้นสองแคว้น หาใช่เรื่องที่จะสามารถทําตามใจใครคนใดคนหนึ่งได้
องค์หญิงหมิงยู่ออกความเห็น ในขณะที่องค์ชายหวังกําลังจินตนาการว่าหากตนเองเป็นองค์ชายหวงจะทําเช่นใด?
เมื่อวันสมรสใกล้จะมาถึงนั้น องค์ชายหวงก็ยิ่งต่อต้านมากขึ้น แต่ก็มิสามารถทําอะไรได้เพราะถูกกักขังไว้ให้อยู่แต่ภายในห้องบรรทมของตน แต่แล้ววันหนึ่ง องค์ชายหวงก็หนีออกไปได้ เขาตั้งใจว่าจะไม่กลับมาที่พระราชวังแห่งนี้อีก แต่ไม่นานนักเขาก็กลับมาพร้อมกับหญิงสาวคนหนึ่ง เขาได้บอกกับองค์จักรพรรดิว่า หญิงสาวผู้นี้ก็คือหญิงคนรักของเขาเอง…
และเวลานี้นางก็กําลังตั้งครรภ์ลูกของเขา เขาได้ยืนยันกับท่านปู่ใหญ่ว่า เขาจะมิยอมแยกจากหญิงสาวอันเป็นที่รักและลูกในท้องของนางอย่างเด็ดขาด หากยังมีผู้ใดบีบบังคับเขาอีก เขาจะยอมตาย! แต่จะมิยอมแต่งงานกับหญิงสาวคนอื่นเป็นแน่ ในที่สุด.. ท่านปู่ใหญ่ของเจ้าก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งคู่ และต้องเป็นฝ่ายไปขอยกเลิกการแต่งงานแทน! พระชายาซู่จิงเอ่ยเล่าเรื่องราวในอดีตต่อ
เรื่องเท่านี้เองหรอกรี? การยกเลิกคําสัญญาในการแต่งงานเป็นสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมดหรอกรึ? แต่พวกเรามิได้สังหารผู้ใดมิใช่รึท่านแม่? ก็แค่ปฏิเสธการแต่งงานเท่านั้น องค์หมิงยู่เอ่ยถามออกมาด้วยสีหน้าประหลาดใจ และงุนงงยิ่งนัก
แต่เรื่องเพียงเท่านั้น.. ก็เป็นเหตุให้องค์หญิงใหญ่แห่งแคว้นเฉียนตี้ ถึงกับฆ่าตัวตายทันทีที่ได้รับทราบว่าการแต่งงานได้ถูกล้มเลิกน่ะสิ! จะว่าไปองค์หญิงใหญ่คงจะเสียพระทัยอย่างมาก และมิอาจทนอยู่ในโลกนี้ต่อไปได้อีก พระชายาซู่จิงเอ่ยตอบด้วยน้ําเสียงเคร่งเครียด ในขณะที่จ้องมองโอรสและธิดาของตน
แคว้นเอสเทอรียถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุให้องค์หญิงใหญ่แห่งแคว้นเฉียนตี้ที่ฆ่าตัวตาย ทั้งสองแคว้นจึงได้กลายเป็นศัตรูคู่แค้นนับแต่นั้นเป็นต้นมา…
แล้วหลังจากนั้นไม่นานนัก องค์ชายหวงและชายาของเขาก็ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทําให้แคว้นเอสเทอรียโกรธแค้นเช่นกัน มิตรภาพที่เคยมีมาของสองแคว้นพลันขาดสะบั้น แล้วสงครามระหว่างแคว้นทั้งสองก็ได้เริ่มต้นขึ้นนับแต่นั้นมา…
พระชายาซู่จิงเล่าเหตุการณ์ในอดีตต่อจนกระทั่งจบ แล้วจึงกําชับโอรสและธิดาทั้งสองว่า..
อย่าได้บอกเล่าเรื่องนี้ออกไปให้ผู้ใดฟังเป็นอันขาด ที่ข้าเล่าให้พวกเจ้าสองคนฟัง ก็เพื่อให้ระมัดระวังอย่าได้กระทําผิดพลาดดังเช่นในอดีตอีก และห้ามแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปโดยเด็ดขาด!
ครับ/ค่ะ..ท่านแม่! สองพี่น้องพยักหน้าพร้อมกับตอบรับด้วยน้ําเสียงหนักแน่น
เวลาล่วงเลยไปกว่าครึ่งวัน ในที่สุดจักรพรรดิทั้งสามก็พากันเดินออกมาจากห้อง
สีหน้าของจักรพรรดิทั้งสามพระองค์นั้น บ่งบอกถึงอารมณ์ที่ดี ดูเหมือนการเจรจาจะดําเนินไปได้ด้วยดี
จักรพรรดิเฉียนเว่ยและจักรพรรดิจี๋ฮั่นเจียนเอ่ยลาทุกคนก่อนจะเดินจากไป แต่น่าแปลก.. ที่จักรพรรดิเฉียนเว่ยหันกลับมามองและยิ้มให้กับองค์ชายหญ่หวังอีกครั้งก่อนจะเดินจากไปจริงๆ
การเจรจาเป็นเช่นใดบ้าง? พระชายาซู่จิงจ้องมององค์จักรพรรดิหลู่จวิ้นเว่ยพร้อมกับเอ่ยถามออกไป
ในความเห็นของข้า ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี แต่ความจริงแล้ว ข้ากลับแอบรู้สึกเหมือนว่า เราเป็นฝ่ายชนะต่างหาก ฮ่าๆๆ จักรพรรดิหลู่จวิ้นเว่ยหัวเราะเสียงดังหลังจากที่เอ่ยตอบ
เกิดอะไรขึ้นงั้นรึ? พระชายาซู่จิงเอ่ยถามพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เมื่อเห็นอารมณ์สดใสของหลู่จขึ้นเว่ย
ในเมื่อความบาดหมางของสองแคว้นครั้งนั้นเริ่มต้นขึ้นเพราะเรื่องการแต่งงาน ก็ต้องให้มันจบลงด้วยการแต่งงานเช่นกัน เพื่อเป็นการยุติความขัดแย้งอันยาวนานระหว่างสองแคว้น พวกเราจึงตัดสินใจที่จะผูกสัมพันธไมตรีระหว่างแคว้นทั้งสองอีกครั้งด้วยการแต่งงาน โดยให้ลูกหวังแต่งงานกับธิดาของจักรพรรดิเฉียนเว่ย และที่ข้าอารมณ์ดีเช่นนี้ก็เพราะว่ากําลังจะมีเรื่องมงคลเกิดขึ้นอย่างไรเล่า จักรพรรดิหลู่จวิ้นเว่ยเอ่ยตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
ธิดาของจักรพรรดิเฉียนเว่ยงั้นรึ? ดูเหมือนเขาจะมีธิดาอยู่เพียงแค่องค์เดียว และเมื่อครู่เขาก็เพิ่งบอกว่านางเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ล้ําเลิศยิ่งนัก หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ การแต่งงานในครั้งนี้ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อแคว้นของเรา เพราะเท่ากับว่าแคว้นเอสเทอเรียจะมีผู้ที่มีพรสวรรค์ล้ําเลิศเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน แต่ท่านควรจะต้องถามความเห็นของลูกชายเราก่อนจึงจะถูกมิใช่รึ? พระชายาซู่จิงออกความเห็น
นั่นสินะ! เอาล่ะลูกชาย.. บอกข้ามาว่าเจ้ายินดีที่จะแต่งงานหรือไม่? หากเจ้ามิเห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้ ข้าจะเป็นฝ่ายเอ่ยปากยกเลิกเสียเอง แม้มันจะทําให้แคว้นของเราต้องสู้รบต่อไปอีกนับร้อยปีก็ตาม จักรพรรดิหลู่จวิ้นเว่ยจ้องมองบุตรชายด้วยสีหน้าแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง
ข้าพร้อมและยินดีท่านพ่อ.. องค์ชายหลู่หวังเอ่ยตอบพร้อมกับเหลือบมองสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความคาดหวังของบิดาเพียงเล็กน้อย
ต้องให้ได้เช่นนี้สินะ ลูกชายของข้า! ฮ่าๆๆๆ หลู่จวิ้นเว่ยหัวเราะเสียงดังอย่างมีความสุข
เอาล่ะ.. ไปกันดีกว่า ได้เวลาที่พวกเราสองคนพ่อลูกจะดื่มกันตามประสาลูกผู้ชายแล้ว องค์จักรพรรดิหลู่จวิ้นเว่ยเอ่ยบอกขณะที่เดินโอบไหล่องค์ชายหญ่หวังออกไป
สองพ่อลูกดื่มกันจนกระทั่งดึกดื่น จึงได้แยกย้ายกลับไปที่ห้องนอนของตนเอง
รุ่งอรุณของเช้าวันใหม่ได้มาเยือน องค์ชายหญ่หวังเดินออกจากวังไปตามถนนเมือง ก่อนจะเดินเข้าไปในร้านขายโอสถเล็กๆแห่งหนึ่ง
ท่านมาแล้วรึ
เสียงทักทายของหญิงสาวดังขึ้นทันทีที่องค์ชายหญ่หวังเดินเข้าไปด้านใน ภายในร้านเงียบเหงาไร้ลูกค้าแม้แต่คนเดียว เวลานี้จึงมีเพียงแค่คนทั้งคู่อยู่เท่านั้น
ข้ากําลังจะแต่งงาน… หลู่หวังเอ่ยเสียงเบาราวกระซิบ
กับผู้ใดรึ? เสียงของหญิงสาวเอ่ยถามในขณะที่ยังคงก้มหน้า
องค์หญิงแห่งแคว้นเฉียนตี้ องค์ชายหลู่หวังเอ่ยตอบ แต่น้ําเสียงของเขานั้นสั่นสะท้านจนแทบมิได้ยิน
อ่อ.. ข้ายินดีและขอให้ท่านมีความสุขที่ได้แต่งงานกับองค์หญิงแห่งแคว้นเฉียนในครั้งนี้
การที่ท่านมาบอกเรื่องนี้กับข้า.. เพราะต้องการขอให้ข้าปิดปากเงียบเรื่องความสัมพันธ์ของเรางั้นรึ? หากท่านกังวลว่าข้าจะไปบอกผู้อื่นเรื่องนี้แล้วล่ะก็ ท่านมิจําเป็นต้องกังวลใจไป แม้ความสัมพันธ์ระหว่างเราจะมิได้มีความหมายใดกับท่าน แต่มันมีความหมายกับข้ายิ่งนัก! ข้ารู้ดีว่ามิอาจเก็บท่านไว้เป็นของตนเองได้ แต่ข้าจะเก็บความทรงจําที่ล้ําค่านี้ไว้กับตนเองเพียงลําพัง.. น้ําเสียงของหญิงสาวบางเบา และฟังดูเศร้าสร้อยยิ่งนัก
หาใช่เช่นนั้นไม่.. เพียงแต่ข้า… ข้ามทางเลือก.. องค์ชายหลู่หวังเอ่ยตอบด้วยดวงตาที่เริ่มเปียกชิ้น
หญิงสาวเองก็จ้องมองเขาด้วยดวงตาที่เริ่มเปียกชื้นเช่นกัน..
มิต้องห่วงข้า.. ขอให้ท่านทําในสิ่งที่ต้องทําเถิด! และขอให้คิดเสียว่าเรื่องระหว่างเราสองคนที่ผ่านมา มิได้มีความหมายใดๆกับข้า! เอาล่ะ…. เชิญท่านกลับไปได้แล้ว ได้เวลาที่ข้าจะต้องปิดร้านแล้ว หญิงสาวเอ่ยตอบในขณะที่ยังคงก้มหน้าก้มตา
องค์ชายหลู่หวังหันหลังกลับ และก้าวเดินออกไปด้วยสองเท้าที่หนักอึ้ง แต่แล้วก็ได้ยินเสียงดังมาจากด้านหลังของตน จึงได้หันกลับไปมองอีกครั้ง และพบว่าหญิงสาวกําลังอาเจียนอยู่