เทพปีศาจผงาดฟ้า - ตอนที่ 3
ตอนที่ 3 เป็นหรือตาย?
ในที่สุด ชายสวมหน้ากากก็เริ่มลงมือ ร่างของมันอันตธานหายไปจากสายตาของหลงเทียน และดูเหมือนมันไม่ต้องการจะเปิดโอกาสให้เขาได้มีโอกาสใช้ยันต์เลยแม้แต่น้อย
บนโลกใบนี้ โอสถ ยุทธภัณฑ์ และยันต์ ล้วนมีอยู่หลายระดับแตกต่างกันไป ระดับชั้นต่ำสุดคือระดับมนุษย์ เหนือขึ้นไปคือ วิญญาณ, ดิน, ฟ้าและอีกมากมาย แม้หลงเทียนจะเคยได้ยินว่ามี ระดับฟ้าและเหนือขึ้นไปอีก แต่กลับไม่เคยได้พบเห็นด้วยตาตนเองมาก่อนเลยสักครั้ง ภายในจักรวรรดิซุยและเมืองใกล้เคียงเอง ก็ไม่มียันต์ระดับฟ้า ยันต์ระดับสูงสุดที่หลงเทียนเคยพบเห็นมามีเพียงระดับดินเท่านั้น
ยันต์ที่หลงเทียนกำลังจะหยิบมาใช้นั้น เป็นยันต์ในระดับวิญญาณขั้นกลาง มีชื่อว่ายันต์ปราการเทวะซึ่งเป็นยันต์ที่มีราคาสูงมาก คนธรรมดาทั่วไปยากที่จะมียันต์ระดับนี้ไว้ในครอบครอง จะมีก็เพียงแค่ตระกูลใหญ่โตเท่านั้น อานุภาพหลักของยันต์ชนิดนี้คือ ช่วยสกัดการโจมตีของยอดฝีมืออาณาจักรแก่นปราณทองคำได้ในชั่วระยะเวลาหนึ่ง
แม้จะถูกโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากมียันต์ชนิดนี้คอยปกป้อง แม้จะได้รับบาดเจ็บบ้างก็อาจเพียงแค่เล็กน้อย ยันต์แผ่นนี้จึงมีอานุภาพในการคุ้มครองปกป้องชีวิตเป็นอย่างดี และมันเป็นสิ่งที่ท่านปู่มอบให้เขาเพื่อใช้ปกป้องชีวิตในยามฉุกเฉินเช่นนี้ แม้จะต้องใช้เงินไปจำนวนมากมายมหาศาลกับยันต์แผ่นนี้ แต่ตระกูลหลงก็ร่ำรวยมากพอที่จะหาซื้อมาได้
หลงเทียนได้แต่หวังว่าปู่ของเขาจะสามารถมาช่วยไว้ได้ทันเวลาก่อนที่เกราะป้องกันอันแข็งแกร่งนี้จะถูกอีกฝ่ายทำลายลง มือสังหารผู้นี้ยังคงจู่โจมเข้าใส่เกราะป้องกันนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะมันรู้ว่าไม่นานเกราะนี้ก็ต้องแตกสลายไปเช่นกัน
หลังจากที่กระหน่ำทุบทำลายเกราะป้องกันของหลงเทียนอยู่ราวสองนาที เกาะป้องกันนี้ก็เริ่มมีรอยแตกแยกปรากฏ ดูเหมือนว่าจะสามารถปกป้องเขาได้อีกไม่นานนัก
“เจ้าหนู ข้าอยากจะรู้นักว่าเจ้าจะหดหัวอยู่ในเกราะนี่ได้อีกนานเพียงใด?”
มือสังหารร้องตะโกนออกมา
ชายสวมหน้ากากยังคงยืนผงาดต่อหน้าหลงเทียนพร้อมกับดาบในมือ ดาบเล่มนี้เป็นยุทธภัณฑ์ระดับวิญญาณขั้นต่ำจึงมีพลานุภาพที่มิแข็งแกร่งนัก หากเทียบกับยันต์ระดับวิญญาณของหลงเทียน หลงเทียนเริ่มสัมผัสได้ถึงพลังปราณรุนแรงที่รุมเร้าไม่หยุดจากด้านนอก
“เพลงดาบสะบั้นนภา!!” ชายสวมหน้ากากร้องคำรามดังลั่น ระหว่างที่สำแดงเพลงดาบเข้าจู่โจมใส่ร่างของหลงเทียน และหลงเทียนเองก็ไม่รู้ว่าคมดาบเล่มนั้นตวัดวาดเข้าใส่ร่างตนตั้งแต่เมื่อใด
แม้เพลงดาบที่มือสังหารใช้จะมิได้แกร่งกล้าในบรรดาระดับชั้นฝีมือเดียวกัน แต่สำหรับจัดการหลงเทียนกลับเรียกได้ว่าเกินพอ ถึงขั้นสะเทือนฟ้าสะท้านสุริยันก็มิแน่ และตราบใดที่เพลงดาบนี้สัมผัสเข้ากับเกราะป้องกันของเขา มันย่อมต้องแตกออกเป็นเสี่ยงราวกับเศษกระจกอย่างง่ายดาย อีกทั้งเกราะป้องกันของเขาก็ถูกมือสังหารผู้นี้ทุบทำลายก่อนหน้าอยู่นาน ทันทีที่เพลงดาบนี้ฟาดลงมา เกราะป้องกันของเขาก็แตกสลายในทันที
“ก้าวพริบตา!”
หลงเทียนรีบเร่งใช้วิชาตัวเบาเลี่ยงหลบการจู่โจมของมือสังหารที่ปราดพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วดุจสายฟ้า แต่ท้ายที่สุดก็มิอาจพ้นคมดาบนี้ได้ ไหล่ของเขาถูกฟันเข้าจนเกิดบาดแผล สายโลหิตสีแดงพลันไหลทะลักออกมา
แม้ว่าหลงเทียนจะฝึกปรือวิชาตัวเบามาตั้งแต่เด็กจนสำเร็จขั้นสูง แต่ในเวลานี้กลับไม่รวดเร็วพอที่จะหลบการจู่โจมของยอดฝีมืออาณาจักรแก่นปราณทองคำไปได้
หลงเทียนกัดฟันข่มความเจ็บปวดจากบาดแผล และเวลานี้โลหิตสีแดงก็ไหลออกจากไหล่ของเขาไม่หยุด หลงเทียนรู้ตัวว่าหากเขามิได้ฝึกฝนจนเข้าสู่อาณาจักรปรับกายาขั้นสุด และมีร่างกายที่แข็งแกร่งเช่นนี้แล้วล่ะก็ ยามนี้ไหล่ของเขาคงต้องหลุดออกจากร่างแล้วเป็นแน่
หลงเทียนหันกลับไปมองมือสังหารผู้นั้น แต่ร่างของมันกลับหายไปแล้ว เขากวาดตามองไปรอบตัว แต่ก็หาได้พบเห็นมันอีกไม่ แต่ถึงกระนั้น สัญชาติญาณของเขาก็บอกว่า มีสายตาของใครบางคนกำลังจับจ้องมาที่ตัวเขา ไม่ต่างจากอสรพิษร้ายที่จ้องจะฉกอยู่
“หมดเวลาเล่นสนุกแล้วเจ้าหนู!” เสียงของใครบางคนดังขึ้นจากด้านหลังของเขา
หลงเทียนหันขวับไปทันที แต่ก่อนที่เขาจะสามารถทำสิ่งใดได้ ฝ่ามือใหญ่ของใครบางคนก็ยื่นเข้ามาบีบลำคอของเขาไว้ เขาพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดรอดเป็นอิสระแต่ก็มิสามารถทำได้ เพราะชายสวมหน้ากากผู้นี้ได้จับร่างของเขาฟาดลงกับพื้นครั้งแล้วครั้งเล่า
หลงเทียนรู้สึกราวกับว่ากระดูกทั่วร่างของตนนั้นได้แตกละเอียด และโลหิตทั่วทั้งร่างก็กำลังไหลเจิ่งนองอยู่เต็มพื้น
“พวกมันใกล้จะมาถึงแล้ว ข้าต้องรีบไปก่อน!” ชายสวมหน้ากากพึมพำออกมา ก่อนที่จะโยนร่างของหลงเทียนขึ้นไปกลางเวหา
ในระหว่างที่ร่างของหลงเทียนกำลังร่วงหล่นลงสู่พื้นดินนั้น เสียงร้องตะโกนของมือสังหารก็ดังขึ้น
“เพลงหมัดพญาเสือคำรน!”
คู่กำปั้นอันทรงพลังพุ่งตรงเข้าใส่หน้าอกของหลงเทียนที่กำลังร่วงหล่นลงมาสุดแรงเกิด จากนั้นร่างของเขาก็ลอยละลิ่วออกไปราวกับว่าวที่ขาดผึง ร่างไร้การควบคุมของหลงเทียนลอยไปกระแทกกับต้นไม้ต้นแล้วต้นเล่า ก่อนจะร่วงหล่นลงพื้นพสุธาในที่สุด และเป็นเวลาเดียวกับที่ลมหายใจของเขาขาดสะบั้น..
มือสังหารผู้นั้นเดินเข้าไปสำรวจร่างไร้สติของหลงเทียนพร้อมกับยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ
“ภารกิจสำเร็จ!”
แต่แล้วจู่ๆสีหน้าของมันก็เปลี่ยนไป เมือสัมผัสได้กับคลื่นจิตสังหารที่ถาโถมเข้ามาจากระยะไกล
มือสังหารผู้นั้นได้แต่คิดอยู่ในใจว่า
‘ดูท่าพวกมันคงจะมาถึงที่นี่ในชั่วสองอึดใจเป็นแน่’ จากนั้นร่างของมันก็หายวับไปจากที่แห่งนั้นในทันที
ผ่านไปกว่าสิบอึดใจ ใครบางคนก็มาถึง ปรากฏเป็นชายชราผู้มีเส้นผมและหนวดเคราขาวโพลน สวมชุดคลุมที่ปักเลื่อมระยิบระยับตา และมีสัญลักษณ์รูปมังกรอยู่บนเสื้อ เขาก็คือประมุขตระกูลหลงและเป็นปู่ของหลงเทียนนามว่าหลงเหริน แม้ว่าจะแก่ชรา แต่กลับยังแข็งแกร่งและเปี่ยมไปด้วยพลัง
หลงเหรินกวาดสายตาไปรอบบริเวณเพื่อหาร่างของหลงเทียน และเมื่อพบเขาก็พุ่งตรงเข้าไปยืนข้างๆในทันที จากนั้นจึงรีบอุ้มร่างของหลงเทียนขึ้นมาไว้ในอ้อมอก แต่กลับพบว่าหัวใจของเขาหยุดเต้นเสียแล้ว สีหน้าของชายชราดูหวาดผวายิ่งนัก หากให้ผู้ใดมาพบเห็นเข้า พวกเขาคงจะต้องตกใจที่ได้เห็นสีหน้าหวาดผวาของชายผู้แข็งแกร่งที่สุดในจักรวรรดิ
แต่เขาหาได้หวาดกลัวต่อศัตรูไม่ สิ่งที่เขาหวาดผวาคือหลงเทียนหลานชายของเขาต่างหาก..
“แม้ข้าไม่อาจช่วยชีวิตของพ่อเจ้าไว้ได้ แต่ข้าจะต้องช่วยเจ้าให้ได้เทียนเอ๋อ เจ้าควรต้องมีชีวิตอยู่ดูโลกนี้ต่อไป”
ชายชราพึมพำออกมา
จากนั้น เขาก็ได้เรียกกล่องไม้หน้าตาธรรมดาๆออกมาจากแหวนบรรลจุ ทันทีเขาเปิดกล่องใบนั้นออกมา เกลียวพลังปราณจำนวนมากมายมหาศาลก็ได้พวยพุ่งออกมาปกคลุมบรรยากาศในบริเวณนั้นหนาแน่น ภายในกล่องไม้ธรรมดาๆใบหนั้น มีโอสถโบราณอยู่ด้านในที่กำลังทอประกายระยิบระยับ เขาจึงรีบนำโอสถนั้นใส่ลงไปในปากของหลงเทียนทันที
“ข้าหวังว่าโอสถนี้จะอัศจรรย์ดั่งที่คนผู้นั้นกล่าวไว้จริงๆ”
หลงเหรินพึมพำเบาๆกับตัวเอง โอสถเม็ดนี้หลงเหรินได้รับมอบมาจากยอดฝีมือลึกลับผู้หนึ่งที่เขาได้ช่วยชีวิตเอาไว้
ยอดฝีมือลึกลับผู้นี้ถูกคนกลุ่มหนึ่งไล่ล่า อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บสาหัส และหลงเหรินบังเอิญผ่านไปพบเข้าพอดี เขาจึงตัดสินใจเข้าไปช่วยชายผู้นั้นไว้
หลงเหรินถึงกับตกใจอย่างที่สุดเมื่อพบว่า ผู้ที่ไล่ล่ายอดฝีมือลึกลับผู้นี้มานั้น ล้วนแล้วแต่อยู่ในอาณาจักรแก่นปราณทองคำทั้งสิ้น แต่ละคนแข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่าเขาเท่าไหร่นัก และดูเหมือนพวกเขาจะมิใช่ชาวเมืองซุยอีกด้วย หลงเหรินที่แข็งแกร่งกว่าได้ทำการสังหารคนผู้นั้นทั้งหมดเพื่อช่วยยอดฝีมือลึกลับผู้นี้
ชายผู้นั้นได้กล่าวขอบคุณเขาด้วยความซาบซึ้งใจยิ่ง และได้มอบโอสถเม็ดนี้ให้แทนคำขอบคุณ ชายผู้นั้นได้บอกกับเขาว่า นี่คือโอสถหวนชีวิต หลงเหรินเองก็ไม่เคยได้ยินชื่อโอสถชนิดนี้มาก่อน และคำอธิบายต่อมาก็ทำให้เขาถึงกับตกใจอย่างยิ่ง ชายลึกลับผู้นี้ได้สาธยายคุณสมบัติของโอสถเม็ดนี้ว่า นอกจากจะรักษาอาการบาดเจ็บสาหัสได้แล้ว ยังสามารถคืนชีพให้กับคนตายได้ด้วยหากคนผู้นั้นสิ้นใจไปไม่เกินสองนาที และอวัยวะสำคัญเช่นศีรษะไม่ถูกตัดขาดออกจากร่าง
หลงเหรินตื่นเต้นจนต้องกลั้นหายใจในระหว่างที่รอดูผลลัพธ์ของโอสถ และในที่สุด.. ก็เป็นดังเช่นชายลึกลับผู้นั้นบอกไว้จริงๆ เขาเห็นบาดแผลฉกรรจ์ตามร่างกายของหลงเทียนค่อยๆสมานกัน และลมหายใจของเขาก็คืนกลับมา หัวใจของเขากลับมาเต้นอีกครั้ง และนั่นทำให้หลงเหรินดีอกดีใจอย่างมาก
และในที่สุด หลงเทียนก็เปิดเปลือกตาขึ้น..