เทพปีศาจผงาดฟ้า - ตอนที่ 42
ตอนที่ 42 จระเข้เกราะเหล็ก
‘เหตุใดพวกมันจึงพากันมุงอยู่ข้างสระน้ำเช่นนั้น?’
ในที่สุดหลงเฉินก็พบหลงซูกับสหายของเขาอีกสามคน ทั้งหมดกำลังยืนมุงอยู่ข้างสระน้ำแห่งหนึ่ง
“พวกเราเดินตามแผนที่ขุมทรัพย์นี้มานานถึงสามวัน ในที่สุดก็พบตำแหน่งที่ระบุไว้ในแผนที่เสียที!” หนึ่งในสามจ้องมองลงไปในสระน้ำพร้อมกับร้องตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น
“นี่.. พวกเจ้าอย่าลืมว่าเราได้แผนที่แผ่นนี้มาโดยบังเอิญ แม้แต่ข้าเองก็หารู้ไม่ว่าในสระน้ำที่ระบุไว้ในแผนที่นี้จักมีสมบัติอันใดบ้าง และต่อให้มีจริง.. ก็มิรู้ว่าจักมีผู้อื่นได้มันไปก่อนหน้าที่พวกเราจะมาถึงหรือไม่?” หลงซูหันไปมองสหายทั้งสามของตนพร้อมกับเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“แต่หากภายในสระแห่งนี้มีสมบัติอยู่จริง พวกเราก็จะนำขึ้นมาแบ่งปันกัน หากพบสมบัติที่มิอาจแบ่งกันได้ ข้าก็จักขอซื้อต่อจากพวกเจ้าเอง ไม่ว่าจะด้วยทองคำหรือผลึกปราณก็ย่อมได้ และหากเป็นสมบัติล้ำค่าจริง ไม่ว่าจะมีราคาสูงมากเพียงใด ตระกูลหลงของข้าก็ร่ำรวยมากพอที่จะซื้อไว้ได้แน่ เรื่องนี้พวกเจ้าย่อมรู้อยู่แก่ใจดี..” หลงซูบอกกับสหายของตนด้วยสีหน้าท่าทางภาคภูมิใจ
“นายน้อยซู เรื่องนั้นพวกเราย่อมรู้ดีอยู่แล้ว หากเป็นสมบัติล้ำค่าจริง ตระกูลหลงของท่านย่อมยินดีที่จะรับซื้อไว้ อีกอย่าง.. สมบัติล้ำค่าเช่นนั้นหากพวกเราทั้งสามคนเก็บไว้กับตัว ก็มีแต่จะนำความหายนะมาสู่ตัวเอง ฉะนั้นพวกเรายอมรับข้อเสนอของท่าน” ชายหนุ่มร่างท้วมกล่าวตอบไปแม้จะมีสีหน้าที่ไม่พอใจนัก
“ฮ่าๆๆๆ จือเหลียง นับว่าเจ้าเฉลียวฉลาดยิ่งนัก สมกับเป็นนายน้อยแห่งตระกูลจือยิ่งนัก แม้ตระกูลจือจะมิใช่ตระกูลสูงส่งดังเช่นตระกูลหลงของข้า แต่อย่างน้อยก็เป็นถึงตระกูลที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของเมืองมังกร”
“ข้าเชื่อว่าวันใดที่เจ้าได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลต่อจากพ่อของเจ้า เจ้าจักต้องนำพาตระกูลจือให้เจริญรุ่งเรืองได้อย่างมากเป็นแน่ ฮ่าๆๆ” หลงซูหัวเราะร่วนพร้อมกับยกมือขึ้นตบบ่าจือเหลียงอย่างอารมณ์ดี
“ข้าหาได้เก่งกาจถึงเพียงนั้นไม่นายน้อยซู แต่ในเมื่อท่านเอ่ยปากชมข้าเช่นนี้ ข้าก็ขอน้อมรับไว้” ชายร่างอ้วนนามจือเหลียงตอบกลับไปพร้อมกับหันไปยิ้มให้หลงซู
“แล้วพวกเจ้าทั้งสองคนเล่า?” หลงซูหันไปทางชายหนุ่มอีกสองคนที่ยังคงยืนนิ่ง
“พวกเราเองก็เห็นพ้องกับข้อเสนอของนายน้อยซู..” ชายหนุ่มทั้งสองรีบตอบรับข้อเสนอของหลงซูทันที หลังจากที่ได้ยืนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
‘แผนที่ขุมทรัพย์งั้นรึ? น่าสนใจทีเดียว.. พวกมันคงจะได้แผนที่นี้มาจากที่ใดสักแห่งแน่ มิน่า.. พวกมันจึงได้รีบร้อนเดินทางมาที่นี่กันนัก ว่าแต่พวกมันตั้งใจมาที่นี่ตั้งแต่แรก หรือเพิ่งจะพบแผนที่ขุมทรัพย์นี้เข้าโดยบังเอิญ จึงได้เปลี่ยนแผนมุ่งหน้ามาที่นี่แทน?’
หลงเฉินซึ่งแอบอยู่ด้านหลังต้นไม้ข้างๆเฝ้าแต่ครุ่นคิด ระยะที่เขาซ่อนตัวอยู่นั้นห่างไกลพอที่สัมผัสเทวะของหลงซูจะมิอาจสำรวจพบได้
หลงเฉินรู้ว่าผู้ที่เข้าสู่อาณาจักรผสานวิญญาณขั้นแปด โดยปกติสัมผัสเทวะของคนผู้นั้นจักมีรัศมีครอบคลุมราวหกสิบถึงเจ็ดสิบเมตร ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งในสามของรัศมีสัมผัสเทวะที่หลงเฉินมีอยู่
‘เวลานี้ข้าอยู่ห่างจากพวกมันเก้าสิบเมตร หากจะเข้าไปใกล้กว่านี้ก็ย่อมทำได้ เพียงแต่.. หากพวกมันเปิดสัมผัสเทวะออกสำรวจ ไม่แน่ว่าพวกมันอาจพบเห็นข้าเข้าก็เป็นได้ ครั้งหน้าข้าคงต้องไปที่โถงวรยุทธเสาะหาวิชาพลางกายบ้างแล้ว..’
‘ข้าคงต้องซ่อนตัวและคอยสังเกตการณ์อยู่ที่นี่ก่อน แล้วจึงค่อยคิดเรื่องลงมือจัดการกับพวกมัน..’
หลงเฉินครุ่นคิดอยู่ภายในใจ ขณะเดียวกันก็เปิดสัมผัสเทวะของตนออกสำรวจดูหลงซูกับพวก..
“ตามแผนที่ขุมทรัพย์.. สมบัติถูกซ่อนไว้ภายในสระแห่งนี้ แต่ปัญหาก็คือ.. ภายใต้สระน้ำมีจระเข้เกราะเหล็กอาศัยอยู่น่ะสิ มันเป็นถึงสัตว์อสูรวิญญาณระดับสิบเลยทีเดียว พวกเราต้องคิดหาวิธีกำจัดมันให้ได้เสียก่อน”
“ความจริงแล้ว.. พวกเราสามคนสามารถเอาชนะสัตว์อสูรวิญญาณระดับสิบตนนี้ได้ไม่ยากนัก หากต่อสู้กับมันบนผืนดิน แต่นี่ภายในน้ำซึ่งเป็นถิ่นของจระเข้เกราะเหล็กตนนี้ พลังของมันจึงยิ่งแกร่งกล้ามากขึ้น!” จือเหลียงออกความเห็น
“หากเป็นเช่นนั้น.. พวกเราก็ต้องหาทางหลอกล่อให้มันออกมาจากสระนี้ให้ได้เสียก่อน เมื่อมันขึ้นมาบนผืนดินแล้ว พวกเราทั้งหมดจึงค่อยลงมือสังหารมัน” หลงซูเสนอวิธีสังหารจระเข้เกราะเหล็กด้วยสีหน้าที่ดูไม่เดือดร้อนใจนัก
“แล้วพวกเราจะล่อมันขึ้นจากน้ำได้อย่างไร?” จือเหลียงเอ่ยถามขึ้นทันที
“ง่ายมาก.. พวกเราก็แค่หาบางสิ่งบางอย่างที่มันสนใจ หลอกล่อให้มันขึ้นจากน้ำน่ะสิ! ข้านำน้ำล่ออสูรติดตัวมาด้วยพอดี น้ำล่ออสูรนี้หลอมโดยนักหลอมโอสถมือหนึ่งแห่งเมืองมังกรเลยทีเดียว แต่เพราะมิมีผู้ใดสนใจอยากได้ ข้าจึงประมูลมาได้ในราคาที่ถูกนัก รับรองได้ว่าสัตว์อสูรที่ต่ำกว่าอสูรพิภพย่อมมิอาจต้านทานกลิ่นของมันได้ จระเข้เกราะโลหะตนนี้ก็เช่นกัน!
หลงซูร้องบอกสหายทั้งสามของตนเองอย่างภาคภูมิใจ พร้อมกับล้วงเอาขวดแก้วเล็กๆใบหนึ่งออกมา..
“โอโห.. นายน้อยซู ท่านนี่ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ นั่นล่ะคือสิ่งที่พวกเรากำลังต้องการ” ชายหนุ่มทั้งสามต่างก็พากันสรรเสริญเยินยอหลงซู
“เอาล่ะ พวกเราหลบออกไปยืนรอข้างๆก่อน” หลงซูโยนขวดแก้วใสลงกระแทกกับพื้นจนแตก จากนั้นกลิ่นรุนแรงก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วบริเวณ
‘เช่นนี้ก็ดี! หลังจากที่พวกมันนำสมบัตินั่นขึ้นมาจากสระแล้ว แม้วันนี้จะมิใช่วันเกิดของข้า แต่ข้าก็จักได้ของขวัญมาโดยมิต้องออกแรงเช่นนี้ ช่างเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว!’ หลงเฉินฉีกยิ้มกว้างเมื่อนึกถึงสมบัติที่กำลังจะตกเป็นของตนเอง
ผ่านไปราวสิบนาที.. ในที่สุดจระเข้เกราะเหล็กก็เริ่มขยับเขยื้อนอยู่ใต้สระแห่งนั้น และเพียงแค่ชั่วเวลาสั้นๆ ร่างของมันก็ค่อยๆปรากฏขึ้นเหนือผืนน้ำ
จระเข้เกราะเหล็กตนนี้มีความยาวกว่าสิบเมตร ทั่วทั้งแผ่นหลังมีหนามแหลมดั่งโลหะโผล่ขึ้นมา เวลานี้ร่างของมันค่อยๆคืบคลานขึ้นจากสระน้ำ และเดินเตาะแตะอย่างเชื่องช้าตรงไปยังตำแหน่งที่น้ำล่ออสูรหกอยู่
‘สัตว์อสูรตนนี้ดูแข็งแกร่งไม่น้อยทีเดียว แม้มันจะเคลื่อนที่ได้เชื่องช้ากว่าพยัคฆ์เจ็ดสีที่ข้าเพิ่งสังหารไป แต่ดูเหมือนเกราะป้องกันของมันจักแข็งแกร่งกว่ามาก’ หลงเฉินพินิจมองจระเข้เกราะเหล็ก พร้อมกับคาดคะเนความแข็งแกร่งของมันอยู่ภายในใจ
และทันทีที่จระเข้เกราะเหล็กขึ้นมาบนฝั่ง หลงซูกับพวกก็รีบพุ่งเข้าจู่โจมใส่ร่างของสัตว์อสูรตนนี้ทันที..
จระเข้เกราะเหล็กร้องคำรามออกมาเสียงดังในระหว่างที่ต่อสู้อยู่กับผู้ฝึกยุทธทั้งสี่ หลังจากที่ต่อสู้กันอย่างดุเดือดอยู่นาน ในที่สุดหลงซูกับพวกก็สามารถทำให้สัตว์อสูรตนนี้เริ่มอ่อนล้า และเวลานี้บาดแผลมากมายก็ได้ปรากฏอยู่เต็มแผ่นหลังของเจ้าจระเข้เกราะเหล็กตนนี้
‘หลงซูเข้าสู่อาณาจักรผสานวิญญาณขั้นแปดแล้ว ในขณะที่อีกสามคนอยู่ในขั้นเจ็ดของอาณาจักรเดียวกัน พวกมันทั้งสี่คนร่วมมือกันเช่นนี้ ย่อมต้องแข็งแกร่งกว่าจระเข้าเกราะเหล็กเป็นธรรมดา’ หลงเฉินครุ่นคิดในระหว่างที่เฝ้ามองคนทั้งสี่ต่อสู้กับสัตว์อสูรตนนี้อยู่เงียบๆ
‘แม้จระเข้เกราะเหล็กตนนี้จักมีเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรตนอื่นที่ข้าพบเจอมา แต่ถูกผู้ฝึกยุทธอาณาจักรผสานวิญญาณรุมถึงสี่คนเช่นนี้ หนามแหลมดั่งโลหะบนแผ่นหลังของมันก็คงมิอาจช่วยอะไรได้!’ หลงเฉินคาดเดาสถานการณ์อยู่ภายในใจ
หลังจากที่ต่อสู้กันอย่างดุเดือดนั้น ดูเหมือนจระเข้เกราะเหล็กจะรู้ตัวว่าอาจมีอันตรายถึงชีวิต มันจึงรีบล่าถอย และต้องการหนีกลับลงไปในสระน้ำ
“อย่าให้มันหนีลงสระไปได้!!!” หลงซูร้องตะโกนบอกสหายของตนอีกสามคนทันที
จือเหลียงกระโดดเข้าไปขวางระหว่างจระเข้าเกราะเหล็กกับสระน้ำไว้ หลังจากนั้นผู้ฝึกยุทธทั้งสี่คน ต่างก็ช่วยกันรุมสังหารจระเข้เกราะเหล็กจนสิ้นใจตายในที่สุด
“ฮู่ว.. เกราะป้องกันของมันช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก พวกเราต้องใช้เวลานานทีเดียวกว่าจะสังหารมันจนตายได้!”
“นั่นสิ! ข้าได้ยินมาว่าหนังของจระเข้เกราะเหล็กนี้ขายได้ราคาดีมากทีเดียว พวกเรามาช่วยกันถลกหนังของมันออกมากันดีกว่า”
“ช้าก่อน! ข้าว่าพวกเราอย่าเสียเวลาไปกับเรื่องพวกนั้นเลย สิ่งที่พวกเราต้องทำเวลานี้คือรีบลงไปหาสมบัติในสระน้ำกันก่อน หลังจากพบสมบัติแล้วจึงค่อยกลับขึ้นมาถลกหนังของจระเข้เกราะเหล็กก็ยังไม่สาย..”
หลงซูเอ่ยแนะนำในขณะที่สายตาของเขาจับจ้องไปทางสระน้ำด้านหน้า..