เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - ตอนที่ 1074
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1074 สายลับเผยตัว
แปลโดย iPAT
ฟางหยวนส่ายศีรษะและถอนหายใจ
ราคาของการให้อาหารวิญญาณสติปัญญาแพงเกินไป อาจมีเพียงจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเท่านั้นที่สามารถจ่าย
ฟางหยวนไม่ต้องการจ่ายด้วยอายุขัยของตนเอง กระทั่งเขาจะมีวิญญาณอายุยืน เขาก็จะใช้มันในสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น
วิญญาณอายุยืนเป็นวิญญาณระดับมนุษย์ แต่มันมีค่ายิ่งกว่าวิญญาณอมตะอย่างไม่สามารถเปรียบเทียบ
มีอุปสรรคสำคัญสองประการในการบ่มเพาะของผู้อมตะ หนึ่งคือภัยพิบัติ และสองคืออายุขัย
แม้แต่เทพอมตะและเทพปีศาจก็ถูกท้าทายโดยปัญหาสองข้อนี้
ย้อนกลับไปเหตุผลประการหนึ่งที่เทพอมตะตะวันเดือดสร้างวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงขึ้นมาก็เพราะต้องการรวบรวมวิญญาณอายุยืนทั้งหมดของภาคเหนือ
แม้เทพอมตะตะวันเดือดจะมีวิญญาณสติปัญญา แต่เขาก็ไม่สามารถใช้งานมัน เนื่องจากวิญญาณอายุยืนมีอยู่จำกัด อย่างไรก็ตามด้วยความสำเร็จบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ เขาสามารถใช้มันอ้างอิงเพื่อเลียนแบบวิธีบนเส้นทางแห่งสายอื่น ดังนั้นวิญญาณสติปัญญาจึงไม่มีความสำคัญมากนัก
หลังจากเทพอมตะตะวันเดือดเสียชีวิต วิญญาณอายุยืนเริ่มปรากฏขึ้นอีกครั้ง นั่นเป็นช่วงเวลาของเทพอมตะสวรรค์พิภพ
เขาค้นหาวิญญาณอายุยืนตลอดเวลาหลายปีในชีวิต แต่วิญญาณอายุยืนไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการของผู้คน
หลังจากเทพอมตะสวรรค์พิภพตาย วิญญาณอายุยืนก็ปรากฏขึ้นอีก ทุกๆสิบปีวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงจะดึงดูดวิญญาณอายุยืนเข้าไป นั่นทำให้วิญญาณสติปัญญาได้รับอาหารอย่างช้าๆและค่อยๆฟื้นตัวขึ้น
กระทั่งถึงวันที่ฟางหยวนทำลายวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง เพื่อรักษาชีวิตรอด วิญญาณสติปัญญาจึงติดตามฟางหยวนไปที่แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู สุดท้ายจึงมาจบลงที่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
‘ก่อนหน้านี้ข้าใช้วิญญาณอายุยืนเพื่อหลอมรวมทะเลวิญญาณที่สอง นั่นเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ หลังจากนั้นข้าได้รับวิญญาณอายุยืนมาจากนางมารผลาญสวรรค์ แต่ด้วยการกำเนิดใหม่ ข้าสูญเสียวิญญาณอายุยืนไป ตั้งแต่นางมารผลาญสวรรค์สามารถมอบให้ข้า นางย่อมมีวิญญาณอายุยืนมากกว่าหนึ่ง แต่นางตายไปแล้วในค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา ข้าสงสัยว่าวิญญาณอายุยืนจะถูกทำลายไปพร้อมกับนางหรือไม่? หือ…’
ฟางหยวนคิดก่อนที่จะตระหนักถึงบางสิ่ง
‘วิญญาณอายุยืนหาได้ยาก กระทั่งเทพอมตะหรือเทพปีศาจยังต้องการมัน นางมารผลาญสวรรค์ตายเพราะแผนการของเทพปีศาจจิตวิญญาณ ความมั่งคั่งทั้งหมดของนางย่อมถูกโอนถ่ายไปยังเทพปีศาจจิตวิญญาณเรียบร้อยแล้ว แม้แผนการของเขาจะล้มเหลว แต่ความมั่งคั่งที่เหลืออยู่ของนิกายเงาก็ไม่สามารถดูแคลน!’
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามีวิญญาณอายุยืนอยู่จำนวนหนึ่ง พวกมันเป็นวิญญาณอายุยืนที่ถือกำเนิดขึ้นในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาดำรงอยู่นานกว่าสามแสนปี มันเคยเป็นถ้ำสวรรค์มาก่อน ด้วยการคงอยู่ของคฤหาสน์วิญญาณหม้อหลอมรวม พื้นที่ของมันยิ่งขยายใหญ่ขึ้น
เผ่ามนุษย์ขนจำนวนมหาศาลอาศัยอยู่ที่นี่มานานหลายชั่วอายุคน ขณะที่วิญญาณอายุยืนเกิดจากการคงอยู่ของรูปแบบชีวิต
ที่ใดมีสิ่งมีชีวิต วิญญาณอายุยืนจะถือกำเนิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ ประชากรจำนวนนับไม่ถ้วน และประวัติศาสตร์อันยาวนาน จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจึงสามารถรวบรวมวิญญาณอายุยืนได้มากมาย
‘วิญญาณสติปัญญาพึ่งพาอายุขัยเพื่อปลดปล่อยพลังอำนาจ อาหารของมันก็ยังเป็นวิญญาณอายุยืน ดังนั้นตอนนี้ข้าควรปล่อยให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเลี้ยงดูมันไปก่อน’
ฟางหยวนรู้เจตนาของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาโดยไม่จำเป็นต้องพิสูจน์
แต่นี่เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เพราะฟางหยวนไม่มีวิญญาณอายุยืน
นอกจากนั้นเขายังกังวลเกี่ยวกับภัยพิบัติครั้งต่อไปที่ใกล้เข้ามาและไม่มีเวลาสนใจเรื่องวิญญาณสติปัญญา
แม้วิญญาณสติปัญญาจะถูกนำมาโดยเขา แต่ฟางหยวนก็ไม่เคยให้อาหารมันแม้แต่ครั้งเดียว
ในความเป็นจริง จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาสามารถช่วยเหลือฟางหยวนได้มากในเรื่องนี้
‘ในกรณีที่วิญญาณสติปัญญายอมรับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา มันก็ยังเป็นเรื่องดี ด้วยสถานะของข้า ข้าสามารถยืมมือจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเพื่อใช้งานวิญญาณสติปัญญา ข้าเพียงต้องจ่ายด้วยแต้มผลงานของนิกายเท่านั้น’
วิญญาณเป็นเพียงเครื่องมือ
การทำงานหนักทั้งหมดของเขาเพื่อบรรลุเป้าหมายใหญ่
การทดลองใช้วิญญาณสติปัญญาล้มเหลวแต่ฟางหยวนไม่รู้สึกผิดหวัง ก่อนจากไป เขาขอสิ่งหนึ่งกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา
มันเป็นวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งข้อมูลที่บันทึกภาพเหตุการณ์ระหว่างการหลอมรวมวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์
“การหลอมรวมวิญญาณครั้งนี้แปลกมาก ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทรงพลังเกินไป พวกเราประสบความสำเร็จเพราะโชคช่วย ฟางหยวน หากเจ้าพบสิ่งใด เจ้าต้องรีบบอกข้า” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวกับฟางหยวนก่อนที่เขาจะจากไป
“ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งไม่พบสิ่ง ข้าก็คงเช่นกัน แต่ข้าจะทำอย่างดีที่สุด” ฟางหยวนตอบ ในความเป็นจริงเขาคาดเดาว่ามันเกี่ยวกับร่างใหม่ของเขา แต่เขาไม่บอกการคาดเดานี้กับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา
นอกจากตรวจสอบภัยพิบัติ ฟางหยวนยังมีอีกเป้าหมายหนึ่ง เขาต้องการตรวจสอบนิกายหลางหยาและค้นหาสายลับที่ซ่อนอยู่
ตลอดมาฟางหยวนไม่เคยลืมเรื่องนี้
ก่อนหน้าสายลับสองคนเปิดเผยตัวออกมาโดยไม่คาดคิด นอกจากนั้นพวกเขายังรับหน้าที่สำคัญในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
‘นอกจากพวกเขา ยังมีสายลับคนอื่นอยู่อีกหรือไม่?’
ปัญหานี้เป็นเรื่องสำคัญต่อฟางหยวน หลังจากทั้งหมดเขาเข้าร่วมกับนิกายหลางหยาเรียบร้อยแล้ว ในอนาคตเขายังต้องพึ่งพาจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาอีกมาก
เขาต้องตรวจสอบแต่เขาไม่มีเวลากระทั่งถึงตอนนี้
หลังจากบินมาได้ระยะหนึ่ง ฟางหยวนเข้าใกล้ที่พักใหม่ของเขา
มันเป็นเมืองสีขาวขนาดใหญ่ที่มีหอคอยสูงขึ้นสู่ท้องฟ้า
นี่คือเมืองเมฆา
ทวีปเมฆามีสิบสองเมือง แต่ละเมืองเป็นคฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์ เมื่อพวกมันทำงานพร้อมกัน พวกมันจะสามารถสร้างค่ายกลวิญญาณขนาดใหญ่ที่ปกคลุมทวีปเมฆาเอาไว้ทั้งหมด
เมืองเมฆาทั้งสิบถูกสร้างขึ้นจากหอคอยเมฆาทั้งสิบสอง
เมืองเมฆาที่อยู่ด้านหน้าฟางหยวนถูกมอบให้เขาโดยจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเพื่อให้เขาใช้อาศัยและปกป้องมัน ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนคนอื่นๆได้รับมอบหมายให้ปกป้องเมืองเมฆาในแต่ละเมืองเช่นกัน
ตามแผนการของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา เขาจะคัดเลือกมนุษย์ขนที่โดดเด่นจากสามทวีปด้านล่างขึ้นมาอาศัยอยู่ในเมืองเมฆาและฝึกฝนพวกเขา
ฟางหยวนบินเข้าไปในเมืองก่อนจะลงจอดบนพื้น
ผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์ขนหลายคนเร่งต้อนรับการกลับมาของเขา
พวกเขาเป็นผู้ใช้วิญญาณที่ถูกคัดเลือกมาโดยจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาและส่งมอบให้ฟางหยวน พวกเขาตั้งใจปรนิบัติฟางหยวนและหวังว่าจะได้รับคำแนะนำในการบ่มเพาะจากเขา
ฟางหยวนไม่สนใจมนุษย์ขนเหล่านี้ แต่ผู้นำกลุ่มมนุษย์ขนบอกฟางหยวนว่าเจ้าเมืองที่หกมารอพบฟางหยวนและรออยู่ในห้องรับรองนานแล้ว
เจ้าเมืองที่หกก็คือผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขน ผมที่หก เขาเป็นผู้ดูแลเมืองเมฆาลำดับที่หก
‘เหตุใดเขาจึงมาที่นี่?’
ฟางหยวนรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล เขาไปที่ห้องรับรองและพบกับผมที่หก
“ข้า ผมที่หก ทักทายท่านเจ้าเมืองที่สอง ข้ามาที่นี่ในวันนี้เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการต่อสู้จากท่าน” ผมที่หกทักทายฟางหยวนอย่างสุภาพ
การแสดงออกของฟางหยวนไม่เปลี่ยนแต่สายตาของเขากลับเย็นเยียบ
ภายนอกผมที่หกกล่าวเสียงดังแต่เขาลอบส่งข้อมูลไปหาฟางหยวนอย่างลับๆ
“ฟางหยวน ข้าคือตัวแทนของท่านอิงอู๋เซี่ย พวกเราต้องการทำธุรกรรมกับเจ้า!”
อิงอู๋เซี่ย!
นิกายเงา!
ผมที่หกคือสายลับ!
ความคิดมากมายพุ่งเข้าสู่จิตใจของฟางหยวน
“พวกเราเป็นสมาชิกนิกายหลางหยาเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องมากพิธี” ฟางหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มและแสดงออกอย่างอบอุ่น
เขาเชิญผมที่หกให้นั่งลงก่อนที่ตนเองจะนั่งบนเก้าอี้ของตนเอง
‘ผมที่หกเป็นสายลับ เขาเป็นสายลับคนเดียวในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาหรือไม่?’
‘เขาเป็นตัวแทนของอิงอู๋เซี่ย พวกเขาต้องการทำธุรกรรมใด?’
‘เกิดสิ่งใดขึ้นกับอิงอู๋เซี่ย เหตุใดเขาจึงติดต่อข้า?’
‘นี่เป็นกับดักหรือไม่? มันเป็นแผนการตรวจสอบของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาหรือไม่?’
ฟางหยวนคิดเรื่องเหล่านี้ขณะนั่งลง
ดวงตาของเขาแหลมคมเหมือนใบมีดขณะมองผมที่หกด้วยเจตนาสังหาร เขาส่งข้อความเสียงไปหาผมที่หก “ผมที่หก ช่างกล้านัก! เจ้ากล่าวความจริงหรือไม่? หากมันเป็นเรื่องจริง ข้าจะส่งเจ้าให้ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งเพื่อให้เขาตัดสิน!”