เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - ตอนที่ 1135
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1135 อย่ารบกวน
แปลโดย iPAT
“บึม!”
เสียงระเบิดดังขึ้นเมื่อสุนัขดาวตกเพลิงพุ่งชนหมีเพชร
หมีเพชรเป็นสัตว์อสูรเดียวดาย มันมีร่างกายที่แข็งแกร่งราวกับกำแพงหิน
อย่างไรก็ตามด้วยการโจมตีจากสุนัขดาวตกเพลิง หมีเพชรก้าวถอยหลังกลับไปหกก้าวแต่ยังสามารถยืนอยู่อย่างมั่นคง สุนัขดาวตกเพลิงกระโดดกลับหลังและรู้สึกเวียนศีรษะ
มันส่ายหัวปัดเป่าอาการมึนงงออกไป
ในจังหวะนี้ท่าไม้ตายหกท่าพุ่งออกมาจากหลังต้นไม้และโจมตีสุนัขดาวตกเพลิงอย่างพร้อมเพรียง
สุนัขดาวตกเพลิงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดหลังจากถูกลอบโจมตี
ฟางหยวนเฝ้ามองอยู่ด้านข้างด้วยการแสดงออกที่สงบนิ่ง
‘ไม่เพียงผมที่สิบสองแต่คนอื่นๆก็เรียนรู้ท่าไม้ตายอมตะใหม่เช่นกัน’
‘แต่ท่าไม้ตายอมตะเหล่านี้ใช้วิญญาณอมตะเพียงดวงเดียวเป็นแกนกลาง พวกมันล้วนเป็นท่าไม้ตายระดับหก’ ฟางหยวนประเมิน
สุนัขดาวตกเพลิงถูกโจมตีอย่างหนักแต่มันกลับได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย
มันเป็นสัตว์อสูรบรรพกาล แม้มันจะยังเด็ก แต่มันก็มีความสามารถในการป้องกันและฟื้นฟูที่น่าทึ่ง
‘ครั้งนี้ข้าจะล้มเหลวไม่ได้ ฟางหยวนจะหัวเราะข้า!’ ผมที่สิบสองเต็มไปด้วยเจตจำนงแห่งการต่อสู้
สัตว์อสูรเดียวดายทั้งสามราวกับสัมผัสได้ถึงเจตจำนงของเจ้านาย ดังนั้นพวกมันจึงตั้งใจต่อสู้มากขึ้น
ภายใต้การควบคุมของผลที่สิบสอง หมีเพชรใช้ร่างกายที่แข็งแกร่งของมันในการต่อสู้ขณะที่พยัคฆ์ขาวลายทองคอยสนับสนุน ด้านกระทิงเกาลัด มันอ่อนแอมาก มันทำได้เพียงมองอยู่ด้านข้างและฉวยโอกาสโจมตีเป็นครั้งคราวเท่านั้น
‘ผมที่สิบสองดูเหมือนจะมีช่วงเวลาที่ง่ายดายแต่สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง สุนัขดาวตกเพลิงโจมตีอย่างรุนแรง เขายังไม่ส่งสัตว์อสูรเดียวดายตัวที่สี่ออกมา ดูเหมือนเขาจะมีสัตว์อสูรเดียวดายเพียงสามตัว’
ฟางหยวนวิเคราะห์อย่างใจเย็น
ผมที่สิบสองใช้สัตว์อสูรเดียวดายที่อ่อนแอเช่นกระทิงเกาลัด ดังนั้นการคาดเดาของฟางหยวนมีความเป็นไปได้สูงมาก
‘หลังจากสวรรค์สีเหลืองเปิด ผมที่สิบสองซื้อหมีเพชรและพยัคฆ์ขาวลายทอง แต่ตัวเลือกของเขายังมีคำถาม หมีเพชรตัวเดียวก็เพียงพอแล้ว แต่เขายังซื้อพยัคฆ์ขาวลายทองที่เป็นสัตว์อสูรเดียวดายบนเส้นทางแห่งโลหะที่มีพลังป้องกันสูง หากเขาซื้อสัตว์อสูรเดียวดายที่สามารถบินได้ มันจะมีประโยชน์มากกว่า ด้วยวิธีนี้สุนัขดาวตกเพลิงจะถูกเบียงเบนความสนใจและเผยจุดอ่อนออกมา’
ขณะที่ฟางหยวนกำลังคิดถึงเรื่องนี้ ผมที่สิบสองก็ทำเรื่องผิดพลาด หมีเพชรเปิดช่องว่างขณะเคลื่อนที่!
“บัดซบ!” ผมที่สิบสองเต็มไปด้วยโกรธและเร่งส่งกระทิงเกาลัดเข้าเติมเต็มช่องว่างทันที
‘อดทนไว้!’ ผมที่สิบสองกรีดร้องอยู่ในใจ
สุนัขดาวตกเพลิงส่งกระทิงเกาลัดกระเด็นกลับหลัง
จากนั้นสุนัขดาวตกเพลิงยังพุ่งออกไปด้านนอก
นี่ทำให้กลุ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนที่ซ่อนตัวอยู่กรีดร้องด้วยความหวาดกลัว
“เร็วใช้ท่านั้น!” เมื่อเห็นสุนัขดาวตกเพลิงกำลังจะโจมตี ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนที่โชคร้ายเร่งตะโกนด้วยความหวาดกลัว
ในเวลาต่อมาเขาหายตัวไปก่อนจะปรากฏขึ้นอีกครั้งด้านข้างผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนอีกคนที่อยู่ห่างออกไปหนึ่งพันก้าว
“ขอบคุณ ขอบคุณที่ดำเนินการอย่างรวดเร็ว มิฉะนั้นข้าคงตายไปแล้ว” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนที่รอดชีวิตเร่งกล่าว
คนที่ช่วยเขาคือผมที่หก
เขาตบไหล่ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนที่รอดชีวิต “สบายใจได้ อย่าลืมว่ามีคนนอกอยู่ที่นี่ เราจะทำให้นิกายหลางหยาเสียหน้าไม่ได้”
กระทั่งเวลานี้ผมที่หกก็ยังพยายามหว่านความไม่ลงรอย
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนที่ถูกช่วยไว้เร่งปกปิดการแสดงออกแต่ร่างกายของเขายังสั่นเล็กน้อย
ฟางหยวนก่นเสียงเย็นขณะมองผมที่หก
‘ข้าจะฆ่าสหายผู้นี้ในวันหนึ่ง แต่ตอนนี้พวกเราเป็นสมาชิกนิกายหลางหยาและยังมีข้อตกลงพันธมิตร เราไม่สามารถฆ่ากันเองได้โดยตรง หากผมที่หกต้องการฆ่าข้า เขาต้องกำจัดข้อตกลงพันธมิตรของนิกายหลางหยาอย่างลับๆเป็นอันดับแรก’
ฟางหยวนต้องการใช้ประโยชน์จากนิกายหลางหยาแต่ผมที่หกยังเป็นอุปสรรค
ผมที่หกมีบทบาทสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างฟางหยวนกับนิกายหลางหยาเปลี่ยนแปลงไป
ในนิกายหลางหยา ฟางหยวนและผมที่หกต่างมีแรงจูงใจซ่อนเร้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน
ฟางหยวนทำข้อตกลงพันธมิตรกับนิกายหลางหยา เขาไม่สามารถทำร้ายสมาชิกของนิกาย แน่นอนว่าเขาสามารถคิดและพูดถึงพวกเขา ผมที่หกเป็นสมาชิกนิกายหลางหยาเช่นกัน หากเขาตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย ฟางหยวนต้องช่วยเขา แต่มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ หากผมที่หกพยายามทำให้ตนเองตกอยู่ในอันตรายและล่อลวงสัตว์อสูรเข้ามาเพื่อวางกับดักโจมตีฟางหยวน เขาไม่จำเป็นต้องช่วยเหลือผมที่หก
เนื่องจากฟางหยวนเข้าร่วมนิกายหลางหยาและอยู่ภายใต้ข้อตกลง เขาจึงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้โดยง่าย
ผมที่หกต้องการร่างกายของฟางหยวน แต่เขามีความแข็งแกร่งไม่เพียงพอ นอกจากนั้นฟางหยวนยังยังรู้ว่าเขาเป็นสายลับของนิกายเงา
ทั้งสองฝ่ายต่างมีข้อจำกัดของตนเองและต้องระวังซึ่งกันและกัน
ราวกับผมที่หกสัมผัสได้ถึงการจ้องมองของฟางหยวน เขาหันหน้ามาและเผยรอยยิ้มชั่วร้าย
ผมที่หกเป็นร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณ เขามีประสบการณ์ในการต่อสู้ นี่คือเหตุผลที่เขาสามารถช่วยผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนได้ในทันที
ผมที่หกพยายามผลักฟางหยวนออกจากกลุ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนเพื่อชะลอการเติบโตของเขา
การต่อสู้ยังดำเนินต่อไป
สุนัขดาวตกเพลิงไม่สามารถสังหารผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนเพราะหมีเพชรและพยัคฆ์ขาวลายทองช่วยเบี่ยงเบนความสนใจ
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนคนอื่นๆยังโจมตีจากระยะไกล
อย่างไรก็ตามแม้ผมที่สิบสองจะพัฒนาขึ้นแต่เขายังทำเรื่องผิดพลาดตลอดการต่อสู้
หลังจากหลุดจากวงล้อม สุนัขดาวตกเพลิงพยายามสังหารผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนคนอื่นๆอีกครั้ง
แต่พวกเขายังสามารถหลบหนีด้วยท่าไม้ตายอมตะ
‘ท่าไม้ตายอมตะนี้น่าสนใจทีเดียว’ ฟางหยวนเฝ้ามองอยู่อย่างเงียบๆ เขาคิดโดยไม่รู้ตัวว่าหากตนเองเป็นสุนัขดาวตกเพลิง เขาจะทำอย่างไรเพื่อทำลายท่าไม้ตายนี้
ในไม่ช้าฟางหยวนก็ได้รับคำตอบ
มันยากที่จะรับมือท่าไม้ตายนี้เพราะเขามีข้อมูลเพียงเล็กน้อย
เขาไม่รู้กระทั่งชื่อของท่าไม้ตาย
ในช่วงเวลาสั้นๆท่าไม้ตายนี้ไม่ได้เผยข้อบกพร่องใดๆออกมา
‘แม้ข้าจะไม่สามารถทำลายท่าไม้ตายนี้ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะสังหารผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขน ความเร็วของข้าสูงกว่าพวกเขามาก ข้าสามารถใช้ท่าไม้ตายดาบประหารชีวิตหรือท่าไม้ตายลอบสังหารในความมืด แต่ในความเป็นจริงเพียงวิญญาณอมตะดาบบินก็เพียงพอแล้ว แน่นอนว่าผมที่หกซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้ นั่นเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป’
“ข้าต้องประสบความสำเร็จ ข้าต้องเอาชนะสุนัขดาวตกเพลิงในครั้งนี้!” ผมที่สิบสองตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ
ครั้งนี้เขาทำได้ดีกว่าครั้งก่อนหน้า ด้วยกลยุทธ์ที่เหมาะสม พวกเขาจะได้รับชัยชนะ
‘ฟางหยวน เจ้าเห็นหรือไม่? แม้จะไม่มีเจ้า พวกเราก็สามารถกำจัดสุนัขดาวตกเพลิง!’ ผมที่สิบสองกรีดร้องอยู่ภายใน
เขามีความภักดีต่อนิกายหลางหยาอย่างมาก ก่อนหน้านี้เมื่อนิกายหลางหยาพบปัญหาที่ไท่ชิวแต่ฟางหยวนไม่เคลื่อนไหว ผมที่สิบสองรู้สึกโกรธมาก
เมื่อผมที่สิบสองได้รับบาดเจ็บ ฟางหยวนไปเยี่ยมแต่เขาไม่ต้อนรับ
ชัยชนะครั้งนี้มีความหมายอย่างมากสำหรับผมที่สิบสอง
หากได้รับชัยชนะต่อหน้าฟางหยวน ผมที่สิบสองจะมีความสุขและภูมิใจมาก
เมื่อเวลาผ่านไปสถานการณ์เริ่มชัดเจนมากขึ้น
สุนัขดาวตกเพลิงตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบขณะที่แรงกดดันของผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนลดน้อยลง
พวกเขารู้สึกตื่นเต้นมาก
มันไม่ง่ายเลย
สุนัขดาวตกเพลิงทำให้พวกเขาพบกับความพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำอีก
เพื่อจัดการกับสุนัขดาวตกเพลิงตัวนี้ พวกเขาต้องหลั่งเลือดและหยาดเหงื่ออย่างมาก พวกเขาฝึกฝนกลยุทธ์โดยไม่ได้พักผ่อน สุดท้ายวันนี้พวกเขาก็กำลังจะประสบความสำเร็จ
แม้พวกเขาจะเหนื่อยล้าและสูญเสียพลังงานอมตะไปแทบหมดสิ้น แต่ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนก็รู้สึกมีชีวิตชีวามาก
“ฆ่าเจ้าหมาตัวนี้!”
“ถูกต้อง ฉีกผิวหนังของมันออกมาและแขวนไว้เหนือเมืองเมฆาเพื่อให้ทุกคนเห็นชัยชนะของพวกเรา!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ในที่สุดมันก็ต้องสยบต่อพวกเรา”
“ฟางหยวน เจ้าเห็นสิ่งนี้หรือไม่? ข้ารู้ว่าเจ้าไม่เต็มใจ แต่แล้วอย่างไร?”
“วันนี้เราจะมอบบทเรียนให้เจ้า ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนของนิกายหลางหยาไม่ได้ไร้พลัง พวกเราไม่ด้อยกว่ามนุษย์เช่นเจ้า!”
กลุ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนตะโกนด้วยความตื่นเต้น
ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบางราวกับเขาไม่ได้ยินสิ่งใด
ทัศนคติของเขาทำให้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนบางคนรู้สึกผิดหวัง รังเกียจ และโกรธ
“เขาแค่ปกปิดความรู้สึกเอาไว้เท่านั้น!” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนบางคนหัวเราะเย้ยหยัน
อย่างไรก็ตามสถานการณ์กลับเปลี่ยนแปลงไปในเวลานี้
สุนัขอินทรีย์ปรากฏตัวขึ้นกลางสนามรบอย่างกะทันหัน ด้วยการกวาดกรงเล็บเพียงครั้งเดียว หมีเพชรล้มลงทันที! จงอยปากของมันจิกตากระทิงเกาลัดจนบอด! ปีกที่แข็งแกร่งส่งลมพัดพยัคฆ์ขาวลายทองให้บินกลับหลังหลายสิบก้าว! สุนัขดาวตกเพลิงขดตัวและส่งเสียงครวญครางด้วยความหวาดกลัว
“อันใด!? สัตว์อสูรบรรพกาลตัวนี้มาจากที่ใด?” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนตกตะลึง
“ไม่ใช่เพียงตัวเดียว!” ในไม่ช้าสุนัขอินทรีย์ห้าตัวก็ปรากฏขึ้นจากพุ่มไม้และยังมีอีกสามตัวบินอยู่กลางอากาศ
ฝูงสุนัขอินทรีย์ล้อมกรอบผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนเอาไว้อย่างสมบูรณ์
“มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?” รูม่านตาของผมที่สิบสองหดเล็กลง เขาตกใจมาก
เขารู้สึกราวกับตกจากสวรรค์สู่นรกในครั้งเดียว
ไม่นานมานี้เขายังมีความสุขกับชัยชนะแต่ตอนนี้เขากลับตกลงสู่สถานการณ์ที่สิ้นหวังอย่างกะทันหัน
‘เจตจำนงสวรรค์ นี่คือการซุ่มโจมตีของเจ้างั้นหรือ? น่าประทับใจ’ ฟางหยวนหัวเราะอยู่ภายใน
สุนัขอินทรีย์ไม่ส่งเสียงใดๆขณะที่กลุ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนตกใจเกินคำบรรยาย ดังนั้นสนามรบจึงกลายเป็นเงียบสงัด
“โอ้ ผมที่สิบสอง ดูเหมือนพวกเจ้าจะไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ ตามข้อตกลง มันถึงเวลาของข้าแล้ว” ท่ามกลางความเงียบ เสียงของฟางหยวนดังขึ้น
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ผมที่สิบสองรู้สึกหัวใจเต้นแรงด้วยความโกรธ เขากรีดร้อง “เจ้า! เจ้ากล่าวสิ่งใด? เปิดตาของเจ้าและดูพวกเราจัดการกับสถานการณ์นี้!”
ริมฝีปากของฟางหยวนม้วนตัวขึ้นเล็กน้อย
“บึม!”
กำปั่นยักษ์หมื่นตัวตนปรากฏขึ้นและทุบสุนัขอินทรีย์ที่อยู่ใกล้ฟางหยวนมากที่สุดลงบนพื้น
ฝุ่นควันลอยคละคลุ้งขึ้น
สุนัขอินทรีย์ทั้งหมดหันหน้ามาทางฟางหยวน พวกมันต้องระวังศัตรูที่แข็งแกร่งผู้นี้
ภายใต้กลุ่มฝุ่นควัน เสียงของฟางหยวนดังขึ้น “เอาล่ะ ข้าจะรับของขวัญชิ้นนี้เอาไว้ ทุกคนโปรดอยู่ห่างๆ อย่ารบกวนข้า”
—————–
พรุ่งนี้หยุด