เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - ตอนที่ 1181
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1181 กุญแจสำคัญคือผลประโยชน์
แปลโดย iPAT
ปรมาจารย์ห้าธาตุกล่าวต่อ “วังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้า ขณะที่เผ่าไป่ซูเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าอิทธิพลของตระกูลฮวงจินกำลังลดลง”
“นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ในภาคเหนือ!”
“พวกเจ้าบอกว่าข้าได้รับอิทธิพลจากเจตจำนงสวรรค์ แต่ข้าไม่คิดเช่นนั้น! ข้ามาที่นี่เพราะวิธีมนุษย์นำข้ามา ชื่อเสียงของเทพอมตะตะวันเดือดไม่สามารถข่มขวัญข้าได้อีกต่อไป หลังจากทั้งหมดเขาตายไปนานแล้ว!”
“ต่อไปผู้อมตะคนอื่นๆจะไม่พอใจตระกูลฮวงจินมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาจะฉกชิงความรุ่งโรจน์ของพวกเจ้า ภาคเหนือเป็นดินแดนแห่งการต่อสู้ ผู้อมตะของภาคเหนือมีความกล้าหาญและจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้อยู่เต็มเปี่ยม การกดขี่พวกเขาจะทำให้เกิดการต่อต้านที่รุนแรง”
“ข้าเป็นคนแรกที่บุกถ้ำสวรรค์นิรันดร แต่หลังจากนี้จะมีผู้คนมาที่นี่มากขึ้นเรื่อยๆ พวกเจ้าพร้อมรับมือหรือไม่?”
เงียบ!
ผู้อมตะทั้งแปดโกรธจนตัวสั่นและแสดงออกด้วยความเย็นชา
ผู้นำกลุ่มผู้อมตะแปดเกาะสวรรค์เผยรอยยิ้ม “ปรมาจารย์ห้าธาตุช่างน่าทึ่งนัก เจ้าพยายามโน้มน้าวพวกเราโดยใช้แนวความคิดนี้ พวกเราควรเลียนแบบเผ่ากงและเพาะเลี้ยงผู้บ่มเพาะสันโดษเพื่อให้พวกเขากลายเป็นผู้อมตะระดับแปดเช่นเจ้างั้นหรือ?”
“พวกเราไม่ได้มีความบาดหมางที่ลึกซึ้ง เราสามารถทำงานร่วมกัน” ปรมาจารย์ห้าธาตุกล่าวอย่างเคร่งขรึม “แม้ผู้อมตะสี่ดินแดนจะเป็นผู้อมตะระดับแปด แต่พวกเขาก็เหลืออายุขัยไม่มาก พวกเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ แต่ข้าไม่มีปัญหานั้น”
ผู้อมตะทั้งแปดหัวเราะ “ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้ากำลังดูแคลนรากฐานของตระกูลฮวงจิน! หรือกล่าวให้ถูกต้องกว่านั้นคือเจ้ากำลังดูแคลนเทพอมตะตะวันเดือด! หากไม่ใช่เพราะเจ้า พวกเราทั้งแปดคงสร้างวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงขึ้นมาอีกครั้งเรียบร้อยแล้ว สำหรับเผ่าไป่ซู พวกเขาจะอยู่ได้ไม่นาน พวกเขาไม่มีสายเลือดตระกูลฮวงจิน แล้วพวกเขาจะคู่ควรเป็นฝ่ายธรรมะได้อย่างไร? ฝ่ายธรรมะของภาคเหนือมีเพียงตระกูลฮวงจินเท่านั้น!”
…..
ฐานทัพหลักของเผ่าหลิว
แดนศักดิ์สิทธิ์ซวนไป่
“อา…คำสั่งจากถ้ำสวรรค์นิรันดร!” ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าหลิวตกใจมาก เขาคุกเข่าลงเพื่อรับคำสั่ง
เผ่าหลิวเป็นหนึ่งในกองกำลังตระกูลฮวงจินซึ่งเป็นบุตรหลานของเทพอมตะตะวันเดือด ขณะที่ถ้ำสวรรค์นิรันดรถือเป็นตัวแทนของเทพอมตะตะวันเดือด
ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าหลิวได้รับป้ายคำสั่งจากถ้ำสวรรค์นิรันดร
มันเป็นป้ายคำสั่งสีทองแต่แท้จริงแล้วมันคือวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูล
ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าหลิวขมวดคิ้ว “ถ้ำสวรรค์นิรันดรสั่งให้พวกเรากองกำลังตระกูลฮวงจินทั้งหมดร่วมมือกันกำจัดเผ่าไป่ซูงั้นหรือ?”
จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูกำลังต่อสู้อยู่กับชูตู๋ ผู้อมตะเผ่าหลิวมีความสุขที่เห็นสิ่งนี้เกิดขึ้น
เผ่าไป่ซูยึดครองเผ่าไห่ขณะที่ฐานทัพของเผ่าไห่อยู่ติดกับเผ่าหลิว
จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูเป็นผู้อมตะระดับแปด ดังนั้นเผ่าหลิวจึงต้องระวังตัว ขณะเดียวกันชูตู๋ก็มีความบาดหมางฝังลึกกับเผ่าหลิวมาก่อน ชื่อเสียงในฐานะจักรพรรดิอมตะของชูตู๋ส่วนใหญ่มาจากผลงานที่เขากระทำต่อเผ่าหลิว
ด้วยเหตุนี้การต่อสู้ระหว่างจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูกับชูตู๋จึงไม่ต่างจากศัตรูสองคนของเผ่าหลิวต่อสู้กัน เผ่าหลิวเฝ้ามองอยู่นอกสนามรบและหวังว่าศัตรูทั้งสองจะพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่
“แต่ตอนนี้ถ้ำสวรรค์นิรันดรถ่ายทอดคำสั่งมาแล้ว พวกเราต้องทำตาม”
“เผ่าหลิวอยู่ใกล้กับแดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็ก เมื่อการต่อสู้ครั้งนี้เริ่มต้น พวกเราต้องพบกับแรงกดดันจากหลายทาง”
ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าหลิวปล่อยวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลกลับไปยังถ้ำสวรรค์นิรันดร
…..
กลับสู่เหตุการณ์ปัจจุบัน
ในถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน
ชูตู๋กับฟางหยวนที่ได้ยินข่าวนี้รู้สึกทั้งประหลาดใจและดีใจ
“กองกำลังตระกูลฮวงจินทั้งหมดบุกโจมตีเผ่าไป่ซู ด้วยวิธีนี้จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูจะต้องล่าถอย” ฟางหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ตระกูลฮวงจินไม่เคยกระทำการอย่างพร้อมเพรียงและรวดเร็วเช่นนี้ ข้าสสัยว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้น?” ชูตู๋รู้สึกสับสน
ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น “บางทีอาจเป็นคำสั่งจากถ้ำสวรรค์นิรันดร”
“ถ้ำสวรรค์นิรันดร?” การแสดงออกของชูตู๋เปลี่ยนไป “ดูเหมือนจะมีเพียงเหตุผลนี้เท่านั้น”
ในความเป็นจริงโครงสร้างของโลกผู้อมตะภาคเหนือคล้ายกับภาคกลาง
สิบนิกายโบราณของภาคกลางและกองกำลังตระกูลฮวงจินล้วนอยู่ภายใต้กองกำลังส่วนกลาง ภาคกลางมีวังสวรรค์ขณะที่ภาคเหนือมีถ้ำสวรรค์นิรันดร
เป็นไปได้ว่าเทพอมตะตะวันเดือดเลียนแบบภาคกลางโดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างสถานการณ์นี้
‘เหตุใดถ้ำสวรรค์นิรันดรถึงสั่งให้กองกำลังตระกูลฮวงจินร่วมมือกันจัดการเผ่าไป่ซู หลังจากทั้งหมดเผ่าไป่ซูได้รับการสนับสนุนจากผู้อมตะระดับแปด’ ชูตู๋คิดด้วยความสงสัย
สิ่งที่เขาไม่เข้าใจก็คือเวลาที่ดีที่สุดในการโจมตีเผ่าไป่ซูคือช่วงเวลาหลังจากพวกเขาทำลายเผ่าไห่ หากถ้ำสวรรค์นิรันดรตั้งใจโจมตีเผ่าไป่ซู พวกเขาควรลงมือในเวลานั้น
เหตุใดถ้ำสวรรค์นิรันดรจึงต้องรอจนถึงเวลานี้? เป็นไปได้หรือไม่ว่าถ้ำสวรรค์นิรันดรสนใจถ้ำสวรรค์ไห่ฟานเช่นกัน?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ช่วยไม่ได้ที่หัวใจของชูตู๋จะจมดิ่งลง
“ไม่ว่าอย่างไรพวกเราก็ต้องใช้เวลาที่เหลือให้เกิดประโยชน์สูงสุดและพูดคุยกับจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูเพื่อยุติความขัดแย้งนี้ วิญญาณอมตะไม่และวิญญาณอมตะใส่ใจยังต้องใช้เวลาเตรียมพร้อมอีกระยะหนึ่ง” ฟางหยวนเตือน
ชูตู๋ได้สติ “เจ้ากล่าวได้ถูกต้อง”
เขารีบส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลออกไปเจรจากับจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูทันที
ตอนนี้ชูตู๋เป็นเจ้าของถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน เขาได้เตรียมการมากมายเอาไว้ วิญญาณที่ถูกส่งออกไปไม่ถูกค้นพบโดยคนนอก
ก่อนที่จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูจะได้รับข้อความจากชูตู๋
เขาได้เรียนรู้ว่ากองกำลังฝ่ายธรรมะกำลังมุ่งหน้าไปที่เผ่าไป่ซูเพราะคำสั่งของถ้ำสวรรค์นิรันดร
นี่ทำให้เขาตกใจมาก เขาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดถ้ำสวรรค์นิรันดรจึงต้องการสร้างปัญหาให้กับเขา
ในอดีตเมื่อเผ่าไป่ซูถูกสร้างขึ้น จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน แต่ความเงียบของถ้ำสวรรค์นิรันดรทำให้จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูรู้สึกว่าเขาได้รับการยอมรับแล้ว เขาคิดว่าในฐานะผู้อมตะระดับแปด ถ้ำสวรรค์นิรันดรไม่มีเหตุผลที่จะจัดการเขา
การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและรุนแรงทำให้จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูรู้สึกมึนงง
‘เหยาหวงและองค์ชายฟงเซี่ยนเป็นผู้อมตะระดับแปดฝ่ายธรรมะ องค์ชายฟงเซี่ยนอาจไม่มาแต่เหยากวงเป็นสมาชิกตระกูลฮวงจิน นอกจากนั้นยังมีถ้ำสวรรค์นิรันดร ฮืม…ปรมาจารย์ห้าธาตุรู้จักถ้ำสวรรค์นิรันดรดีที่สุด บางทีข้าอาจได้รับข้อมูลบางอย่างจากเขา…’
จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูรู้สึกถึงแรงกดดัน
แต่เขายังไม่รู้ว่าปรมาจารย์ห้าธาตุกำลังต่อสู้อยู่ในถ้ำสวรรค์นิรันดร ในความเป็นจริงสถานการณ์นี้เกิดจากบทสนทนาระหว่างปรมาจารย์ห้าธาตุและกลุ่มผู้อมตะแปดเกาะสวรรค์
‘สำหรับถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน…’ จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูประเมิน ‘ตอนนี้ข้าไม่สามารถทำลายมัน ข้าควรหยุด ข้าไม่สามารถเสียเวลาและพลังงานที่นี่ ตอนนี้ข้าต้องใช้ความพยายามทั้งหมดเพื่อปกป้องเผ่าไป่ซู’
จักรพรรดิสวรรค์ตัดสินใจล่าถอย
สาเหตุที่เขาต้องการทำลายถ้ำสวรรค์ไห่ฟานเนื่องจากการสูญเสียที่เกิดขึ้นก่อนหน้า
แต่ตอนนี้เผ่าไป่ซูตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤต ผลประโยชน์ของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูอาจถูกทำลายลงในครั้งนี้
สถานการณ์นี้เลวร้ายอย่างที่สุด จักรพรรดิสวรรค์ไม่สามารถเสียเวลากับถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน
เป็นเพียงเวลานี้ที่เขาได้รับข้อความจากชูตู๋
‘โอ้ ดังคาด มันมาจากจักรพรรดิอมตะ…’ หลังจากตระหนักถึงความตั้งใจของชูตู๋ สายตาของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูกลายเป็นมืดครึ้ม
การต่อสู้เพื่อแย่งชิงถ้ำสวรรค์ไห่ฟานจบลงในที่สุด
สิ่งที่ทำให้โลกของผู้อมตะภาคเหนือตกตะลึงคือชูตู๋ไม่สามารถเพียงแก้ไขความขัดแย้งระหว่างเขากับจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูแต่ชูตู๋ยังใช้ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานสร้างฐานที่มั่นและเปลี่ยนมันเป็นกองกำลังพันธมิตรของเผ่าไป่ซู
หลังจากบรรลุข้อตกลงพันธมิตร ชูตู๋อนุญาตให้ร่างจริงของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูเข้าสู่ถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน
ด้วยการหยิบยืมชื่อเสียงของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู ชูตู๋สามารถบังคับให้ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะที่เขาเชิญมาก่อนหน้าเข้าร่วมกับนิกายชูของเขาในวันนั้น
นิกายชู
นี่เป็นนิกายแรกที่เกิดขึ้นในภาคเหนือ!
ฟางหยวนเฝ้ามองจากด้านข้าง แม้นิกายหลางหยาจะก่อตั้งขึ้นมาก่อนแต่ฟางหยวนก็ยังรู้สึกชื่นชมความสามารถของชูตู๋
ชูตู๋สามารถเอาะชนะตัวเอง
เขายอมแพ้และถอยหลังหนึ่งก้าวแต่เขากลับได้รับการสนับสนุนจากผู้อมตะระดับแปด!
จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูเป็นคนฉลาดเช่นกัน
สถานการณ์ของภาคเหนือทำให้เขารู้สึกกดดันมาก เขาต้องหาพันธมิตรจากภายนอก
ชูตู๋สามารถคาดเดาความคิดของเขา ดังนั้นเขาจึงสร้างนิกายชูขึ้นมาเพื่อสิ่งนี้
และถ้ำสวรรค์ไห่ฟานยังสามารถเป็นฐานที่มั่นของพวกเขา
ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงเปลี่ยนจากศัตรูมาเป็นมิตร
เชาเหลาอู๋และห่าวเจิ้นผู้สังหารไป่ซูเหว่ยโดยไม่ได้ตั้งใจถูกลงโทษเพียงเล็กน้อยก่อนที่พวกเขาจะรอดพ้นจากคดีอาชญากรรมนี้
จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูไม่สามารถละทิ้งกำลังรบที่สำคัญทั้งสอง
ดังนั้นห่าวเจิ้นและเชาเหลาอู๋จึงรู้สึกขอบคุณจักรพรรดิอมตะและกลายเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ภักดีที่สุดของนิกายชู
โลกของผู้อมตะภาคเหนือเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูที่อยู่บนจุดสูงสุดของภาคเหนือได้สร้างเผ่าไป่ซูขึ้นมาแต่ตอนนี้เขากลับต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีของกองกำลังตระกูลฮวงจิน
ชูตู๋และจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูที่ต่อสู้กันมาอย่างดุเดือดกลายเป็นพันธมิตร
ผู้อมตะทั่วไปอาจตื่นตาตื่นใจกับเหตุการณ์ที่พลิกผันเหล่านี้ แต่สำหรับคนเช่นฟางหยวน เขาเข้าใจอย่างชัดเจน
ไม่ว่าจะเกิดความปั่นป่วนหรือการเปลี่ยนแปลงใดก็ตาม กุญแจสำคัญที่ทำให้เกิดุสถานการณ์เหล่านี้ยังเป็นผลประโยชน์ นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง!