เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - ตอนที่ 1285
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1285 ความพยายามของฟางหยวน
แปลโดย iPAT
“หากคิดว่าสามารถหลบหนี ลืมมันไปซะ! วันนี้ข้ามีเป้าหมายเดียวเท่านั้น นั่นคือเจ้า! เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าจ่ายไปเท่าใดเพื่อหลอมรวมวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์? เจ้าทำลายแผนการของข้า เจ้าคือคนที่ข้าเกลียดชังที่สุดในชีวิต หากข้าไม่ฆ่าเจ้า ข้าจะไม่สามารถนอนหลับอย่างสงบ!” ปีศาจอมตะเซี่ยหูมองฟางหยวนด้วยความเกลียดชัง
แต่ฟางหยวนยังไร้ความรู้สึก
เขาเหมือนก้อนหิน เหมือนคนหูหนวก ไม่ว่าจะเป็นคำขู่หรือคำสัญญา ไม่มีสิ่งใดสามารถส่งผลกระทบต่อเขา
ฟางหยวนยังคงเดินไปข้างหน้า
โดยไม่รู้ตัวเสียงคำรามของพังพอนหางสุนัขเหมาหลี่ชิวเริ่มเบาลง
การแสดงออกของมันเปลี่ยนแปลงไป
มันกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แปลกประหลาดและไม่อยากจะเชื่อ “ไม่มีทาง…”
“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ผู้อมตะดำรู้สึกสับสน
ในเวลานี้ไม่ว่าจะเป็นปีศาจอมตะเซี่ยหู ไป่เฉินเทียน หรือเว่ยหลิงหยา การแสดงออกของพวกเขาล้วนเปลี่ยนไปเช่นกัน
พวกเขาสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง
ในไม่ช้าผู้อมตะคนอื่นๆก็เริ่มอุทาน
“หือ?”
“นี่คือกลิ่นอายของวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”
“วิญญาณชนิดใด เป็นไปไม่ได้ เขามีวิญญาณระดับเก้างั้นหรือ?”
“แปลก นี่ไม่เหมือนกลิ่นอายของวิญญาณอมตะ หรือมันอาจไม่สมบูรณ์ แปลกมาก!”
ทันใดนั้นดวงตาของอวี๋อี้เย่ซือก็ส่องประกายขึ้น “สถานการณ์นี้ เขากำลังหลอมรวมวิญญาณ!”
ผู้อมตะบางคนเย้ยหยัน “จะเป็นไปได้อย่างไร? หลอมรวมวิญาณในแม่น้ำหวนคืนงั้นหรือ?”
นั่นเป็นเรื่องจริง วิญญาณไม่สามารถใช้งานในแม่น้ำหวนคืน เว้นเพียงมันจะเป็นวิญญาณอมตะระดับเก้า
แม้ฟางหยวนจะมีวิญญาณสติปัญญา แต่มันอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
เขาไม่สามารถใช้วิญญาณโดยไม่ต้องกล่าวถึงการหลอมรวมวิญญาณ
ฟางหยวนรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงบางอย่างภายในร่างกายเช่นกัน
เขายังไร้อารมณ์ ‘ดูเหมือน…ข้ากำลังหลอมรวมวิญญาณอยู่จริงๆ มันเกิดสิ่งใดขึ้น? ทุกย่างก้าวที่ข้าเดิน กลิ่นอายในร่างกายของข้ายิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ”
กระทั่งฟางหยวนก็ยังไม่เข้าใจ แต่เขารู้ว่านี่คือจุดเปลี่ยน!
สถานการณ์เลวร้ายอย่างที่สุด ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น ฟางหยวนก็ต้องการทดลอง
เขายังเดินหน้าต่อไป
ทีละก้าว
เขาเดินไปอย่างมั่นคงและไร้อารมณ์ความรู้สึก
“เหตุใดเขาถึงสงบนัก?” ผู้อมตะบางคนถาม
ในที่สุดกลุ่มผู้อมตะก็เริ่มตระหนักถึงเรื่องนี้
นั่นเป็นความจริง
นอกจากฟางหยวน ใบหน้าของทุกคนที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันต่างบิดเบี้ยวและแสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวด บางคนเป็นบ้า บางคนสะอื้นร้องไห้
แต่เหตุใดฟางหยวนถึงไร้อารมณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ?
กลุ่มผู้อมตะเงียบ
พวกเขารู้ความนัยที่แฝงอยู่ในคำถามนี้ นั่นคือ เหตุใดหลิวกวนซื่อผู้นี้ถึงสามารถอดทนได้นานนัก? นอกจากนี้ดูเหมือนเขายังสามารถเดินหน้าและอดทนได้ตลอดไป!
มันเป็นไปได้อย่างไร?
ทุกคนถูกกวาดออกจากแม่น้ำหวนคืน แต่เขายังอยู่ที่นั่นได้อย่างไร?
เหตุใดถึงเป็นเขา?
เหตุใดถึงเป็นเขา!
ไม่มีผู้ใดสามารถตอบคำถาม ทุกคนตกลงสู่ความเงียบ
ฟางหยวนยังเดินหน้าต่อไปขณะที่กลิ่นอายของวิญญาณอมตะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
ในไม่ช้าแสงสีขาวบริสุทธิ์ก็ส่องประกายออกมาจากร่างของเขา
“มัน…มันเกิดขึ้นจริงๆ!” ดวงตาของเหมาหลี่ชิวเบิกกว้าง มันอ้าปากค้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“ท่านปู่เหมา เกิดสิ่งใดขึ้น?” ผู้อมตะคลื่นสมุทรถามอย่างไม่สามารถอดทน
“เห้อ…ข้าไม่สามารถซ่อนมันได้อีก” เหมาหลี่ชิวถอนหายใจและแสดงออกราวกับผู้พ่ายแพ้
“มีวิญญาณอมตะที่ถูกหลอมรวมขึ้นในร่างกายของเขา ชื่อของวิญญาณอมตะดวงนี้ก็คือ ความพยายาม!” เหมาหลี่ชิวกล่าว
“วิญญาณอมตะความพยายาม!?” ผู้อมตะดำตกตะลึง
ผู้อมตะคนอื่นๆก็เช่นกัน
“ในตำนานมนุษย์คนแรกมีการกล่าวถึงวิญญาณความพยายาม วิญญาณความพยายามทำให้ผู้คนสามารถพิชิตแม่น้ำหวนคืน มันไม่ได้เป็นเพียงตำนานงั้นหรือ?” อวี๋อี้เย่ซือถาม
“ไม่ มันมีอยู่จริง” ไป่เฉินเทียนกล่าว เขาเป็นผู้อมตะของวังสวรรค์และล่วงรู้ความลับมากมาย
“มีบางคนเคยครอบครองมัน คนผู้นั้นยังเคยเป็นเจ้าวังสวรรค์มาก่อน ท่านคือเทพอมตะบัวสวรรค์!” เว่ยหลิงหยางกล่าวเสริม
“กระไรนะ!?” กลุ่มผู้อมตะตกตะลึง
“แต่เราไม่เคยคาดหวังว่าวิธีหลอมรวมมันจะเป็นเช่นนี้ เทพอมตะบัวสวรรค์ไม่เคยกล่าวถึงมัน” ไป่เฉินเทียนถอนหายใจ
“แน่นอนว่าเขาย่อมไม่บอก นี่เป็นเรื่องน่าละอายอย่างแท้จริง ฮ่าฮ่าฮ่า” เหมาหลี่ชิวเย้ยหยัน
ได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ ซือเจิ้งอี้ไม่สามารถทนได้ เขาตะโกน “หนูสกปรก เจ้ากล้าดูแคลนเทพอมตะงั้นหรือ?”
ซือเจิ้งอี้ตะโกนต่อว่าสัตว์อสูรแรกกำเนิดในตำนาน นี่ทำให้ผู้อมตะภาคกลางรู้สึกเป็นห่วงเขา
แต่เหมาหลี่ชิวไม่โกรธ “เด็กน้อย เจ้ารู้หรือไม่ ทั้งเทพอมตะและเทพปีศาจ กระทั่งการบ่มเพาะของพวกเขาจะสูง พวกเขาก็ยังเป็นมนุษย์ มนุษย์มีอารมณ์ความรู้สึก พวกเขายังมีข้อบกพร่องและมีจุดอ่อน”
“ในยุคนั้นเทพอมตะบัวสวรรค์ติดอยู่ในแม่น้ำหวนคืนและไม่สามารถหลบหนี แต่สุดท้ายเขาก็สามารถพิชิตแม่น้ำหวนคืนและกลายเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถครอบครองมัน”
“เจ้าของแม่น้ำหวนคืนคนแรก?” กระทั่งปีศาจอมตะเซี่ยหูก็ยังตกใจ แม่น้ำหวนคืนอยู่ในการครอบครองของเขามาอย่างยาวนาน แต่เขาไม่เคยรู้ความลับเหล่านี้
“นี่หมายความว่า…” สายตาของกลุ่มผู้อมตะหันไปทางฟางหยวนทันที
เหมาหลี่ชิวถอนหายใจและกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ “นั่นเป็นเรื่องจริง ด้วยวิธีนี้เขาจะประสบความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณความพยายามและกลายเป็นเจ้าของแม่น้ำหวนคืนคนที่สอง!”
กลุ่มผู้อมตะกลายเป็นพูดไม่ออก พวกเขามองฟางหยวนที่ยังเดินหน้าต่อไป
เขาเดินไปอย่างไร้ความรู้สึกแต่แม่น้ำหวนคืนยังขยายออกไปราวกับโชคชะตากำลังเย้ยหยันเขา
แต่เขายังเดินหน้าต่อไป
ราวกับว่า…ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดเขา
อย่างน้อย…ในแม่น้ำหวนคืนก็ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดเขา
ย้อนกลับไปในชีวิตแรกของฟางหยวน
เขานั่งอยู่ในบ้านไม้ไผ่และมองไปที่หมู่บ้านบนภูเขาชิงเหมา
เขากำหมัดแน่นด้วยความมุ่งมั่น
‘ถึงเวลาที่ข้าจะละทิ้งอดีต’
‘การเดินทางมายังโลกใบนี้เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของข้า! เพราะที่นี่ ข้าสามารถบรรลุชีวิตนิรันดร์!’
‘ข้าต้องใช้ประโยชน์จากโอกาสที่หายากนี้ มิฉะนั้นข้าจะมองหน้าตนเองได้อย่างไร?’
‘แน่นอนว่าตอนนี้ข้ายังต้องดูแลความเป็นอยู่ของข้าและน้องชายของข้า ฮ่าฮ่า เจ้าตัวเล็กนั่น…’
หลังจากปลุกทะเลวิญญาณ
บนสนามประลอง ฟางหยวนเต็มไปด้วยความตกใจและความโกรธ
‘ข้าถูกวางกับดัก!’
‘ผู้ใดทำเรื่องเช่นนี้ ผู้ใดไม่ต้องการให้ข้าได้รับชัยชนะ คำตอบชัดเจนมาก!’
“พี่ใหญ่ ยอมแพ้ซะ ท่านไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า เพราะพรสวรรค์ของเราแตกต่างกัน สวรรค์ขิลิตมาให้เราแตกต่างกัน” ฟางเจิ้งกล่าวอย่างมีความสุข
ฟางหยวนหันหลังกลับและจากไป แต่เขายังเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
‘เมื่อหมู่บ้านปฏิเสธข้า ลุงกับป้าจงใจผลักไสข้า แล้วข้าจะอยู่ที่นี่ต่อเพื่อสิ่งใด?’
‘หากข้ายังอยู่ที่นี่ ข้าจะแข็งแกร่งขึ้นและจะได้รับชีวิตนิรันดร์ได้อย่างไร?’
ในขบวนสินค้า
ผู้ใช้วิญญาณเคราหนาเสียชีวิต ฟางหยวนยืนอยู่หน้าหลุมศพของเขา
เด็กน้อยร้องไห้ “ลุงหนวด หลับให้สบาย”
“ขอบคุณสำหรับของขวัญชิ้นสุดท้าย”
“แต่ข้าไม่เหมือนท่าน ข้าจะไม่ละทิ้งความฝันเพียงเพราะอายุที่มากขึ้น”
“โลกนี้กว้างใหญ่ขณะที่พวกเราเป็นเพียงตัวละครที่ไร้นัยสำคัญ ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างหนัก! ข้าจะทำให้ดีที่สุดอย่างแน่นอน!”
วัยเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่
ภูเขาชิงเหมา ขบวนสินค้า พเนจรไปทั่ว
วัยกลางคน วัยชรา และวิญญาณอายุยืน
ภาคใต้ ทะเลทรายตะวันตก ทะเลตะวันออก ภาคเหนือ และภาคกลาง
หลังจากกำเนิดใหม่โดยวิญญาณกาลเวลา ภูเขาชิงเหมา แดนศักดิ์สิทธิ์สามกษัตริย์ แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู แดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือ ภูเขาอี้เทียน และแม่น้ำหวนคืน!
ฟางหยวนผ่านการทดสอบที่ยากลำบากมาทีละขั้น
ไป่เฉินเทียนขมวดคิ้วคิด ‘พลังใจชนิดใด? เหตุใดเขาจึงสามารถอดทนได้ถึงระดับนี้?’
ปีศาจอมตะเซี่ยหูก่นเสียงเย็น เขาไม่ดูถูกผู้อมตะระดับเจ็ดผู้นี้อีกต่อไป “นี่หมายความว่าหลิวกวนซื่อผู้นี้จะกลายเป็นเจ้าของแม่น้ำหวนคืนงั้นหรือ?”
เหมาหลี่ชิวมองฟางหยวนและจิกกรงเล็บลงบนพื้น
เปลือกตาของไป่หนิงปิงและไห่ลั่วหลันกระตุก
จ้าวเหลียนหยุนตื่นขึ้นแล้ว นางมองศพของหม่าหงหยุนที่ยังอยู่ในอ้อมแขนของฟางหยวนและกรีดร้องอยู่ในใจ ‘หงหยุน หงหยุน เจ้าทิ้งข้าไปเช่นนี้ได้อย่างไร? หากไม่มีเจ้า ข้าจะอยู่บนโลกใบนี้และมีชีวิตอยู่เพื่อสิ่งใด?’
ความพยายามของแต่ละคนแตกต่างกันอย่างไร?
ผู้อมตะทั้งหมดสามารถตอบคำถามนี้
เพราะแต่ละคนต้องอดทนกับบางสิ่ง บางคนอดทนต่อความรับผิดชอบ บางคนอดทนต่อความเกลียดชัง บางคนอดทนต่อความตื่นเต้น และบางคนอดทนเพราะความรัก
แต่คำตอบของฟางหยวน
เขายังไร้อารมณ์และความรู้สึก เขายังเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
ครั้งหนึ่งเขาเคยกรีดร้องและค่อยๆสูญเสียเสียง
ครั้งหนึ่งเขาเคยร้องไห้และค่อยๆสูญเสียน้ำตา
ครั้งหนึ่งเขาเคยเสียใจและค่อยๆแข็งแกร่งขึ้น
ครั้งหนึ่งเขาเคยมีความสุขและค่อยๆไม่หวั่นไหวต่อโลกหล้า
และตอนนี้…
เหลือเพียงใบหน้าที่ไร้อารมณ์ความรู้สึก สายตาแข็งกระด้าง มีเพียงความพยายามเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในหัวใจ
นี่คือตัวตนของเขา ตัวละครที่ไร้นัยสำคัญ ฟางหยวนที่มีเพียงความพยายาม!
แสงสว่างขึ้น!
วิญญาณความพยายามถือกำเนิดแล้ว!