เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - ตอนที่ 1288
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1288 ฝึกท่าไม้ตายใหม่
แปลโดย iPAT
ด้วยระดับความสำเร็จที่เพียงพอ ฟางหยวนสามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว
เพราะเขาใช้ท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตนเป็นรากฐาน ดังนั้นเขาจึงเรียกมันว่าหมื่นตัวตนรูปแบบที่สอง
แต่เนื่องจากท่าไม้ตายนี้พึ่งถูกสร้างขึ้น มันจึงยังห่างไกลจากการใช้งานจริง
“บึม บึม บึม…”
ปีศาจอมตะเซี่ยหูและพังพอนหางสุนัขเหมาหลี่ชิวยังโจมตีแม่น้ำหวนคืนอย่างไม่หยุดยั้ง การโจมตีนับไม่ถ้วนทำให้ระดับน้ำเริ่มลดลง
การเจรจาของฟางหยวนล้มเหลวไปแล้วแต่เขาไม่เต็มใจยอมรับความพ่ายแพ้ ดังนั้นปีศาจอมตะเซี่ยหูและเหมาหลี่ชิวจึงต้องการใช้พลังอำนาจของพวกเขาเพื่อสังหารฟางหยวน
ฟางหยวนมองแม่น้ำหวนคืนและคิด ‘ข้ายังมีเวลาอีกมาก’
หัวใจของเขาผ่อนคลายลง
แม่น้ำหวนคืนเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพ มันสามารถอดทนต่อการโจมตีของผู้อมตะระดับแปดทั้งสอง ในความเป็นจริงระดับน้ำพึ่งลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แน่นอนว่าอีกเหตุผลหนึ่งก็คือปีศาจอมตะเซี่ยหูและเหมาหลี่ชิวไม่ได้ใช้พลังอำนาจทั้งหมดออกมา
พวกเขายังต้องระวังซึ่งกันและกัน ขณะที่กลุ่มผู้อมตะภาคกลางรอโอกาสที่จะโจมตี คนเหล่านี้ต้องเฝ้าระวังกันเอง แล้วพวกเขาจะใช้พละกำลังทั้งหมดกับฟางหยวนได้อย่างไร?
มันเป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างซับซ้อน นี่ทำให้แรงกดดันของฟางหยวนลดลงอย่างมากและสามารถทดสอบท่าไม้ตายใหม่ของเขาได้อย่างไม่รีบร้อน
ฟางหยวนระวังมากในการกระตุ้นใช้งานครั้งแรก
อันดับแรก วิญญาณความพยายาม ฟางหยวนส่งลูกพลัมแดงอมตะให้มันเพื่อให้เขาสามารถเคลื่อนไหวในแม่น้ำหวนคืนได้อย่างอิสระ
ครู่ต่อมา วิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งวารีจำนวนมากที่อยู่ในมิติช่องว่างของเขาบินขึ้นสู่อากาศและปลดปล่อยแสงสีฟ้าออกมา
ในไม้ช้าแสงสีฟ้าก็เปลี่ยนเป็นแสงสีแดงและเริ่มอุ่นขึ้น
‘ข้าล้มเหลว’ ฟางหยวนหยุดทันที
ฉากตรงหน้าไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
เขาหยุดใช้จ่ายพลังงานอมตะ วิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งวารีจำนวนมากถูกทำลายทันที
แต่ฟางหยวนยังสงบนิ่งและเริ่มคิด
ตามแผนของเขา แสงสีฟ้าควรจะเย็นลงไม่ใช่อุ่นขึ้น
ฟางหยวนอนุมานและพบที่มาของปัญหาในที่สุด
นั่นเป็นเพราะเขาใช้วิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งวารีสองประเภทที่ขัดแย้งกัน
ฟางหยวนเปลี่ยนหนึ่งในนั้น สำหรับวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งวารี เขาสามารถซื้อจากสวรรค์สีเหลืองได้อย่างง่ายดาย
หลังจากแก้ไขท่าไม้ตายอมตะ ฟางหยวนทดลองเป็นครั้งที่สอง
วิญญาณอมตะความพยายามถูกกระตุ้นใช้งานขณะที่วิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งวารีจำนวนมากบินอยู่รอบๆ
เมื่อแสงสีฟ้าส่องประกายขึ้น ฟางหยวนกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะดึงแม่น้ำระดับหกเป็นแกนกลางดวงที่สองของท่าไม้ตาย
แน่นอนว่าแกนกลางดวงแรกคือวิญญาณอมตะความพยายามระดับเจ็ด
ฟางหยวนระวังมาก หากผิดพลาด วิญญาณอมตะทั้งสองดวงอาจได้รับบาดเจ็บหรือกระทั่งถูกทำลาย
เขาพยายามอย่างหนักแต่ยังพบปัญหาความขัดแย้งระหว่างวิญญาณอมตะ
‘ปัญหานี้เกิดจากสิ่งใด?’
ฟางหยวนหยุดและทำให้วิญญาณระดับมนุษย์จำนวนมากถูกทำลาย
การทดลองท่าไม้ตายอมตะมีราคาที่ต้องจ่าย
ท่าไม้ตายอมตะที่สมบูรณ์แบบต้องมีประสิทธิภาพและผ่านการทดลองซ้ำแล้วซ้ำอีก
การโจมตีจากภายนอกยังพุ่งเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง แต่ฟางหยวนเพิกเฉยต่อพวกมันอย่างสิ้นเชิง ด้วยร่างทารกอมตะ กลุ่มก้อนความคิดถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วและพุ่งชนกันอย่างต่อเนื่อง
ด้วยความสำเร็จระดับปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญา การอนุมานของเขาจึงรวดเร็วมาก
ในเวลาไม่กี่ลมหายใจฟางหยวนก็พบปัญหา
วิญญาณอมตะความพยายามและวิญญาณอมตะดึงแม่น้ำเป็นวิญญาณบนเส้นทางที่แตกต่าง ดังนั้นวิญญาณระดับมนุษย์จึงต้องเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างวิญญาณอมตะทั้งสอง
ฟางหยวนคิดและปรับเปลี่ยนวิญญาณระดับมนุษย์บางส่วน
จากนั้นเขาก็ทดลองเป็นครั้งที่สาม
ครั้งนี้มันราบรื่นมาก เขาประสบความสำเร็จในการนำวิญญาณอมตะดึงแม่น้ำเข้าสู่ท่าไม้ตายอมตะ
คลื่นค่อยๆก่อตัวขึ้นในแม่น้ำหวนคืน
ในที่สุดมันก็เริ่มทำงาน!
แต่เขายังห่างไกลจากเป้าหมาย
ฟางหยวนไม่ได้หยุดพัก เขาไม่สามารถทิ้งเวลาแม้แต่วินาทีเดียวในสถานการณ์นี้ เขายังทดลองต่อไป
“หลิวกวนซื่อกำลังทำสิ่งใด?”
“กลิ่นอายวิญญาณปะทุออกมาจากร่างของเขาเป็นครั้งคราว ดูเหมือนเขากำลังทดสอบท่าไม้ตายอมตะ?”
นอกจากปีศาจอมตะเซี่ยหูและเหมาหลี่ชิว ผู้อมตะคนอื่นๆกำลังเฝ้ามองอยู่อย่างตั้งใจ
ทุกครั้งที่ฟางหยวนทดสอบท่าไม้ตายอมตะ กลิ่นอายของวิญญาณจะรั่วไหลออกมาและไม่สามารถปกปิด
หากเขาต้องการปกปิดกลิ่นอายเหล่านั้น เขาต้องใช้ท่าไม้ตายอมตะบางอย่าง
ท่าไม้ตายอมตะประเภทนี้หายากมาก มันเหมือนกับท่าไม้ตายอมตะลอบสังหารในความมืดของฟางหยวน
ตอนนี้ฟางหยวนกำลังทำงานอย่างหนัก เขาไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องการปกปิดกลิ่นอายของวิญญาณ
แต่มันไม่สำคัญ
เพียงกลิ่นอายของวิญญาณไม่สามารถระบุประเภทของวิญญาณเหล่านั้น
นอกจากนี้มันยังเป็นท่าไม้ตายอมตะที่ซับซ้อนและใช้วิญญาณจำนวนมาก เป็นไปไม่ได้ที่ผู้ชมจะค้นพบบางสิ่ง
ฟางหยวนทดลองต่อไป
ครั้งที่สี่ ครั้งที่ห้า…
เขาต้องปรับเปลี่ยนหลายสิ่งแต่เขาไม่รู้สึกหดหู่ใจ เขาพยายามต่อไปโดยไม่เผยความรู้สึกใดๆออกมา
“เขากำลังทดสอบท่าไม้ตายอมตะจริงๆ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า หลิวกวนซื่อเป็นเพียงคนงี่เง่างั้นหรือ? สร้างท่าไม้ตายอมตะอย่างกะทันหัน เขาคิดว่าเขาเป็นเทพอมตะหรือเทพปีศาจงั้นหรือ?”
“แม้เขาจะสามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะ แต่ข้าอยากดูนักว่าเขาจะใช้มันจัดการพวกเราอย่างไร?”
ผู้อมตะที่เฝ้าดูอยู่เย้ยหยัน
หากการสร้างท่าไม้ตายอมตะเป็นเรื่องง่าย พวกมันยังจะเรียกว่าท่าไม้ตายอมตะอีกหรือไม่?
แต่ในไม่ช้าการแสดงออกของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
พวกเขาพบว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้นในแม่น้ำหวนคืน
‘ครั้งที่ยี่สิบเอ็ด’
ฟางหยวนใช้มือจับแม่น้ำที่อยู่ใต้เท้า
“ขึ้นมา!” เขาพึมพำเบาๆ
“ครืน…”
บอลวารีลอยขึ้นจากแม่น้ำหวนคืนก่อนจะระเบิดกระจัดกระจายออกไป
ท่าไม้ตายล้มเหลว!
เลือดไหลออกมาจากจมูกของฟางหยวน
“ท่าไม้ตายอมตะของเขาส่งผลกระทบต่อแม่น้ำหวนคืน?” ดวงตาของอวี๋อี้เย่ซือส่องประกายขึ้น
“ไม่ กล่าวให้ถูกคือเขาใช้แม่น้ำหวนคืนเพื่อสร้างท่าไม้ตายอมตะ!” ปู้เจิ้งซือกล่าว
“ฮืม น่าขัน!” ผู้อมตะดำเผยรอยยิ้มเย็นชา “เมื่อข้าสร้างค่ายกลวิญญาณโดยหยิบยืมพลังอำนาจของแม่น้ำหวนคืน ข้าต้องใช้เวลาคิดและทดลองหลายปี หลิวกวนซื่อ แม้เจ้าจะเป็นเจ้าของแม่น้ำหวนคืนก็อย่ายโสให้มากนัก เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถใช้มันสร้างท่าไม้ตายอมตะได้ในระยะเวลาสั้นๆงั้นหรือ?”
เห็นได้ชัดว่าไม่มีผู้อมตะคนใดที่คิดว่าฟางหยวนจะประสบความสำเร็จ
แต่ในไม่ช้าฟางหยวนก็เริ่มการทดลองอีกครั้ง
“ครืน…”
ครั้งนี้แม่น้ำลอยขึ้นมาราวกับเนินเขาเล็กๆก่อนที่มันพังทลายลง
ใบหน้าของฟางหยวนกลายเป็นซีดขาว ร่างกายของเขาสั่นสะท้านขึ้น เลือดไหลออกมาจากจมูกและรูหูของเขา
‘ข้าล้มเหลวอีกครั้ง บุรุษคนก่อนหน้า!’ ในเวลาต่อมา ฟางหยวนก็กลับสู่สภาพปกติ
‘ข้าควรหาสาเหตุของความล้มเหลว ดูเหมือนจะมีปัญหาเล็กๆเกิดขึ้นในจุดเชื่อมต่อสุดท้าย…’ ฟางหยวนครุ่นคิดอย่างหนัก