เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - ตอนที่ 1493
หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียด ฟางหยวนไม่พบกับดักใดๆ
เขาค่อยๆเข้าไปใกล้ซากศพ เมื่อเขาอยู่ห่างจากมันห้าหรือหกก้าว การเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้น
ฟางหยวนลอบสาปแช่งเพราะเขาสูญเสียการควบคุมร่างกายและกลายเป็นผู้ชมอีกครั้ง
เด็กหนุ่มพึมพำ “คนผู้นี้ตายในบ่อน้ำ เขาถูกสัตว์ป่าดักจับและไม่สามารถหลบหนีงั้นหรือ?”
เขาเดินเข้าไปหาศพและก้มศีรษะลงเคารพก่อนจะค้นร่างกาย
ไม่มีเหตุร้ายที่ไม่คาดคิด มันเป็นศพธรรมดา ไม่มีกับดักใดๆ
เด็กหนุ่มพบว่าศพนี้เคยเป็นผู้ใช้วิญญาณและดูเหมือนจะเป็นคนระดับสูง
เขาไม่มีวิญญาณเหลืออยู่แต่ในเสื้อของเขามีแผนที่หนังแกะ
เด็กหนุ่มไม่ได้รับสิ่งใดนอกจากแผนที่หนังแกะผืนนี้
ในห้องใต้ดินที่มืดสลัว เด็กหนุ่มไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดได้อย่างชัดเจน
เขาเก็บแผนที่หนังแกะเอาไว้และตรวจสอบพื้นที่อีกครั้งแต่ยังไม่พบสิ่งใด
แต่เด็กหนุ่มก็พอใจมาก
เพราะมีแหล่งน้ำที่ล้ำค่าอยู่ที่นี่
เขาตรวจสอบคุณภาพน้ำก่อนจะค่อยๆดื่มมันเล็กน้อย
แหล่งน้ำอยู่ใต้ดิน ศพได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการสร้างมันขึ้นมา
เด็กหนุ่มดื่มน้ำหนึ่งคำ เขารู้สึกได้ถึงความเย็นที่ไหลออกมา นั่นทำให้รสเลือดในปากของเขาจางหายไปอย่างมาก
เด็กหนุ่มกลืนน้ำลาย น้ำหนึ่งคำดึงดูดความปรารถนาของเขา เขาก้มลงและฝังใบหน้าลงไปในบ่อน้ำเล็กๆ
“อึก อึก อึก”
หลังจากดื่มน้ำเข้าไปหลายคำ เขาก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับน้ำที่สาดกระเซ็นไปทั่ว
เขานั่งลงบนพื้นโดยไม่กล่าวสิ่งใด เขาวางมือลงบนพื้นและปิดเปลือกตาลง เพียงไม่นานเขาก็ถอนหายใจออกมา
หลังจากพักผ่อนเล็กน้อย เขายกมือขึ้นเช็ดน้ำบนใบหน้าและยืนขึ้น
เขากลับขึ้นไปด้านบน ที่นี่หนาวกว่าในห้องใต้ดินมาก
แต่เด็กหนุ่มมีเหตุผลของตนเองที่มาที่นี่
เขามองกระโจมที่สร้างขึ้นจากกระดูกและหนังสัตว์ แต่ลมแรงมาก หนังสัตว์หลายผืนถูกพัดออกไปและสร้างเป็นรูช่องโหว่
จากภายใน เด็กหนุ่มสามารถมองเห็นดวงดาวบนท้องฟ้า
เขาถอนหายใจและนำเศษไม้มาจุดไฟ เปลวไฟไม่ใหญ่นัก แต่มันก็ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกอบอุ่นมากขึ้น
เด็กหนุ่มปรุงเนื้อสัตว์และกินเนื้อสุก
หลังจากินอาหารจนอิ่มท้อง เขารู้สึกง่วงนอนมาก
แต่เด็กหนุ่มยังควบคุมตนเองและใช้แสงสลัวสังเกตแผนที่หนังแกะ
“แผนที่หนังแกะผืนนี้คงอยู่มานานแล้ว”
“หือ? นี่มันโอเอซิสของเผ่าข้ามิใช่หรือ?”
เด็กหนุ่มตะลึง
โอเอซิสเล็กๆเป็นจุดสำคัญของแผนที่หนังแกะ มีภาษาของทะเลทรายตะวันตกหลายคำถูกบันทึกไว้
แต่ถ้อยคำส่วนใหญ่พร่าเลือนไปแล้วตามกาลเวลา มีเพียงสองสามคำที่ยังเห็นได้ชัด
เด็กหนุ่มแทบไม่สามารถถอดความหมายของมัน เขากล่าวอย่างไม่แน่ใจ “ดินแดนแห่งสุสานอมตะ…คำสาป…อัปมงคล…”
“แปลก!” หลังจากสังเกตเป็นเวลานาน เด็กหนุ่มก็ยังไม่พบเบาะแสเพิ่มเติม เขาขมวดคิ้ว
“ข้าอยู่บนโลกใบนี้มานานนับสิบปีแล้ว ข้าเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับผู้อมตะมาจากผู้อาวุโสของตระกูล นั่นไม่ได้เป็นเพียงตำนานแต่มีผู้อมตะอยู่จริงๆงั้นหรือ?”
“มันอาจไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ หากพิจารณาถึงตัวตนของผู้ใช้วิญญาณ ข้าสามารถมองเห็นความแปลกประหลาดและความลึกลับที่อยู่เบื้องหลังโลกใบนี้ สิ่งใดก็เกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น”
“ดินแดนแห่งสุสานอมตะ…อย่าบอกว่าที่ที่ข้าเคยอาศัยอยู่มีสุสานของผู้อมตะอยู่ที่นั่น!?”
“แต่คำสาปและสิ่งอัปมงคลคือสิ่งใด?”
“แผนที่หนังแกะผืนนี้แปลกจริงๆ โลกนี้มีวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลสำหรับจัดเก็บแผนที่หรือข้อมูล ศพนั้นต้องเป็นผู้ใช้วิญญาณที่แข็งแกร่งอย่างแน่นอน แล้วเหตุใดเขาถึงใช้แผนที่หนังแกะแทนวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูล?”
“แผนที่หนังแกะชิ้นนี้ถูกเย็บติดกับเสื้อผ้าของเขา หากเสื้อผ้าของเขาไม่ขาด ข้าคงไม่พบมัน”
“เขาซ่อนมันไว้อย่างระมัดระวัง มันต้องสำคัญมาก แต่มันเสี่ยงเกินไป มันจะปลอดภัยกว่าหากเขาเก็บมันไว้ในวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูล”
เด็กหนุ่มพึมพำ
ฟางหยวนที่เฝ้ามองอยู่เคยคิดถึงคำถามเดียวกันนี้มาก่อนแล้ว
“ลืมเรื่องนี้ไปซะ แผนที่หนังแกะผืนนี้ยังระบุตำแหน่งของบ่อน้ำ หากข้าใช้มันนำทาง ข้าจะสามารถกลับไปที่เผ่า”
แม้เด็กหนุ่มจะไม่รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของเผ่า แต่เขาก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะอยู่เพียงลำพังกลางทะเลทราย
นอกจากอันตรายยังมีเรื่องของอาหาร เด็กหนุ่มมีเนื้อในปริมาณที่จำกัด
โอเอซิสแห่งนี้เล็กเกินไป มันไม่เหมาะกับการพักอาศัย
เป็นเพียงเวลานี้ที่ดวงตาของเด็กหนุ่มเริ่มพร่ามัว หลังจากชั่วครู่เขาก็งีบหลับไป
เขาเหนื่อยมาก ไม่เพียงร่างกายแต่ยังรวมถึงจิตใจ
เมื่อเขาหลับ วิสัยทัศน์ของฟางหยวนก็กลายเป็นมืดมิด
ท่ามกลางความมืดมิด ฟางหยวนรู้สึกถึงพลังการกัดกร่อนจากอาณาจักรแห่งความฝัน จิตวิญญาณของเขาถูกกัดกินอย่างรวดเร็ว
ฟางหยวนอดทนกระทั่งความมืดมิดจางหายไป
เวลาในอาณาจักรแห่งความฝันยากที่จะคาดเดา เมื่อความมืดจางหาย จิตวิญญาณของเขาก็ถูกกัดกร่อนไปแล้วเป็นจำนวนมาก
หลังจากกลับมามองเห็นอีกครั้ง ฟางหยวนก็ตกใจเมื่อเขาพบว่าเด็กหนุ่มถูกมัดไว้ในห้องใต้ดิน
ด้านหน้าเขามีผู้ใช้วิญญาณชราที่กำลังแสดงออกอย่างเคร่งขรึม
ผู้ใช้วิญญาณชรากำลังมองแผนที่หนังแกะด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความโลภ
ร่างของเด็กหนุ่มสั่นสะท้านขึ้น
“เจ้าคือผูใด? เหตุใดต้องมัดข้า?” เด็กหนุ่มตะโกนถาม
เขารู้สึกหดหู่มาก หลังจากตื่นขึ้น เขาก็พบว่าตนเองถูกมัดและตกเป็นเชลยไปแล้ว
“เจ้าควรดีใจที่ข้า ชาเซี่ยว ยังไม่ฆ่าเจ้า” ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
เขาเก็บแผนที่หนังแกะไว้ในกระเป๋าอย่างระมัดระวังและมองเด็กหนุ่ม “เด็กน้อย เจ้าเป็นสมาชิกของเผ่านี้งั้นหรือ?”
เด็กหนุ่มไม่ตอบ
เพราะเขาตระหนักว่าผู้ใช้วิญญาณชราผู้นี้ต้องรู้ความลับและเห็นคุณค่าของแผนที่หนังแกะ ชายชราไม่ฆ่าเขาแต่มัดเขาไว้เพราะต้องการใช้ประโยชน์จากเขา
การแสดงออกของผู้ใช้วิญญาณชรากลายเป็นมืดครึ้มเมื่อเห็นเด็กหนุ่มเงียบ
เขาลอยเข้าไปหาเด็กหนุ่มราวกับภูตผี
“เด็กน้อย อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้าคิดสิ่งใดอยู่ หากเจ้าเงียบ…เห้อ…เจ้าคงไม่เคยได้ยินชื่อของข้า เช่นนั้นข้าจะมอบบทเรียนให้เจ้าเป็นอันดับแรก”
ผู้ใช้วิญญาณชราหัวเราะอย่างชั่วร้ายก่อนจะยกขาขึ้นเตะหน้าอกของเด็กหนุ่ม
เด็กหนุ่มถูกส่งลอยออกไปราวกับก้อนหิน เขาพุ่งชนกำแพงและล้มลงบนพื้น
ความเจ็บปวดเกือบทำให้เด็กหนุ่มหมดสติ เขาเริ่มกรีดร้อง
เด็กหนุ่มรู้สึกว่าร่างกายของเขากลายด้านชา ในเวลาเดียวกันเขาก็รู้สึกราวกับถูกแทงด้วยเข็มน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วน
ความเจ็บปวดที่รุนแรงทำให้เด็กหนุ่มกรีดร้องออกมา เขาขดตัวราวกับกุ้งพร้อมกับน้ำมูกและน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง
“เด็กน้อย ตอนนี้รู้แล้วหรือยังว่าข้าแข็งแกร่งเพียงใด?” ผู้ใช้วิญญาณชราเผยรอยยิ้มชั่วร้าย
เขามีความสุขมาก
เสียงกรีดร้องและเสียงร้องไห้ของเด็กหนุ่มทำให้เขารู้สึกพึงพอใจมาก