เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - บทที่ 1509 สำรวจอาณาจักรแห่งความฝันครั้งที่สาม
- Home
- เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity
- บทที่ 1509 สำรวจอาณาจักรแห่งความฝันครั้งที่สาม
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1509 สำรวจอาณาจักรแห่งความฝันครั้งที่สาม
แปลโดย iPAT
ฟางหยวนถอนหายใจ ในที่สุดจิตวิญญาณของเขาก็บรรลุถึงระดับหนึ่งร้อยล้านหลังจากทุ่มเทความพยายามอย่างมาก
“ภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโปเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการบ่มเพาะจิตวิญญาณอันดับหนึ่งที่ถูกบันทึกไว้ในมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ มันทำให้รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของข้าเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว”
“แต่…มันยังเป็นเพียงหนึ่งร้อยล้าน ข้ายังต้องบ่มเพาะต่อไปในระดับสองร้อยล้าน สามร้อยล้าน สี่ร้อยล้าน…จนถึงเก้าร้อยล้าน”
หลังจากเก้าร้อยล้านไม่ใช่หนึ่งพันล้านแต่มันจะก้าวเข้าสู่ระดับจิตวิญญาณเดียวดาย หลังจากบรรลุสู่ระดับจิตวิญญาณเดียวดาย ดวงวิญญาณของฟางหยวนจะเทียบเท่ากับสัตว์อสูรเดียวดาย
แม้ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของฟางหยวนจะสามารถต่อสู้กับสัตว์อสูรเดียวดายได้อย่างง่ายดาย แต่ความสามารถในการต่อสู้กับพวกมันด้วยดวงวิญญาณเพียงลำพังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ
ท้ายที่สุดแล้วดวงวิญญาณของมนุษย์ก็อ่อนแอกว่าสิ่งมีชีวิตรูปแบบอื่น ความสามารถใช้การชดเชยข้อเสียเปรียบนี้แสดงให้เห็นถึงพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ของเทพปีศาจจิตวิญญาณได้อย่างชัดเจน
ฟางหยวนไม่ได้ออกจากทะเลทรายผีเขียวแต่ยังจับอสูรวิญญาณต่อไป
เขาไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวด้วยตนเองแต่สามารถสั่งให้กองทัพอสูรวิญญาณต่อสู้
หากเขาพบอสูรวิญญาณ เขาจะสั่งให้กองทัพอสูรวิญญาณโจมตีพวกมัน เขาจะเก็บแก่นแท้อสูรวิญญาณจากตัวที่เสียชีวิตและจะจับตัวที่ยังมีชีวิตเป็นทาส
นอกจากนี้ฟางหยวนก็ไม่จำเป็นต้องใช้สิ่งใดในการควบคุมอสูรวิญญาณนอกเหนือจากพลังจิตและพลังงานอมตะ กล่าวได้ว่ามันทำกำไรสูงมาก
เมื่อผู้อมตะทำสิ่งต่างๆ พวกเขาจะพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายและผลตอบแทน ฟางหยวนตระหนักถึงสิ่งนี้และใช้ประโยชน์จากมันเสมอ
วิธีการล่าอสูรวิญญาณพึ่งพาความสามารถของเขาเท่านั้น
หลายสิบวันผ่านไป รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของฟางหยวนก็บรรลุสู่ระดับสองร้อยล้าน
ดวงวิญญาณของเขาแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก
ในช่วงเวลานี้ไม่ว่าจะเป็นตระกูลฟาง ผีเฒ่าไป่จุน หรือศัตรูคนอื่นๆก็ไม่มีผู้ใดปรากฏตัวออกมา
ฟางหยวนผ่านช่วงเวลานี้มาอย่างสงบสุข
เมื่อกล่าวถึงผีเฒ่าไป่จุน ฟางหยวนต้องการยึดครองวิญญาณอมตะระดับแปดของเขา แต่เมื่อใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาเพื่ออนุมาน เขาพบว่ามันยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ตอนนี้มีความเสึ่ยงสูงที่จะทำเรื่องนั้น
นอกจากนี้ยังมีตระกูลฟางที่อยู่ใกล้ๆ ดังนั้นฟางหยวนจึงไม่เคลื่อนไหวแม้เขาจะรู้ตำแหน่งที่อยู่ของผีเฒ่าไป่จุนก็ตาม
‘จิตวิญญาณมนุษย์ระดับสองร้อยล้านควรจะเพียงพอสำหรับการสำรวจฉากที่สามของอาณาจักรแห่งความฝันของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ใช่หรือไม่?’ ฟางหยวนต้องการกลับไป
เขาเก็บกองทัพอสูรวิญญาณไว้ในมิติช่องว่างและปกปิดร่องรอยของตนเองก่อนจะออกจากทะเลทรายผีเขียว
หลังจากรีบเร่งเดินทาง เขากลับมาถึงอาณาจักรแห่งความฝันของเทพปีศาจปล้นสวรรค์อีกครั้ง
ถังฟางหมิงเข้ามาต้อนรับ
สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเคารพที่มีต่อฟางหยวน
ในช่วงเวลาที่ฟางหยวนจากไป เขามีความก้าวหน้าอย่างมากในการสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันเนื่องจากคำแนะนำของฟางหยวน
หลังจากทักทาย สมาชิกนิกายเงาก็เข้าควบคุมค่ายกลวิญญาณขณะที่ฟางหยวนเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ทันที
สภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป
โอเอซิสในทะเลทราย
ฟางหยวนอยู่ในตำแหน่งผู้สังเกตการณ์
“ที่นี่ เป็นที่แห่งนี้!” เสียงของชาเซี่ยวเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ในสองฉากก่อนหน้าเทพปีศาจปล้นสวรรค์วัยเยาว์ถูกเนรเทศออกจากเผ่า เขาได้พบชาเซี่ยว เขาหลอมรวมวิญญาณระดับสองและกลายเป็นผู้ชนะในการแข่งขันย่อย สุดท้ายก็ถูกนำตัวมาที่ทะเลสาบกลางโอเอซิสเพื่อรับวิญญาณเป็นรางวัล
ชาเซี่ยวจัดเตรียมวิธีการตรวจสอบไว้บนร่างของเด็กหนุ่มล่วงหน้าแล้ว ตอนนี้เขาสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ไม่สามารถอธิบายได้จากสถานที่แห่งนี้
อย่างไรก็ตามหัวใจของเด็กหนุ่มกลับจมดิ่งลง ชาเซี่ยวสามารถเติมเต็มความปรารถนาของตน นี่ไม่ใช่สิ่งที่เด็กหนุ่มต้องการเห็น
“เร็วเข้า โยนแผนที่หนังแกะลงไปในทะเลสาบ!” ชาเซี่ยวออกคำสั่ง
เด็กหนุ่มรู้สึกสงสัย “ไม่ใช่ว่าเจ้านำแผนที่หนังแกะของข้าไปแล้วงั้นหรือ?”
ชาเซี่ยวหัวเราะ “ข้าเตรียมการทั้งหมดไว้แล้ว ข้าเย็บแผนที่หนังแกะไว้ในเสื้อของเจ้า หลายชายที่ดีของข้า เจ้าต้องโยนมันลงไปในทะเลสาบ!”
หัวใจของเด็กหนุ่มจมดิ่งลง เขาคิด ‘ชาเซี่ยวผู้นี้เป็นจิ้งจอกเฒ่าจอมวางแผน เขาให้ข้าโยนแผนที่หนังแกะลงไปในทะเลสาบ แต่การทำเช่นนั้นคือการก่ออาชญากรรมมิใช่หรือ? แม้เผ่าเคยเนรเทศข้า แต่พวกเขาก็เลี้ยงดูข้ามาหลายปี ข้าไม่สามารถตอบแทนความเมตตาด้วยการก่ออาชญากรรมเช่นนี้!’
“เร็วเข้า หลายชาย โยนเสื้อของเจ้าลงไปในทะเลสาบ!” ชาเซี่ยวตะโกน “อย่าลืมว่าข้าสามารถทำให้เจ้าตายอย่างทุกข์ทรมาน!”
รูม่านตาของเด็กหนุ่มหดเล็กลงเมื่อเขาถูกคุกคามด้วยความตาย
เขาคิดถึงครอบครัวและการกลับบ้านด้วยความลังเลใจ
หากเขาไม่ปฏิบัติตามคำกล่าวของชาเซี่ยว เขาจะตายจริงๆ ความปรารถนาที่จะกลับบ้านพุ่งทะยานขึ้นอีกครั้ง
‘ข้าจะละทิ้งศีลธรรมเพื่อกลับบ้านงั้นหรือ? ไม่ ข้าทำไม่ได้ ชาเซี่ยวอาจแข็งแกร่ง แต่ข้ายังมีความหวัง ข้าจะต่อสู้จนถึงที่สุดและจะไม่ก้มศีรษะให้กับความชั่วร้าย! ข้าจะไม่ทำให้ชื่อของเบนเจสันต้องแปดเปื้อน!”
ดวงตาของเด็กหนุ่มส่องประกายขึ้น
“ท่านปู่ เวลานี้อาจไม่เหมาะ ข้ายังไม่ได้เลือกวิญญาณ ผู้ใช้วิญญาณของตระกูลกำลังสังเกตข้าจากด้านข้าง หากข้ารีบร้อนโยนเสื้อลงไปในทะเลสาบ มันจะถูกผู้คุมสกัดกั้นก่อนที่มันจะสัมผัสผิวน้ำ หลังจากทั้งหมดทะเลสาบแห่งนี้เป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของเผ่า”
ชาเซี่ยวตกตะลึงอยู่ชั่วครู่ก่อนจะกล่าวอย่างช้าๆ “ข้าใจร้อนเกินไปจริงๆ เจ้ากล่าวได้ถูกต้อง แต่เจ้าต้องหาโอกาส ในจังหวะที่ไม่มีผู้ใดเห็น จงทำงานนี้ให้สำเร็จ หากเจ้าทำไม่ได้ เจ้าต้องตาย หากเจ้าทำสำเร็จ ฮ่าฮ่า ท่านปู่จะมอบผลประโยชน์ที่คาดไม่ถึงให้เจ้า!”
ชาเซี่ยวทั้งข่มขู่และล่อลวง แต่มันไม่สามารถทำให้จิตใจของเด็กหนุ่มสั่นคลอนเลยแม้แต่น้อย
ผู้ใช้วิญญาณนำเด็กหนุ่มไปที่ถ้ำใต้ทะเลทราย “เจ้าเป็นผู้ชนะการแข่งขัน จงเลือกวิญญาณที่เจ้าต้องการ จำไว้เจ้ามีเวลาเพียงสิบห้านาที”
เด็กหนุ่มขอบคุณพวกเขาและเดินเข้าไปในถ้ำ
ผนังถ้ำมีรูสี่เหลี่ยมจำนวนนับไม่ถ้วน ภายในรูเหล่านี้มีวิญญาณระดับหนึ่งนอนอยู่
เด็กหนุ่มอุทานในใจ ‘แม้ข้าจะเคยได้ยินว่ามีวิญญาณนับไม่ถ้วนอยู่บนโลกใบนี้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเคยเห็นวิญญาณจำนวนมากเช่นนี้ ช่างน่าอัศจรรย์นัก!’
‘หือ? มีประตูอยู่ที่นั่นด้วยงั้นหรือ?’
เด็กหนุ่มผลักเปิดประตูบางเล็กๆและเข้าไปด้านใน
ด้านหลังประตูเป็นถ้ำที่มีขนาดเล็กเพียงหนึ่งในสามของถ้ำก่อนหน้า มีรูสี่เหลี่ยมที่คล้ายกันอยู่บนผนัง แต่วิญญาณที่นอนอยู่ภายในเป็นวิญญาณระดับสอง
เด็กหนุ่มถอนหายใจขณะมองวิญญาณเหล่านั้น ‘โอ้ ไม่มีผู้ใดแนะนำข้า ข้าไม่รู้ว่าวิญญาณดวงใดดีกว่าและเหมาะสมกับข้า นอกจากนี้ปีศาจชาเซี่ยวก็กำลังวางแผนการใหญ่ ข้าควรขอความช่วยเหลือจากเผ่าหรือไม่?’
เด็กหนุ่มส่ายศีรษะซ้ำๆด้วยความกังวล
ชาเซี่ยวมีวิธีตรวจสอบ หากเด็กหนุ่มเปิดเผยความลับ ชาเซี่ยจะฆ่าเขาทันที
‘หือ?’ ทันใดนั้นการแสดงออกของเด็กหนุ่มพลันก็เปลี่ยนเป็นประหลาดใจ
จากนั้นเขาก็เริ่มขยับแขนขาเพื่อปรับตัวให้เข้ากับร่างกาย
‘ข้าเข้าควบคุมร่างของเขาอีกครั้ง แต่ตอนนี้ไม่ใช่สถานการณ์เร่งด่วน’ ฟางหยวนต้องรับผิดชอบการกระทำของเด็กหนุ่ม
‘ข้าต้องแก้ปัญหาให้เขาใช่หรือไม่?’ ฟางหยวนคิด
‘ข้าจะจัดการชาเซี่ยวอย่างไร? จากการคาดเดาของข้า อย่างน้อยปีศาจเฒ่าผู้นี้ก็เป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสี่ มีความเป็นไปได้ที่เขาจะเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับห้าเช่นกัน’ ฟางหยวนสำรวจสภาพแวดล้อม ‘ดูเหมือนความสำเร็จของข้าจะขึ้นอยู่กับวิญญาณเหล่านี้’
เด็กหนุ่มไม่รู้จักวิญญาณเหล่านั้น แต่ฟางหยวนเต็มไปด้วยประสบการณ์และความรู้ เขารู้จักวิญญาณเกือบทั้งหมด แม้จะมีบางดวงที่เขาไม่รู้จัก แต่เขาก็สามารถคาดเดาได้ผ่านการตรวจสอบบางอย่าง
‘นอกจากนี้แม้ชาเซี่ยวจะมีวิธีตรวจสอบ แต่พวกมันหยุดทำงานไปแล้วหลังจากเทพปีศาจปล้นสวรรค์เข้ามาในถ้ำใต้ทะเลสาบ’
‘ดูเหมือนวิธีของชาเซี่ยวจะไม่สามารถทำลายการป้องกันของถ้ำแห่งนี้’
ถ้ำใต้ทะเลสาบแห่งนี้ได้รับการปกป้องอย่างแน่นหนา มันเป็นสถานที่เก็บวิญญาณของเผ่า หากสามารถตรวจสอบได้โดยง่าย มันจะดึงดูดศัตรูเข้ามาและทำให้เผ่าประสบความสูญเสียร้ายแรง
‘ชาเซี่ยวไม่รู้ว่าข้ากำลังทำสิ่งใด ดังนั้นเขาจึงเร่งเร้าให้เทพปีศาจปล้นสวรรค์รีบจัดการธุระของเขาให้เรียบร้อย’
‘ตราบเท่าที่ข้าสามารถล่วงรู้ความลับเกี่ยวกับวิธีตรวจสอบของเขา ข้าจะสามารถจัดการมันได้’
ฟางหยวนวิเคราะห์อยู่ในใจ
การทดสอบแรกของฉากที่สามถือว่าไม่ยากเกินไป
แม้เขาจะล้มเหลว เขาก็สามารถทดลองอีกครั้ง
อย่างมากที่สุดจิตวิญญาณของเขาก็จะได้รับบาดเจ็บเท่านั้น
ตอนนี้รากฐานของเขาบรรลุระดับจิตวิญญาณมนุษย์สองร้อยล้านแล้ว เขามั่นใจว่าสามารถแบกรับอาการบาดเจ็บทางจิตวิญญาณโดยไม่ตายทันที
‘แต่!’
‘หากข้าเดินไปตามเส้นทางของอาณาจักรแห่งความฝัน มันอาจปลอดภัย แต่มันก็เท่านั่น’
ฟางหยวนได้รับแรงบันดาลใจ เขาต้องการทดสอบอาณาจักรแห่งความฝันแห่งนี้