เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - บทที่ 1564 พึงพอใจ
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1564 พึงพอใจ
ในชั่วพริบตาฟางหยวนก็ถูกปิดล้อมด้วยปราณกระบี่จํานวนนับไม่ถ้วน
“ไม่ว่าเจ้าจะเป็นผู้ใด ท่าไม้ตายสายป้องกันของเจ้าก็ยอดเยี่ยมมาก!” เมิ้งตู๋มองฟางหยวนด้วยรอยยิ้ม
“แต่!” เมิ้งตู๋เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและเผยสายตาที่เต็มไปด้วยความเห็นใจ “เจ้าไม่ควรมาหาข้าที่นี่”
“ฮ่าฮ่าฮ่า แท้จริงแล้วไม่ใช่เรื่องผิดหากจะมาสร้างปัญหาให้ข้าที่นี้ แต่เวลาของเจ้าค่อนข้างแย่ หากเป็นช่วงเวลาที่ข้าพึ่งมาถึงที่นี่ เจ้าอาจยังมีโอกาสรอดชีวิต แต่ตอนนี้…ฮ่าฮ่าฮ่า…”
เมิ้งตู๋หัวเราะและส่ายศีรษะ
ฟางหยวนกล่าวต่อประโยคของเมิ้งตู๋ “แต่ตอนนี้สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยร่องรอยของเจ้าแล้ว เจ้าพยายามทะลวงเข้าสู่ระดับปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งกระบี่ ดังนั้นเจ้าจึงส่งอิทธิพลต่อร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ของที่นี่และสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับท่าไม้ตายเขตแดนอมตะดังเช่นที่ข้าเห็นอยู่ในขณะนี้”
“เจ้า!” การแสดงออกของเมิ้งตู๋้เปลี่ยนไปทันที เขาคิดว่าไม่มีผู้ใดล่วงรู้ไพ่ตายของเขาและด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่คาดหวังว่านอกจากฟางหยวนจะไม่แปลกใจแต่เขายังกล่าวความลับนี้ออกมาโดยตรง
ฟางหยวนยังกล่าวต่อไป “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าถึงมาหาเจ้า? นั่นเป็นเพราะเจ้ามีวิธีนี้ อย่างไรก็ตามมันยังไม่ใช่ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะที่แท้จริงและเจ้าก็ไม่สามารถควบคุมมันได้ตามใจปรารถนา ดังนั้นแม้ข้าจะติดอยู่ในกับดัก แต่ไม่ใช่ว่าเจ้าก็ติดอยู่ในกับดักเช่นเดียวกันงั้นหรือ?”
รูม่านตาของเมิ้งตู๋หดเล็กลงด้วยความตกใจ
“เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่!?”
ฟางหยวนหัวเราะคิกคักและกวาดตามองไปรอบๆ “แม้เจ้าจะมีปราณกระบี่มากมาย แต่คุณภาพของมันยังไม่ได้มาตรฐาน ข้ามีวิธีการที่คล้ายคลึงกัน เหตุใดพวกเราไม่มาประลองกันสักเล็กน้อย?”
ฟางหยวนสะบัดผ้าคลุมที่อยู่บนแผ่นหลังและส่งภูตผีร่างมนุษย์จํานวนมากที่มีใบหน้าชั่วร้าย กรงเล็บที่เหมือนใบมีด และดวงตาแดงก่ำที่น่ากลัวออกมา
“ตาย!” เมิ้งตู๋บังคับปราณกระบี่พุ่งเข้าโจมตีอสูรกายที่น่ากลัวเหล่านั้นทันที
ปราณกระบี่ดูแหลมคมและน่าสะพรึงกลัว แต่เปรียบเทียบกับภูตผีของฟางหยวน มันเหมือนหนูกับรถม้า
ภูตผีของฟางหยวนคํารามและใช้แขนของพวกมันบดขยี้ปราณกระบี่ทั้งหมด
พวกมันออกวิ่งและอาละวาดไปทั่วพร้อมกับส่งเสียงกรีดร้องออกมา
“ภูตผีเหล่านี้ช่างทรงพลังนัก! แต่ละตัวมีพลังการต่อสู้ระดับเจ็ด!” เมิ้งตู๋้มีประสบการณ์ เขาสังเกตเห็นรายละเอียดเหล่านี้ได้ในระยะเวลาสั้นๆ แต่นั่นก็ทําให้หัวใจของเขาราวกับถูกภูเขากดทับ เปลือกตาของเขากระตุกอย่างรุนแรง
“แต่มันไม่สําคัญ ปราณกระบี่ของข้าถูกสร้างขึ้นจากพลังงานแห่งเต๋าตามธรรมชาติของทุ่งใบมีดร่วงโรย คุณภาพของมันอาจไม่ดีนัก แต่ปริมาณของมันแทบไร้ขีดจํากัด!”
เมิ้งตู๋สงบจิตใจลง
“ความแข็งแกร่งของบุตรแห่งภูตเหล่านี้ค่อนข้างดี” ฟางหยวนประเมินและรู้สึกพึงพอใจ
ฟางหยวนดัดแปลงภูตผีเหล่านี้มาจากอสูรวิญญาณบรรพกาลจากทะเลทรายผีเขียวโดยได้รับแรงบันดาลใจมากจากเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะเทพโลหิต
ฟางหยวนเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งเลือดและเส้นทางแห่งปัญญา ตอนนี้เขาอนุมานเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะเทพโลหิตสําเร็จแล้ว
ปัจจุบันฟางหยวนเป็นกึ่งปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม เขาสามารถดัดแปลงเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะให้เป็นท่าไม้ตายอมตะ
ดังนั้นฟางหยวนจึงสามารถดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะเทพโลหิต
ท่าไม้ตายอมตะบุตรแห่งภูตได้รับแรงบันดาลใจมาจากท่าไม้ตายอมตะเทพโลหิตรวมถึงมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ ตัวอย่างเช่นท่าไม้ตายอมตะดัดแปลงอสูรวิญญาณ
เทพปีศาจจิตวิญญาณสามารถดัดแปลงอสูรวิญญาณที่อยู่ในประตูแห่งชีวิตและความตาย นั่นทําให้พวกมันภักดีต่อเขาและเผชิญหน้ากับราชันมังกรโดยไม่เกรงกลัวต่อความตาย
นอกจากนี้ยังมีท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ ชีวิตและความตายพลิกผัน
เทพปีศาจจิตวิญญาณสร้างท่าไม้ตายนี้ขึ้นด้วยความเข้าใจที่เขามีต่อประตูแห่งชีวิตและความตาย
ประตูแห่งชีวิตและความตายเป็นสถานที่เช่นไร?
เมื่อสิ่งมีชีวิตใดๆตาย ดวงวิญญาณของพวกมันจะถูกดึงเข้าสู่ประตูแห่งชีวิตและความตาย เพียงเมื่อเทพปีศาจบัวแดงทําลายวิญญาณชะตากรรม พลังอํานาจของประตูแห่งชีวิตและความตายจึงอ่อนแอลง นั่นทําให้ดวงวิญญาณจํานวนนับไม่ถ้วนยังติดอยู่ในโลกของสิ่งมีชีวิตและค่อยๆกลายเป็นอสูรวิญญาณ
ท่าไม้ตายอมตะชีวิตและความตายพลิกผันสามารถดึงดวงวิญญาณออกมาจากประตูแห่งชีวิต และความตาย
ฟางหยวนรวมท่าไม้ตายนี้เข้ากับท่าไม้ตายอมตะราชันภูตได้อย่างสมบูรณ์ นั่นทําให้เขาสามารถปลดปล่อยภูตผีจํานวนมากออกมา
ในไม่ช้าบุตรแห่งภูตบางตนก็ส่งเสียงกรีดร้องอันโหยหวนออกมา ต้นขาของมันถูกตัดออกและตกลงบนพื้น ปราณกระบี่จํานวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าโจมตีมันอย่างพร้อมเพรียง
แต่ด้วยความตั้งใจของฟางหยวน ‘กลับมา’
บุตรแห่งภูตตนนี้กลายเป็นกลุ่มเมฆหมอกและบินกลับเข้าไปในผ้าคลุมที่อยู่บนแผ่นหลังของฟางหยวนทันที
“มันมีความสามารถเช่นนี้ด้วยงั้นหรือ?” เมิ้งตู๋้ต้องประหลาดใจอีกครั้ง มือที่ไพล่หลังของเขาคลายออกขณะที่เขาจ้องมองฟางหยวนด้วยความตื่นตะลึง
นี่มันไร้ยางอายเกินไป!
เมิ้งตู๋ตั้งใจใช้ปริมาณของปราณกระบี่สังหารบุตรแห่งภูตแต่เขาไม่คาดหวังว่าพวกมันจะสามารถกลับไปได้เช่นนี้
ในทางทฤษฎี ท่าไม้ตายสามารถถอดรหัสได้ แต่เมิ้งตู๋เป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกระบี่ไม่ใช่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา อย่างไรก็ตามกระทั่งผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยิ่งใหญ่ก็ยังยากที่จะถอดรหัสท่าไม้ตายอมตะบุตรแห่งภูต
แม้แต่เทพธิดาจื่อเว่ยก็ไม่สามารถถอดรหัสมันได้ทันที
ในกรณีของเกราะหวนคืน นางต้องรวบรวมเบาะแสมากมายก่อนจะได้ผลลัพธ์บางอย่าง
บุตรแห่งภูตของฟางหยวนใช้ผนึกภูตผีเป็นรากฐาน ท่าไม้ตายอมตะระดับเก้านี้ถือเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพในระดับเดียวกับแม่น้ำหวนคืน แล้วเมิ้งตู๋จะทําลายมันได้อย่างไร?
เมิ้งตู๋ไม่สามารถอนุมานสิ่งใด เขาทําได้เพียงรวบรวมความกล้าเพื่อต่อสู้กับฟางหยวนต่อไปเท่านั้น
อย่างไรก็ตามบุตรแห่งภูตมีจํานวนจํากัด เมื่อพวกมันได้รับบาดเจ็บสาหัส ฟางหยวนก็จะเรียกพวกมันกลับไป
ในสนามรบ บุตรแห่งภูตมีจํานวนลดลงเรื่อยๆ ขณะที่ปราณกระบี่ราวกับไร้ขีดจํากัด ท้ายที่สุดฟางหยวนก็มีเวลาจํากัด เขาไม่สามารถดัดแปลงมันได้มากกว่านี้
ห้รากฐานของทุ่งใบมีดร่วงโรยอ่อนแอลงมากกว่าครึ่ง” การแสดงออกของเมิ้งตู๋กลายเป็นมืดมน
ราคาที่เขาต้องจ่ายสูงมาก เขาต้องใช้ผลประโยชน์ในอนาคตของเผ่าเพื่อต่อสู้กับฟางหยวน
แต่ไม่ว่าเขาจะต้องเสียสละมากเพียงใด เมิ้งตู๋ก็ยังต้องใช้กลยุทธ์นี้ต่อไป
คํากล่าวก่อนหน้านี้ของฟางหยวนทําให้เขาหวาดกลัว เขาถือว่าฟางหยวนเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดในชีวิตของเขา ดังนั้นเขาจึงใช้ทุกวิธีที่เขามีเพื่อจัดการกับฟางหยวน
แต่นี่คือสิ่งที่ฟางหยวนตั้งใจ
มีเพียงเมิ้งตู๋ผู้นี้เท่านั้นที่สามารถเป็นหินลับมีดที่ดีที่สุดในการทดสอบท่าไม้ตายอมตะราชันภูตของเขา
ตอนนี้เหลือบุตรแห่งภูตอยู่ในสนามรบน้อยกว่าสิบตน ขณะที่ปราณกระบี่ราวกับคลื่นยักษ์ที่ถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ความเร็วในการฟื้นตัวพอรับได้ การแสดงออกของฟางหยวนไม่เปลี่ยนแปลง เขายืนอยู่ที่จุดเดิมราวกับต้นไม้ใหญ่ที่ไม่สั่นไหว
ตอนนี้บุตรแห่งภูตชุดแรกที่กลับมาหาฟางหยวนฟื้นตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว
แน่นอนว่าพวกมันพึ่งพารากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของฟางหยวน
สิ่งนี้ยังเกี่ยวข้องกับความลึกซึ้งบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม
ในอีกมุมมองหนึ่ง บุตรแห่งภูตที่กําลังรักษาตัวเองก็เหมือนกับขั้นตอนการหลอมรวมวิญญาณ
“หากข้านบุตรแห่งภูตที่หายดีแล้วออกมาอีกครั้ง ข้าสงสัยว่าเมิ้งตู๋จะแสดงออกอย่างไร?” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มอยู่ภายในใจแต่เขาไม่ได้ทําเช่นนั้น ตรงข้าม เขาใช้วิธีการอื่น
“ข้าอยากเห็นพลังอํานาจของราชันภูต” ในเวลาต่อมาฟางหยวนก็ตะโกนอยู่ในใจ “ระเบิดวิญญาณ!”
ทันใดนั้นแสงสีดําทมิฬก็ระเบิดออกไปรอบๆ
บุตรแห่งภูตไม่ได้รับอันตรายจากแรงระเบิด ร่างของพวกมันเพียงสั่นไหวไปตามแรงกระแทกเล็กน้อยเท่านั้น
อย่างไรก็ตามปราณกระบีทั้งหมดราวกับเปลวเทียนที่อ่อนแอท่ามกลางลมพายุและดับลงทันที
ในเสี้ยวพริบตาสนามรบกลายเป็นว่างเปล่า ปราณกระบี่ทั้งหมดถูกทําลายลงอย่างสมบูรณ์
เมิ้งตู๋ถูกส่งกลับหลับไปหลายร้อยก้าวจากแรงระเบิด เขาคุกเข่าลงและพยายามใช้ท่าไม้ตายอมตะสายป้องกันของตนจนถึงขีดสุด
“ทรงพลังนัก!” เมิ้งตู๋พยายามลุกขึ้นยืนและมองไปที่ฟางหยวนด้วยร่างกายสั่นคลอน “ท่าไม้ตายของเขาช่างยอดเยี่ยมนัก มันเป็นท่าไม้ตายที่มีทั้งพลังโจมตีและพลังป้องกันในหนึ่งเดียว! การป้องกันของมันแข็งแกร่งมากและยังสามารถส่งทหารออกมา แต่จุดแข็งที่สุดของมันคือพลังโจมตี ข้าไม่เคยเห็นหรือได้ยินเกี่ยวกับท่าไม้ตายนี้มาก่อน มันถูกสร้างขึ้นโดยคนผู้นั้นหรือ? เขาเป็นผู้ใดในโลกนี้กันแน่?
“ผลลัพธ์ของระเบิดวิญญาณดีมาก” ฟางหยวนพยักหน้า
บุตรแห่งภูตตนหนึ่งถูกใช้เพื่อสร้างระเบิดวิญญาณที่มีพลังการต่อสู้ระดับเจ็ด
“การป้องกัน บุตรแห่งภูต การฟื้นฟู และระเบิดวิญญาณ…แง่มุมเหล่านี้อยู่ในระดับเจ็ดทั้งหมด แต่พลังอํานาจที่แท้จริงของราชันภูตอยู่ในอีกสองแง่มุม มาลองกัน”
ขณะที่ฟางหยวนกําลังคิดถึงเรื่องนี้ เมิ้งตู๋ก็พุ่งออกมาและตะโกน “รับท่าไม้ตายอมตะกระบี่สวรรค์พิภพของข้า!”
ท่าไม้ตายอมตะมือปีศาจปล้นวิญญาณ!
พริบตาต่อมามือภูตผีก็ปรากฏขึ้นด้านหลังเมิ้งตู๋และพุ่งเข้าสู่ร่างกายนของเขาโดยตรงก่อนจะบินออกมาและหายไปทันที
“พรวด!”
เมิ้งตู๋กระอักเลือดคําโตออกมาจากปาก วิญญาณอมตะที่เป็นแกนกลางของท่าไม้ตายอมตะกระบี่สวรรค์พิภพถูกปล้น! ท่าไม้ตายอมตะของเขาล้มเหลว เขาพบกับฟันเฟือนและได้รับบาดสาหัสทันที
เกิดสิ่งใดขึ้น? วิญญาณอมตะของข้าอยู่ที่ใด!?” หัวใจของเมิ้งตู๋้สั่นสะท้านขึ้นด้วยความหวาดกลัวอย่างไม่ที่เคยเป็นมาก่อน!