เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - บทที่ 1594 วางแผนต่อต้านฟางหยวน
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1594 วางแผนต่อต้านฟางหยวน
“เราต้องกําจัดฟางหยวน! เขากล้าโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะของฝ่ายธรรมะอย่างเปิดเผยเขากล้าหาญเกินไป!” ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลถั่วคําราม
“คราวนี้ผู้อมตะของตระกูลข้าเสียสละตนเองอย่างกล้าหาญ ปีศาจฟางหยวนต้องชดใช้!” ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลถั่วกล่าวด้วยความโกรธแค้น
ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเหยาถอนหายใจ “เราต้องจัดการฟางหยวน แต่เขาไม่ใช่ปีศาจอมตะทั่วไปตัวตนของเขาซับซ้อนมาก ไม่เพียงเขาจะเป็นปีศาจต่างโลก แต่เขายังเดินทางมาจากอนาคตด้วยวิญญาณกาลเวลา เขาทําลายวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงและได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะตะวันเดือดเขาได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณและกลายเป็นผู้นํานิกายเงา นอกจากนี้เขายังสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา กระทั่งวังสวรรค์ก็ไม่สามารถจัดการเขา เขาอาละวาดไปทั่วและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว กล่าวตามตรงเขามีลักษณะนิสัยเหมือนเทพปีศาจในวัยเยาว์”
“ยืม! ในอนาคตจะมีเพียงเทพอมตะแห่งความฝัน ไม่มีเทพปีศาจ! ตระกูลเหยา พวกเจ้ากลัวงั้นหรือ?” ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเซียประชด
ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเหยาเผยรอยยิ้มเยาะ “ข้าเพียงกล่าวตามความจริง หากเราต้องการสังหารฟางหยวน เราต้องยอมรับความจริงเรื่องนี้ให้ได้ก่อน มิฉะนั้นมันจะเหมือนกับตระกูลเซียของเจ้าที่พ่ายแพ้ให้กับตระกูลเหยาของข้าก่อนหน้านี้”
“เจ้า!” ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเซียโกรธมาก
เมื่อเร็วๆนี้ความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นจากเส้นโลหิตปฐพี่ทําให้ทรัพยากรมากมายปรากฏขึ้นนั่นทําให้เกิดความขัดแย้งระหว่างกองกําลังต่างๆ ตระกูลเซียถูกตระกูลเหยาซุ่มโจมตีและพบกับความพ่ายแพ้ แต่ตระกูลเหยาก็ต้องจ่ายด้วยราคามหาศาลเช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาต
“เอาล่ะ พวกเรามาหารือไม่ใช่มาทะเลาะวิวาท เราจะจัดการฟางหยวนอย่างไร หากเขายังปล้นสะดมพวกเราต่อไป พวกเราจะรับมืออย่างไร?” ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเฉิงกล่าว
เงียบ!
ตระกูลเฉิงวางตัวเป็นกลางมาตลอด พวกเขามีความเชี่ยวชาญในการค้าขายกับกองกําลังต่างๆ เมื่อผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเฉิงเป็ดปากกล่าว ทุกคนจึงต้องฟังเขา
หลังจากชั่วครู่ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลปาก็ทําลายความเงียบ “ฟางห ยวนต้องมีวิธีสํารวจอาณาจักรแห่งความฝันและได้รับประโยชน์มากมายจากมัน มิฉะนั้นเหตุใดเขาต้องปลอมตัวเป็นอให้ คราวนี้เขาโจมตีรอยแยกปล้นเงาและนําอาณาจักรแห่งความฝันทั้งหมดออกไป นี่เป็นข้อพิสูจน์คํากล่าวของข้า ข้าสงสัยว่าผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลวูคิดเห็นอย่างไร?”
ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลวูแน่นอนว่าไม่ใช่ผู้ใดนอกจากพี่ชายของวอี้ไหวหยง!
ตระกูลวเป็นกองกําลังอันดับหนึ่งของภาคใต้มาอย่างยาวนาน แต่ตระกูลปาต้องการชิงตะแหน่งอันดับหนึ่งมาจากพวกเขา อย่างไรก็ตามเมื่อบ้านไม้ไผ่สายลมของวูหยงถูกเปิดเผย ความหวังของตระกูลปาจึงพังทลายลง
วูหยงเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะเบิดปากกล่าว “ฟางหยวนเป็นศัตรูของทุกคน เมื่อวานเขาปล้นสะดมทรัพยากรของตระกูลจือ พรุ่งนี้เขาอาจปรากฏตัวที่แหล่งทรัพยากรของพวกเรา กระทั่งฐานทัพใหญ่ของตระกูลก็อาจตกเป็นเป้าหมายของเขา”
วูหยงกล่าวอย่างชัดเจนว่าการจัดการฟางหยวนเป็นความรับผิดชอบของสมาชิกฝ่า ยธรรมะของภาคใต้ทั้งหมดตระกูลปาและตระกูลอื่นไม่สามารถผลักความรับผิดชอบให้กับตระกูลวูเพียงลําพัง
เมื่อได้ยินคํากล่าวของวูหยง หลายคนขมวดคิว
ตู้จิ๋วกับวหยงแตกต่างกันมาก หากนี่เป็นรูตู้ซิ่ว นางจะพุ่งออกไปข้างหน้าทันที นั่นคื อลักษณะนิสัยของนาง
แต่วหยงกลับทําตัวราวกับความอัปยศที่ฟางหยวนเคยมอบให้ตระกูลวก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิด
ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลปาไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ผ่านไป เขากล่าว “เหตุผลที่ฟางหยวนเป็นปัญหาที่ต้องจัดการเพราะเขามีวิญญาณท่องแดนอมตะ ข้าสงสัยว่าผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลรูมีวิธีการจัดการกับมันหรือไม่?”
วูหยงเผยรอยยิ้มขมขึ้น “ข้ารู้สึกละอายใจนัก ตระกูลวไม่มีวิธีการดังกล่าว ข้าไม่สามารถเปรียบเทียบกับท่านแม่ เราสามารถป้องกันตนเองแต่นั่นคือขีดจํากัดของเรา ในความคิดเห็นของข้า ค่ายกลวิญญาณอมตะของตระกูลจือมีประสิทธิภาพมาก แม้ฟางหยวนจะสามารถทําลายแต่เขายังต้องใช้เวลาค่อนข้างนานเหตุใดผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลจือไม่ช่วยสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะที่แหล่งทรัพยากรของพวกเราเพื่อหยุดการโจมตีของฟางหยวน?”
ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลจือ จื่อชิวหยู เร่งโบกมือ “ข้ารู้สึกละอายใจนัก ค่ายกลวิญญาณอมตะของข้าถูกฟางหยวนทําลาย ข้าจะทําให้ทุกท่านผิดหวัง”
วูหยงเผยรอยยิ้ม “ไม่จําเป็นต้องถ่อมตัว ฟางหยวนไม่สามารถทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะบนภูเขาวายุเพลิง ค่ายกลวิญญาณอมตะที่รอยแยกปล้นเงาก็ยังสามารถป้องกันการโจมตีของฟางหยวน มันเป็นเพราะระดับความสําเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลของฟางหยวนสูงเกินไป นอกจากนั้นเขายังเป็นสหายของจื่อซานศิษย์ของท่าน เราทุกคนต่างรู้เรื่องนี้”
คํากล่าวของวูหยงมีความหมายลึกซึ้ง จื่อชิวหยูหลอบสูดหายใจลึกแต่ยังเงียบ
กองกําลังใหญ่ของภาคใต้มีแหล่งทรัพยากรทุกประเภท หากจื่อชิวหยูหยุต้องสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะที่ละแห่ง แล้วเขาต้องใช้เวลานานเท่าใด?
สิ่งสําคัญก็คือเรื่องนี้ละเอียดอ่อนมาก
แหล่งทรัพยากรเป็นพื้นที่สําคัญของตระกูลต่างๆ พวกเขาไม่ต้องการให้คนนอกเป็นผู้จัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะให้กับพวกเขา
ท่ามกลางตระกูลต่างๆที่อยู่ที่นี่ มีเพียงตระกูลจอที่ถูกปล้นทรัพยากร โดยไม่ได้สัมผัสกับความสูญเสียด้วยตนเอง กองกําลังอื่นไม่รู้สึกว่าพวกเขาจะต้องขอความช่วยเหลือจากจื่อชิวหยู
จื่อชิวหยูหยูเข้าใจเรื่องนี้ซึ่งเป็นสาเหตุที่เขาหยุดพูด
วูหยงเห็นจือชิวหยูเงียบ เขาจึงไม่สามารถกล่าวสิ่งใดได้อีก
เป็นเพียงเวลานี้ที่ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลไท่กล่าวด้วยตื่นเต้น “ในความเป็นจริงวิธีของผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลวูเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับฟางหยวนแต่นั่นเป็นเพียงครึ่งเดียว ค่ายกลวิญญาณอมตะของผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลจือสามารถป้องกันฟางหยวนได้ชั่วครู่ หากเรามีหอคอยดวงประทีปของตระกูลไท เราสามารถเคลื่อนย้ายสถานที่ในพริบตาเพื่อเดินทางไปหาฟางหยวนและร่วมมือกันฆ่าเขา!”
กลุ่มผู้อมตะเงียบ
หอคอยดวงประทีปของตระกูลไท่เป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่สามารถขนส่งผู้อมตะ หากหอคอยดวงประทีปจํานวนมากถูกรวมเข้าด้วยกัน พวกเขาจะสามารถขนส่งผู้อมตะระดับแปด!
ความคิดของผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลไท่ไม่ผิด ในความเป็นจริงตระกูลไม่ต้องการสร้างหอคอยดองประทีปทั่วทั้งภาคใต้มาตลอด
แต่การสร้างสิ่งนี้เป็นภัยคุกคามกองกําลังอื่นมากเกินไป ดังนั้นความพยายามของตระกูลไทในการสร้างหอคอยดวงประทีปจึงไม่สําเร็จ
อย่างไรก็ตามผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลไม่ได้ใช้โอกาสนี้เพื่อนําเสนอหอคอยดวงประทีปอีกครั้ง แต่ผู้นําตระกูลอื่นยังนิ่งเงียบและกระทั่งรู้สึกต่อต้าน
“ข้ามีแผนอื่น” หลังจากไม่นานผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเฉิงก็เป็ดปากกล่าวอีกครั้ง
สิบห้านาทีผ่านไปการหารือของผู้นํากองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้ก็สิ้นสุดลง
ภายใต้แสงจันทร์ จื่อชิวหยูหยูหยุดใช้ท่าไม้ตายของเขา เขาบินขึ้นสู่ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยกลุ่มเมฆหมอกหนาทึบด้วยสายตาที่น่าขนลุก
โลกของผู้อมตะภาคใต้เต็มไปด้วยความขัดแย้ง โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เส้นโลหิตปฐพี่เกิดความปั่นปวน ผลประโยชน์มหาศาลทําให้ควาดขัดแย้งของกองกําลังต่างๆยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น
เรื่องนี้สามารถมองเห็นได้จากเหตุการณ์ที่ฟางหยวนโจมตีแหล่งทรัพยากรของตระกูลจื่อแต่ไม่มีกองกําลังอื่นให้การช่วยเหลือพวกเขา
หลังจากบินมาได้ระยะหนึ่ง วิสัยทัศน์ของชื่อชิวหยูก็เปลี่ยนแปลงไป เขาติดอยู่ในเขตแดนอมตะ
แต่เขาไม่กังวลเพราะนี่คือสนามรบราชันภูต
มันเป็นสถานที่นัดพบระหว่างเขากับฟางหยวน!
“นี่เป็นของท่าน” ฟางหยวนโยนกายาแห่งความฝันหลายร่างและวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลระดับมนุษย์ออกไป “แล้วของข้าอยู่ที่ใด?”
“ข้านํามาแล้ว” จื่อชิวหยูหยูนําหินวิญญาณอมตะและทรัพยากรอมตะจํานวนมากออกมา นอกจากนี้ยังมีวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลระดับมนุษย์ที่บันทึกมรดกบนเส้นทางแห่งข้อมูลเอาไว้
หลังจากตรวจสอบสินค้า จื่อชิวหยูหยูขมวดคิ้วบางขณะที่ฟางหยวนเผยรอยยิ้ม
“ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลจือ ในอนาคตข้าจะทําธุรกรรมกับท่านอีกครั้ง!” ฟางหยวนกล่าวก่อนจากไป
“เจ้าจะติดต่อข้าอย่างไร?”
“เดี๋ยวท่านก็รู้”
ทั้งสองรีบออกจากสถานที่แห่งนี้ ไม่มีฝ่ายใดต้องการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทําธุรกรรมครั้งนี้รั่วไหล
ข้อมูลที่อยู่ในวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลนี้ยังไม่สมบูรณ์ เห็นได้ชัดว่าฟางหยวนมีงานวิจัยเกี่ยวกับเส้นทางแห่งความฝันอยู่มากมาย อย่างไรก็ตามสิ่งที่ข้าได้รับในครั้งนี้ก็ยังเหนือกว่ากองกําลังอื่นของภาคใต้!” จื่อชิวหยูหยูถอนหายใจ
เมื่อนึกถึงฟางหยวน สายตาของเขาก็กลายเป็นมืดครื้ม “ฟางหยวนเป็นวายร้ายตัวจริง เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการร่วมมือกับข้าอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเขาต้องการข้อมูลเกี่ยวกับค่ายกลวิญญาณอมตะบนภูเขาอี้เทียน ตอนนี้ข้าควรร่วมงานกับเขาและเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ให้มากขึ้น หลังจากนั้นข้าจะใช้กองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้เพื่อกําจัดเขาในภายหลัง!”
ธุรกรรมระหว่างจื่อชิวหยูกับฟางหยวนเป็นเพียงเรื่องของผลประโยชน์ แต่การกําจัดฟางหยวนก็ทําให้เขาได้รับประโยชน์เช่นกัน
หากฟางหยวนขายงานวิจัยบนเส้นทางแห่งความฝันให้กับกองกําลังอื่น ความได้เปรียบของตระกูลจือจะหายไป ผลประโยชน์ของพวกเขาจะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก
“แม้ข้าจะมอบอาณาจักรแห่งความฝันให้แก่ตระกูลจือในครั้งนี้ แต่ข้าก็ได้รับอาณาจักรแห่งความฝันบนเส้นทางแห่งกาลเวลามาแล้ว ข้าต้องยกระดับความสําเร็จบนเส้นทางแห่งกาลเวลาอย่างรวดเร็วที่สุด!” ฟางหยวนคิดและวางแผน
ตระกูลจื่อต้องการสํารวจอาณาจักรแห่งความฝัน แม้ภูเขาอี้เทียนจะมีอาณาจักรแห่งความฝันขนาดใหญ่แต่พวกเขาก็ไม่สามารถสํารวจมันภายใต้สายตาของทุกคน
ครั้งนี้ข้าบุกรอยแยกปล้นเงาสําเร็จ ฝ่ายธรรมะของภาคใต้ต้องวางแผนต่อต้านข้า แม้วิญญาณท่องแดนอมตะจะมีประสิทธิภาพสูงมาก แต่ก็มีหลายวิธีที่สามารถตอบโต้มัน ยังไม่ต้องกล่าวถึงรากฐานของฝ่ายธรรมะภาคใต้ เพียงความสัมพันธ์ระหว่างวูหยงกับวังสวรรค์ มันก็ทําให้ข้ากลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบแล้ว
ความจริงก็คือฟางหยวนสามารถทําธุรกรรมกับทุกกองกําลัง แต่เขาเลือกตระกูลจือเพราะมีเหตุผลอยู่เบื้องหลัง
เหตุผลสําคัญที่สุดก็คือในสงครามห้าภูมิภาค ตระกูลจื่อเป็นแนวหน้าในการต่อต้านวังสวรรค์!
สําหรับวูหยง เนื่องจากเขาสามารถนําวิญญาณอมตะที่วังสวรรค์ปล้นชิงไปกลับมาคืนให้แก่กองกําลังต่างๆ ดังนั้นฟางหยวนจึงไม่สามารถไว้ใจเขา