เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - บทที่ 1614 ค้นวิญญาณเชลย
บทที่ 1614 ค้นวิญญาณเชลย
คํากล่าวของฟางหยวนทําให้ฝ่ายธรรมะของภาคใต้โกรธและระวังตัวมากขึ้น แต่เขาบรรลุเป้าหมายในการโน้มน้าวแล้ว
แม้ความตรงไปตรงมานี้จะทําให้ฝ่ายธรรมะของภาคใต้รู้สึกเกลียดชังฟางหยวนมากขึ้น แต่พวกเขาเลือกที่จะเชื่อในความจริงใจของฟางหยวน
ในความเป็นจริงพวกเขาเต็มใจที่จะเชื่อ
เนื่องจากการสูญเสียผู้อมตะจะเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่สําหรับพวกเขา
มันไม่สําคัญหากเป็นผู้อมตะระดับหกทั่วไป แต่เชลยที่อยู่ในมือของฟางหยวนคือผู้อมตะระดับเจ็ดและผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งตระกูลเซี่ย เซี่ยชา
การสูญเสียผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อทั้งตระกูล
นิกายคฤหาสน์วิญญาณเคยสูญเสียฟงจิวเก้อ ในเวลานั้นมันดึงดูดความโลภของนิกายอื่น และทําให้นิกายคฤหาสน์วิญญาณตกอยู่ภายใต้แรงกดดันทันที
นิกายโบราณทั้งสิบมีผู้นําคนเดียวกัน นั่นคือวังสวรรค์ ความสัมพันธ์ของพวกเขาใกล้ชิดกว่าฝ่ายธรรมะของภาคใต้ แต่สถานการณ์เลวร้ายยังเกิดขึ้นกับนิกายคฤหาสน์วิญญาณ หากเป็นฝ่ายธรรมะของภาคใต้ สถานการณ์ของพวกเขาจะยิ่งเลวร้ายมากกว่า สถานะของพวกเขาจะตกต่ําลงอย่างไม่ต้องสงสัย
ดังนั้นฝ่ายธรรมะของภาคใต้จึงไม่ต้องการสูญเสียผู้อมตะเหล่านั้น สิ่งที่ทําให้พวกเขากังวลก็คือพวกเขาเกรงว่าฟางหยวนจะฆ่าและปล่อยเชลยเพียงบางส่วน
เส้นโลหิตปฐพี่กําลังเคลื่อนไหว ทรัพยากรและวิญญาณอมตะปาทุกชนิดปรากฏขึ้นอย่างไม่รู้จบสิ้น มันทําให้กองกําลังของภาคใต้ต่อสู้กันเองเพื่อแย่งชิงทรัพยากรเหล่านี้
ฝ่ายธรรมะของภาคใต้มีกองกําลังจํานวนมาก เดิมที่พวกเขาก็เต็มไปด้วยความขัดแย้งอยู่แล้ว เมื่อเส้นโลหิตปฐพีเคลื่อนไหว มันยิ่งทําให้ความขัดแย้งรุนแรงขึ้นไปอีก
หากฟางหยวนฆ่าและปล่อยเชลยบางส่วน สมดุลเดิมระหว่างกองกําลังต่างๆจะถูกทําลาย สถานการณ์ทั้งหมดของภาคใต้จะกลายเป็นไร้เสถียรภาพ
เชลยที่ฟางหยวนฆ่าหรือปล่อยจะเปลี่ยนสถานการณ์ทั้งหมด
พวกเขากลัวฟางหยวน แม้พวกเขาจะไม่ยอมรับแต่พวกเขาก็ต้องระวังตัวมากขึ้น
ฟางหยวนมองเห็นความตึงเครียดทางการเมืองของกองกําลังเหล่านี้อย่างชัดเจนและสามารถใช้ประโยชน์จากมันเพื่อรีดไถพวกเขา
“ฝ่ายธรรมะจะทําสิ่งต่างๆอย่างสง่างาม แต่พวกเขาจะไม่อ้อมค้อมหากต้องลงมือ เผ่าไห่ของภาคเหนือเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด เมื่อเผ่าไห่อ่อนแอลง ด้วยข้ออ้างในการซ่อนอาชญากรที่ทําลายวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง พวกเขาจึงถูกปิดล้อมโดยกองกําลังตระกูลฮวงจินทั้งหมดทันที
เปรียบเทียบกับผู้บ่มเพาะสันโดษเช่นข้า แม้เราจะกรรโชกทรัพย์มากเพียงใด เราก็ยังไม่สามารถแย่งชิงดินแดน เราไม่สามารถสร้างกองกําลังใหญ่ขึ้นมาเพื่อยึดครองพื้นที่เหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย ในทางกลับกัน กองกําลังฝ่ายธรรมะมีสมาชิกมากมาย พวกเขามีทั้งกําลังคนและความทะเยอทะยาน ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นภัยคุกคามมากกว่า”
ภาคใต้มีหลายกองกําลังแต่ขาดผู้นําที่มีอํานาจ หากข้าทําเช่นนี้ที่ภาคกลาง นิกายโบราณทั้งสิบจะไม่สนใจข้า!”
“ภาคใต้ ทะเลทรายตะวันตก และทะเลตะวันออกเต็มไปด้วยกองกําลังส่วนตัว ภาคใต้มีความขัดแย้งมากที่สุด เพราะเส้นโลหิตปฐพีกําลังเคลื่อนไหวสําหรับภาคเหนือ
รอยยิ้มขมขึ้นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฟางหยวน
เปรียบเทียบกับชีวิตแรก ถ้ําสวรรค์นิรันดรของภาคเหนือปรากฏตัวขึ้นล่วงหน้าและเริ่มหลอมรวมผู้อมตะภาคเหนือเข้าด้วยกัน
ก่อนหน้านี้แผนการของถ้ําสวรรค์นิรันดรถูกขัดขวางโดยวังสวรรค์ พวกเขาปลอมตัวเป็นฟางหยวน และสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษที่กําลังจะแต่งงานเข้าสู่ฝ่ายธรรมะของภาคเหนือ
แต่ไม่นานมานี้จุดยืนของถ้ําสวรรค์นิรันดรเกิดการเปลี่ยนแปลง
สาเหตุเป็นเพราะแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
ถ้ําสวรรค์นิรันดรกลืนกินนิกายหยางหลาทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังกระทําการอย่างเปิดเผย ให้คนทั้งโลกรู้ว่าพวกเขาสามารถยึดครองแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาและมอบสถานะที่เท่าเทียมให้ฝ่ายหลัง ตามข้อตกลงของเทพอมตะตะวันเดือดกับบรรพชนผมยาว
การกระทํานี้ส่งเสริมภาพลักษณ์ของพวกเขาเป็นอย่างมาก
โลกของผู้อมตะทั้งห้าภูมิภาคเกิดการสั่นสะเทือน
ผู้อมตะของแดนศักดิ์สิทธิ์หยางหลาเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ทั้งหมดแต่ถ้ําสวรรค์นิรันดรยังใจกว้างเปิดรับมนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้ นั่นหมายความว่าพวกเขาจะปฏิบัติต่อผู้อมตะเผ่ามนุษย์ดีกว่าอย่างแน่นอน
ถ้ําสวรรค์นิรันดรประสบความสําเร็จในการยึดครองหัวใจของผู้คนอีกครั้ง ความคิดของผู้อมตะภาคเหนือเปลี่ยนไปทั้งหมด แผนการรับสมัครผู้บ่มเพาะสันโดษก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว มันแตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
“ถ้ําสวรรค์นิรันดรโชคดีจริงๆที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาขอความช่วยเหลือจากพวกเขา”
การเคลื่อนไหวของถ้ําสวรรค์นิรันดรจะสร้างปัญหาให้กับภาคกลางในสงครามห้าภูมิภาคอย่างแน่นอน
สําหรับตระกูลเซียวของทะเลทรายตะวันตกและตระกูลชื่อของภาคใต้ พวกเขาได้รับการสนับสนุนจากฟางหยวนอย่างลับๆ
นี่ไม่ใช่ทั้งหมดแต่ฟางหยวนแสดงให้เห็นถึงภัยคุกคามของวังสวรรค์ในสวรรค์สีเหลืองอยู่เสมอ ตัวอย่างเช่นท่าไม้ตายอมตะทางผ่านดาราและการฟื้นตัวของวิญญาณชะตากรรม นอกจากนี้ยังมีการต่อสู้ที่แม่น้ําหวนคืน การต่อสู้ที่อาณาจักรแห่งความฝัน และการต่อสู้ที่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ภาพเหตุการณ์เหล่านี้ถูกฉายซ้ําๆอยู่อย่างเงียบๆ สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยาน และความปรารถนาที่จะกดขี่อีกสี่ภูมิภาคของวังสวรรค์อย่างชัดเจน
การกระทําดังกล่าวอาจดูเหมือนไม่ได้รับการตอบสนอง แต่ฟางหยวนเชื่อว่าไม่มีกองกําลังใหญ่ใดในสู่ภูมิภาคที่ไม่รังเกียจการกระทําของวังสวรรค์ พวกเขาเพียงหยุดตัวเองไว้ชั่วคราวเท่านั้น
นิกายโบราณทั้งสิบของภาคกลางยอมรับวังสวรรค์เป็นผู้นําเพราะสมาชิกของวังสวรรค์ส่วนใหญ่มาจากนิกายโบราณทั้งสิบ
กองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคเหนือสามารถยอมรับถ้ําสวรรค์นิรันดรเพราะพวกเขามีสายเลือดเดียวกันขณะที่ถ้ําสวรรค์นิรันดรเป็นถ้ําสวรรค์ของบรรพชนของพวกเขา
ภาคใต้ ทะเลทรายตะวันตก และทะเลตะวันออกเคยชินกับการใช้อํานาจในทางที่ผิด และไม่มีผู้ใดยินดีที่จะถูกควบคุมโดยกองกําลังอื่น นี่ทําให้พวกเขาไม่สามารถสร้างความร่วมมือ
วันต่อมาในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
ท่าไม้ตายอมตะค้นวิญญญาณ!
ฟางหยวนคิดค้นท่าไม้ตายอมตะด้วยการใช้วิญญาณอมตะค้นวิญญาณระดับเจ็ดเป็นแกนกลาง ประสิทธิภาพของมันสูงกว่าการใช้วิญญาณอมตะค้นวิญญาณเพียงลําพังนับสิบเท่า
ภายใต้ผลกระทบของท่าไม้ตายนี้ ข้อมูลทุกประเภทจึงถูกดึงออกมาจากดวงวิญญาณของเชลยและไหลเข้าสู่จิตใจของฟางหยวน
ฟางหยวนมองเห็นวิถีชีวิตของผู้อมตะแต่ละคนอย่างชัดเจน ความลับและเคล็ดลับในการบ่มเพาะของพวกเขา ข้อพิพาทภายในกองกําลัง และความลับอื่นๆอีกมากมาย
ฟางหยวนมีความเข้าใจเกี่ยวกับภาคใต้ค่อนข้างดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่ได้รับมาจากนิกายเงา หรือการแทรกซึมเข้าสู่ตระกูลวูในฐานะวูไห่
ด้วยพื้นฐานดังกล่าวรวมกับข้อมูลที่ได้รับจากผู้อมตะเหล่านี้ มันทําให้ฟางหยวนเข้าใจสถานการณ์ของภาคใต้ลึกซึ้งมากขึ้น
กระทั่งผู้อมตะระดับแปดเช่นวูหยงหรือจ่อชิวหยูก็ไม่เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดของภาคใต้อย่างละเอียด
“ดูเหมือนรายชื่อวิญญาณอมตะที่พวกเขามอบให้ข้าจะถูกต้อง เว้นเพียงพวกเขาจะปกปิดข้อมูลบางอย่างเอาไว้
กองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้ต้องการแลกเปลี่ยนวิญญาณอมตะและมอบรายชื่อวิญญาณอมตะของพวกเขาให้แก่ฟางหยวน ตอนนี้ฟางหยวนสามารถทําความเข้าใจรากฐานของแต่ละกองกําลังทันทีโดยการค้นวิญญาณเชลย หากเชลยเหล่านี้เป็นผู้อมตะระดับหกหรือระดับเจ็ดทั่วไป ฟางหยวนอาจไม่ได้รับข้อมูลดังกล่าว แต่โชคดีที่ผู้อมตะระดับเจ็ดเหล่านี้ล้วนเป็นตัวตนชั้นสูงของกองกําลังของพวกเขา ความแข็งแกร่งหมายถึงอํานาจ ดังนั้นทุกคนจึงเป็นเสาหลักของกองกําลังที่เต็มไปด้วยข้อมูลในเชิงลึก
ฟางหยวนไม่แปลกใจกับการซุกซ้อนข้อมูลของกองกําลังต่างๆ
เพราะเขารู้ว่าวิญญาณอมตะที่ไม่ถูกกล่าวถึงคือวิญญาณอมตะที่กองกําลังต่างๆไม่ต้องการแลกเปลี่ยน หากฟางหยวนต้องการแลกเปลี่ยนกับวิญญาณอมตะในรายการ เขาจะทําได้อย่างง่ายดาย
ในความเป็นจริงเขาต้องการแลกเปลี่ยนวิญญาณ
“ข้าต้องการสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะเพื่อใช้เป็นฐานที่มั่นสําหรับพักผ่อนและพักฟื้นในสายธารแห่งกาลเวลา นอกจากนั้นการคงอยู่ของคฤหาสน์วิญญาณอมตะจะทําให้สมาชิกนิกายเงาสามารถเข้าร่วมในการต่อสู้และช่วยเหลือข้า”
ฟางหยวนสามารถปล่อยวิญญาณอมตะที่เขาไม่ต้องการออกไป ในอีกแง่มุมหนึ่ง หากฝ่ายธรรมะของภาคใต้แข็งแกร่งขึ้น พวกเขาจะสามารถต่อต้านวังสวรรค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แน่นอนว่าฟางหยวนจะไม่ละทิ้งวิญญาณอมตะที่มีประโยชน์ต่อเขา
วิญญาณอมตะทุกดวงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พวกมันไม่สามารถประเมินค่า แต่สิ่งสําคัญคือภาพรวม!
วังสวรรค์
ค่ายกลวิญญาณอมตะส่งเสียงดังขณะที่เทพธิดาจื่อเว่ยมองภาพเหตุการณ์ที่เทพปีศาจจิตวิญญาณกําลังถือปลามังกรเหล็กไหลเอาไว้ในมือ
ฉากความทรงจําของเทพปีศาจจิตวิญญาณปรากฏขึ้นต่อหน้าเทพธิดาจื่อเว่ยในเวลานี้
นางเผยรอยยิ้ม “ด้วยข้อมูลเกี่ยวกับมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางอาหารนี้ วังสวรรค์จะสามารถผลิตปลามังกรเหล็กไหล ปลามังกรทองแดง ปลามังกรเงิน และปลามังกรทอง เราสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ในสวรรค์สีเหลือง เทพปีศาจจิตวิญญาณ การระเบิดภูเขาตงฮันทําให้เจ้าสามารถยึดเวลาตายออกไป แต่ตอนนี้เจ้าจะพึ่งพาสิ่งใดอีก?”
ดวงวิญญาณของเทพปีศาจจิตวิญญาณถูกควบแน่นจนกลายเป็นดวงแสงสีดํา แต่เขายังเงียบราวกับสิ่งที่ตายไปแล้ว