เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - บทที่ 1623 วานรแปดหู
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1623 วานรแปดหู
กลุ่มผู้อมตะของภาคใต้รู้สึกถึงแรงกดดันทันทีเมื่อพวกเขาเข้าสู่เทือกเขาห้าภูมิภาค
พวกเขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะสายเคลื่อนไหวเพื่อก้าวไปข้างหน้าและใช้ท่าไม้ตายอมตะสายป้องกันปกป้องตนเอง อย่างไรก็ตามมิติช่องว่างของพวกเขายังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง นอกจากนั้นพวกเขายังได้รับผลกระทบย้อนกลับจากการกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะอีกด้วย
“ปีศาจตนนี้เลือกสถานที่ได้ค่อนข้างดี!” ผู้อมตะภาคใต้กล่าวด้วยความเกลียดชัง
“แม้มิติช่องว่างของข้าจะถูกทําลาย ข้าก็จะกําจัดปีศาจตนนี้ให้ได้!” กลุ่มผู้อมตะภาคใต้เต็มไปด้วยเจตจํานงแห่งการต่อสู้
ฟางหยวนเป็นคนเจ้าเล่ห์และร้ายกาจมาก เขากล้าหาญและหยิ่งผยอง เขาไม่กลัวแม้แต่วังสวรรค์โดยไม่ต้องกล่าวถึงภูมิภาคอื่น
เขาเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ดแต่สามารถซุ่มโจมตีและจับตัวผู้อมตะจํานวนมากของภาคใต้ไปเรียกค่าไถ่ หากเขาได้รับอนุญาตให้ก้าวเข้าสู่ระดับแปด มันจะเกิดหายนะชนิดใดขึ้น?
หากฟางหยวนเป็นสมาชิกฝ่ายธรรมะ นั้นอาจถือเป็นเรื่องดี เพราะฝ่ายธรรมะต้องทําตามกฏ
แต่เขาอยู่บนเส้นทางสายปีศาจ เขาจะปล้นฆ่าคนอื่นๆเพื่อทรัพยากรที่เขาต้องการ นี่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถประนีประนอม
ยิ่งไปกว่านั้นไม่เพียงฟางหยวนจะมีพลังการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวแต่เขายังมีความสามารถในการป้องกันการอนุมาน สิ่งนี้น่ากลัวเกินไป
ภัยคุกคามนี้จะต้องถูกกําจัดโดยเร็วที่สุด!
“ฆ่า บุกเข้าไป! ล้างแค้นให้สมาชิกของเรา!”
“ผู้ใดที่สามารถฆ่าฟางหยวน มารับรางวัลกับข้า เฉินอู๋เจีย!”
“ข้าจื่อชิวหยู่จะจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะให้คนผู้นั้นด้วยตนเอง!”
“ตระกูลวูของข้าจะเปิดคลังสมบัติและมอบวิญญาณอมตะสามดวงให้คนที่สามารถสังหารฟางหยวน!”
ขวัญกําลังใจของผู้อมตะภาคใต้พุ่งสูงขึ้นอย่างมากต่อหน้ารางวัลใหญ่ พวกเขาแยกออกเป็นกลุ่มและเคลื่อนที่ไปทุกแห่งหนบนเทือกเขาห้าภูมิภาค
“กุ๊ก กุ๊ก”
เสียงร้องของไก่ดังขึ้นก่อนที่อสูรปีระกาแรกกําเนิดตัวหนึ่งจะเข้าปิดกั้นกลุ่มของเฉิงอู๋เจีย
ฟางหยวนเตรียมตัวมาแล้ว เขาส่งอสูรปีแรกกําเนิดออกไปสกัดกั้นศัตรูจากทุกทิศทาง
ผู้อมตะระดับเจ็ดรู้สึกหนาวสั่นอยู่ในใจก่อนที่จะได้ยินเสียงเย้ยหยันของเฉิงอู๋เจีย
“ลูกเจี๊ยบพยายามกีดขวางเส้นทางของข้างนหรือ?” เฉิงอู๋เจียตะโกนและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะ
“บึม!”
อสูรประกาแรกกําเนิดถูกส่งลอยกลับหลังไปชนภูเขาและหมดสติลงทันที
ผู้อมตะระดับเจ็ดอ้าปากค้างเมื่อเห็นฉากเหตุการณ์นี้
“เฉิงอู๋เจียอาจเป็นผู้อมตะระดับแปดแต่เขาไม่เคยมีชื่อเสียงด้านพลังการต่อสู้ ข้าไม่เคยคิดว่าเขาจะมีท่าไม้ตายที่น่ากลัวเช่นนี้”
อสูรปีระกาแรกกําเนิดถูกเฉิงอู๋เจียกํากราบโดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะตอบสนอง!”
“ดุร้ายเกินไปแล้ว!”
“ตระกูลเฉิงถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในห้ากองกําลังแนวหน้าแต่ผู้ใดจะคิดว่าเฉิงอู๋เจียจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้
การเคลื่อนไหวของเฉิงอู๋เจียน่าเหลือเชื่อมาก ไม่ว่าอสูรประกาแรกกําเนิดจะอ่อนแอเพียงใด มันก็ยังเป็นสิ่งมีชีวิตระดับแปด แต่ผู้ใดจะคิดว่ามันจะถูกกําหราบในการเคลื่อนไหวเดียว
โอ้ เขานําวิญญาณไก่อ่อนมาด้วย..” เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของฟางหยวน
ผลงานที่ย่ำแย่ของอสูรประกาแรกกําเนิดทําให้ฟางหยวนนึกไปถึงธุรกรรมที่มีชื่อเสียงในชีวิตแรกของเขา ผู้อมตะระดับเจ็ดของตระกูลปา ปาจี้ จ่ายราคามหาศาลเพื่อซื้อวิญญาณอมตะไก่อ่อนระดับแปดจากตระกูลเฉิง ด้วยวิธีการพิเศษบางอย่าง เขาสามารถใช้วิญญาณอมตะดวงนี้และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเองได้เป็นอย่างมาก
ปัจจุบันปาจี้ยังอยู่ระหว่างปิดประตูฝึกตน เขาไม่มีชื่อเสียงและแทบไม่เป็นที่รู้จัก วิญญาณอมตะไก่อ่อนยังอยู่กับตระกูลเฉิงขณะที่เฉิงอู๋เจียน้ำมันมาเพื่อจัดการข้า”
ท่ามกลางผู้อมตะระดับแปดของภาคใต้ พลังการต่อสู้ของเฉิงอู๋เจียไม่โดดเด่น แต่เขาสามารถสร้างความประทับใจให้กับคนอื่นๆด้วยการคงอยู่ของวิญญาณอมตะไก่อ่อน
โชคดีที่อสูรปีระกาแรกกําเนิดเพียงหมดสติและไม่ถูกสังหาร มันสามารถกลับเข้าสู่สนามรบได้อีกครั้ง
ฟางหยวนส่งอสูรปีมะเส็งแรกกําเนิดเข้าโจมตีกลุ่มของเฉิงอู๋เจียทันที
ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน เฉิงอู๋เจียถูกหยุดยั้ง ความได้เปรียบก่อนหน้าหายไปแล้ว
กลุ่มอื่นๆกําลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน ชัดเจนว่าฟางหยวนให้ความสําคัญกับผู้อมตะระดับแปดเหล่านี้
อสูรปีแรกกําเนิดไม่ใช่ปัญหาสําหรับผู้อมตะระดับแปดในการต่อสู้ตัวต่อตัว แต่พวกมันสามารถหยุดพวกเขาได้ชั่วคราว
ยิ่งไปกว่านั้นด้วยแรงกดดันจากเทือกเขาห้าภูมิภาค การใช้ท่าไม้ตายอมตะของกลุ่มผู้อมตะจึงได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากและยังต้องพบกับผลกระทบย้อนกลับโดยเฉพาะผู้อมตะระดับแปด
นี่เป็นเหตุผลที่ผู้อมตะระดับแปดจะไม่เดินทางผ่านกําแพงภูมิภาคแต่เลือกเดินทางผ่านสวรรค์สีขาวหรือสวรรค์สีดํา
แต่ท้ายที่สุดภูเขาห้าภูมิภาคก็เป็นเพียงการจําลองกําแพงภูมิภาค แรงกดดันของมันที่มีต่อผู้อมตะระดับแปดจึงไม่สามารถเปรียบเทียบกับกําแพงภูมิภาคที่แท้จริง
ยังต้องใช้พลังทั้งหมด
แรกกําเนิดและไม่สามารถ
อย่างไรก็ต เคลื่อนไหวไปที่ใด
อสูรปีแรกกําเนิดเหล่านี้มาจากสายธารแห่งกาลเวลา พวกมันไม่ได้เกิดในห้าภูมิภาค ดังนั้นพวกมันจึงไม่ได้รับอิทธิพลจากแรงกดดันใดๆ
สําหรับบ้านไม้ไผ่สายลม มันจะได้รับแรงกดดันมหาศาลจากเทือกเขาห้าภูมิภาค ดังนั้นวูหยงจึงเก็บมันไว้ในมิติช่องว่างของเขาและไม่กล้าใช้งานมันที่นี่
“ปีศาจตนนี้ช่างเจ้าเล่ห์นัก ไม่แปลกใจเลยที่เขาเลือกสถานที่แห่งนี้เพื่อเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ!” ผู้อมตะบางคนกระอักเลือดขณะตะโกน
“เราไม่สามารถปล่อยให้ฟางหยวนก้าวข้ามภัยพิบัตินี้!” จื่อชิวหยูตะโกน
ฟางหยวนส่งอสูรปีแรกกําเนิดทั้งหมดออกมาแต่จํานวนของพวกมันไม่สามารถเปรียบเทียบกับกลุ่มผู้อมตะภาคใต้
พวกมันสามารถกักขังผู้อมตะภาคใต้ ขณะเดียวกันผู้อมตะภาคใต้ก็สามารถกักขังพวกมัน นั่นทําให้ผู้อมตะภาคใต้บางกลุ่มสามารถมุ่งหน้าเข้ามาหาฟางหยวน
“ค่ายกลวิญญาณอมตะ!” ฟางหยวนไม่ตื่นตระหนก ภายใต้คําสั่งของเขา ค่ายกลวิญญาณอมตะขนาดใหญ่ถูกกระตุ้นใช้งาน
ทันใดนั้นกลุ่มผู้อมตะภาคใต้พลันสูญเสียประสาทสัมผัสทั้งห้าของพวกเขา หมอกหนาทึบปรากฏขึ้นและทําให้พวกเขาสูยเสียการรับรู้ทิศทาง
“ปีศาจตนนี้มีแผนสํารอง!”
“อย่ากลัว คฤหาสน์วิญญาณอมตะไม่สามารถใช้งานในเทือกเขาห้าภูมิภาค ค่ายกลวิญญาณอมตะก็เช่นกัน เมื่อเวลาผ่านไปมันจะพังทลายลงในที่สุด ฟางหยวนต้องได้รับผลกระทบย้อนกลับที่รุนแรง!”
“ไม่ นี่เป็นแผนการของปีศาจร้ายตนนั้น ตราบเท่าที่เขาอดทนผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ แม้ค่ายกลวิญญาณอมตะจะพังทลายและทําให้เขาได้รับผลกระทบย้อนกลับ แต่เขาสามารถใช้วิญญาณท่องแดนอมตะเพื่อหลบหนี”
ผู้อมตะภาคใต้สนทนากันอย่างรวดเร็วและตระหนักถึงกลยุทธ์ของฟางหยวน
“เราต้องทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะนี้โดยเร็วที่สุด!”
“เจ้ามีวิธีการดังกล่าวนั้นหรือ?”
“ไม่ดีแล้ว ผู้อมตะตระกูลจื่อถูกขัดขวางทั้งหมด” “บัดซบ! ปีศาจตนนี้จงใจทําเช่นนี้!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า” เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงหัวเราะดังขึ้น
ทุกคนหันหน้าไปทางแหล่งที่มาของเสียงและพบกับคนตัวเล็กแต่ศีรษะโต ผู้อมตะบางคนถาม “สหายตระกูลฮัว เหตุใดเจ้าจึงหัวเราะ?”
ผู้อมตะตระกูลฮั่ว ฮัวจื่อเสวีย หยุดหัวเราะและกล่าว “อย่ากังวล ทุกคน ข้าพบว่าค่ายกลวิญญาณอมตะนี้ไม่มีความสามารถด้านห้วงมิติ มันเพียงทําให้เราสับสนและไม่สามารถตรวจสอบทิศทางเท่านั้น ข้ามีสัตว์อสูรบางตัวที่สามารถใช้งานในสถานการณ์นี้ ออกมา!”
หลังกล่าวจบคํา ฮั่วจื่อเสวียก็นําวานรตัวหนึ่งออกมาจากมิติช่องว่างของเขา
มันเป็นลิงตัวเล็กๆที่มีขนสีทองและมีแปดหู
กลุ่มผู้อมตะอ้าปากค้าง “นี่คือวานรแปดหูแรกกําเนิดงั้นหรือ?”
ฮั่วจื่อเสวียหัวเราะเสียงดัง “ถูกต้อง!”
สายตาของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้ที่จ้องมองยั่วจื่อเสวียเปลี่ยนไปทันที
ฮั่วจื่อเสวียเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดที่ไร้ชื่อเสียง แต่ผู้ใดจะคิดว่าเขาจะซ่อนสัตว์อสูรแรกกําเนิดเอาไว้
“เจ้าลิงน้อย ศัตรูอยู่ที่ใด?” ยั่วจื่อเสวียลูบศีรษะวานรแปดหูเบาๆ
วานรแปดหูเป็นสัตว์อสูรแรกกําเนิดแต่มันกลับเชื่องมากและฟังคําสั่งของฮั่วจื่อเสวีย
มันเอียงหูไปด้านข้างก่อนจะกรีดร้องและชี้นิ้วไปยังทิศทางหนึ่ง
ทุกคนเดินไปตามทิศทางที่มันชี้นําโดยไม่ลังเล
แม้ค่ายกลวิญญาณอมตะจะเกิดการเปลี่ยนไป แต่วานรแปดหูยังสามารถนําทางพวกเขา
“มันคือวานรแปดหู! แม้ตระกูลฮั่วจะเชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงวานร แต่ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะมีสัตว์อสูรแรกกําเนิดในการครอบครอง!” เจตนาสังหารปะทุขึ้นในใจของจวินเฉินกวง
แต่ภารกิจกําจัดฟางหยวนสําคัญมาก จวินเฉิงกวนลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจเสี่ยง
“วานรแปดหูสามารถรับรู้ทุกสิ่งรอบตัว เมื่อภาคกลางบุกภาคใต้ วิธีการปกปิดส่วนใหญ่ของพวกเราจะกลายเป็นไร้ประโยชน์ การฆ่ามันจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อแผนการของวังสวรรค์!”
จวินเฉิงกวงมองวานรแปดหูด้วยเจตนาสังหาร
วานรแปดหูตอบสนองทันที มันส่งเสียงกรีดร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก
สัตว์อสูรตัวนี้ค่อนข้างอ่อนไหว!” จวินเฉิงกวนรีบถอนสายตาของเขา “ลืมมันไปซะ ตอนนี้ภารกิจที่สําคัญที่สุดของข้าคือฟางหยวน”
“ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกลัว” ยั่วจื่อเสวียปลอบโยนวานรแปดหู
เมื่อถึงจุดนี้วิสัยทัศน์ของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้ก็กลับมากระจ่างชัดอีกครั้ง บางคนตะโกน “พวกเราหลุดออกมาแล้ว!”
“ครืน…ครืน…”
ปราณสวรรค์พิภพยังปั่นป่วน
“นี่เกิดจากมิติช่องว่างของฟางหยวนงั้นหรือ?”
“เราอยู่ใกล้แล้ว!”
ศัตรูอยู่ข้างหน้าแต่กลุ่มผู้อมตะภาคใต้กลับไม่กล้าก้าวเท้าออกไป
ความแข็งแกร่งของฟางหยวนทําให้ผู้อมตะระดับเจ็ดเหล่านี้รู้สึกไม่สบายใจ
“พันธมิตรภาคใต้อาจก่อตัวขึ้นแล้วแต่สถานการณ์โดยรวมยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก คนเหล่านี้ยังไม่สามารถรวมใจเป็นหนึ่ง! จวินเฉินกวงเย้ยหยันอยู่ภายใน
เขายังเดินไปข้างหน้าและพยายามเข้าสู่มิติช่องว่างของฟางหยวนขณะปกปิดตนเอง
“เมื่อข้าเข้าสู่มิติช่องว่างของฟางหยวน เขาจะไม่สามารถลงมือได้อย่างเต็มที่เพราะกลัวว่าทรัพยากรของเขาจะได้รับความเสียหาย
“ข้าไม่จําเป็นต้องต่อสู้ แต่ข้าจะเคลื่อนที่ไปรอบๆและทําลายทรัพยากรของเขา ด้วยวิธีนี้ฟางหยวนจะไม่สามารถอดทน
สิ่งสําคัญก็คือฟาหงยวนกําลังเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ หากข้ารบกวนเขาจากด้านข้าง เขาจะทําเรื่องผิดพลาดและเผยจุดอ่อน เมื่อเวลานั้นมาถึงข้าจะประสบความสําเร็จในการฆ่าเขา!”
“แต่เพื่อความมั่นใจ ข้าควรซ่อนตัวอยู่ในมิติช่องว่างของเขาต่อไป หลังจากฟางหยวนต่อสู้กับภัยพิบัตและกลุ่มผู้อมตะภาคใต้ระยะหนึ่งแล้ว ข้าจะฉวยโอกาสนั้นฆ่าเขา ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าแทบรอไม่ไหวแล้ว!
จวินเฉินกวงมีทักษะการปกปิดที่ทรงพลัง นี่เป็นหนึ่งในความเชี่ยวชาญของเขา
เขารู้ว่ามีความเป็นไปได้ที่ฟางหยวนจะค้นพบเช่นกัน
แต่หากเขาไม่ฉวยโอกาสที่ยิ่งใหญ่นี้ เขาอาจพลาดโอกาสแห่งชัยชนะ
ในฐานะผู้อมตะระดับแปด เขาไม่เคยสูญเสียความกล้า แต่เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเมื่อใดควรเสี่ยงหรือเมื่อใดไม่ควร
“ตอนนี้เป็นเวลาเดิมพันชีวิตของข้า!! ดวงตาของจวินเฉินกวงส่องประกายขึ้นขณะที่เขาอดทนต่อแรงกดดันและพยายามเข้าสู่มิติช่องว่างของฟางหยวน
ผู้อมตะภาคใต้ทั้งหมดพยายามตรวจสอบสภาพแวดล้อมแต่ไม่มีผู้ใดค้นพบจวินเฉินกวง