เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - บทที่ 1672 หยุดไร้เดียงสา
บทที่ 1672 หยุดไร้เดียงสา
“ท่านชู ข้าจะไม่มีวันลืมคําแนะนําของท่านตลอดชีวิต!” เซี่ยหลินโค้งคํานับฟางหยวนอย่างจริงจัง
ฟางหยวนหัวเราะ “ความพยายามของข้าไม่สูญเปล่า แต่บางครั้งการพูดก็ง่ายกว่าการทํา ข้าจะถามเจ้าตอนนี้เจ้าต้องการทําสิ่งใดมากที่สุด”
เซี่ยหลินลังเล
“ข้าอยากติดตามท่านชู!” นี่เป็นสิ่งแรกที่ผุดขึ้นในใจของนาง
แต่ก่อนที่นางจะกล่าว นางเห็นฟางหยวนส่ายศีรษะ “เจ้ายังคิดไม่ถูก เจ้าสามารถคิดในภายหลัง แท้จริงแล้วข้าไม่กังวลว่าเจ้าต้องการทําสิ่งใด เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าต้องการทําสิ่งใด?”
เซี่ยหลินสายศีรษะ แต่ในวินาทีต่อมาดวงตาของนางกลับเบิกกว้างขึ้นขณะที่ร่างกาย กลายเป็นแข็งที่อยู่
เพราะฟางหยวนค่อยๆใช้มือลูบใบหน้าของนาง
“ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ…”
ใบหน้าของเซี่ยหลินเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ หัวใจของนางเต้นแรงมาก
นางสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากมือของฟางหยวน นางรู้สึกเหมือนสายฟ้าพุ่งผ่านร่างกายและจิตใจของนาง
ฟางหยวนดึงมือกลับ “เจ้ายังสวมหน้ากากอยู่”
เซี่ยหลินมึนงง
ฟางหยวนกล่าว “บางครั้งพวกเราจะสวมหน้ากากแห่งทัศนคติของตนเอง บางค รั้งผู้คนก็บังคับให้พวกเราสวมหน้ากาก ตอนนี้สิ่งที่ข้าต้องการทํามากที่สุดก็คือถอดหน้ากากของ เจ้ารวมมือกับข้า ตกลงหรือไม่?”
“ท่าน…ท่านชู ท่านไม่จําเป็น…” เชี่ยหลินกลายเป็นพูดติดอ่าง
ฟางหยวนกล่าวต่อ “ข้าจะไม่มีความสุขเว้นเพียงข้าจะถอดหน้ากากนี้ออก เนื่องจากเจ้ารู้สึกว่าตนเองติดหนี้ข้า เช่นนั้นจงร่วมมือกับข้าเพื่อชดใช้หนี้ที่ติดค้าง ตกลงหรือไม่?”
เซี่ยหลินจะปฏิเสธได้อย่างไรหลังจากได้ยินถ้อยคําเหล่านี้
นางคุกเข่าลงบนพื้นและก้มศีรษะคํานับฟางหยวนสามครั้งก่อนจะยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว “ท่านชูข้าจะทําทุกสิ่งที่ท่านต้องการ””
“ดี เช่นนั้นจงเป็นเทพธิดาเงือก”
“อันใด!?”
หลายวันต่อมา
การแข่งขันรอบสุดท้ายดึงดูดความสนใจของทุกคน
ซูอี้มองเซี่ยหลินด้วยความตกใจราวกับเห็นผี
สองคนรับใช้ของนางก็เช่นกัน
ตามคําอธิบายของผู้อาวุโส ผู้คนตกสู่ความโกลาหล
ซูอี้มั่นใจมากในชัยชนะเพราะคู่แข่งของนางได้รับบาดเจ็บสาหัสในรอบก่อนหน้าและไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันรอบสุดท้าย
แต่ผู้ใดจะคิดว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดจะเกิดขึ้น
น้องสาวที่พลัดพรากมานานหลายปีของผู้เข้าแข่งขันที่ได้รับบาดเจ็บคือนางเงือกเซี่ยหลิน!
“เรื่องนี้เกินจริงไปหรือไม่?”
“เหลือเชื่อ!”
“เซี่ยหลินนางคือคนที่ทรยศซูอี้เพื่อผลประโยชน์ของตนเองผู้นั้นใช่หรือไม่?”
“นั่นเป็นเรื่องโกหกที่ผู้ติดตามของซูอี้จงใจแพร่กระจายข่าวออกไป เหตุผลที่แท้จริงคือซูอี้ต้องการเปลี่ยนผู้ติดตาม ข้าได้ยินมาว่าเจ้าหน้าที่สารภาพความจริงแล้ว บทสนทนาที่เขากดดันเซี่ยหลินถูกบันทึกไว้และเป็นหลักฐานที่ชัดเจน!”
“โอ้ เรื่องนี้น้ําเน่ายิ่งกว่าละคร!”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้น
สองคนรับใช้ของซูอี้ลอบคุยกันอย่างลับๆ “เกิดสิ่งใดขึ้น?”
“ความรู้สึกของมวลชนเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเช่นนี้ได้อย่างไร?”
“แล้วเหตุใดเจ้าหน้าที่ถึงยอมรับความผิดโดยไร้เหตุผล?”
การแสดงออกของซูอี้กลายเป็นไม่น่ามองขณะที่เชี่ยหลินยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนอย่างสงบ
หลังจากได้รับคําชี้แนะจากฟางหยวน จิตใจของนางยกระดับขึ้นแล้ว
ซูอี้รู้สึกกดดันมากเมื่อตระหนักว่าเซี่ยหลินไม่แม้แต่จะมองนาง นางกล่าวเสียงเย็น “เซี่ยหลิน ข้าไม่คิดว่าเราจะพบกันอีกครั้งในลักษณะนี้”
“ข้าก็ไม่ได้คาดหวังเช่นกัน” เชี่ยหลินกล่าวอย่างตรงไปตรงมา นางรู้สึกว่าทุกสิ่งที่ผ่าน มาก่อนหน้านี้ราวกับความฝัน
ซูอี้กล่าวอีกครั้ง “ไม่ว่าเจ้าจะมีแผนการใด การแข่งขันรอบสุดท้ายก็ไม่ใช่สิ่งที่นางเงือกที่ได้รับการคัดเลือกมาอย่างเร่งด่วนเช่นเจ้าจะสามารถผ่านได้ ตําแหน่งเทพธิดาเงือกจะเป็นของข้า”
“โอ้” เซี่ยหลินตอบเบาๆ
ซูอี้รู้สึกราวกับถูกยั่วยุ นางหงุดหงิดมาก
เซี่ยหลินกวาดตามองผู้คนที่อยู่รอบๆ ท่านบอกว่าเขาจะเฝ้ามองอยู่ท่ามกลางฝูงชน แต่เขาอยู่ที่ใดข้าไม่เห็นเขาเลย เขาอาจปลอมตัว เขามีวิธีการลึกลับมากมาย หากเขาต้องการซ่อนตัวข้าจะไม่มีวันพบเขา”
หลังจากเรื่องนี้จบลง ข้าจะบอกเขาว่าข้าต้องการติดตามเขา ข้าสงสัยว่าเขาจะตกลงหรือไม่?”
จิตใจของเซี่ยหลินติดอยู่กับคําถามนี้ หากเปรียบเทียบกับคําตอบของคําถามนี้ ตําแหน่งเทพธิดาเงือกไม่สําคัญกับนางเลย
เพลงแรก เซี่ยหลินทําได้ดีกว่าซูอี้เล็กน้อย เพลงที่สอง เซี่ยหลินสามารถเอาชนะซูอี้
ผลลัพธ์นี้เหนือความคาดหมายของทุกคน นั่นทําให้ความความโกลาหลปะทุขึ้น
ฟางหยวนที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางผู้คนแสดงออกด้วยความตกใจแต่ในใจกลับสงบนิ่ง
หลายวันที่ผ่านมาเขาฝึกฝนเซียหลินอย่างหนักโดยใช้วิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาระดับอมตะเพื่อเพิ่มเวลาฝึกฝนให้นาง
ฟางหยวนเลือกเพลงให้นางเป็นการส่วนตัวรวมถึงจัดเตรียมวิญญาณดนตรีให้นาง
นอกจากนั้นฟางหยวนยังแอบช่วยเซี่ยหลินระหว่างการแสดงของนาง
เขาคิด “นอกจากผู้อมตะที่มาจากภายนอก ในถ้ําสวรรค์แห่งนี้ไม่มีผู้อมตะคนอื่น ข้าใช้วิธีการระดับอมตะ แล้วข้าจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างไร?
“เราควรทําอย่างไร รอบที่สามกําลังจะเริ่มแล้ว” สองคนรับใช้ของซูอี้กังวลมาก ทั้งสองถูกส่งตัวมาจากกองกําลังที่อยู่เบื้องหลังซูอี้ หากซูอี้ไม่ได้รับตําแหน่งเทพธิดาเงือกทั้งสองต้องรับโทษ
ซูยิ้มองเซี่ยหลินด้วยใบหน้าซีดขาว
ในความคิดของซูอี้ เซี่ยหลินเป็นเพียงเด็กสาวทั่วไปที่ธรรมดามาก มันเป็นเพียงเพราะวิญญาณรวบรวมน้ํามันที่ทําให้ซูอี้สนใจนาง
แม้ซูอี้จะละทิ้งและโยนความผิดให้เชี่ยหลิน แต่นางก็ไม่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องใหญ่
กระทั่งเซี่ยหลินจะต้องการแก้แค้น แต่นางจะทําสิ่งใดได้? นางไม่มีกองกําลังสนับสนุนอยู่ เบื้องหลัง การบ่มเพาะของนางก็อยู่ในระดับสองเท่านั้น
หากไม่ใช่เพราะซูอี้ต้องการตําแหน่งเทพธิดาเงือก นางจะไม่ชําเลืองมองคนเช่นเซี่ยหลิน
สําหรับซูอี้ วิญญาณระดับห้าไม่สามารถอยู่ในการครอบครองของผู้ใช้วิญญาณระดับสองในความคิดเห็นของนาง เซี่ยหลินอาจถูกฆ่าชิงทรัพย์ในอนาคต ดังนั้นมันจะดีกว่าที่นางจะเกลี้ยกล่อมให้เชี่ยหลินใช้วิญญาณรวบรวมน้ํามันระดับห้าเพื่อนาง ด้วยวิธีนี้ฝ่ายของนางจะได้รับประโยชน์ ขณะที่เซี่ยหลินจะไม่ถูกปล้นฆ่า นี่ถือเป็นความเมตตาของนาง
อย่างไรก็ตามหากนางไม่ได้รับ นางก็จะทําลาย แต่ในพิธีบูชาเทพสมุทร ซูอี้ไม่กล้าแบ่งความสนใจนางทําได้เพียงไว้ชีวิตเสี่ยหลินเป็นการชั่วคราวเท่านั้น
ก่อนหน้านี้หากบางคนกล่าวว่าเซี่ยหลินจะเป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการเป็นเทพธิดา เงือกของนางนางจะหัวเราะเสียงดัง
กระทั่งตอนนี้ซูอี้ก็ยังต้องการหัวเราะกับตนเอง แต่โชคชะตามักล้อเล่นกันชีวิตผู้คนเสมอ
หลักฐานที่พิสูจน์ตัวตนของเซี่ยหลินถูกสร้างขึ้นโดยฟางหยวน มันไม่สามารถหักล้าง กระทั่งซูอี้ก็ยังเชื่อว่าตัวตนของเซี่ยหลินเป็นเช่นนั้นจริงๆ
“โอ้ โชคชะตา นี่เป็นเรื่องตลกร้ายเกินไปจริงๆ” ซูอี้ถอนหายใจ
“คุณหนู เราควรทําอย่างไร?” คนรับใช้ทั้งสองไม่มีแผนการ
“เราไม่สามารถทําสิ่งใดต่อหน้าผู้คนจํานวนมาก เราไม่มีเวลาเช่นกัน เหลือเพียงทางเดียว ข้าจะเกลี้ยกล่อมนาง” ซูอีเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะกัดฟันแน่น
นางถ่ายทอดเสียงไปหาเซี่ยหลิน “เซี่ยหลิน ข้าคือซูอี้”
เซี่ยหลินรู้สึกประหลาดใจแต่นางยังสามารถสงบจิตใจลงอย่างรวดเร็ว “เกิดสิ่งใดขึ้น?”
ซูอี้กล่าว “ข้าต้องการทําข้อตกลงกับเจ้า แพ้ในรอบต่อไปและให้ข้าเป็นเทพธิดาเงือก ข้าสาบานในนามของเทพสมุทรว่าข้าจะจ่ายในราคาที่ทําให้เจ้าพึงพอใจ แม้พลังของข้าจะไม่เพียงพอแต่ครอบครัวของข้าสามารถทําให้เจ้าพอใจได้อย่างแน่นอน”
เซี่ยหลินเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะตอบกลับ “ขอโทษ แต่ข้า…”
“อย่ารีบปฏิเสธ เชี่ยหลิน เจ้าไร้เดียงสาเกินไป บางทีเจ้าอาจยังไม่เข้าใจถึงความสําคัญของตําแหน่งเทพธิดาเงือก เจ้าคิดว่าเทพธิดาเงือกคือสิ่งใด เพียงความเชื่อหรือการคัดเลือกแบบผิวเผินงั้นหรือ? ผิดทั้งคู่ มันเกี่ยวกับผลประโยชน์ของตัวตนระดับสูง”
“ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการแก้แค้น แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าสถานการณ์ของเจ้าอันตรายมาก หากเจ้ากลายเป็นเทพธิดาเงือก เจ้าจะตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย ฝ่ายพี่สาวของเจ้าผลักเจ้าขึ้นเวทีเพราะพวกเขาไม่มีตัวเลือกอื่น เมื่อเจ้ากลายเป็นเทพธิดาเลือก พวกเขาจะใช้กําลังทั้งหมดเพื่อทําให้เจ้ากลายเป็นหุ่นเชิด พวกเขาจะบังคับให้เจ้าทําทุกสิ่งเพื่อผลประโยชน์ของพวกเขา”
“แม้เราจะไม่รู้จักกันมากนัก แต่ข้าเข้าใจเจ้า เจ้าเป็นคนใจดีและไร้เดียงสา หากเจ้าเป็นเทพธิดาเงือก เจ้าจะพยายามต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของเผ่ามนุษย์เงือก แต่เจ้าจะไม่ประสบความสําเร็จ เจ้าไม่ใช่ผู้ทรงอิทธิพลทางการเมือง เจ้าเป็นเพียงคนนอก เว้นเพียงเจ้าจะเข้าร่วมกับบางกองกําลังและเป็นตัวแทนเพื่อสร้างผลประโยชน์ให้กับพวกเขา มิฉะนั้นเจ้าจะถูกต่อต้านจากทุกฝ่ายและกลายเป็นเทพธิดาเลือกที่ไร้อํานาจที่สุดในประวัติศาสตร์”
“แต่หากเจ้าเลือกทําธุรกรรมกับข้า เจ้าจะได้รับผลประโยชน์ที่เหนือจินตนาการ มันมากกว่าผลประโยชน์ที่เจ้าจะได้รับจากพี่สาวของเจ้า จงเชื่อข้า!”
ซูอีกล่าวถ้อยคําอันไพเราะและน่าอัศจรรย์ออกมา กระทั่งเซียหลินยังหวั่นไหว
แต่นางตอบว่า “ท่านหญิงซูอี้ ข้าตระหนักถึงความจริงใจของท่าน แต่ข้าไม่สามารถรับข้อเสนอของท่านในเรื่องนี้”
“เพราะเหตุใด?” น้ําเสียงของซูอี้กลายเป็นร้อนรน “เจ้าคิดว่าข้าหลอกเจ้างั้นหรือ? แม้มันจะโหดร้าย แต่สิ่งที่ข้ากล่าวล้วนเป็นความจริง อย่าทําเช่นนี้ หยุดไร้เสียงดา เข้าใจหรือไม่?”
เซี่ยหลินเงียบ