เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - บทที่ 1710 ทางเลือก
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1710 ทางเลือก
วังสวรรค์
ท้องฟ้าสีขาวถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีรุ้ง
คฤหาสน์วิญญาณอมตะขนาดใหญ่ลอยอยู่กลางอากาศ
มันคือแท่นบูชาหยกขาวที่ยิ่งใหญ่ตระการตา คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด แท่นบูชาแห่งโชค!
เทพอมตะตะวันเดือดสร้างมันขึ้นมาด้วยตนเอง มันเป็นหนึ่งในสามคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่เขาใช้งาน
เดิมทีแท่นบูชาแห่งโชคถูกทิ้งไว้ที่ถ้ําสวรรค์นิรันดร แต่เพื่อโจมตีวังสวรรค์ พวกเขาจึงน้ํามันออกมา
การกระทํานี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของถ้ําสวรรค์นิดรันดรและทําให้ผู้อมตะของวังสวรรค์รู้สึกกังวล
เทพธิดาจื่อเว่ยขมวดคิ้วลึก
กระทั่งราชันมังกรยังแสดงออกอย่างเคร่งขรึม อย่างไรก็ตามความสนใจของเขาไม่ได้อยู่ที่แท่นบูชาแห่งโชคแต่เป็นสายรุ้งบนท้องฟ้า
ราชันมังกรกล่าวเสียงต่ํา “แท่นบูชาแห่งโชคและผู้อมตะของถ้ําสวรรค์นิรันดรบุกเข้ามาที่นี่ได้อย่างง่ายดาย แสงสีรุ้งเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับเก้าของเทพอมตะตะวันเดือด!”
“เทพอมตะตะวันเดือด?” เทพธิดาจื่อเว่ยมันงงก่อนจะตระหนักถึงบางสิ่ง “ตามบันทึกของวังสวรรค์ เทพอมตะตะวันเดือดเคยได้รับเชิญให้มาเยี่ยมวังสวรรค์ เขาลอบสร้างเส้นทางนี้ขึ้นมาอย่างลับๆงั้นหรือ?”
“ควรจะเป็นเช่นนั้น” ราชันมังกรตอบ
“ผู้อมตะระดับเก้าล้วนเป็นตัวตนที่ไม่สามารถหยั่งถึง เทพอมตะตะวันเดือดใช้วิธีบนเส้นทางแห่งโชค พวกเราไม่สามารถค้นพบมันกระทั่งมันจะถูกใช้งาน” ราชันมังกรถอนหายใจและสายศีรษะ
ย้อนกลับไปเทพอมตะตะวันเดือดสร้างเส้นทางแห่งโชคขึ้นมา สิ่งนี้เป็นอุปสรรคต่อวิญญาณ ชะตากรรมผู้อมตะห่วงทองซึ่งเป็นผู้นําวงสวรรค์ในเวลานั้น วางแผนและเชิญเทพอมตะตะวันเดือดมาเยี่ยมวังสวรรค์โดยประกาศกับโลกว่าพวกเขาเชิญเทพอมตะตะวันเดือดเข้าร่วมอย่างเปิดเผย
เทพอมตะตะวันเดือดรับคําเชิญและเดินทางมาสํารวจวังสวรรค์
ผู้อมตะห่วงทองนําทางเทพอมตะตะวันเดือดชมสถานที่สําคัญของวังสวรรค์โดยเฉพาะสถานที่ที่เทพปีศาจไร้ขอบเขต เทพปีศาจคลั่ง และเทพปีศาจบัวแดงบุกโจมตีพวกเขา
เทพอมตะตะวันเดือดต้องการเห็นวิญญาณชะตากรรม ผู้อมตะห่วงทองไม่ปฏิเสธ พวกเขาขึ้นไปบนหอคอยดวงตาสวรรค์เพื่อพบกับวิญญาณชะตากรรม
หลังจากเทพอมตะตะวันเดือดออกจากหอคอยดวงตาสวรรค์ เขานิ่งเงียบไปตลอดทาง
เขาจากไปและบอกว่าต้องการเวลาพิจารณาเรื่องการเข้าร่วมกับวังสวรรค์
บทสนทนาระหว่างเทพอมตะตะวันเดือดและผู้อมตะห่วงทองถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของวังสวรรค์อย่างชัดเจน
“พลังอํานาจของผู้อมตะระดับเก้าช่างลึกล้ํานัก เราพึงสังเกตเห็นการจัดเตรียมของเทพอมตะตะวันเดือดในวันนี้ แต่นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก วังสวรรค์ของเราไม่เชี่ยวชาญด้านเส้นทางแห่งโชค อย่างไรก็ตามกระทั่งเทพปีศาจจิตวิญญาณที่สามารถวางสายลับไว้ในวังสวรรค์ยังตกเป็นเชลยของเรา เทพอมตะตะวันเดือดตายไปนานแล้ว เพียงแท่นบูชาแห่งโชคและกลุ่มผู้อมตะภาคเหนือไม่ใช่ ปัญหาวังสวรรค์ของเราสามารถกําหราบพวกเขาได้อย่างง่ายดาย” เสียงของเฒ่าเจิ้งหยวนดังขึ้น
เทพธิดาจื่อเว่ยพยักหน้าแต่นางยังขมวดคิ้ว “แท่นบูชาแห่งโชคเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดของเทพอมตะตะวันเดือด น่าเสียดายที่องค์ชายฟงเชี่ยนไม่ได้เข้าร่วมในครั้งนี้ มิฉะนั้นเราจะได้รับข้อมูลล่วงหน้า”
“สิ่งสําคัญที่สุดคือแท่นบูชาแห่งโชคซ่อนพลังไว้มากเพียงใด?”
“ฮีม ข้าคิดว่ามันไม่น่าจะมีพลังอํานาจมากมายนัก เราไม่ได้รับข่าวใดๆเพราะถ้ําสวรรค์นิรันดรอาจเก็บข้อมูลไว้กับคนจํานวนไม่มาก”
เทพธิดาจื่อเว่ยวิเคราะห์
“ควรเป็นเช่นนั้น” ราชันมังกรพยักหน้า แม้เขาจะลุกขึ้นแล้ว แต่มือของเขายังไพล่หลัง เขาไม่เคลื่อนไหวราวกับเขากําลังรอบางสิ่ง
วินาทีถัดมา วังสวรรค์พลันเกิดการสั่นสะเทือน เสียงลมดังขึ้น
ราชันมังกร เทพธิดาจื่อเว่ย และเฒ่าเจิ้งหยวนไม่แปลกใจ พวกเขากระทั่งเผยรอยยิ้มบางขึ้นบนใบหน้า
“ท่าไม้ตายอมตะที่เทพอมตะแรกกําเนิดทิ้งไว้ทํางานแล้ว!”
ภายในแท่นบูชาแห่งโชค ผู้อมตะของถ้ําสวรรค์นิรันดรไม่แปลกใจเช่นกัน
เทพอมตะตะวันเดือดทิ้งข้อมูลนี้ไว้เบื้องหลัง ในความเป็นจริงแม้พวกเขาจะไม่มีข้อมูลของเทพอมตะตะวันเดือด ถ้ําสวรรค์นิรันดรก็ยังมีมรดกที่แท้จริงบางส่วนของเทพปีศาจคลั่งและเทพปีศาจไร้ขอบเขต ทั้งสองต่างเป็นคนเหนือ ข้อมูลการโจมตีวังสวรรค์ของพวกเขาอยู่ในมือสวรรค์นิรันดร
“นี่คือท่าไม้ตายอมตะกําแพงปราณ?”
“เทพอมตะแรกกําเนิดเชี่ยวชาญเส้นทางแห่งพลังปราณตั้งแต่ยังเยาว์”
“เมื่อเขากลายเป็นผู้อมตะระดับเก้า ท่าไม้ตายอมตะกําแพงปราณก็ถูกพัฒนาเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับเก้าเช่นกัน”
กลุ่มผู้อมตะของถ้ําสวรรค์นิรันดรพูดคุยและเริ่มใช้แท่นบูชาแห่งโชคโจมตีบริเวณรอบๆ
อากาศรอบๆเกิดระลอกคลื่นขึ้นก่อนจะกลับสู่สภาพปกติ
ผู้อมตะของถ้ําสวรรค์นิรันดรตกใจ
“สมกับเป็นท่าไม้ตายอมตะของเทพอมตะแรกกําเนิด!”
“ท่าไม้ตายอมตะกําแพงปราณระดับเก้าของเทพอมตะแรกกําเนิดกระทั่งแข็งแกร่งกว่ากําแพงปราณสวรรค์!”
“เราจะทําอย่างไร?” ปรมาจารย์ห้าธาตุแสดงออกด้วยความกังวล เขาพึ่งเข้าร่วมกับถ้ําสวรรค์นิรันดรและพึ่งรู้เรื่องการบุกโจมตีวังสวรรค์เมื่อไม่กี่วันก่อน
หากถ้ําสวรรค์นิรันดรต้องทําลายกําแพงปราณทั้งหมดที่กีดขวางอยู่บนเส้นทาง พวกเขาจะเสียค่าใช้จ่ายมหาศาล พวกเขาจะไปไม่ถึงตัวราชันมังกรก่อนที่พลังงานอมตะของพวกเขาจะเหือดแห้ง
แต่มันยากเกินไปที่จะคลี่คลายท่าไม้ตายนี้
ประการแรก มันเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับเก้า มีเพียงวิธีในระดับใกล้เคียงกันเท่านั้นที่สามารถใช้งาน
ประการที่สอง ในยุคปัจจุบันเส้นทางแห่งพลังปราณแทบสูญสิ้นไปแล้ว ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณมีน้อยมาก
แล้วพวกเขาจะทําอย่างไร?
“อย่ากังวล เรามีวิธี!”
“แม้มันจะเป็นท่าไม้ตายอมตะที่สร้างขึ้นโดยเทพอมตะแรกกําเนิด แต่หลังจากผ่านวันเวลามานานหลายปี โดยเฉพาะหลังจากการบุกโจมตีของสามเทพปีศาจ ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป”
“เทพปีศาจทั้งสามสร้างเส้นทางของตนเอง บนเส้นทางทั้งสามสาย พลังอํานาจของกําแพงปราณจะอ่อนแอที่สุดและไม่สามารถสร้างใหม่ ตราบเท่าที่เราทําลายพื้นที่เล็กๆ เราจะสามารถเข้าสู่หนึ่งในสามเส้นทาง!”
ปรมาจารย์ห้าธาตุถอนหายใจ “เป็นเช่นนั้น แล้วเราจะเลือกเส้นทางใด?”
ในเวลาเดียวกันราชันมังกรกล่าวกับเทพธิดาจื่อเว่ย “แม้กําแพงปราณจะแข็งแกร่ง แต่มันถูกเปิดเผยมานานแล้ว ตั้งแต่ถ้ําสวรรค์นิรันดรตัดสินใจบุกโจมตี พวกเขาย่อมตระหนักถึงจุดอ่อนของมัน พวกเขาจะใช้เส้นทางที่เทพปีศาจสร้างขึ้น”
เทพธิดาจื่อเว่ยพยักหน้า “เส้นทางด้านซ้ายถูกสร้างขึ้นโดยเทพปีศาจไร้ขอบเขต มันผ่านประตูสวรรค์กลาง วังสุริยัน วิหารเทพทั้งห้า วิหารกลาง หอคอยดวงตาสวรรค์ ทะเลสาบเต๋าที่ถูกลืม สุดท้ายมันหยุดอยู่บนยอดเขากลุ่มดาว”
“เส้นทางสายกลางถูกสร้างขึ้นโดยเทพปีศาจคลั่ง มันผ่านวิหารจักรพรรดิอมตะ วิหารห้วงมิติถ้ําทรายนิรันดร์ วิหารล้านราชันสวรรค์ หอเย็บปักถักร้อย วิหารกลาง และสิ้นสุดที่หอคอยดวงตาสวรรค์”
“เส้นทางด้านขวาถูกสร้างขึ้นโดยเทพปีศาจบัวแดง มันผ่านสระบัวเทพธิดา วิหารแสงจันทร์ วิหารสิบสองจิตวิญญาณ ศาลเพลิงระเบิด วิหารพฤกษาวารี วิหารกลาง และหอคอยดวงตาสวรรค์”
“ตราบเท่าที่พวกเขาเลือก เราจะรู้เส้นทางของพวกเขาและสามารถจัดตั้งแนวป้องกัน”
ดวงตาของเทพธิดาจื่อเว่ยส่องประกายด้วยความเฉลียวฉลาด
“ถูกต้อง” ราชันมังกรไม่คัดค้าน
“บีม บีม บีม”
แท่นบูชาแห่งโชคโจมตีจุดอ่อนของกําแพงปราณและเคลื่อนที่ไปข้างหน้า
ผู้อมตะวังสวรรค์รู้สึกถึงแรงกดดันที่เพิ่มสูงขึ้น
เทพธิดาจื่อเว่ยและราชันมังกรมองหน้ากัน “พวกเขาเลือกทางซ้าย!”