เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity - บทที่ 1781 ยึดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรม
บทที่ 1781 ยึดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรม
ปัจจุบันฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันตกกําลังอยู่ในบรรยากาศที่แปลกประหลาด
ภายนอกพวกเขายังใส่ร้ายและสร้างข่าวลือเพื่อโจมตีตระกูลฟาง
แต่ความจริงก็คือพวกเขาไม่สามารถทําสิ่งใดนอกจากการเห่าหอน
ท้ายที่สุดกระทั่งผู้อมตะระดับแปดก็ไม่สามารถหยุดท่าไม้ตายอมตะขโมยเต๋าของตระกูลฟาง
“การโจมตีโอเอซิสสมบัติแห่งจันทร์เริ่มแสดงผลลัพธ์แล้ว” ผู้อมตะตระกูลฟางรู้สึกยินดี
แต่การแสดงออกของฟางตี้เฉิงยังน่าเกลียด “น่าเสียดาย หากสถานการณ์ที่ทะเลทรายหิ่งห้อยไม่เกิดเป็น มันจะสมบูรณ์แบบ เรายังไม่พบเบาะแสของคนร้าย นี่เป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างแท้จริง!”
แม้ตระกูลตงจะน่าสงสัยที่สุด แต่ฟางตี้เฉิงกับฟางกงก็ฉลาดพอที่จะไม่ดําเนินการใดๆ
พวกเขาไม่มีหลักฐานหรือเหตุผลที่จะเคลื่อนไหว นอกจากนั้นมันยังมีโอกาสเป็นกับดัก
ตระกูลฟางไม่เคลื่อนไหว แต่ตระกูลตงค่อนข้างโกลาหล หลายวันที่ผ่านมาตระกูลตงส่งคนออกไปป้องกันสถานที่ต่างๆมากขึ้น
ตงลู่เฉินไม่ได้มีช่วงเวลาที่ง่ายดาย เขาจะไม่แปลกใจหากมีข่าวว่าตระกูลฟางถูกโจมตีหลังจากนี้
“รีบสืบหาความจริง หาตัวคนร้ายและล้างมลทินให้กับตระกูลตงของข้า!” ตงลู่เฉินตั้งตารอผลการสอบสวนของตระกูลฟาง แต่ภายนอกเขายังแสดงออกแข็งกร้าว เขาเรียกร้องค่าชดเชยจากตระกูลฟางอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับโอเอซิสสมบัติแห่งจันทร์
พวกเขาไม่แก้แค้นแค่ร้องขอค่าตอบแทน นี่เป็นทัศนคติที่ชัดเจน
กองกําลังฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันตกพยายามเดาว่าผู้ใดคือคนร้าย เห็นได้ชัดว่าแผนการหว่านความไม่ลงรอยประสบความสําเร็จ
ท่ามกลางพวกเขา กองกําลังที่น่าสงสัยที่สุดคือกองกําลังที่มีอาณาเขตติดกับตระกูลฟางและตระกูลตง
กองกําลังเหล่านี้รู้สึกถึงแรงกดดันและต้องการให้ตระกูลฟางค้นหาคนร้ายอย่างรวดเร็วที่สุด
ภายนอก ตระกูลฟางแสร้งค้นหาตัวคนร้ายแต่ในความเป็นจริงพวกเขาไม่ได้ทํางานหนักใดๆ
วิกฤตที่แท้จริงของตระกูลฟางไม่ได้อยู่ที่เบื้องหลังการทําลายทะเลทรายนิ่งห้อยแต่เป็นการปราบปรามของฝ่ายธรรมะทั้งหมด
สถานการณ์ของตระกูลฟางค่อนข้างน่าอึดอัดใจ
หากพวกเขาพบตัวคนร้าย พวกเขาจะแก้แค้นหรือไม่?
พวกเขาต้องแก้แค้น!
มิฉะนั้นชื่อเสียงของตระกูลฟางจะได้รับผลกระทบ ผู้อมตะระดับหกและระดับเจ็ดของตระกูลฟางจะไม่ยอมรับทัศนคติที่เฉยเมย
หากพวกเขาเสียชีวิตและกองกําลังไม่ปกป้องหรือล้างแค้นให้กับพวกเขา แล้วพวกเขาจะเข้าร่วมกับกองกําลังนี้เพื่อสิ่งใด? มันคุ้มค่าที่พวกเขาจะเสี่ยงชีวิตเพื่อกองกําลังเช่นนี้งั้นหรือ?
แต่หากตระกูลฟางแก้แค้นจะเป็นอย่างไร?
พวกเขาจะต่อสู้กับกองกําลังใหญ่อื่นๆจริงๆงั้นหรือ?
ตระกูลฟางมีท่าไม้ตายอมตะขโมยเต๋แต่กองกําลังอื่นก็มีไพ่ตายของตนเองเช่นกัน
สิ่งสําคัญที่สุดหากสองกองกําลังใหญ่ต่อสู้กันอย่างจริงจัง ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จะไม่ใช่พวกเขาแต่เป็นกองกําลังอื่น
ผ่านไปหลายวันฟางตี้เฉิงสงบลงแล้ว เขาบอกฟางกงเกี่ยวกับมุมมองของเขาอย่างลับๆ ว่า พวกเขาควรหยุดการสืบสวน สิ่งสําคัญที่สุดคือเวลา พวกเขาจําเป็นต้องซ่อมแซมคฤหาสน์ วิญญาณอมตะทั้งสามหลังและปรับแต่งวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์
ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถก้าวข้ามอุปสรรคนี้ ความแข็งแกร่งของตระกูลฟางจะเพิ่มสูงขึ้น หลังจากนั้นไม่ว่าพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับกองกําลังใด พวกเขาก็จะมีกําลังมากพอที่จะฉกฉวยผลประโยชน์สูงสุด
ฟางกงเห็นด้วยกับความคิดนี้
ไม่นานหลังจากนั้นฟางกงก็ประกาศต่อสาธารณชนว่าตระกูลฟางจะติดตามเรื่องนี้อย่า จริงจัง ตอนนี้พวกเขามีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก ตระกูลฟางจะไม่ปล่อยให้คนร้ายลอยนวล แต่พวกเขาก็จะไม่ใส่ร้ายผู้บริสุทธิ์เช่นกัน
ในวันที่เขาประกาศเรื่องนี้ ตระกูลฟางส่งมอบแก่นแท้อสูรวิญญาณให้กับฟางหยวนเป็นจํานวนมาก หนึ่งในนั้นยังเป็นแก่นแท้อสูรวิญญาณระดับแปด
ในชีวิตก่อนหน้าเมื่อฟางหยวนรีดไถตระกูลฟาง พวกเขาส่งมอบเพียงแก่นแท้อสูรวิญญาณระดับหกและระดับเจ็ดเท่านั้น
“เห็นได้ชัดว่าตระกูลฟางพยายามมัดใจข้า” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบาง
ก่อนหน้านี้ฟางตี้เฉิงเตือนและสั่งให้ฟางหยวนส่งคืนน้ําค้างสวรรค์ยี่สิบหยด หากเหตุร้ายไม่เกิดขึ้นที่ทะเลทรายหิ่งห้อย เรื่องจะจบเพียงเท่านั้น
แต่หลังจากคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นในทะลทรายนิ่งห้อย แผนการข่มขู่ของตระกูลฟางจึงมีประสิทธิภาพน้อยลง ฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันตกยังก่อกวนพวกเขา
ดังนั้นตระกูลฟางจึงต้องทําให้แน่ใจว่าซวนปู่จินจะอยู่เคียงข้างพวกเขา
แต่พวกเขาจะไม่ส่งมอบน้ําค้างสวรรค์ยี่สิบหยด ฟางตี้เฉิงไม่สามารถกลับคําพูดของตน
ดังนั้นพวกเขาจึงมอบแก่นแท้อสูรวิญญาณเป็นการชดเชยและเอาใจซวนปู้จิน
ฟางหยวนเสี่ยงโจมตีทะเลทรายนิ่งห้อยเพราะเขาต้องการผลลัพธ์ดังกล่าว
เขาไม่ต้องการเห็นตระกูลฟางอยู่ในสภาวะที่มั่นคง
หากตระกูลฟางมีเสถียรภาพ พวกเขาจะไม่ต้องการซวนปู้จิน ฟางหยวนจะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากพวกเขา การเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากทะเลทรายผีเขียวจะล่าช้ามาก พวกเขาจะไม่พยายามทําเรื่องนี้
นอกจากนั้นฟางหยวนยังต้องการใช้กองกําลังฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันตกเพื่อดึงดูดความสนใจของฟางตี้เฉิงและคนอื่นๆ หากพวกเขามีช่วงเวลาที่ง่ายดาย ฟางที่เฉิงจะให้ความสนใจกับซวนปู้จินและอาจพบสิ่งผิดปกติ
เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ ตระกูลฟางค่อนข้างโชคร้าย
ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนไม่ได้อยู่ที่นี่ ตระกูลฟางจึงประสบความสําเร็จในการข่มขู่กองกําลังฝ่ายธรรมะทั้งหมดและสามารถก้าวข้ามสถานการณ์อันตราย ในที่สุดพวกเขาก็บรรลุข้อตกลงความร่วมมือบางอย่าง
แต่ตอนนี้เพราะการคงอยู่ของฟางหยวน มันทําให้สถานการณ์ของพวกเขาไม่เสถียร
หลายวันต่อมาฟางหยวนยังฝึกฝนอย่างเงียบๆอยู่ในโอเอซิสน้ําค้างสวรรค์
ที่ทะเลทรายผีเขียว อิงอู๋เซี่ยใช้วิญญาณอมตะป้ายคําสั่งอสูรวิญญาณเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์
สําหรับตระกูลฟาง พวกเขายังส่งมอบแก่นแท้อสูรวิญญาณจากคลังสมบัติของตระกูลให้กับฟางหยวนตามข้อตกลง
ภายในมิติช่องว่างจักรพรรดิ มนุษย์กลายพันธุ์ทํางานอย่างหนัก
ภายใต้แสงแห่งปัญญา ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนอนุมานเกือบตลอดเวลาโดยไม่หยุดพัก
ท่าไม้ตายอมตะต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรม!
ควันสีเขียวลอยขึ้นเหนือศีรษะของฟางหยวนก่อนจะก่อตัวเป็นต้นไม้เล็กๆที่ดูขาดสารอาหาร
หากผู้อมตะของวังสวรรค์เห็นสิ่งนี้ พวกเขาจะตกใจและเดือดดาลด้วยความโกรธ
ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรมเป็นท่าไม้ตายอมตะเฉพาะตัวของเทพอมตะบัวสวรรค์ แต่ผู้ใดจะคิดว่ามันจะจบลงในมือของปีศาจฟางหยวน!
หลังจากสังหารและค้นวิญญาณเฉินอี้ ฟางหยวนได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะบัวสวรรค์สองชิ้น พวกมันคือท่าไม้ตายอมตะต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรมและท่าไม้ตายอมตะเคลื่อนกรรม
ด้วยการพึ่งพาแสงแห่งปัญญา ฟางหยวนสามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรมระดับหกโดยใช้วิญญาณอมตะไผ่เขียวระดับเจ็ดและวิญญาณอมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งไม้ดวงอื่นๆเป็นแกนกลาง
เนื่องจากฟางหยวนไม่มีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกฎ เหตุ และวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งไม้ผล เขาจึงต้องใช้วิญญาณระดับมนุษย์จํานวนมากเพื่อชดเชย
ด้วยเหตุนี้มันจึงต้องใช้เวลาค่อนข้างนานในการกระตุ้นใช้งานและไม่สามารถนํามันไปใช้ในการต่อสู้จริง
‘น่าเสียดายที่ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งไม้ของข้าอยู่ในระดับสามัญ มันไม่แม้แต่จะถึงระดับผู้เชี่ยวชาญ’
‘แม้วิญญาณอมตะไผ่เขียวจะเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งไม้แต่มันไม่เหมาะสมที่จะเป็นแกนกลางของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรม’
‘จากการศึกษาทางชีววิทยาบนโลกมนุษย์ใบเดิม ไผ่ถือเป็นหญ้าชนิดหนึ่ง มันไม่ใช่ต้นไม้’
ด้วยเหตุนี้แม้แกนกลางของมันจะเป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ดแต่ท่าไม้ตายนี้ยังเป็นเพียงท่าไม้ตายอมตะระดับหก
แม้ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรมของเฉินอี้จะมุ่งเน้นด้านการป้องกัน แต่มันอยู่ในระดับเดียวกับเกราะหวนคืนหรือเสื้อคลุมเพลิงสุริยัน แต่มันมีศักยภาพสูงกว่า มันสามารถนําไปใช้ในการโจมตี การเคลื่อนไหว และการรักษา
ตัวอย่างเช่นท่าไม้ตายอมตะเคลื่อนกรรมเป็นวิธีการเคลื่อนไหวที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรม
ท้ายที่สุดสิ่งประดิษฐ์ของเทพอมตะบัวสวรรค์ก็ไม่ธรรมดา
ฟางหยวนยังห่างไกลจากพลังอํานาจที่แท้จริงของท่าไม้ตายนี้
ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรมของฟางหยวนยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่มันทําให้ฟางหยวนสามารถคิดค้นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งไม้ท่าใหม่ซึ่งค่อนข้างมีประโยชน์
ท่าไม้ตายนี้มีชื่อว่าหีบไม้ไผ่ มันเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งไม้ มันใช้วิญญาณอมตะไผ่เขียวเป็นแกนกลางแต่สามารถส่งผลกระทบบนเส้นทางแห่งปัญญา
หลังจากกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายนี้ แสงสีเขียวหยกจะส่องประกายขึ้นบนหน้าอกของฟางหยวน
หากเขาประสบความสําเร็จในการอนุมานเรื่องหนึ่ง รอยสักรูปป่าไผ่สีเขียวจะปรากฏ ขึ้นบนหน้าอกของเขา
ท่าไม้ตายนี้มีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน
มันเป็นตัวช่วยชั้นยอดในการอนุมานเรื่องๆหนึ่งตั้งแต่ต้นจนจบ นั่นคือจุดแข็งของมัน
สัญลักษณ์แห่งความสําเร็จคือรอยสักรูปปาไผ่บนหน้าอกของเขา
อย่างไรก็ตามหากการอนุมานไม่สําเร็จ ท่าไม้ตายอมตะหีบไม้ไผ่จะล้มเหลว เขาจะพบกับผลกระทบย้อนกลับ นี่คือจุดอ่อนของมัน
ฟางหยวนตั้งใจทดสอบมัน
แสงสีเขียวหยกส่องประกายขึ้นบนหน้าอกของเขาและสร้างรอยสักรูปป่าไผ่ขึ้นครึ่งหนึ่งก่อนจะเลือนหายไปขณะที่ฟางหยวนได้รับบาดเจ็บจากผลกระทบย้อนกลับ
จิตใจของเขาไม่ได้รับความเสียหาย นี่ไม่ใช่ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งปัญญาที่แท้จริงแต่มันเป็นเส้นทางแห่งไม้
ดังนั้นท่าไม้ตายอมตะที่บไม่ไผ่จึงมีประโยชน์ในการอนุมานเรื่องที่มีเป้าหมายชัดเจน ความยากของมันต้องไม่สูงนัก มิฉะนั้นท่าไม้ตายจะล้มเหลว ผู้ใช้งานอาจได้รับบาดเจ็บ
นอกจากท่าไม้ตายอมตะหีบไม้ไผ่ ฟางหยวนยังสามารถคิดค้นท่าไม้ตายอื่น
มันคือท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งโชค กลยุทธ์โชค
ท่าไม้ตายนี้ใช้วิญญาณอมตะออกแบบโชคระดับหกเป็นแกนกลาง มันเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งโชคที่ส่งผลกระทบบนเส้นทางแห่งปัญญา
ท่าไม้ตายอมตะกลยุทธ์โชคจะช่วยผู้อมตะคิดกลยุทธ์การต่อสู้
ผู้อมตะส่วนใหญ่บ่มเพาะบนเส้นทางสายเดียว ดังนั้นมันจึงมีท่าไม้ตายจํานวนมากที่เลียนแบบเส้นทางสายอื่น
แต่พวกเขามักสร้างท่าไม้ตายเหล่านี้ขึ้นมาด้วยรากฐานที่จํากัด แม้พวกเขาจะสามารถคิดค้น แต่พวกมันมักจะมีจุดอ่อนที่ชัดเจน
เปรียบเทียบกับวิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาที่แท้จริง พวกมันยังด้อยกว่า