เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ - บทที่ 294 รักษาอาการบาดเจ็บ
เย่เทียนเฉินถูกพลังที่แตกต่างกันสามประเภทโจมตี ชีวิตตกอยู่ในอันตราย เจ็ดวันเจ็ดคืนผ่านไปจางอีเต๋อพยายามรักษาชีวิตของเย่เทียนเฉินเอาไว้อย่างสุดความสามารถ แต่กลับไม่สามารถทำให้เย่เทียนเฉินได้สติคืนมา
เนื่องจากตอนนี้พลังทั้งสามสายที่ทำให้เย่เทียนเฉินบาดเจ็บสาหัสกำลังปั่นป่วนและอาละวาดอยู่ในร่างกายของเขา
ได้รับบาดเจ็บอย่างน่ากลัวขนาดนี้ เย่เทียนเฉินไม่ตายไปในทันที และยังสามารถรักษาชีวิตอยู่ต่อไปได้ นี่ก็ทำให้จางอีเต๋อตื่นตะลึงมากแล้ว
จางอีเต๋อเองก็พยายามเต็มกำลัง ใช้เคล็ดวิชาพลังพิเศษแห่งการรักษาละลายยาหลงสุ่ยเข้าไปในร่างกายของเย่เทียนเฉิน แต่ก็ยังไม่สามารถกำจัดการทำลายอันแข็งแกร่งของพลังทั้งสามประเภทได้
กล่าวให้ชัดเจนก็คือ เนื่องจากพลังสังหารที่ปะทุออกมาจากกระบี่ไท่อาซึ่งเป็นกระบี่แห่งเดชานุภาพภายที่อยู่ในร่างกายของเย่เทียนเฉินเอาแต่ใจมากเกินไป เหมือนกับอยากจองจำอยู่ในร่างกายของเย่เทียนเฉินอย่างไรอย่างนั้น ไม่ว่าจางอีเต๋อจะใช้พลังพิเศษหรือใช้ยาหลงสุ่ยเขาช่วยก็ไม่สามารถบังคับให้มันออกมาได้
ดังนั้นเย่เทียนเฉินในตอนนี้จึงยังไม่ได้สติ อยู่ในสภาพครึ่งเป็นครึ่งตาย
“ไม่ว่าพี่เทียนเฉินจะชอบหนูหรือเปล่า หนูก็จะลองดู!”
จางรั่วถงรู้สึกเคร่งเครียด แต่แม่นางตัวน้อยก็ยังพูดออกมาอย่างแน่วแน่
“รั่วถง ปู่เข้าใจความคิดของหลานดี แต่ทำแบบนี้หลานรู้ไหมว่าหมายความว่ายังไง? ยิ่งไปกว่านั้นการให้แบบนี้อาจจะไม่ได้รับสิ่งตอบแทน นิสัยของไอ้หนูนี่ยากจะเข้าใจ ยิ่งไปกว่านั้นข้างกายของเขาก็มีสาวงามมากราวกับก้อนเมฆ หลานเสียสละแบบนี้ไม่คุ้มค่าเลย!” จางอีเต๋อยังคงพูดค้านออกมา
จางรั่วถงรู้ว่าเพื่อปกป้องเธอ ปู่จึงไม่อนุญาตให้เธอทำผิดพลาด ถ้าทำแบบนี้จริงๆ สำหรับเธอที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงที่ยังไม่เคยแม้แต่จูบกับผู้ชาย นับเป็นการเสียสละและสูญเสียอย่างใหญ่หลวง
เนื่องจากทำแบบนั้น จะทำให้เธอเสียร่างกายอันบริสุทธิ์ไป แต่มีเพียงทำแบบนี้เท่านั้นถึงจะทำให้เย่เทียนเฉินตื่นขึ้นมาได้
“คุณปู่คะ ช่วยชีวิตคนได้บุญยิ่งกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น ยิ่งไปกว่านั้นพี่เทียนเฉินก็เป็นคนดี หนูเชื่อว่าเขาจะไม่ทำให้หนูผิดหวังแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น…ต่อให้เขาไม่ชอบหนูก็ไม่เป็นไร หนูต้องการช่วยชีวิตคนคนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่านี้แล้ว” จางรั่วถงชะงักไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
จางอีเต๋อพยักหน้า ทอดถอนใจครั้งหนึ่ง เขารู้ว่าจางรั่วถงหลานสาวของตนตัดสินใจแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นหลานยังพูดอย่างผ่อนคลาย ไม่ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย
แต่ในฐานะที่เป็นปู่ของจางรั่วถง จางอีเต๋อจะไม่เข้าใจความคิดของหลานสาวได้อย่างไร?
ตั้งแต่ครั้งนั้นที่บ้านตระกูลจาง เย่เทียนเฉินก็ช่วยมู่หรงซินโดยไม่สนใจชีวิตของตัวเอง แล้วยังเป็นการช่วยเหลือพวกเขาทางอ้อมอีกด้วย จางรั่วถงจำช่วงเวลานั้นเอาไว้ในใจ บางครั้งยังถามตนเกี่ยวกับเรื่องของเย่เทียนเฉินอีกด้วย
บางทีในใจของจางรั่วถงคงจะมีเงาของเย่เทียนเฉินอยู่แล้ว และมีความรู้สึกรักใคร่เย่เทียนเฉินที่มีนิสัยเหมือนอันธพาลและเทพแห่งความตายคนนี้เข้าโดยที่ไม่รู้ตัว
ในตอนที่อู๋เสวี่ยและหวังเจี๋ยพาเย่เทียนเฉินที่ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดและลมหายใจรวยระรินมาส่งที่บ้านตระกูลจาง จางรั่วถงก็กังวลใจเป็นอย่างยิ่ง คอยเฝ้าอยู่หน้าถังไม้ที่เย่เทียนเฉินเข้าไปนั่งอยู่เจ็ดวันเจ็ดคืนเต็มๆ คอยสังเกตความเปลี่ยนแปลงของเย่เทียนเฉินอยู่ตลอดเวลา และรีบเปลี่ยนน้ำให้ทันเวลา
เรียกได้ว่าภายในเจ็ดวันเจ็ดคืนนี้ดูเหมือนเธอจะไม่ได้นอนเลย ในใจของเธอเป็นห่วงเย่เทียนเฉินจริงๆ
ในช่วงเวลาเจ็ดวันเจ็ดคืน จางอีเต๋อก็พยายามเต็มที่ ใช้วิธีการทุกอย่างออกมาหมด ถึงสามารถรักษาชีวิตของเย่เทียนเฉินเอาไว้ได้
แต่เย่เทียนเฉินก็ยังไม่ฟื้น เขาไม่สามารถกำจัดพลังที่ทำลายภายในของเย่เทียนเฉินได้อย่างสมบูรณ์ จางอีเต๋อไม่มีวิธีอื่นแล้ว
“รั่วถง หวังว่าหลานจะพิจารณาให้ดี หลานจะทำแบบนี้เพื่อไอ้หนูนี่จริงๆ เหรอ?” จางอีเต๋อถามอย่างไม่วางใจ
“คุณปู่คะ ตอนนี้นอกจากหนูแล้ว ยังมีคนช่วยพี่เทียนเฉินได้อีกเหรอ? นี่เป็นเรื่องที่หนูจำเป็นต้องทำ ยิ่งไปกว่านั้นหนูไม่อยากเสียใจทีหลัง!” จางรั่วถงพูดอย่างแน่วแน่
หลายคนต่างพูดว่า เมื่อที่ผู้หญิงคนหนึ่งหลงรักผู้ชายคนหนึ่งเข้าอย่างแท้จริง เรื่องทุกอย่างที่เธอกระทำต่างก็บ้าคลั่ง เพื่อผู้ชายคนนี้ ไม่ว่าอะไรก็เต็มใจที่จะทำ ไม่ว่าอะไรก็กล้าทำ ผู้ชายคนนี้จะกลายเป็นโชคดีและมีบุญมาก ควรจะรู้สึกซาบซึ้งและสำนึกบุญคุณ ที่มีผู้หญิงแบบนี้สนใจเขา
จางอีเต๋อชะงักไปครู่หนึ่ง เขาย่อมไม่อยากให้เย่เทียนเฉินตาย ถึงแม้ว่าชายหนุ่มคนนี้จะมีบางครั้งที่มีท่าทางอันธพาล มีบางครั้งที่เป็นเหมือนเทพแห่งความตาย แต่ก็เป็นคนที่ควรค่าแก่การนับถือคนหนึ่ง เป็นบุคคลผู้มีความสามารถที่หาได้ยาก
เพียงแต่หลานของเขาจะต้องเสียสละออกไปมากขนาดนั้น ใช้ร่างกายบริสุทธิ์ของตัวเองไปช่วยเหลือเย่เทียนเฉิน ช่วยผู้ชายที่อาจจะไม่รักเธอโดยไม่สนใจอะไร ตกลงแล้วมันคุ้มหรือไม่?
ความรัก ไม่ใช่เรื่องของการตบมือข้างเดียว ต่อให้จางรั่วถงจะรักเย่เทียนเฉินโดยไม่รู้ตัว หรือกระทั่งโหยหาเขา ยอมที่จะสละร่างกายอันบริสุทธิ์ของตัวเองเพื่อไปช่วยเหลือเย่เทียนเฉิน นั่นจะเป็นเรื่องดีไปได้อย่างไร?
เย่เทียนเฉินไม่ได้แสดงออกว่าชอบจางรั่วถงออกมาเลยแม้แต่ครึ่งส่วน อย่างน้อยตอนนี้ก็ไม่มี ถ้ามอบให้ไปแบบนี้จะต้องทำให้เขากังวลแน่นอน
แต่ก็เหมือนกับที่จางรั่วถงพูด จางอีเต๋อในตอนนี้รับมือไม่ได้แล้ว สิ่งที่ควรจะทำก็ทำไปหมดแล้ว เขาสามารถรักษาชีวิตของเย่เทียนเฉินเอาไว้ได้ แต่กลับไม่สามารถทำให้ตื่นขึ้นมาได้ และไม่มีทางทำให้พลังภายในที่ทำลายร่างกายของเขาหายไปได้ หากเป็นแบบนี้ต่อไปเย่เทียนเฉินจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เป็นได้แค่คนครึ่งเป็นครึ่งตายอยู่หลายวันก็เท่านั้น
“รั่วถง หลานคิดดีแล้วหรือ?” พี่เหมอมองหลานสาว กล่าวออกมาอย่างทอดถอนใจ
“คิดดีแล้วค่ะคุณปู่ ปู่ต้องช่วยหนูปิดกั้นเส้นประสาทของเขาด้วยค่ะ เรื่องต่อจากนี้หนูจะทำให้เสร็จเอง!” จางรั่วถงพูดด้วยรอยยิ้ม
ในที่สุดจางอีเต๋อก็รับปาก เขาไม่มีหนทางแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นนี่ก็เป็นการเลือกของหลานสาวของตน เขาทำได้แค่ตักเตือนเท่านั้น แต่ไม่สามารถก้าวก่ายได้ จะอย่างไรเขาก็เข้าใจนิสัยของจางรั่วถงผู้เป็นหลานสาวของตนอย่างดี เรื่องที่ตัดสินใจไปแล้ว ใครก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
ภายในห้องยาของบ้านตระกูลจาง เย่เทียนเฉินยังคงนั่งอยู่ในถังน้ำใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยน้ำร้อน
จางอีเต๋อยืนอยู่เบื้องหน้าเขา เย่เทียนเฉินในตอนนี้ยังคงหลับตาทั้งสองแน่น อยู่ในสภาพสลบไสล เข็มทองหลายเล่มปักเข้าไปบริเวณศีรษะของเขา ทำให้เขารู้สึกล่องลอยไปชั่วคราว ไม่รู้สึกตัว
“หวังว่าไอ้หนูอย่างนายจะเห็นค่ารั่วถง ไม่ปฏิบัติแย่ๆ กับเธอ!”
จางอีเต๋อพูดจบก็หมุนตัวเดินออกไปจากห้องยา ปล่อยให้ภายในห้องเหลือแค่เย่เทียนเฉินและจางรั่วถงสองคน
ไม่นานจางรั่วถงก็เดินออกมาจากห้องเล็กๆ ด้านข้าง ร่างกายเปลือยเปล่าดูสมบูรณ์แบบ ดูแล้วงดงามถึงเพียงนั้น มีเสน่ห์ถึงเพียงนั้น ผิวผ่องสวยใส ทำให้ผู้คนอดไม่ได้ อยากที่จะเข้าไปสัมผัส ร่างกายมีส่วนเว้าโค้ง สามารถสร้างความปรารถนาให้กับผู้ชายได้
ถึงแม้ภายในห้องยาแห่งนี้จะมีแค่เย่เทียนเฉินกับจางรั่วถงสองคนเท่านั้น แต่เย่เทียนเฉินก็อยู่ในสภาพหมดสติ ไม่สามารถลืมตาขึ้นมาดูจางรั่วถงได้
แต่เธอก็ยังคงอายจนหน้าแดง ปิดสวนซ่อนเร้นของตนตามสัญชาตญาณ ค่อยๆ เดินไปยังถังไม้อันใหญ่
สำหรับผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เคยมีแฟนและไม่เคยถูกผู้ชายจูบมาก่อน ต้องมาสัมผัสเรื่องระหว่างชายหญิง และยังต้องเป็นตัวเองที่เป็นฝ่ายกระทำ จะน่าอายมากขนาดไหนกัน จะลำบากใจขนาดไหนกัน จินตนาการได้เลยทีเดียว
จางรั่วถงเดินไปข้างถังไม้ใหญ่ด้วยความเขินอาย ยกขาขวาของตนขึ้นอย่างเชื่องช้า ความงดงามของร่างกาย ความสวยงามขนาดนั้น น่ามองอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
เมื่อเคลื่อนไหวเช่นนี้ออกมาทำให้จางรั่วถงเขินอายจนทนไม่ไหว ร่างกายของเธองดงามสมบูรณ์แบบ งดงามจนไม่มีข้อบกพร่องแม้แต่จุดเดียว เหมือนกับผลงานชิ้นเอกจากสวรรค์อย่างไรอย่างนั้น หากตอนนี้เย่เทียนเฉินมีสติครบถ้วนก็ไม่แน่ว่าจะปฏิเสธความเย้ายวนนี้ได้
จางรั่วถงเข้าไปอยู่ในถังไม้ใหญ่อย่างเชื่องช้า โอบกอดร่างกายอันเปลือยเปล่าของตนแน่น ทั่วทั้งร่างมีกลิ่นอายความเขินอายออกมา รู้สึกตื่นเต้นมาก
เธอกัดฟันแน่น เพิ่มความกล้าของตัวเองแล้วค่อยๆ โอบกอดเย่เทียนเฉิน ปากเล็กๆ ประทับไปที่ริมฝีปากของเย่เทียนเฉิน จูบอย่างดูดดื่ม ถึงแม้เย่เทียนเฉินจะอยู่ในสภาพหมดสติ ความรู้สึกตัวก็ถูกจางอีเต๋อใช้เข็มทองระงับเอาไว้แล้ว
แต่สัญชาตญาณทำให้เขามีปฏิกิริยา ไม่นานก็พัวพันอยู่กับจางรั่วถง
จางรั่วถงกัดฟันแน่น ยอมรับการจู่โจมของเย่เทียนเฉิน รับการจู่โจมอันดุเดือด อดทนอย่างตั้งมั่น เธอต้องการช่วยเย่เทียนเฉิน ใช้ร่างกายอันบริสุทธิ์ของตนโดยผ่านวิธีการแบบนี้เพื่อช่วยให้เย่เทียนเฉินฟื้นคืนสติ ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถกำจัดพลังที่ทำร้ายร่างกายของเขาได้อีกด้วย
เช้าวันต่อมา
ในตอนที่เย่เทียนเฉินฟื้นขึ้นมา เขาก็พบว่าตนนอนอยู่บนเตียง ถึงแม้ร่างกายจะยังมีความรู้สึกไร้เรี่ยวแรงอยู่ แต่กลับไม่ได้รุนแรงอะไร อาการบาดเจ็บที่มือทั้งสองก็รักษาจนหายแล้ว อวัยวะภายในก็ไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดราวกับจะแหลกสลายอีก นี่ทำให้เขารู้สึกสงสัยอยู่บ้าง
“ในที่สุดก็ตื่นแล้ว ไม่เป็นไรใช่ไหม?” จางอีเต๋อปรากฏตัวเบื้องหน้าเย่เทียนเฉิน เอ่ยถามอย่างเรียบเฉย
“อ้อ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ผมบอกแล้วว่าผมไม่เป็นอะไรหรอก!” เย่เทียนเฉินพูดพลางหัวเราะฮี่ๆ
เมื่อเห็นจางอีเต๋อเย่เทียนเฉินก็เข้าใจโดยพลัน เป็นจางอีเต๋อที่ช่วยตนเอาไว้ ชายชราที่มีเคล็ดวิชาพลังพิเศษแห่งการรักษาที่แข็งแกร่งและลึกลับคนนี้ เกรงว่าในโลกใบนี้คนที่สามารถช่วยเขาได้คงมีแค่จางอีเต๋อคนเดียวแล้ว
พลังพิเศษและพลังภายในแบบนี้ อีกทั้งยังมีการบาดเจ็บจากกระบี่ไท่อาซึ่งเป็นหนึ่งในสิบกระบี่โบราณ ถ้าเป็นโรงพยาบาลธรรมดา ด้วยการแพทย์ในยุคปัจจุบันไม่สามารถรักษาหายได้โดยเด็ดขาด
“ไอ้หนูรู้หรือเปล่า เพื่อที่จะช่วยแก รั่วถงเสียสละไปมากขนาดไหน?” จางอีเต๋อมองเย่เทียนเฉินอย่างไม่สบอารมณ์แล้วพูดขึ้น
เมื่อพูดถึงจางรั่วถง เย่เทียนเฉินก็ชะงักไป ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในสภาพสลบไสล แต่เขาไม่ได้ตาย จิตใต้สำนึกยังคงรู้สึกอยู่ เขาย่อมรู้ว่าค่ำคืนอันปลื้มปิติที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นใครที่มอบให้แก่เขา และรู้ว่าเด็กสาวคนนี้ต้องเสียสละออกไปมากน้อยแค่ไหนเพื่อที่จะช่วยตน ในใจจึงรู้สึกผิด
เย่เทียนเฉินไม่ใช่คนที่ไร้ความรับผิดชอบโดยเด็ดขาด เขาจะไม่ทำตัวแย่ๆ ต่อจางรั่วถง
ใช่แล้ว ถ้าหากพูดถึงเรื่องความรู้สึก ดูเหมือนเย่เทียนเฉินจะไม่ได้รักจางรั่วถง บางทีเขาคงไม่เคยคิดถึงเรื่องระหว่างชายหญิงมาก่อน อย่างน้อยในตอนนี้ก็ยังไม่เคยพิจารณา เนื่องจากเขารู้ว่ามีเรื่องราวมากมายที่ยังต้องทำ นี่เป็นเรื่องที่ต่อให้เขาต้องใช้ชีวิตเข้าแลกก็จำเป็นต้องทำให้สำเร็จ
“ผมรู้แล้ว ตอนนี้รั่วถงอยู่ที่ไหนครับ?” เย่เทียนเฉินลงจากเตียง เอ่ยถามอย่างจริงจัง
“ไปแล้ว!”
จางอีเต๋อทอดถอนใจ หลังจากที่หลานสาวใช้ร่างกายอันบริสุทธิ์ของตนช่วยรักษาเย่เทียนเฉินแล้วก็จากไปทันที
………..