เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ - บทที่ 460 ใจไร้ศัตรูถึงจะไร้ผู้ต่อต้าน
เมืองหลวง ตีสี่ครึ่ง
เงาร่างของคนทั้งสองบินอยู่เหนือท้องฟ้า ทำให้ผู้สังเกตการณ์ด้วยกล้องโทรทรรศน์ที่จับตาดูท้องฟ้าเมืองหลวงต่างต้องตกตะลึงจนปากอ้าตาค้าง ตกใจจนต้องรีบโทรไปรายงานเบื้องบน คนบินได้สองคน? ยิ่งไปกว่านั้นยังบินไปสู้ไป นี่เป็นเรื่องมหัศจรรย์ระดับไหนกัน?
เย่เทียนเฉินถูกโจมตีต่อเนื่องไปสามหมัด ฮิคาวะกินยาปรับเปลี่ยนพันธุกรรมฉับพลันลงไป ฝืนเผาผลาญพลังชีวิตของตัวเอง ไม่เพียงแต่จะสามารถรักษาบาดแผลอันสาหัสของตนเองได้ในระยะเวลาสั้นๆ ยิ่งไปกว่านั้นพลังการต่อสู้ของเขาก็เพิ่มพูนอย่างบ้าคลั่ง อัดเย่เทียนเฉินจนเลือดในปากกระอักออกมา กระดูกซี่โครงหักไปหลายท่อน เพียงแต่จะอย่างไรเย่เทียนเฉินก็ยังคงจับไหล่ฮิคาวะแน่นไม่ยอมคลายออกแม้แต่น้อย เนื่องจากด้านล่างคือเมืองหลวง หากฮิคาวะที่บ้าคลั่งไปแล้วตกลงไปจะต้องฆ่าล้างครั้งใหญ่แน่นอน หากเป็นเช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าจะมีผู้บริสุทธิ์มากน้อยแค่ไหนต้องถูกลากเข้ามาพัวพัน ไม่รู้ว่าจะมีคนบาดเจ็บล้มตายมากเท่าไหร่
“ฉันยอมรับว่าความสามารถของแกแข็งแกร่งมาก กายเนื้อก็แข็งแกร่ง แต่ว่าแกแพ้แล้ว แพ้เพราะความใจอ่อน ต้องการช่วยคนที่ไม่เกี่ยวข้องจนทิ้งชีวิตของตัวเอง…” ฮิคาวะเห็นเย่เทียนเฉินไม่ยอมปล่อยตนลงไปจึงโจมตีครั้งใหญ่ เย่เทียนเฉินรับหมัดของตนไปแล้วสี่หมัด หากปล่อยไปอีกหลายหมัดเย่เทียนเฉินจะต้องตายแน่นอน ชายหนุ่มชาวจีนคนนี้แข็งแกร่งมาก แต่ก็โง่เกินไปแล้วจริงๆ
ในใจของฮิคาวะรู้สึกแปลกใจมาก ตนกินยาปรับเปลี่ยนพันธุกรรมฉับพลันลงไปแล้ว บ้าคลั่งไปแล้ว ความสามารถไม่รู้ว่าเพิ่มขึ้นกี่เท่า แต่ยังคงไม่อาจสลัดออกจากมือของเย่เทียนเฉินได้ ยิ่งไปกว่านั้นตนอัดเย่เทียนเฉินไปแล้วสี่หมัด ถึงแม้จะทำให้เย่เทียนเฉินมีเลือดไหลออกมาจากปาก กระดูกซี่โครงก็หักไปหลายท่อน แต่ยังไม่สามารถเอาชีวิตเย่เทียนเฉินได้ นี่ทำให้ฮิคาวะต้องคิดว่าชายหนุ่มคนนี้แข็งแกร่งมากขนาดไหนกันแน่? ทำไมกายเนื้อของเขาถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?
ตั้งแต่เริ่มบ่มเพาะ ไม่ว่าจะเป็นในตอนที่อยู่ดาวสิ้นโลกก็ดีหรือจะเป็นตอนที่ได้มาเกิดใหม่ในโลกแห่งนี้ก็ดี เย่เทียนเฉินล้วนให้ความสำคัญกับการบ่มเพาะร่างกายมาโดยตลอด ในความคิดของเขา แม้ความสูงส่งลึกล้ำของพลังบ่มเพาะของคนคนหนึ่งจะสำคัญมาก แต่ระดับความแข็งแกร่งของกายเนื้อก็สำคัญเช่นเดียวกัน ในความคิดของเย่เทียนเฉิน นี่เป็นเหตุผลที่ง่ายมาก คนอื่นต่อยคุณหนึ่งหมัด ถ้ากายเนื้อของคุณแข็งแกร่งก็จะหยุดเอาไว้ได้จนไม่ถึงกับทรุดเข่า หากใช้แรงเท่ากันแต่กายเนื้อของอีกฝ่ายไม่ได้แข็งแกร่งเท่าคุณ คุณต่อยไปหนึ่งหใัดก็จะเอาชีวิตเขาได้
ตอนนี้เย่เทียนเฉินไม่สนใจจะพูดอะไร เขาสัมผัสได้ถึงอาการบาดเจ็บในร่างกายของตน ความรู้สึกโลหิตพุ่งพล่านเช่นนั้น ความรู้สึกราวกับอวัยวะภายในกำลังพลิกกลับทำให้แทบจะรับไม่ไหว หากยังไม่พาฮิคาวะไปยังสถานที่รกร้างไร้ผู้คนอีกเกรงว่าตนคงต้องถูกเขาอัดตายอยู่กลางอากาศแล้ว ยาปรับเปลี่ยนพันธุกรรมที่ประเทศชิบะพัฒนาออกมาร้ายกาจมากจริงๆ วิธีการที่ไม่สนใจชีวิตเช่นนี้นับว่าทำให้ผู้คนหวาดกลัวไม่น้อยเลย
ตู้ม!
อั่ก!
ฮิคาวะก็ไม่ได้เกรงใจ เขาเกลียดชังเย่เทียนเฉินจนถึงกระดูก เป็นเย่เทียนเฉินที่ซัดเขาจนความภาคภูมิใจของเขาพังทลาย เป็นเย่เทียนเฉินที่ทำให้ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่รุ่นใหม่ของสำนักโฮคุชินอิตโตริวอย่างเขาต้องพ่ายแพ้ และเป็นเย่เทียนเฉินที่ซัดเขาจนเขาจำเป็นต้องกินยาปรับเปลี่ยนพันธุกรรมฉับพลัน เผาผลาญพลังชีวิตของตน ไม่รู้ว่าหลังจากที่ฤทธิ์ของยาสิ้นสุดลง เขาฮิคาวะจะตกลงสู่จุดจบที่ต้องตายเหมือนกับซาโต้หรือไม่ ดังนั้นความคิดของฮิคาวะก็คือ ต่อให้ต้องตายก็จะลากเย่เทียนเฉินไปด้วย
เย่เทียนเฉินถูกโจมตีเข้าไปอีกหนึ่งหมัดอย่างรุนแรง เขาไม่รู้ว่าทำเช่นนี้จะคุ้มค่าหรือไม่ เป็นไปได้มากว่าคนทั้งเมืองหลวงอาจจะไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังช่วยคนทั้งหมดที่นี่ ด้วยระดับความบ้าคลั่งของฮิคาวะในตอนนี้ ต่อให้คิดจะทำลายทั้งเมืองหลวงก็เกรงว่าจะมีความสามารถถึงขั้นนั้น ยิ่งไปกว่านั้น ยาปรับเปลี่ยนพันธุกรรมฉับพลันนี้ยังทำให้ภายในร่างกายของฮิคาวะเกิดการเปลี่ยนแปลงไม่หยุด ฤทธิ์ของยายังคงเพิ่มไม่หยุด หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เย่เทียนเฉินกลัวว่าจะถูกอัดตายอยู่กลางท้องฟ้าเมืองหลวงจริงๆ
“ไปตายซะ!” ฮิคาวะหัวเราะอย่างโหดเหี้ยม เขาในตอนนี้นับว่าจับจุดอ่อนของเย่เทียนเฉินได้แล้ว ดูเหมือนว่าเย่เทียนเฉินจะยอมรับหมัดเท้าของเขา ไม่สามารถตอบโต้ได้ และไม่มีจิตใจจะทำเช่นนั้น นี่ไม่ใช่ว่ารอความตายหรือไง?
ตู้ม!
เย่เทียนเฉินปะทะฝ่ามือกับฮิคาวะ จากนั้นจึงรีบจับไหล่ขวาของฮิคาวะเอาไว้ ตะโกนออกมาเสียงดัง ใช้พลังทั้งหมดในร่างกาย มือทั้งสองจับอยู่ที่ไหล่ทั้งสองของฮิคาวะ หมุนตัวอยู่กลางอากาศก่อนจะเขวี้ยงฮิคาวะออกไป
ฮิคาวะคิดไม่ถึงว่าเย่เทียนเฉินจะใช้วิธีเช่นนี้ เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าพริบตาเดียวจะถูกขว้างออกไปไกลหลายพันเมตร เห็นได้ชัดว่าพลังของเย่เทียนเฉินมากมายขนาดไหน นี่ไม่นับว่าเป็นการกล่าวเกินจริง เย่เทียนเฉินอยู่ในจุดสูงสุดของผู้มีพลังพิเศษในขอบเขตจักรพรรดิแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังอยู่ในสภาพต่อสู้ข้ามขั้นอันลึกลับ พริบตาเดียวก็เขวี้ยงฮิคาวะออกไปไกลหลายพันเมตร แต่ยังไม่ได้ผลอย่างที่เขาต้องการ
ตอนนี้เย่เทียนเฉินและฮิคาวะไปถึงที่บริเวณชายขอบของเมืองหลวงแล้ว รวมกับที่เย่เทียนเฉินเขวี้ยงฮิคาวะออกไปไกลหลายพันเมตรในพริบตา นับว่าปลอดภัยแล้ว ทำให้คนในเมืองหลวงปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าฮิคาวะจะร่วงลงไปแล้วทำการสังหารครั้งใหญ่อีก
“ความแข็งแกร่งของแกเกินกว่าที่ฉันคิดจริงๆ แต่ฉันจะต้องฆ่าแกแน่!” ฮิคาวะมองไปด้านล่าง เขามาถึงส่วนชายขอบของเมืองหลวงแล้ว ที่นี่เป็นที่รกร้างไร้ซึ่งผู้คน มีเพียงป่าใหญ่แห่งหนึ่ง ทั้งสองข้างเป็นภูเขาสองลูก
“ไม่ต้องพูดไร้สาระให้มันมากนัก!”
เย่เทียนเฉินพุ่งเข้าไปในพริบตา ระหว่างทางเขาถูกฮิคาวะอัดจนกระดูกซี่โครงหักหลายท่อน ร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้ได้เวลาปลดปล่อยแล้ว แน่นอนว่าต้องลงมืออย่างยิ่งใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้นยาปรับเปลี่ยนพันธุกรรมฉับพลันที่ฮิคาวะกินเข้าไปยังอยู่ระหว่างการเพิ่มความแข็งแกร่งไม่หยุด หากช้าไปเพียงนาทีเดียวจะทำให้ฮิคาวะแข็งแกร่งมากขึ้นเพราะยาปรับเปลี่ยนพันธุกรรมฉับพลัน เย่เทียนเฉินไม่กล้าชักช้า ซัดหมัดเข้าไปยังฮิคาวะอย่างรุนแรง
ตู้ม!
ฮิคาวะใช้ฝ่ามือโฮคุชินเข้าปะทะ ทั้งสองสั่นสะท้านอย่างรุนแรง กระเด็นออกไปไกลหลายเมตร นับว่าเย่เทียนเฉินได้สัมผัสขอบเขตการต่อสู้ข้ามขั้นแล้ว นี่เป็นการประทะกันครั้งใหญ่ของทั้งสองหลังจากที่ฮิคาวะกินยาปรับเปลี่ยนพันธุกรรมฉับพลันลงไป
“หึ ฉันจะดูสิว่าตอนนี้แกจะรอดไปได้อีกหรือเปล่า!” ฮิคาวะหัวเราะ ดวงตาทั้งสองแดงก่ำ หมัดเมื่อครู่นี้เขาไม่ได้ถูกเย่เทียนเฉินอัดจนกระเด็น ไม่เหมือนตอนที่ไม่มีแรงจะตอบโต้อีก ดังนั้นเขาจึงสัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งของตนอีกครั้ง จะไม่แพ้ให้เย่เทียนเฉินแน่ ไม่ได้คิดโดยสิ้นเชิงว่านี่เป็นเพราะผลของยาปรับเปลี่ยนพันธุกรรม เมื่อผลของยาหมดลง สิ่งที่รอเขาอยู่ก็คือการทำลายตัวเองจนตาย
ตู้ม!
โล่สีทองอันหนึ่งรับการโจมตีของฮิคาวะเอาไว้ นั่นก็คือ “โล่ทองคำ” ที่เย่เทียนเฉินใช้ออกไป นี่เป็นเคล็ดวิชาพลังพิเศษที่แข็งแกร่งมาก สามารถใช้สู้กับพลังที่แข็งแกร่งได้ อีกฝ่ายถูกเรียกขานว่าเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่รุ่นใหม่ของสำนักโฮคุชินอิตโตริว ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังกินยาปรับเปลี่ยนพันธุกรรมฉับพลันลงไปด้วย ยานี้แปลกประหลาดมาก สามารถเผาผลาญชีวิตของผู้คนทำให้ความสามารถเพิ่มพูนขึ้นในพริบตา
“แกคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะหยุดฉันได้เหรอ?”
ฮิคาวะตะโกน ซัดฝ่ามือไปทางโล่ทองคำจนเกิดเสียงดังสนั่น โล่ทองคำถูกฮิคาวะซัดจนสลาย ฝ่ามือเดียวก็ทำให้โล่ทองคำของเย่เทียนเฉินแตกได้แล้ว นับว่าฮิคาวะเป็นคนแรกที่ทำได้ แต่ในตอนที่ฮิคาวะยังไม่ทันได้ดีใจ เย่เทียนเฉินก็สวนกลับไปหลายหมัดต่อเนื่อง หมัดอัสนีสวรรค์ที่เดิมที่เป็นพลังสีม่วงได้กลายเป็นสีทองไปแล้ว
ตู้มๆๆ …
เย่เทียนเฉินกล้าหาญจนผิดปกติ หมัดทั้งสองซัดออกไปไม่หยุด ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว หลังจากที่ฮิคาวะกินยาปรับเปลี่ยนพันธุกรรมฉับพลันลงไปและเผาผลาญพลังชีวิตของตน ความสามารถก็เพิ่มพูนขึ้นมาก ทั้งสองต่างใช้หมัดแลกหมัด
บึ้ม!
เสียงดังลั่นสนั่นฟ้า หากไม่ใช่ว่าที่นี่อยู่ไกลจากเมืองหลวงมาก เกรงว่าการระเบิดอันรุนแรงเช่นนี้คงทำให้เมืองหลวงมีคนตายไปไม่รู้กี่คนแล้ว หากไม่ไช่ว่าเย่เทียนเฉินยอมเสี่ยงอันตรายที่ตนจะตาย ฝืนพาฮิคาวะมาถึงสถานที่ไร้ผู้คนแห่งนี้ คงทำให้เมืองหลวงกลายเป็นแม่น้ำเลือดจริงๆ แล้ว
“อ้าก!” ฮิคาวะตะโกนลั่น ทั่วทั้งร่างสันสะท้าน พลังชีวิตที่ถูกเผาผลาญส่งผลรุนแรงจริงๆ ทำให้เย่เทียนเฉินอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ด้วยขอบเขตพลังเช่นนี้ของตน ด้วยการลงมือเต็มที่เช่นนี้ ถึงกับไม่สามารถทำให้ฮิคาวะตกตายไปในพริบตาได้ ยอดฝีมือของสำนักโฮคุชินอิตโตริวดูถูกไม่ได้เลยจริงๆ
“ฉันจะฆ่าแก ฉันจะฆ่าครอบครัวแกทั้งหมด…” ฮิคาวะมองไปทางเย่เทียนเฉินแล้วคำรามออกมาอย่างดุดัน
“แกฆ่าไม่ได้หรอก แกแพ้แล้ว!” เย่เทียนเฉินพูดอย่างเรียบเฉย
“แพ้? ฉันฮิคาวะแต่ไหนแต่ไรไม่เคยแพ้ ตอนนี้ก็จะไม่แพ้ ภายภาคหน้าก็จะไม่แพ้ ฉันจะเหยียบแกให้ตายเหมือนกับเหยียบมดปลวกตัวหนึ่ง!” ฝ่ามือทั้งสองของฮิคาวะมีปราณแท้พลุ่งพล่าน พลังเช่นนั้นแพร่กระจายไปทั่ว ทำให้อากาศสั่นสะเทือน
ซู่ม!
เปรี้ยง!
ฝ่ามืออันใหญ่ยักษ์สีดำซัดไปยังเย่เทียนเฉิน เย่เทียนเฉินเองก็ไร้ผู้ต่อกรในสายตา มีความเชื่อมั่นและเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ยังคงโจมตีหมัดออกไปเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการต่อสู้อะไร ไม่ว่าจะเป็นการหลบเลี่ยงอะไรก็ไม่มีผล หากต้องการตัดสินแพ้ชนะจะต้องฆ่าอีกฝ่ายในเวลาสั้นๆ ต้องทำเช่นนี้เท่านั้น
หากจะกล่าวว่าเย่เทียนเฉินไม่เป็นห่วงแม่และน้องสาวและยังมีฉีหรูเสวี่ยและอลิซคงจะเป็นไปไม่ได้ ถึงแม้เขาจะมีคนหนุนหลัง แต่หากมียอดฝีมือที่แข็งแกร่งของสำนักโฮคุชินอิตโตริวไป หรือน้องชายของจักรพรรดิดาบที่ชื่อว่ามัตสึโมโต้ไปด้วยตัวเอง เช่นนั้นคนหนุนหลังก็คงไม่สามารถควบคุมได้ และไม่สามารถหยุดได้ด้วย ดังนั้นหากจะพูดว่าในใจของเย่เทียนเฉินไม่ร้อนรนแม้แต่น้อยก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เขาอยากรีบสังหารฮิคาวะให้เร็ว มีเพียงทำเช่นนี้ถึงจะเป็นอิสระและกลับไปช่วยพวกคุณแม่ของตนได้
ตู้ม!
บริเวณชายขอบของเมืองหลวง ภายในป่าผืนนี้รวมไปถึงภูเขาเล็กๆ ทั้งสองลูกต่างเกิดแสงส่องสว่าง นี่ไม่ใช่แสงจันทร์ ฃแต่เป็นพลังที่เกิดจากการปะทะกัน เย่เทียนเฉินกระเด็นออกไป ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยเลือด กัดฟันพยายามประคองตัวเองขึ้นมา ความแข็งแกร่งของฮิคาวะนั้นเขารู้ดี และสามารถประเมินความแข็งแกร่งของสำนักโฮคุชินอิตโตริวได้บ้างแล้ว บางทีความสามารถของมัตสึโมโต้คงเหนือกว่าฮิคาวะไปมาก แต่เย่เทียนเฉินก็ไม่ได้ว่ากลัว เนื่องจากตอนนี้ ในสายตาของเขามีเพียง “ทำลายล้างทุกอย่าง เชื่อมั่นว่าตนไร้ผู้ต่อต้าน” เท่านั้น
……………………………..