เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ - บทที่ 484 ขอโทษพี่น้องทุกคน
ความจริงความคิดของจางอีเต๋อไม่ได้ซับซ้อนอะไร ในเมื่อเขามาถึงที่นี่แล้วก็แสดงให้เห็นว่าเขารับรู้ถึงสถานการณ์ของเย่เทียนเฉินแล้ว การที่ไม่ช่วยเย่เทียนเฉินหรือไม่ไปดูเย่เทียนเฉินเป็นเพราะสามเหตุผล
ประการแรกเขาไร้ความสามารถ ประการที่สองเป็นเพราะเรื่องของจางรั่วถงหลานสาวของเขาทำให้ในใจของจางอีเต๋อยังคงรู้สึกไม่พอใจเย่เทียนเฉิน ประการที่สาม เมื่อเห็นว่าเสี้ยวหยาและฉีหรูเสวี่ยอยู่ที่นี่ในใจของจางอีเต๋อยิ่งรู้สึกไม่พอใจ โกรธที่เย่เทียนเฉินเจ้าชู้กะล่อน ยังหากจางรั่วถงหลานสาวของตนไม่พบ เขากลับมีสาวงามทั้งสองอยู่ข้างกายแล้ว
อู๋เสวี่ย หวังเจี๋ย หลินตวน เปาเทียนหลง และยังมีชางหลางและเฮยเมี่ยน พวกเขาทั้งหกเป็นคนฉลาด ความสามารถก็แข็งแกร่งมาก แต่หกคนนี้เป็นชายโสดหกคนที่ไม่เข้าใจเรื่องระหว่างชายหญิงจริงๆ พวกเขาไม่ได้มีความคิดละเอียดอ่อนเหมือนผู้หญิงแบบเสี้ยวหยาและฉีหรูเสวี่ยที่จะคิดได้ว่าจางอีเต๋อโกรธเย่เทียนเฉินเพราะจางรั่วถงผู้เป็นหลานสาวของตน จึงไม่ยอมไปรักษาเย่เทียนเฉิน
จางอีเต๋อและจางรั่วถงสองปู่หลานคู่นี้พึ่งพาอาศัยกันมาตั้งแต่เล็กๆ เรียกได้ว่าไม่ว่าเรื่องใดในโลกนี้ก็ไม่สามารถทำให้จางอีเต๋อสั่นครอนได้ และไม่สามารถข่มขู่เขาได้ ต่อให้เป็นความตายเมื่ออยู่ต่อหน้าจางอีเต๋อก็ไม่นับเป็นอะไรได้ มีเพียงจางรั่วถงผู้เป็นหลานสาวเพียงหนึ่งเดียวของเขาถึงจะนับเป็นชีวิตของจางอีเต๋อ ถ้าหากจางรั่วถงมีอะไรไม่สบายใจ ไม่ยินดี หรือเกิดอันตรายถึงชีวิต ต่อให้เป็นพระเจ้าจางอีเต๋อก็กล้าสังหาร นี่คือความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสองปู่หลาน
ตอนที่ยังไม่เจอเย่เทียนเฉิน จางรั่วถงอยู่ข้างกายคุณปู่อย่างจางอีเต๋อมาโดยตลอด ปู่หลานดูแลกันและกัน ใช้เวลาผ่านไปด้วยดี ทว่าตั้งแต่เย่เทียนเฉินปรากฏตัวจางรั่วถงก็มักจะมีความคิดไม่เหมาะสม ถูกเสน่ห์ของเย่เทียนเฉินล่อลวง รวมกับที่เป็นผู้หญิงที่เพิ่งจะมีความรักครั้งแรก จะควบคุมความรักความรู้สึกแบบนั้นได้อย่างไร
สถานการณ์เช่นนี้จางอีเต๋อเห็นอยู่ในสายตาและรู้สึกร้อนรนอยู่ในใจ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เพราะในใจของเขาก็รู้ดีว่าเย่เทียนเฉินเป็นรุ่นเยาว์ที่มีศักยภาพไร้ขีดจำกัดคนหนึ่ง มีความสามารถลึกล้ำไม่อาจคาดเดา ยิ่งไปกว่านั้นความทะเยอทะยานของเขายังยิ่งใหญ่มาก จะต้องเดินทางไปดาวจักรพรรดิแน่นอน และยังคิดจะแสวงหาเส้นทางแห่งชีวิตยืนยาว การตัดสินใจนี้ไม่อาจถูกหยุดด้วยคนเพียงคนเดียว คนแบบเขาจะต้องไม่มีผู้หญิงอยู่ข้างกายเพียงแค่คนเดียวแน่นอน ดังนั้นความปรารถนาที่จางรั่วถงต้องการอยู่ด้วยกันกับเย่เทียนเฉินย่อมเป็นเรื่องยากจะสำเร็จ
ในตอนที่จางรั่วถงยังอยู่ที่บ้าน จางอีเต๋อมักจะวนเวียนอยู่รอบๆ คอยพูดถึงเย่เทียนเฉินเพื่อดูว่าหลานสาวของตนมีท่าทีอย่างไรกับเย่เทียนเฉิน พบว่าทุกครั้งที่เขาพูดถึงเย่เทียนเฉิน จางรั่วถงจะเบิกบานใจมาก ยิ่งไปกว่านั้นดวงตาทั้งสองยังดูเปล่งประกาย จางอีเต๋อจึงพิสูจน์ได้ว่าจางรั่วถงหลงรักเย่เทียนเฉินโดยไม่รู้ตัวแล้ว อย่างไรก็ตาม จางอีเต๋อรับรู้ถึงสถานการณ์และความทะเยอทะยานของเย่เทียนเฉินดี ดังนั้นเขาจึงกล่าวเตือนจางรั่วถงผู้เป็นหลานสาวของตนไปแล้วหลายครั้งแล้วว่า ถ้าเธอคิดจะอยู่ด้วยกันกับเย่เทียนเฉินเป็นเรื่องที่ยากมาก
เดิมทีคิดว่าจางรั่วถงผู้เป็นหลานสาวของตนเข้าใจเจตนาของตนแล้ว และเข้าใจว่าเย่เทียนเฉินไม่อาจหยุดเพื่อใครเพียงคนเดียว ความรักแบบนี้ ความคิดแบบนี้ ถ้ายังมีต่อไปคงไม่มีผลดีอะไร แต่ครั้งที่แล้วที่เย่เทียนเฉินต่อสู้กับซาโต้จนได้รับบาดเจ็บสาหัส จางรั่วถงกลับรักษาเย่เทียนเฉินโดยใช้ร่างกายอันบริสุทธิ์ที่เก็บมา 18 ปีของตนโดยไม่คิดเสียดาย ในจุดนี้ทำให้จางอีเต๋อรู้สึกตื่นตะลึง เพียงแต่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถหยุดยั้งได้ จะอย่างไรหลานสาวก็โตแล้ว มีความคิดเป็นของตัวเอง
ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว จางอีเต๋อก็ไม่ใช่คนที่อยู่เหนือกิเลสทั้งปวง ในเมื่อจางรั่วถงผู้เป็นหลานสาวหลงรักเย่เทียนเฉินและยังมอบร่างกายของตนให้ไอ้หนูนี่แล้ว เช่นนั้นในฐานะที่เขาเป็นปู่ก็ทำได้เพียงช่วยเหลือหลานสาวของตนสุดความสามารถ ทำให้เธอได้มีโอกาสอยู่ด้วยกันกับเย่เทียนเฉิน
ความจริงแล้ว จางอีเต๋อมีความประทับใจต่อเย่เทียนเฉินไม่เลวเลย เพียงแต่เพราะจางรั่วถงผู้เป็นหลานสาวเสียสละมากเกินไปแต่ดูเหมือนจะไม่ได้อะไรตอบแทน แล้วยังจากไปเพียงลำพังด้วยความโดดเดี่ยว นี่ทำให้จางอีเต๋อปวดใจกับหลานสาวมาก เย่เทียนเฉินพูดแล้วว่าจะรับผิดชอบจางรั่วถงจนถึงที่สุด ในจุดนี้จางอีเต๋อย่อมเชื่อ เย่เทียนเฉินเป็นคนที่พูดคำไหนคำนั้น เป็นคนที่มีสัจจะ เพียงแต่สิ่งที่เขาคาดหวังก็คือหลานสาวของตนจะไม่ได้รับความอยุติธรรมอื่นใด จะสามารถอยู่ด้วยกันกับเย่เทียนเฉินอย่างเบิกบานใจ นี่เป็นความปรารถนาในใจของชายชราคนหนึ่งที่มีต่อหลานสาวอันเป็นที่รัก!
“คุณปู่จาง พวกเรารู้ว่าคุณอยากให้จางรั่วถงหลานสาวของคุณอยู่ด้วยกันกับเย่เทียนเฉิน พวกเราก็เห็นด้วย ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ พวกเรารับประกันกับคุณได้เลย ขอเพียงเย่เทียนเฉินตื่นขึ้นมาพวกเราก็จะไปจากเขา!” เสี้ยวหยามองไปยังจางอีเต๋อแล้วเอ่ยปากอย่างจริงจัง
“ใช่แล้วค่ะ ถึงแม้พวกเราจะเป็นผู้หญิงแต่ก็พูดคำไหนคำนั้น!” ฉีหรูเสวี่ยก็รีบเอ่ยปากพูด
จางอีเต๋อชะงักไป ผู้หญิงสองคนนี้ทำให้เขารู้สึกสั่นสะท้านมากจริงๆ ถึงแม้ว่าพวกเธอจะเป็นผู้หญิงแต่ก็ฉลาดเป็นอย่างยิ่ง ขณะเดียวกันก็ยอมเสียสละเพื่อเย่เทียนเฉินขนาดนี้ คิดไม่ถึงจริงๆ เย่เทียนเฉินที่ซื่อบื้อเรื่องความรัก ไอ้หนูที่มีไอคิวค่อนข้างต่ำ ถึงกับมีวาสนาดีขนาดนี้เชียว
ตอนนี้เอง จางอีเต๋อลุกขึ้นจากเก้าอี้เอน ไม่ได้ตอบรับคำพูดของฉีหรูเสวี่ยและเสี้ยวหยาแต่เดินหน้าไปสองก้าว มองไปยังหน้าต่างห้องนอนของเย่เทียนเฉิน พูดเสียงดังว่า “ไอ้หนู มีวาสนาดีขนาดนี้แล้วยังไม่ออกมาอีก?”
เมื่อได้ยินคำพูดของจางอีเต๋อ เสี้ยวหยาและฉีหรูเสวี่ยก็ชะงักไป พวกอู๋เสวี่ยทั้งหกคนต่างรู้สึกไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าจางอีเต๋อหมายความว่าอย่างไร คำพูดนี้ของเขากำลังพูดกับใครอยู่?
ในตอนที่ทุกคนกำลังสงสัยอยู่นั้นเอง เงาร่างเงาหนึ่งก็พุ่งออกมาจากหน้าต่างห้องนอนของเย่เทียนเฉิน พลิกตัวอยู่กลางอากาศหลายตลบก่อนจะทะยานลงสู่พื้น ยืนหันหลังให้พวกเสี้ยวหยาและฉีหรูเสวี่ย บิดเอวครั้งหนึ่ง กระดูกทั่วทั้งร่างส่งเสียงกรอบแกรบ การนั่งขัดสมาธิครั้งนี้นั่งไปถึงสิบวันสิบคืน กระดูกทั้งร่างแทบจะหัก ไม่ขยับเขยื้อนสักหน่อยคงไม่ไหว
“เทียนเฉิน…”
“พี่ใหญ่…”
คนที่กระโดดพุ่งออกมาจากห้องนอนของเย่เทียนเฉินหลังจากจางอีเต๋อพูดจบก็คือเย่เทียนเฉินนั่นเอง ใครก็คิดไม่ถึงว่าเย่เทียนเฉินจะพุ่งออกมาในพริบตา ไม่มีสภาพเหมือนก่อนหน้านี้แม้แต่น้อย เย่เทียนเฉินในตอนนี้บิดขี้เกียจแล้วหาวครั้งหนึ่ง ทำเหมือนกับคนไม่เป็นไร ทำให้ทุกคนรู้สึกตื่นตะลึงจนหน้าถอดสี
“พี่น้อง สาวๆ ตาแก่จาง สุดหล่อหายแล้ว!” เย่เทียนเฉินหัวเราะฮี่ๆ มองไปทางพวกจางอีเต๋อแล้วพูดขึ้น
อู๋เสวี่ย หลินตวน หวังเจี๋ย เปาเทียนหลง พวกเขาทั้งสี่ย่อมวิ่งเข้ามาด้วยความตื่นเต้น รีบเข้ามาพูดคุยสนทนากับเย่เทียนเฉิน พี่ใหญ่ไม่เป็นไรแล้ว กลุ่มสิบสามจ้าวสวรรค์ของพวกเขาก็ไม่ต้องแยกย้าย แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องที่มีค่าพอให้ดีใจ ส่วนเสี้ยวหยาและฉีหรูเสวี่ยกลับมองไปยังเย่เทียนเฉินด้วยสายตาเหยียดหยาม จากนั้นจึงสบตากันยิ้มๆ เดินจูงมือกันกลับเข้าไปในคฤหาสน์ เย่เทียนเฉินเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา มีพี่น้องของเขา ชางหลางและเฮยเมี่ยน แล้วยังมีจางอีเต๋ออยู่ด้วย พวกเขาคงมีเรื่องต้องคุยกัน
ในหลายครั้ง การเป็นผู้หญิงรู้ความเชื่อฟังก็ทำให้ผู้ชายชอบได้มากกว่าผู้หญิงที่มีความสามารถแต่ยโสโอหัง
“ไอ้หนู แกถึงกับไม่ตายเลยเหรอ เหนือคาดจริงๆ!” เฮยเมี่ยนเดินเข้ามาชกเย่เทียนเฉินหมัดหนึ่งก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ฉันสลบไปสิบวันสิบคืน แกยังดำเหมือนถ่านแบบเดิม แปลก แปลกจริงๆ!” เย่เทียนเฉินแสร้งทำเป็นพูดด้วยท่าทีไม่เข้าใจแล้วจึงส่ายหน้า
เฮยเมี่ยนรู้สึกโกรธมาก มองไปยังเย่เทียนเฉินด้วยท่าทีดุดัน จากนั้นจึงยิ้มออกมา ความสัมพันธ์ระหว่างลูกผู้ชาย บางครั้งถ้าไม่ต่อยตีก็ไม่รู้จักกันอย่างลึกซึ้ง เฮยเมี่ยนและเย่เทียนเฉินก็เป็นเช่นนี้ เริ่มแรกทั้งสองต่างไม่พอใจกันจนได้สู้กันหลายครั้ง สุดท้ายกลับกลายเป็นชื่นชมอีกฝ่าย ความสัมพันธ์ที่เกิดจากการต่อยตีเช่นนี้ลึกล้ำมาก
“ไอ้หนูไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ท่านผู้นำสูงสุดเป็นห่วงมาก!” ชางหลางมองไปยังเย่เทียนเฉินแล้วพูดขึ้น
“เรื่องตระกูลหลิงเป็นยังไงบ้าง?” เย่เทียนเฉินคิดขึ้นมาได้จึงเอ่ยถาม
“ไม่ดีเลย แกเพิ่งจะฟื้น พักผ่อนก่อนค่อยพูดกันเถอะ ฉันกับเฮยเมี่ยนยังมีเรื่องต้องทำ ไปก่อนล่ะ!” ชางหลางเอ่ยปากพูด
ชางหลางและเฮยเมี่ยนไปแล้ว พวกเขาทั้งสองเป็นคนที่ยุ่งจนปลีกตัวออกมาไม่ การที่มาอยู่ที่นี่ได้ถึงสามวันสามคืนเพราะเป็นคำสั่งของท่านผู้นำสูงสุด ที่สำคัญกว่าก็คือ เป็นเพราะความสัมพันธ์กับเย่เทียนเฉินที่มีมานาน ความสัมพันธ์ระหว่างลูกผู้ชายล้วนอยู่ในใจไม่จำเป็นต้องประกาศ
หลังจากที่ชางหลางและเฮยเมี่ยนไปแล้วเย่เทียนเฉินก็ถามถึงสถานการณ์การต่อสู้ระหว่างกลุ่มสิบสามจ้าวสวรรค์และพวกสารเลวของสำนักโฮคุชินอิตโตริวในคราวนี้ หลังจากที่รู้ว่าพี่น้องของเขาตายไปสามคนเย่เทียนเฉินก็รู้สึกโศกเศร้า แต่ในการต่อสู้ย่อมต้องมีการหลั่งเลือดและการเสียสละ นี่เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
“มอบเงินให้ครอบครัวของพี่น้องที่เสียชีวิตไปครอบครัวละสิบล้าน ส่วนพี่น้องที่บาดเจ็บ นอกจากพวกเราจะออกค่ายาค่ารักษาให้จนหายดีแล้วจะมอบเงินให้พวกเขาคนละห้าล้านด้วย ส่วนคนที่เหลือมอบเงินคนละสามล้าน!” เย่เทียนเฉินเอ่ยปากพูด
“พี่ใหญ่ เหล่าพี่น้องติดตามคุณเพราะต้องการทำเรื่องยิ่งใหญ่ เงินพวกนี้ช่างมันเถอะ!” อู๋เสวี่ยคิดครู่หนึ่งแล้วกล่าวขึ้น
“ใช่แล้วพี่ใหญ่ เจตนาของพวกเราไม่ได้อยู่ที่เงิน แต่ต้องการติดตามคนโดดเด่นเหมือนคุณ!” หวังเจี๋ยก็เอ่ยปากพูด
เย่เทียนเฉินส่ายหน้า เขาเข้าใจเจตนาของอู๋เสวี่ยและหวังเจี๋ยเป็นอย่างดี พวกเขาสี่คนมีความซื่อสัตย์จริงใจต่อตน ไม่หวังเงินไม่หวังอำนาจ แม้พวกเขาไม่ต้องการเงิน แต่พวกเขายังมีครอบครัว ยังมีญาติและมิตรสหาย จะอย่างไรพวกเขาก็ยังเป็นคนธรรมดา ต้องการเงินเลี้ยงชีวิต ตัวเขาไม่ได้มีทัศนคติเรื่องเงินเท่าไหร่นัก เพียงแต่ไม่อยากให้ครอบครัวของพี่น้องที่ตายไปรู้สึกไม่ดี นี่เป็นเรื่องเดียวที่เขาสามารถกระทำได้ในฐานะที่เป็นพี่ใหญ่
“ทำตามที่ฉันพูดเถอะ แล้วก็หายอดฝีมือมาเข้าร่วมต่อไป กลุ่มสิบสามจ้าวสวรรค์ก็ต้องมีสิบสามคน ขาดไม่ได้แม้แต่คนเดียว!” เย่เทียนเฉินพูดอย่างจริงจัง
“ครับพี่ใหญ่!” อู๋เสวี่ยพยักหน้าพูด
อู๋เสวี่ย หลินตวน เปาเทียนหลงและหวังเจี๋ยขอตัวออกไป ภายในสวนของคฤหาสน์จึงเหลือแค่จางอีเต๋อและเย่เทียนเฉินสองคน…