เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 151-152
ตอนที่ 151 กองกำลัง
เจียวฮั่นถูกทุบตีจนมิสามารถส่งเสียงใดๆออกมาได้อีก ผู้นำของเมืองแห่งนี้จึงเลิกให้ความสนใจ
“เตรียมตัวพร้อมหรือยัง” มันตะโกนเสียงดัง
“ครับ!” มีเสียงตอบกลับมาดังอย่างพร้อมเพรียงจากคนบริเวณโดยรอบเกือบร้อยคนพวกเขาเหล่านี้มีทั้งชาย หญิง เด็ก และคนชรา
ล้วนจับอาวุธตระเตรียมความพร้อมคล้ายกับจะออกไปสู้รบศึกครั้งใหญ่
ไม่นานก็มีเพียงโหวกเหวกดังอยู่ภายนอกเมือง เมื่อพวกมันออกมาพบคนกว่าร้อยคนถืออาวุธครบมือ พวกมันล้วนพูดคุยกันเสียงดัง
——————————————————————————————–
หลินหยางและพวกตอนนี้พวกเขาปักหลักกันอยู่ที่โพรงกระรอก
“ไปได้” หลินหยางกล่าวแก่ชายคนนึง
เมื่อมันได้รับคำสั่งมันวิ่งหน้าตั้งอย่างรวดเร็วห่างออกไปจนลับสายตา
หลินหยางส่งคนไปเมืองพันธมิตรของเขา เมืองเอลฟ์นั่นเอง
ตอนนี้มีคนเหลืออยู่เพียงห้าสิบคนเท่านั้น มีคนวิ่งจากไปคนละเส้นทางกว่าสิบเส้นสายมิทราบจุดหมายของพวกเขาคือสิ่งใด
หลินหยางกำลังเคร่งเครียดปรึกษาหารือปัญหากันอยู่ การที่เวรยามกว่าสิบคน และทีมจู่โจมเกือบสามสิบชีวิตที่มีระดับ 5-6 กันทั้งสิ้นหายตัวไปอย่างพร้อมเพรียงเช่นนี้มันแปลกประหลาดยิ่งนัก พวกเขาแน่นอนย่อมไม่ห่างหายไปด้วยตนเองแต่ต้องถูกโจมตีจับกุมไปโดยเมืองอื่นเป็นแน่
นั่นเพราะตั้งแต่เมื่อวานจนถึงบัดนี้ยังมิมีเสียงแจ้งเตือนผู้เสียชีวิตใดๆเลยแม้แต่น้อย ทำให้หลินหยางและพวกยังคงวางใจได้ แต่ก็ยังคงกังวลอยู่ดังเดิมหากเป็นอย่างที่คิดพวกมันที่จับกุมตัวพวกเขาอยู่ชีวิตของคนเหล่านี้ย่อมตกอยู่ในกำมือของพวกมัน
และเมืองที่จะทำเช่นนี้ได้แสดงว่าต้องมีกำลังพลมากกว่าร้อยคนขึ้นไปเป็นแน่ หากพวกมันมีเพียงคนห้าสิบคนย่อมไม่ครณามือของทีมจู่โจม แต่หากมีคนกว่าร้อยคนเช่นนี้…
หลินหยางและพวกตอนนี้มีจำนวนเพียงห้าสิบคนเท่านั้น นี่คือกองกำลังที่หลินหยางมีตอนนี้พวกเขาผ่านสมรภูมิมาอย่างโชกโชนสู้รบกับเขามาทุกสถานการณ์
ทุกคนล้วนเป็นทหารฝีมือดีและระดับของพวกเขามิต่ำทรามเลยทีเดียว
“พี่หยางมีคนจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้” ชายคนนึงวิ่งตรงเข้ามาตะโกนจากระยะไกล เมื่อเข้ามาจนประชิดมันจึงหยุดพักพูดช้าๆอย่างเหน็ดเหนื่อยมิทราบมันวิ่งมาไกลเท่าใด มันคือหนึ่งในคนที่หลินหยางส่งออกไปตรวจตรารอบบริเวณพื้นที่โดยรอบ รวมถึงหาเมืองต้องสงสัยไปด้วย
“จำนวนเท่าไหร่” หลินหยางกล่าวถาม
“ราวสองร้อยคนครับ” ชายคนนั้นกล่าว
หลินหยางและพวกเมื่อได้รับข้อความพวกเขาตั้งตัวเตรียมต่อสู้ทันที ไม่ต้องสืบสาวหาเรื่องราวก็สามารถบอกได้ว่าพวกมันเป็นศัตรูการที่จะเคลื่อนกำลังพลมากขนาดนี้พวกมันคงไม่ออกมาเดินเล่นเป็นแน่
จำนวนสองร้อยคนนี้เป็นจำนวนที่มากโขเลยทีเดียว แสดงว่าพวกมันรวมกลุ่มสะสมกำลังกว่าสี่เมืองเข้าด้วยกัน
หลินหยางหันไปพูดบางอย่างกับเจียวซิ่นมนุษย์หมาป่าหนุ่ม และแล้วเจียวซิ่นก็แยกตัวออกไปพร้อมกับนำคนติดตามไปอีกสองคนแยกทางวิ่งห่างจนลับสายตา
หลินหยางและเหล่าทหารประสบการณ์สูงเหล่านี้แม้จะทราบจำนวนศัตรูที่มีมากกว่าตนถึงสามเท่าพวกเขาก็มิได้แสดงความหวาดกลัวอ่อนแอออกมาแม้แต่น้อยจับอาวุธในมือมั่น จ้องมองไปยังเส้นทางเดียวกันเห็นกองกำลังขนาดใหญ่เดินทัพมุ่งตรงเข้ามาอย่างช้าๆ
ตอนที่ 152 ส่งสาร
คนของหลินหยางที่มองไปยังกองกำลังปริศนาเห็นเพียงเงามืดๆเท่านั้นเนื่องจากความห่างไกลเกินไป
แต่มิใช่กับหลินหยาง เขามองไปยังกลุ่มนี้จนทั่วเมื่อแม้ไม่สามารถเห็นหน้าพวกมันได้อย่างชัดเจนแต่ก็สามารถระบุได้ว่าเป็นกลุ่มไหน เมื่อมิเห็นทีมจู่โจมและคนของเขาอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย เขาจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย คราแรกเขาหวังว่าในจำนวนคนกว่าสองร้อยคนนี้หากมีคนของเขาถูกจับเป็นเชลยและนำติดตามมาด้วยแสดงว่ากองกำลังตรงหน้ามีทหารเพียงร้อยหกสิบคน
แต่หากกองกำลังตรงหน้านี้ล้วนเป็นศัตรูทุกคนแสดงว่ามีกว่าสองร้อยชีวิตที่เขาต้องประมือต่อสู้ด้วย
ไม่ว่าแบบไหนก็เป็นเรื่องดีทั้งนั้น หากมีคนของเขาถูกจับกุมคอยกดดัน พวกเขาคงไม่สามารถต่อสู้ได้อย่างราบรื่นเป็นแน่
กองกำลังตรงหน้าเดินตรงเข้ามาอย่างช้าๆ จนกระทั่งเข้ามาจนเห็นชัดและหยุดนิ่งมิเดินหน้าเข้ามาต่อ ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายห่างกันราวห้าร้อยเมตร
“ฉือเทียน?” ฮวงหั่นเมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยจึงกล่าวออกมา
“นายรู้จัก?” หลินหยางกล่าวถาม
“ครับพี่หยาง เมืองของมันอยู่ไม่ห่างไกลจากเมืองของเก่าของผมเท่าใด คราก่อนที่พบเจอโพรงกระรอก ผู้นำคนก่อนเคยไปผูกมิตรเป็นสหายเพื่อให้มันร่วมปราบออร์คไปด้วยกัน แต่เมื่อเห็นมอนสเตอร์ตัวใหญ่โตพวกมันหวาดเกรงมิกล้าสู้จึงปฏิเสธไป” ฮวงหั่นกล่าวต่อ
“คนพวกนั้นก็มาจากเมืองระแวกเดียวกันครับ”
หลินหยางพยักหน้า ดูท่าพวกนี้มันจะจับมือเป็นพันธมิตรกับเมืองบริเวณใกล้เคียงเพื่อแย่งชิงโพรงกระรอกไปจากเขา เมื่อใช้ทักษะดวงตาเหยี่ยวตรวจสอบพวกมัน กองกำลังตรงหน้านี้ล้วนมีระดับหนึ่ง สองและสามกันเท่านั้น
พวกเขามีเพียงจำนวนเท่านั้น ไร้คุณภาพ หากเป็นตอนปกติพวกมันย่อมไม่กล้าเข้ารบกวนท้ารบแก่เมืองหลินหยาง แต่เมื่ออาหารที่มีเพียงน้อยนิดใกล้หมดลง จึงรวมหัวผูกพันธมิตรเพื่อการนี้โดยเฉพาะ นั่นคือแย่งชิงแหล่งอาหาร!
จุดที่เป็นเป้าหมายแน่นอนนั่นคือโพรงกระรอกที่มีอาหารอย่างไม่มีวันสิ้นสุด ในระแวกใกล้เคียงมีเพียงแหล่งอาหารนี้เท่านั้นหากการขู่เข็ญบังคับเอาโพรงกระรอกแห่งนี้ลุล่วงสำเร็จ จุดต่อเป็นที่พวกมันหมายปองนั่นคือคลองน้ำลำธารที่เมืองหลินหยางยึดครองอยู่!
ไม่นานก็มีคนวิ่งออกมาจากกองกำลังตรงหน้ามุ่งตรงเข้ามาหาหลินหยางและพวก
“หลินหยาง คนของแกที่ส่งมาล้วนถูกจับเป็นเชลยหมดแล้ว พวกมันถูกคุมตัวด้วยคนของเรา” มันกล่าว ดูท่ามันมาเพื่อกล่อมให้เขายอมแพ้
หลินหยางเมื่อได้ฟังสีหน้าเขามิเปลี่ยนไป เขาคาดเอาไว้อยู่แล้วเมื่อมิเห็นเจียวฮั่นและคนอื่นๆอยู่ในกองกำลังนี้
“พี่ฉือเทียนต้องการให้แกยอมแพ้ซะ แล้วเขาจะปล่อยคนของแก” ชายผู้ส่งสารกล่าวต่อ
“ถ้าไม่หละ?” หลินหยางยิ้มกล่าว
“พวกมันก็ตายหนะสิ ฮ่าๆ” มันกล่าวพลางหัวเราะ พลางคิดว่าหลินหยางและพวกมิเจียมตนเนื่องจากกำลังพลที่แตกต่างกันเช่นนี้หลินหยางและพวกต้องพ่ายแพ้เป็นแน่นอน
มันที่มีเพียงระดับหนึ่งจึงมิได้เกรงกลัวแม้แต่น้อยกล่าวพลางหัวเราะอย่างสะใจ
“ไอเวรนี่” หวงฮั่นสบถเมื่อเห็นท่าทีอวดเบ่งของมัน
“โอ้นั่นหวงฮั่นไม่ใช่หรอ ฮ่าๆ” คนส่งสารเมื่อเห็นผู้ที่สบถกร่นด่ามัน มันจึงกล่าวออกมาใบหน้าเปื้อนยิ้มหัวเราะร่าเยาะเย้ย
“หึ่ม” หวงฮั่นเค่นเสียงในลำคอ อยากเข้าไปอัดเจ้าคนตรงหน้าซักเปรี้ยง
“ว่าไงจะยอมแพ้ไหม” คนส่งสารเมื่อเห็นหลินหยางมิตอบกลับข้อเสนอมันจึงทักท้วงกล่าวไปอีกครา!