เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 209-210
ตอนที่ 209 ดีใจ
ตอนนี้คนกว่าร้อยหกสิบคนกำลังเดินทางกันรวดเร็วเร่งฝีเท้ามุ่งตรงสู่เมืองหลินหยาง
ขามาพวกเขามากันเกือบร้อยเจ็ดสิบคน เมื่อสามารถปราบเจ้ากอลิล่าและยึดครองถ้ำวัวได้แล้วหลินหยางทิ้งคนไว้สิบคนเพื่อปกปักรักษาเฝ้าคุ้มครองเอาไว้เพื่อเป็นเครื่องหมายว่าแหล่งอาหารแห่งนี้ตนเป็นผู้ครอบครอง
ณ เมืองหลินหยาง
บนกำแพงเมืองมีเหล่าคนเด็ก สตรี และคนชรายืนประจำการอยู่ พวกเขาเหล่านี้ล้วนเคร่งเครียดหวาดระแวงเพิ่มความระมัดระวังทุกฝีก้าวกระจายตัวอยู่ทั่วกำแพงเมืองทุกทิศทางเพื่อป้องกันศัตรูและผู้มิหวังดี
จากที่ไกลๆมองเห็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งซึ่งมีจำนวนมากมายจนทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัว แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยพวกเขาจึงผ่อนคลายอย่างโล่งอก
ในที่สุดพวกเหล่าชายชาตรีที่ออกไปสู้รบเหล่านี้ก็กลับมาซึ่งตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาถึงช่วงบ่ายแล้ว หลินหยางและพวกออกจากเมืองไปตั้งแต่ตอนเย็นซึ่งตอนนี้ก็ข้ามวันข้ามคืนมาเป็นที่เรียบร้อยพวกเขายังมิได้นอนหลับพักผ่อนมาตั้งแต่เมื่อวาน
มิใช่เพียงทหารเหล่านี้ที่มิได้พักผ่อน เด็ก สตรี และคนชราภายในเมืองทุกคนที่ประจำการอยู่บนกำแพงก็มิได้พักผ่อนหย่อนใจมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วเช่นกัน เมื่อพวกเขาตื่นนอนในตอนเช้าบรรยากาศภายในเมืองก็อึมครึมไปเสียหมดเพราะเมื่อวานถึงกำหนดเวลาเก้าเดือนนั่นเอง
ผู้คนภายในเมืองลงมาจากกำแพงกันอย่างเร่งรีบเปิดประตูเมืองยืนรอต้อนรับหลินหยางและพวก
ภายในเมืองหลินหยาง
หลินหยางยืนอยู่ต่อหน้าประชาชนภายในเมืองเขากำลังตั้งใจจะบอกข่าวดีที่สามารถยึดครองแหล่งอาหารแห่งใหม่ที่ทรัพย์ยากรมากกว่าเดิมได้ แต่เมื่อมองไปยังใบหน้าของพลทหารที่สู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับเขา
เขาก็คงไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศเสียแล้วเพราะใบหน้าพวกมันคล้ายกับแทนคำพูดของเขาไปแล้ว พวกมันล้วนเชิดอกยืดตรงใบหน้าภูมิใจยิ้มไม่หุบ
“พวกเรายึดแหล่งอาหารแห่งใหม่ได้แล้ว และยังมีปริมาณมากกว่าโพรงกระรอกถึงสองเท่า” ถึงจะเป็นเช่นนั้นหลินหยางยังคงต้องกล่าวออกไป
เย้~~
แม้พวกเขาจะทราบผลลัพธ์จากการสังเกตุสีหน้าชายฉรรจ์เหล่านี้แล้วแต่เมื่อได้ยินคำยืนยันจากปากของหลินหยางพวกเขาจึงส่งเสียงโห่ร้องดีใจออกมาดังกระหื่มไปทั่วเมือง
ถึงจะเป็นเด็กหรือคนชราแต่พวกเขาก็ทราบความเป็นไปภายในเมืองทั้งหมดเช่นกัน รวมถึงเรื่องที่อาหารกำลังขาดแคลนและใกล้หมดไป ตอนนี้หลินหยางสามารถยึดแหล่งอาหารแห่งใหม่ได้แล้วแสดงว่าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องอาหารอีกต่อไป
หลินหยางมองไปยังผู้คนภายในเมืองและยิ้มออกมา
ตอนนี้ไม่เหมือนดังก่อนที่พึ่งเข้าผ่านประตูจากโลกเดิมมาแล้วเขามีชีวิตกว่าสามร้อยชีวิตให้ดูแล เขามิใช่ชายหนุ่มที่โดดเดี่ยวอีกต่อไปมีคนมากกว่าสามร้อยคนที่คอยเป็นห่วงเอาใจช่วยรอคอยเขากลับมาอย่างปลอดภัยและแบ่งเบาภาระ
เขาอธิบายรายละเอียดต่างๆที่พบเจอจากการบุกยึดถ้ำวัวให้ทุกคนฟัง เหล่าทหารที่ร่วมรบไปกับเขาเมื่อหลินหยางเล่าถึงผลงานของพวกมัน พวกมันล้วนพ่นลมออกจากจมูกเชิดหน้าสูงอย่างภูมิใจ
“แยกย้ายกันไปพักผ่อน พรุ้งนี้พวกเราจะไปสำรวจถ้ำปริศนา” หลินหยางกล่าว
ตอนที่ 210 หลับสนิท
เนื่องจากพวกเขามิได้พักผ่อนกันมาตั้งแต่เมื่อวานหากยังดื้อรั้นทำงานติดต่อกันอีกสภาพร่างกายคงไม่สามารถทนรับไหว หลินหยางจึงให้พวกเขาดื่มกินนอนพักเอาแรงเสียให้เพียงพอ โดยมีกำหนดการไปสำรวจถ้ำปริศนาในวันรุ่งขึ้น
ครานี้พวกเขามิต้องเร่งรีบอีกต่อไปเพราะถ้ำแห่งนั้นคงมิใช่อาหารที่เมืองปกติแย่งชิงกัน จึงมิต้องหวาดระแวงมากนัก
หลินหยางเองเขารีบทานอาหารอย่างรวดเร็ว เมื่อทานเสร็จเขาเข้านอนทันทีเพราะร่างกายของเขาเองก็อ่อนเพลียเช่นกัน
เนื่องจากมิได้หลับนอนทนทำงานตั้งแต่เมื่อวานและออกสำรวจเส้นทางจนกระทั่งสามารถยึดครองถ้ำวัวได้จึงสามารถปล่อยวางความกดดันที่ตนได้รับลงแต่กระนั้นเขายังต้องใช้ทักษะที่สิ้นเปลืองพละกำลังมหาศาลอย่างทักษะราชสีห์คำรามระดับสี่จึงทำให้เขาเหน็ดเหนื่อยยิ่งกว่าผู้ใดในทีมต่อสู้ หากเขามิสามารถหาแหล่งอาหารเพิ่มได้คนกว่าสามร้อยชีวิตนี้ต้องแย่เป็นแน่
เมื่อถึงบ้านพักหลินหยางหลับลึกทันที
ภายในเมือง
ตอนนี้พระอาทิตย์ยังมิลับขอบฟ้ายังเป็นช่วงบ่ายแต่ภายในเมืองของหลินหยางกลับมีเสียงกรนกระหื่มดังไปทั่ว นี่คือเสียงกรนจากคนมากกว่าสามร้อยชีวิตที่ประสานเสียงกันอย่างมิได้นัดหมาย อันเนื่องมาจากความอ่อนล้าทางร่างกายแม้จะมีเสียงกรนดังไปทั่วเมืองแต่ก็มิมีใครตื่นจากการหลับไหล
แต่ก็มีบางคนเช่นกันที่ไม่สามารถข่มตาหลับลงไปได้เนื่องจากเสียงกรนที่ดังสนั่น
กลางดึก
เสียงกรนเริ่มเบาบางลงแล้วคงเป็นเพราะพวกเขาได้รับการพักผ่อนร่างกายหายเมื่อยล้าไปบ้างแล้วเป็นแน่
มีส่วนหนึ่งที่ตื่นขึ้นมาทานอาหารประทังความหิวและกลับไปนอนหลับพักผ่อนต่อไปเพราะยังมิทราบว่าพรุ้งนี้พวกเขาจะต้องโต้รุ่งอีกหรือไม่ฉะนั้นจึงนอนพักเอาแรงตุนสะสมไว้ให้ได้มากที่สุดภายในสวรรค์แห่งนี้ไม่ว่าสิ่งใดก็มิสามารถวางใจได้จึงต้องตระเตรียมทุกอย่างให้พร้อมเพรียง
เวลาล่วงเลยผ่านความมืดมิดใกล้หมดไปความสว่างสดใสกำลังจะขึ้นแทนที่ ตอนนี้เวลาเช้าตรู่
หลินหยางนอนบิดไปมาอย่างช้าๆและค่อยๆลืมตาขึ้นมองไปยังฝ้าเพดานไม้ สูดหายใจเข้าลึกพลางขยี้ตาค่อยๆลุกขึ้นช้าๆบางเบาเกรงว่าตนจะรบกวนการนอนของเหมยเหมยที่นอนหลับสนิทอยู่ข้างกาย
เมื่อสามารถลุกออกมาได้โดยที่เหมยเหมยยังมิได้ตื่นจากภวังค์หลินหยางมองดูเธอนอนขดตัวอย่างน่ารักและเดินออกจากที่พัก
หน้าที่พัก
หลินหยางบิดขี้เกียจสูดหายใจเฮือกใหญ่รับอากาศสดใสปลอดโปร่งในเช้าวันใหม่ เขาได้พักผ่อนอย่างเต็มที่อย่างมิเคยมีมาก่อนเขานอนหลับไปมากกว่าสิบหกชั่วโมงเสียอีก!
ตอนนี้ร่างกายของเขาราวกับว่าได้กลับไปเริ่มต้นใหม่ ตอนนี้เขาร่างกายของเขามิมีอาการเมื่อยล้าเหน็ดเหนื่อยให้เห็นอีกต่อไปเขาอยากเร่งรีบจับอาวุธและไปสำรวจถ้ำปริศนาเสียเดี๋ยวนี้เลย แต่มันยังมิถึงเวลาเพราะยังเช้าเกินไป
ภายในเมืองยังมองเห็นคนประปรายเสียงไม่กี่สิบคนเท่านั้นดูท่าพวกเขายังมิได้ตื่นจากภวังค์กันทุกคน หลินหยางเองก็มิได้เร่งรีบจึงมิได้ส่งเสียงดังปลุกคนของตน ปล่อยให้พวกเขานอนหลับกันต่อไปเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมมากที่สุด
เขานั่งเล่นกับเจ้าเขียวหนึ่งถึงเจ็ดลูบหัวป้อนอาหารให้แก่พวกมันที่ไร้เดียงสามิรู้เรื่องราวพวกนี้ แม้หลินหยางจะพึ่งไปต่อสู้เสี่ยงชีวิตมาแต่สำหรับพวกมันวันนี้ก็เป็นเพียงวันธรรมดาวันหนึ่งเท่านั้น พวกมันมักมานอนกองกันอยู่หน้าที่พักของหลินหยาง