เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 211-212
ตอนที่ 211 เตรียมตัว
“ฮ้าววว”
หลินหยางที่กำลังนั่งเล่นกับเจ้าเขียวทั้งเจ็ดได้ยินเสียงหาววอดจึงหันกลับไปดูต้นเสียง เป็นเหมยเหมยนั่นเองเธอตื่นขึ้นมาจากการหลับไหลแล้ว
“ตื่นแล้วหรอ” หลินหยางยิ้มกล่าว
เหมยเหมยเธอมิได้ตอบกลับอันใดเธอยังคงงัวเงียครึ่งหลับครึ่งตื่นเนื่องจากมิวานเธอเองก็ต้องอยู่ยาวจนมิได้พักผ่อนเช่นกันคอยเดินตรวจตราบนกำแพงเมืองมองหาข้าศึกอยู่ตลอดเวลาด้วยความที่เธอเป็นหัวหน้าทีมระยะไกลจึงต้องทำงานหนักไม่น้อยเมื่อเทียบกับร่างกายตัวเล็กผอมบางและยังเด็กอยู่เมื่อได้รับความกดดันเช่นนี้จึงแทบจะหมดเรี่ยวแรงเลยทีเดียว
เมื่อหลินหยางกลับมาเธอจึงรีบทานอาหารและนอนหลับฝันหวานตามหลินหยางไปติดๆ เธอเดินเข้ามาและทิ้งตัวลงนั่งชิดร่างกายของหลินหยางกอดแขนของเขาพลางใช้มือลูบไล้ไปบนร่างกายของเจ้าเขียวตรงหน้า
เมื่อหลินยหางเห็นกิริยาท่าทีของเธอเขาจึงยิ้มออกมา เธอช่างน่ารักน่าชังยิ่งนักนับว่าเป็นอาหารตาชั้นดีในยามเช้าหลังจากพักผ่อนอย่างเต็มอิ่มเลยทีเดียว
ตอนนี้พระอาทิตย์เริ่มขึ้นมาส่องแสงสว่างไสวบนท้องฟ้าปัดเป่าความมืดมิดให้หายไป พลเมืองของเขาเริ่มตื่นขึ้นจากภวังค์กันแล้วยิ่งคนตื่นขึ้นมามากเท่าใดเสียงพูดคุยของพวกเขาก็ร่วมปลุกคนอื่นที่ยังหลับสนิทให้ตื่นขึ้นมาตามกันไปติดๆ
ไม่นานเมืองที่สงบราวกับป่าช้าเมื่อวาน บัดนี้คึกคักคึกครื้นยิ่งนักมีเสียงคนพูดคุยกันจอแจดังระงมจนฟังมิได้ศัพท์
เมื่อทุกคนตื่นขึ้นกันหมดแล้วพวกเขาจึงทำความสะอาดร่างกายของตนและนั่งรวมกลุ่มกันเพื่อรับประทานอาหารอย่างพร้อมเพรียงอย่างอบอุ่น
เมื่อทานอาหารเสร็จทุกคนยังมิได้ลุกไปไหนพวกเขายังคงนั่งรวมกันอยู่เพื่อรอรับคำสั่งหน้าที่ของตนจากผู้นำ
“ทีมระยะใกล้และทีมจู่โจมจะไปสำรวจถ้ำปริศนา ทีมก่อสร้างให้ทำงานกันตามปกติ ส่วนคนที่เหลือสลับเวรยามกันคอยเฝ้าเมือง” หลินหยางกล่าว
“ครับ/ค่ะ” เมื่อสิ้นเสียงหลินหยางพวกเขาก็ตอบกลับมาอย่างพร้อมเพรียง
วันนี้มิได้กดดันดั่งเมื่อวาน เรื่องราวต่างๆเริ่มเข้าที่เข้าทางพวกเขามิต้องยกระดับการป้องกันตนเองจนกดดันอีกแล้ว ทีมก่อสร้างสามารถกลับไปทำงานสร้างที่พักต่อตามแผนกำหนดการที่ได้วางเอาไว้
ส่วนทีมระยะไกล เด็กและคนชราวันนี้พวกเขามิต้องฝึกฝนการใช้อาวุธดังเก่า เปลี่ยนมาทำหน้าเวรยามแทนเพราะตอนนี้หน่วยเวรยามของหวงฮั่นนั้นไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะเขาต้องแบ่งเวรยามเพื่อไปเฝ้าแหล่งอาหารทั้งสองที่นั่นคือโพรงกระรอก และ ถ้ำวัว
ซึ่งจะคอยสลับสับเปลี่ยนเวรกันอยู่ทุกวัน ด้วยเหตุนี้เขาจึงให้เวรยามเหล่านี้มีเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ หากพวกเขาแสดงความอ่อนล้าเหน็ดเหนื่อยให้เมืองอื่นเห็นคงตกเป็นเป้าหมาย
ส่วนแหล่งน้ำนั้นหน้าที่ในการปกปักรักษาเฝ้าปกป้องนั่นเป็นของเหล่าเอลฟ์ เนื่องจากระยะทางระหว่างเมืองหลินหยางและคลองน้ำนั้นไกลห่างกว่าสามสิบกิโล
จึงให้หน้าที่เป็นของหมู่บ้านเอลฟ์ที่ใกล้กว่าพวกเขาอยู่ห่างจากแหล่งน้ำเพียงสิบกิโลเท่านั้นตอนนี้ฝีมือของพวกเขามิได้ด้อยไปกว่าเหล่าพลทหารกองกำลังของหลินหยางแม้แต่น้อยหากเมืองใดต้องการประกาศศึกสงครามพวกมันคงต้องคิดใหม่
ตอนที่ 212 เด็ก
“พร้อมกันรึยัง” หลินหยางยืนอยู่หน้าขบวนเดินทางขณะกล่าวออกไป
“ครับ!” เหล่าชายฉกรรจ์กว่าแปดสิบคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียง พวกเขาคือทีมระยะใกล้และทีมจู่โจมนั่นเองตอนนี้พวกเขาเตรียมเสบียงอาหารฉุกเฉินและอาวุธเป็นที่เรียบร้อย
บนร่างกายของพวกเขาล้วนแบกสิ่งของที่หนักเกินกว่าน้ำหนักตัวของตนเองเสียอีก เพราะตอนนี้พวกเขานำอาวุธติดตัวไปหลายชนิดเลยทีเดียว ดาบ หอก ขวานสั้น และโล่ไม้
ส่วนอาหารที่นำติดตัวไปนั้นมีเพียงน้ำและเนื้อแห้งที่สะดวกในการรับประทานใช้เวลาในการทานรวดเร็วมิยุ่งยาก นับว่าครานี้พวกเขาเตรียมตัวกันมาเป็นอย่างดีต่างจากการเผชิญหน้ากับถ้ำมดที่เจออย่างมิทันตั้งตัวจึงมิได้ตระเตรียมสิ่งของมาอย่างพร้อมเพรียง
“ออกเดินทางได้” เมื่อทุกอย่างเตรียมพร้อมหลินหยางจึงให้สัญญาณเพื่อออกเดินทางไปทันที
ครืนนน~
ประตูเมืองขนาดใหญ่เปิดออกเพื่อปลดปล่อยเหล่าชายชาตรีผู้กระหายในการต่อสู้พวกนี้ออกไปสู่โลกภายนอก
เมื่อขบวนแถวสุดท้ายข้ามผ่านไปประตูเมืองก็ปิดตัวลงสนิทพร้อมกับเวรยามที่เพิ่มความระมัดระวังอยู่บนกำแพงเมือง แม้จะมิต้องกดดันเหมือนเมื่อวานก็ตามทีแต่เมื่อพวกเขาได้หวาดระแวงมาครั้งนึงแล้ว
พวกเขาก็มิสามารถผ่อนคลายลงได้อีกดูท่าแล้วระยะเวลาที่สั่งสมมาถึงเก้าเดือนจะทำให้ผู้คนภายในเมืองเติบโตขึ้นไม่น้อย พวกเขามิได้คิดอย่างง่ายดายดังตอนเป็นเมืองใหม่
ตอนนี้การป้องกันของเมืองหลินหยางนี้นับว่ามีประสิทธิภาพเต็ฒอัตราเลยทีเดียวผู้คนช่วยกันสอดส่องเมื่อบางคนมิมีเรื่องอันใดให้ทำพวกเขาก็จะขึ้นมาบนกำแพงเพื่อช่วยลดภาระของเหล่าเวรยามประจำจุดต่างๆทั้งสี่ทิศ
โดยเฉพาะเหล่าเด็กตัวน้อยพวกเขามิได้วิ่งเล่นดังที่เด็กวัยเดียวกันควรจะทำ แต่พวกเขากลับเข้าร่วมการฝึกฝนการต่อสู้กับครูฝึกซิ่นก้งอยู่ทุกวันและแทบจะรอการฝึกวันต่อไปไม่ไหว เพราะต้องการทำตัวให้มีประโยชน์อีกปัจจัยคือพวกเขาต้องการเข้าร่วมกับทีมระยะใกล้ของหลินหยาง
เมื่อเห็นสีหน้าที่เหล่าชายฉกรรจ์ภายในทีมระยะใกล้และทีมจู่โจมแสดงออกมา พวกเขาก็อยากเอาเยี่ยงอย่างที่สามารถคุยโม้โอ้อวดเกี่ยวกับวีรกรรมของตนและเดินได้อย่างสง่าผ่าเผย
แต่ทว่าการที่จะสามารถเข้าร่วมทีมระยะใกล้และทีมจู่โจมได้นั้นพวกเขาต้องมีความสามารถที่เพียงพอให้หลินหยางประจักษ์ เพราะหากพวกเขามีฝีมือเพียงไก่กาหลินหยางย่อมไม่อนุญาติให้พวกเขาเข้าร่วมกองทัพและออกไปสู้รบกับข้าศึกเป็นแน่
เหล่าเด็กชายที่เคยได้รับการอนุมัติจากหลินหยางให้เข้าร่วมทีมต่อสู้ แต่พวกเขาก็ยังมิแข็งแกร่งพอที่จะสามารถติดตามหลินหยางออกไปนอกเมืองได้จึงให้พวกเขาฝึกฝนกันต่อไป เป็นเรื่องน่าเสียดายยิ่งนักที่ร่างกายของพวกเขาจะมิเติบใหญ่ไปมากกว่านี้
เพียงดาบยาวก็แทบจะหนักเกินตัวพวกเขาแล้วดังนั้นหลินหยางจึงมิให้ออกไปเสี่ยงอันตรายและรอคอยให้พวกเขาฝึกปรือฝีมือให้มากพอจึงจะสามารถออกไปเก็บเกี่ยวเพิ่มระดับของตนและเน้นไปที่สถานะความเร็ว
หลินหยางตั้งใจจะสร้างเหล่าเด็กหนุ่มพวกนี้เป็นทีมใหม่ขึ้นมา
ทีมที่ใช้อาวุธเป็นมีดสั้น และใช้ร่างกายที่ยังมิโตเต็มวัยให้เป็นประโยชน์!