เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 29-30
ตอนที่ 29 หน้าที่
หลินหยางพาเหล่ามนุษย์หมาป่าทั้งยี่สิบแปดตน เดินออกเดินทางจากเมืองของพวกเขามายังคลองน้ำที่เขาต่อสู้กับกบยักษ์เพื่อแย่งชิงมา
“พวกคุณสามารถหาปลาและน้ำจากที่นี่ได้ ใช้มันเพื่อเป็นอาหาร” หลินหยางยิ้มบอก
“ว้าว” พวกมนุษย์หมาป่าตัวเล็กกระโดดลงแม่น้ำเพื่อจับปลาทันที ส่วนพวกที่โตและแก่ชราแล้ว มองเห็นแบบนั้นก็หัวเราะออกมาและก็ตามลงไปหาปลาเช่นกัน พวกเขาไม่ได้กินอะไรมาสามถึงสี่วันแล้วร่างกายซูบผอมเห็นปลาว่ายอยู่ในแม่น้ำ ชุกชุม น้ำลายพวกเขาไหลเป็นทาง
เจียวซินเห็นแบบนั้นก็หัวเราะ เนื่องจากเขาและพวกติดตามหลินหยางตั้งแต่เมื่อวาน พวกเขาจึงได้กินอิ่มก่อนจะออกไปเมืองมนุษย์หมาป่าพวกเขาก็กินอาหารเช้ากันเต็มคราบ
“พี่หยาง เพราะเจียวจ้านมันบังคับให้พวกเราส่งอาหารที่มีให้พวกมันทั้งหมด หลังจากผ่านหลังประตูทุกๆวันพวกมันจะแบ่งอาหารให้พวกเราเพียงน้อยนิด ไม่สามารถประทังความหิวได้พวกเขาเมื่อเห็นปลาอยู่ต่อหน้าเลยเร่งรีบ ตักตวง พี่อย่าถือสาเลย” เจียวซินบอกกล่าวต่อหลินหยาง
‘ขอคืนคำพูดที่ว่ามันเป็นคนดี มันนี้เลวแบบกู่ไม่กลับจริงๆ’ หลินหยางคิดพลางขมวดคิ้ว เขาพึ่งนึกชมมันไปหยกๆ
เขานั่งพักมองเหล่ามนุษย์หมาป่า เวียนว่ายอยู่ในน้ำอย่างสนุกสนาน
เมืองหลินหยาง
หลินหยางจัดแจงมอบหมายหน้าที่ให้แก่เหล่ามนุษย์หมาป่าอย่างที่มันได้ให้คำมั่นไว้ก่อนหน้านี้ แบ่งมนุษย์หมาป่าออกเป็นสี่หมู่เด็ก วัยรุ่นและวัยฉกรรจ์ คนชรามอบงานให้แก่พวกมันตามความเหมาะสม
หลังจากจัดแจงแบ่งงานจัดสรรคนเสร็จสรรพ ผลลัพธุ์ที่ได้คือมนุษย์หมาป่าวัยเยาว์ถูกส่งไปให้ซิ่นก้งฝึกอบรมณ์ ส่วนวัยหนุ่มและวัยฉกรรจ์ทั้งหมดได้เข้าบรรจุอยู่ในทีมต่อสู้ตามความประสงค์ของพวกมันเองและมนุษย์หมาป่าวัยชราไม้ใกล้ฝั่งทั้งหลายนั้น….ตอนนี้ต่างจับกลุ่มพูดคุยกันกับกลุ่มตายายกันอย่างสนุกปากตามประสา
ประชากรภายในเมืองหลินหยาง
บัดนี้ทีมระยะใกล้ที่นำโดยหลินหยางที่จำนวนอยู่ที่ยี่สิบสองราย เป็นมนุษย์สิบสองส่วนที่เหลือทั้งหมดคือมนุษย์หมาป่า
จำนวนสมาชิกทีมระยะไกลเพิ่มขึ้นมาเป็นสิบเอ็ด มนุษย์เก้าหมาป่าสอง
ส่วนทีมก่อสร้างแปลกไปสักหน่อยเพราะพวกมันเป็นมนุษย์ทั้งหมด
มนุษย์และมนุษย์หมาป่าวัยเยาว์รวมทั้งสิ้นสิบสามและทั้งหมดอยู่ในความรับผิดชอบของซิ่นก้ง
และจำนวนผู้สูงอายุของเมืองหลินหยางรวมแล้วมีหก เผ่ามนุษย์สี่และมนุษย์หมาป่าสอง
เทียนหนิงเจี้ยน เนื่องจากเขาเคยเป็นข้าราชการทำงานเพื่อบริการประชาชน หลินหยางจึงให้เขาเป็นผู้ดูแลและแจกจ่ายอาหารให้แก่ทุกคน เช้า กลางวัน เย็นและดูเหมือนเขาจะภูมิไม่น้อย เนื่องจากหลินหยางให้คนไว้ใช้สอยอีกสองคนตอนนี้เมื่อเขามารายงานผลต่อหลินหยาง เขาจะคอยพูดประจบและยกย่อง ป้อนคำหวานต่างๆนาๆไม่ต่างจากโลกที่เขาจากมา แลดูจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ
“พี่หยางที่พักน้ำสร้างเสร็จแล้วครับ” หลิวเจี่ยวหัวหน้าทีมก่อสร้างมารายงาน
“ดีมาก” หลินหยางยิ้มอย่างตื่นเต้น เนื่องจากที่ผ่านมาร่วมเดือนหากพวกเขาต้องอาบน้ำ ชำระร่างกายพวกเขาต้องไปใช้น้ำที่แม่น้ำ ซึ่งห่างจากเมืองของเขาถึงยี่สิบห้ากิโลแม้จะแบ่งคนไปหาบน้ำกลับมาก็ทำได้เพียงวันละเที่ยวเท่านั้นเพราะไม่มีที่เก็บ จึงไม่สามารถใช้น้ำที่นำกลับมาใช้สอยอย่างสิ้นเปลืองได้
ตอนนี้เมื่อมีที่พักน้ำพวกเขาสามารถเพิ่มคนเพื่อไปเอาน้ำกลับมา เติมเก็บไว้และยังสามารถตวงน้ำฝนมาใช้ได้อีกด้วย
หลินหยางมองดูมันอย่างพึงพอใจ
ตอนที่ 30 ครื้นเครง
หลังจากที่พาเหล่ามนุษย์หมาป่าเดินชมรอบๆเมือง หลินหยางให้เทียนหนิงเจี้ยนจัดเตรียมที่พักให้พวกเขา
เขาคิดว่าหากอยู่รวมกันคงจะจัดการปัญหาได้ง่ายกว่าเพราะเมืองของเขาและมนุษย์หมาป่าห่างกันกว่า 30 กิโลมันคงจะลำบากหากต้องเดินทางอยู่ตลอด
หลังจากพูดคุยสอบถามกับเจียวซินมนุษย์หมาป่าหนุ่มถึงสาเหตุของจำนวนประชากรดั้งเดิมของเมืองมนุษย์หมาป่าที่ขาดไปกว่าหกรายด้วยกัน หลินหยางก็ได้ข้อสรุปจากข้อสงสัย วันแรกข้ามผ่านประตูสวรรค์มนุษย์หมาป่าสองรายได้เสียชีวิตลงด้วยโทสะของเทพเจ้าหมาป่าสาวที่พวกมันบังอาจไปท้าทาย
ส่วนอีกสี่ตนที่เสียชีวิตไปสาเหตุก็มาจากถูกสัตว์ประหลาดบุกเข้าโจมตีเมือง
‘เดี๋ยวก่อน เทพหมาป่า? ไม่ใช่ว่าผู้ที่อ้างตัวเป็นเทพคือชายชราคนนั้นหรอกรึ?’ หลินหยางครุ่นคิด
“พี่หยาง มีอะไรหรือป่าว” เจียวซินกล่าวหลังจากเห็นหลินหยางตกอยู่ในภวังค์
“ไม่มีอะไรหรอก นายไปเถอะ” หลินหยางตอบ
‘หรือเทพมิได้มีองค์เดียว?’ ชายหนุ่มคิด ทว่าใครเล่าจะให้คำตอบแก่มันได้ ไม่นานนักหลินหยางก็เลิกสนใจไปเอง
“ท่านหลินหยาง” ตอนนั้นเองก็มีเอลฟ์หนุ่มใบหน้าเปื้อนยิ้มเดินเข้ามาหาเขา ลี่จู นั่นเอง
“ว่าไงลี่จู มีอะไรหรอ” หลินหยางยิ้มตอบ
“พวกเราเอาของมาฝาก” ลี่จูตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม จากนั้นก็มีเอลฟ์ลากเกวียนเข้ามาหาเขาบนเกวียนมีถังอยู่ 2 ถังหลินหยางจึงได้เข้าไปดู
“นี่มันเหล้านี่” หลังจากได้กลิ่นเขาอุทานออกมา เขาไม่คิดว่าหลังจากมาที่โลกแห่งนี้จะได้เห็นเหล้าอีก โลกที่จากมาตอนกลางคืนเขาต้องไปทำงานที่คลับแห่งหนึ่งเสริพอาหารและสุราให้ลูกค้าดื่มกินจนเมามายทุกวัน บางคราก็ต้องดื่มเช่นกันเนื่องจากความประสงค์ของลูกค้าบางคน จากงานที่ทำทั้งหมดงานนี้ได้เงินดีที่สุดเขาจึงไม่ปฏิเสธ
“ใช่ พวกเราใช้น้ำจากแม้น้ำและหมักกับขนของเหยี่ยวมรกตซึ่งผลออกมาดีกว่าที่คิดไว้เสียอีก” เอลฟ์ลี่จูพูดด้วยใบหน้าภูมิใจ พวกเขาชำนาญในการผลิตสุราอย่างมาก แต่เพรากระนั้นเองเหล่าคนแคระที่เป็นศัตรูคู่อาฆาตที่ชื่นชอบสุราจึงต้องการสูตรและนำไปสู้การสู้รบและสูญเสีย
หลังจากเปิดถังเหล้าก็ส่งกลิ่นหอมละมุนตลบอบอวลไปทั่วทั้งเมืองฝูงชนจึงเข้ามารุมล้อม
“กลิ่นหอมจริงๆ เหล่านี้พวกเราดื่มได้ไหม” พลเมืองถามต่อเอลฟ์
“ได้สิ พวกเรายังมีอีกเยอะเลย ฮ่าๆ” ลี่จู หลังจากเห็นปฏิกิริยาเช่นนั้นจึงยิ้มไม่หุบ
หลินหยางเห็นดังนั้นจึงให้เทียนหนิงเจี้ยนแจกจ่ายให้กับทุกคน
หลินหยางเองก็ร่วมดื่มด้วยเช่นกันเขาคอแข็งไม่น้อยเนื่องจากต้องดื่มอยู่ทุกวัน
บรรยากาศภายในเมืองเป็นไปด้วยความครื้นเครงบางคนเคาะเสียง บ้างก็ร้องรำ ช่างเป็นภาพที่อบอุ่นจริงๆเป็นแบบนี้ต่อไปจนดึกดื่นและเหล้าทั้งสองถังก็หมดลง พวกมันจึงแยกย้ายกันไปพักผ่อนนอนหลับในที่พักขนาดใหญ่ที่พึ่งจะถูกสร้างขึ้นโดยน้ำมือของทีมก่อสร้าง เป็นที่พักที่สร้างขึ้นเฉพาะกิจเป็นพื้นที่ใช้สอยส่วนรวม
รุ่งเช้าหลินหยางออกมาส่งเอลฟ์ที่หน้าประตูเมือง เพราะเอลฟ์เองก็ดื่มกินจนเมามายคอพับหลับ ณ ที่เมืองของเขา
หลังจากมองดูเอลฟ์เดินหายไปจากสายตา เขากำลังจะหันตัวกลับเข้าเมืองก็มีเสียงใสน่าฟังดังขึ้น
‘ขณะนี้ราชสีห์ตาเดียวระดับ 5 กำลังมุ่งหน้ามาที่เมืองของท่าน ราชสีห์ตาเดียวจำนวน 30 ตัวจะมาถึงในอีก 3 ชั่วโมง เตรียมตัวป้องกันเมืองไว้ให้ดี’