เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 299-300
ตอนที่ 299 หนอนดิน(ตอนสี่)
ด้วยการควบคุมจากหลิวเจี่ยผู้นำทีมก่อสร้าง พวกเขาล้วนแต่ใช้เวลาว่างเว้นในการฝึกซ้อมเพิ่มความชำนาญในการใช้เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆจนคุ้นชิ้น ในระยะใกล้เพียงห้าสิบเมตรนี้มีหรือจะพลาดเป้าไปได้
ส่วนการโจมตีจากทีมระยะไกลนั้นก็เพื่อให้หนอนปีศาจเหล่านี้เปิดเผยตัวตนขึ้นมาจากสถานที่หลบซ่อนตัวนั่นเอง เพื่อเพิ่มโอกาศในการปลิดชีวิตพวกมันด้วยรถยิงธนูในคราเดียว!
“เตรียมตัวปะทะ” หลินหยางตะโกน เมื่อเห็นว่าแนวหญ้าบนพื้นที่ยกสูงขึ้นนั้นใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว เขาเกร็งแขนที่ถือโล่เอาไว้แน่นเพื่อเตรียมรับแรงกระแทกจากศัตรู
พลทหารทั้งหลายมิรอช้ากระชับโล่ในมือเกร็งลำแขนยึดกุมแน่น
ตู้มม~
“เหวอ” พลโล่คนหนึ่งส่งเสียงออกมาอย่างตื่นตกใจ มันอยู่ในแนวป้องกันทางด้านขวา โล่ของมันที่ปักลงบนพื้นนั้นลึกพอที่จะสามารถต้านทานการโจมตีที่รุนแรงได้โดยไม่ทำให้ตัวผู้ถือถูกแรงปะทะจนล่าถอยได้
ทว่าจู่ๆก็มีบางอย่างเข้าชนกับโล่โลหะส่วนล่างของมันที่ปักลึกอยู่ในพื้น ความรุนแรงนั้นเกือบทำให้มันถลาล้มไปด้านหน้าจากแรงกระแทก โชคดีที่มันสามารถยึดเหนี่ยวทรงตัวเอาไว้ได้ทัน
ครืนน~
ยังไม่ทันได้ที่เสียงตกใจของมันจะสิ้นไป พื้นดินตรงหน้าโล่โลหะใบนั้นค่อยๆแยกออกและแล้วหนอนดินตัวหนึ่งก็โผล่หัวออกมาจากพื้นยืดตัวขึ้นสูงจนโผล่พ้นแนวป้องกัน
“เม่น” หลินหยางใช้สัญญาณทันทีที่เห็นว่าแนวป้องกันถูกประชิดแล้ว
พรึ่บ~
พลทหารทั้งหมดหลังแนวโล่ป้องกันนำหอกคู่กายของตนเองวางพาดไว้บนโล่ตรงหน้าของตนเองยื่นออกไปภายนอกกว่าครึ่งด้าม ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดคล้ายกับเม่นตามคำกล่าวของหลินหยางไม่มีผิด มีหอกยื่นออกมาพาดไว้ทั้งแนวนอน บน ล่าง
หนอนดินตัวนั้นมันพ้นผ่านแนวโล่ยืดตัวขึ้นสูงขึ้นกว่าสองเมตรพร้อมกับโง้มส่วนหัวของมันจ้องมองลงมายังมนุษย์ตรงหน้าที่พึ่งสกัดเส้นทางของมันเมื่อครู่ มันสูงกว่าคนเล็กน้อย คล้ายกับกำลังใช้ขนาดตัวข่มขู่ชายตรงหน้า
ฉึกก!
ชายคนนั้นจ้องมองไม่หลบตา เมื่อเห็นว่ามันยังคงหยุดนิ่งไม่ขยับตัวเขาจิ่มแทงหอกออกไปหนึ่งทีและดึงกลับอย่างรวดเร็ว
ค๊ากก~
หนอนดินตัวดังกล่าวกรีดร้องเสียงทุ้มแสดงออกถึงความตกใจและเจ็บปวด มันถดหัวกลับเจาะพื้นดินมุดหายไปไร้ร่องรอย!
“โจมตี” หลินหยางตะโกนเสียงดังเพื่อกระตุ้นทีมก่อสร้างและทีมระยะไกล เพื่อเร่งรีบปิดบัญชีพวกหนอนเหล่านี้เสีย
ยิ่งใช้เวลานานมากเท่านั้นทีมระยะใกล้ยิ่งเหน็ดเหนื่อยกดดันมากเท่านั้น เนื่องจากออกแรงใช้กำลังต่อต้านฝูงหนอนดินหลายสิบตัวที่ผลุบๆโผล่ๆขึ้นมาโจมตีโดยไม่ให้ซุ่มให้เสียง ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงต้องเกร็งกำลังยึดกุมโล่อยู่ตลอดเวลาไม่ผ่อนคลาย
ตอนนี้ผืนหญ้าบริเวณหน้าเมืองหลินหยางนั้นเต็มไปด้วยห่าฝนธนูและมีหอกหลายเล่มปักลึกอยู่บนพื้นดิน พร้อมกับมีสัตว์ประหลาดลำตัวอ้วนยาวคืบคลานยั้วเยี้ยไปมาไม่หยุด บ้างก็มุดดินเคลื่อนที่ไปมา บางตัวใช้ลำตัวโถมโจมตีเข้าใส่แนวป้องกัน บางตัวตวัดหางฟาดเข้าใส่โล่เหล็กไม่ลดละ
ตอนที่ 300 หนอนดิน(ตอนห้า)
ค๊าก~
ตูมม~
‘ฮึ่ม’ หลินหยางส่งเสียงในลำคอพร้อมกับเกร็งโล่ในมือแน่น
ป้องกันการโจมตีจากหนอนดินตัวหนึ่งที่ใช้หางของมันฟาดเข้าใส่โล่ของเขา แต่ทว่าหนอนดินตัวนั้นก็ถูกหอกที่วางพาดอยู่แทงเข้าใส่มันเช่นกัน
กระนั้นหากเทียบกับขนาดตัวของมันก็มิใช่บาดแผลร้ายแรงอันใด เมื่อได้รับบาดเจ็บหนอนดินทั้งหลายขุดมุดตัวหลบซ่อนใต้ดินและโผล่ขึ้นมาโจมตีอย่างต่อเนื่อง
ในพื้นที่โล่งเช่นนี้หนอนปีศาจทั้งหลายใช้พื้นดินได้อย่างเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง พวกมันสามารถมุดลงดินเพื่อหลบซ่อนทำให้พวกเขามิสามารถโจมตีได้อย่างถนัด
ผืนดินนี้เองก็คล้ายกับเป็นเกาะป้องกันให้แก่พวกมัน สามารถลดทอนการโจมตีจากลูกธนูได้ส่วนหนึ่งด้วย มิทำให้ปักลึกลงบนร่างกายของพวกมันแต่อย่างใด
ตูม~
ตู้มม~
ฟิ้ว~
ฟุ่บบ~
ตอนนี้แนวป้องกันทั้งห้าสิบชีวิตกำลังยื้อกำลังกับหนอนดินไม่หยุด พวกมันยิ่งมีบาดแผลยิ่งดุร้ายมากขึ้น
ส่วนทีมระยะไกลและทีมก่อสร้างเองก็โจมตีพวกมันอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ตอนนี้พวกเขาปลิดชีวิตหนอนดินเหล่านี้ไปได้ราวสิบกว่าตัวเท่านั้นมิได้มากมายอันใดเลยหากเทียบกับจำนวนที่เหลืออยู่กว่าหกสิบตัว
เคล้งง~
“หึ่ย” มนุษย์หมาป่าตนหนึ่งผู้สังกัดอยู่ในทีมระยะประชิด มันถูกหนอนดินโจมตีเข้าใส่โล่โลหะที่จมลึกอยู่ข้างใต้ทำให้มันเสียการทรงตัวจนเกือบล้ม ในแนวป้องกันทั้งห้าสิบชีวิตนั้นมีสมาชิกทีมเป็นมนุษย์หมาป่าถึงสิบตน
พวกเขาทั้งสิบตนนั้นล้วนแต่เสียเปรียบในเรื่องพละกำลังอย่างยิ่งเนื่องจากเน้นสถานะส่วนใหญ่ไปที่ความเร็ว
เมื่อถูกหนอนดินโจมตีเข้าใส่พวกเขาแทบจะไม่สามารถทรงตัวยึดมั่นเอาไว้ได้ หนึ่งในนั้นก็คือหลินหยางด้วยเช่นกัน
แต่ทว่าหลินหยางนั้นได้เพิ่มสถานะส่วนหนึ่งไปที่พลังป้องกันจึงทำให้เขามีพละกำลังพอจะสามารถต้านทานการโจมตีได้ส่วนหนึ่ง จึงไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่นัก
“ใช้ทักษะหลอมไฟ” หลินหยางตะโกน
สิ้นเสียงคำสั่ง
เหล่าพลทหารที่ครอบครองทักษะหลอมไฟเอาไว้กับตนใช้ทักษะตามคำบัญชาทันที โดยส่งพลังงานความร้อนไปที่โล่โลหะภายในมือของตนที่ยึดถืออยู่นั่นเอง ในทีมระยะใกล้มีผู้ถือครองทักษะหลอมไฟมากกว่าสิบคนเสียอีก
ยิ่งกว่านั้นทักษะหลอมไฟทั้งหมดได้รับการเพิ่มระดับขึ้นเป็นระดับสองและสามกันทั้งสิ้น จากการเพิ่มระดับตนเองและได้แต้มทักษะนำมาเลื่อนขั้นตั้งแต่ขั้นหนึ่งจนถึงขั้นที่สิบนั่นเอง
รวมถึงแต้มทักษะพิเศษที่จะได้รับทุกๆสิบระดับของผู้ถือ สามารถใช้เพิ่มระดับทักษะได้โดยตรง ในเมื่อพวกเขาเหล่านี้มีเพียงทักษะเดียวคือทักษะหลอมไฟ จึงมิต้องเหลือเว้นว่างไว้เพิ่มลงไปในทักษะดังกล่าวโดยไม่ต้องคิด
สมาชิกทีมที่มีทักษะหลอมไฟทั้งหมดได้แทรกตัวอยู่ในระหว่างแนวโล่ป้องกันเว้นช่วงราวสองถึงสามคนจึงจะมีผู้ถือครองทักษะหลอมไฟซักหนึ่งคน เพื่อกระจายเฉลี่ยกันให้ทั่วถึง
โล่โลหะภายในมือพวกเขาจากเดิมทีมันวาวสีเงินสดใสเริ่มเปลี่ยนไปมีสีขุ่นมัวขึ้นที่ละน้อยเริ่มแดงขึ้นทีละนิด คล้ายกับเหล็กที่ถูกย่างไฟจนร้อน หากเอาหงายโล่ใบนั้นขึ้นและเอาอาหารใส่ภายใน มันก็คงไม่ต่างจากกะทะดีๆนี่เอง..