เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 365-366
ตอนที่ 365 อายุขัย(ตอนต้น)
ฝูงชนกลุ่มใหม่ยืนเรียงแถวเป็นระเบียบอยู่ต่อหน้าหลินหยาง
“แนะนำตัวกันที่ละคนบอกชื่อของตน ความสามารถพิเศษ ระดับและทักษะที่ครอบครอง” หลินหยางยืนอยู่หน้าแถวของเผ่ากึ่งมนุษย์ทั้งสอง รวมถึงชายอีกสองคนผู้เหลือรอดจากความตายและติดสอยห้อยตามมานั่นเอง
“หลังจากแนะนำตัวเองเสร็จแล้วให้ไปลงทะเบียนกับเทียนหนิงเจี้ยนบอกเล่าเรื่องเกี่ยวกับตนเองให้เขาฟัง เขาจะจัดหางานที่เหมาะสมกับพวกคุณทุกคน” เขากล่าวพลางชี้ไปยังชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ พร้อมกับโต๊ะขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้าของมัน
บนโต๊ะนั้นมีหนังสัตว์ตากแห้งวางเรียงเป็นแผ่นๆ ในแต่ละแผ่นมิเท่ากันหนังสัตว์แต่ละแผ่นนั้นมีตัวอักษรที่เขียนขึ้นมาด้วยเลือดเรียงยาวเป็นแถว มิผิดมันถูกเขียนด้วยเลือดจริงๆ
มันคือเลือดจากเจ้าวัวตัวใหญ่นั่นเอง หลังจากพวกเขาปลิดชีวิตวัวเพื่อนำมาทำอาหาร เลือดของพวกมันก็นำมาใช้ประโยชน์ต่อได้อีกหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือนำเลือดมาทดแทนน้ำหมึกที่มิสามารถผลิตได้นั่นเอง
ชายคนนั้นก็คือเทียนหนิงเจี้ยนผู้มีหน้าที่บริการประชาชนและควบหน้าที่เลขาของหลินหยางไปโดยปริยาย
บัดนี้มันนั่งยืดตัวตรงเชิดใบหน้าราวกับว่ากำลังภูมิใจอยู่อย่างไงอย่างงั้น ดูท่านิสัยชอบโอ้อวดเบ่งอำนาจของมันคงมิสามารถเปลี่ยนกันได้ง่ายๆ…
แม้จะเป็นเช่นนั้นหลินหยางก็มิได้ก้าวก่ายห้ามปรามอันใด เพราะมันก็ทำงานอย่างหนักเพื่อทุกคนภายในเมืองให้อยู่สบายมิเดือดร้อน แถมมันก็มิเคยทำเรื่องที่เลวร้ายอะไรเลย
เขาถือว่านี่เป็นความสุขเล็กๆของมันที่คอยมิทำให้มันเป็นบ้าประสาทเสียไปซะก่อนในโลกที่วิปริตวิปลาสชวนให้สิ้นหวังนี้
ด้านหลังของเทียนหนิงเจี้ยนนั้นมีชายสองคนยืนเคียงข้าง
พวกเขาคือผู้ช่วยที่ได้รับการคัดเลือกมาเพื่อแบ่งเบาภาระของตัวมันเอง พวกเขาถูกคัดเลือกมาจากงานที่ทำก่อนจะข้ามผ่านประตูมา พวกเขาล้วนเป็นเจ้าหน้าที่คอยให้ความสะดวกสบายบริการประชาชน
เหตุผลที่พวกมันเข้าประตูสวรรค์มานั้นมิมีใครทราบ หลินหยางเองก็มิได้ถามไถ่เช่นกันหากพวกเขาต้องการเปิดเผยสมควรบอกกล่าวด้วยตนเอง
มีหลายคนที่มิอยากพูดถึงเหตุผลของตน ทุกคนล้วนมีมุมมืดภายในจิตใจที่มิอยากให้ใครรู้ รวมทั้งหลินหยางเอง
“ข้าคืออดีตผู้นำเผ่ามนุษย์กิ้งก่า นามของข้าคือ จางเฉิน จนถึงตอนนี้ข้ามีอายุขัยเจ็ดสิบสามปี ความสามารถพิเศษคือการใช้หอกในการโจมตีทั้งระยะใกล้และไกล” ผู้นำมนุษย์กิ้งก่ากล่าวแนะนำตัวคนแรก
บัดนี้มันเปลี่ยนสรรพนามคำนำหน้าของมันเป็นที่เรียบร้อยแต่เดิมมันมักประกาศตนว่าเป็นผู้นำแต่บัดนี้มันกล่าวขานเรียกนามตนเป็นอดีตผู้นำ
มันมองไปยังคนรอบๆด้วยความตื่นตาตื่นใจ
เมืองของพวกมันที่ตกลงทำพันธมิตรกันทั้งสามเมืองนั้นมีสมาชิกรวมหนึ่งร้อยห้าสิบคน แต่ตอนนี้ภายในเมืองหลินหยางนั้นกลับมีมากกว่าพวกมันถึงสองเท่า
โชคดีที่พวกมันมิเหิมเกริมแข็งข้อต่อต้าน ยิ่งมันเข้าร่วมกับเมืองแห่งนี้โอกาศรอดของมันและเผ่าพันธุ์ย่อมมีมากขึ้น นับว่ามันเลือกไม่ผิดเลยทีเดียว
หลินหยางยิ้มชื่นชม
มันกล้าแสดงออกไม่น้อย เขากำลังต้องการคนที่ออกมาแนะนำตนเองเป็นคนแรกเพื่อเปิดทางให้คนอื่นๆอยู่
“ห๊ะ อายุเจ็ดสิบสามปี!?” หลินหยางอุทานออกมา
ตอนที่ 366 อายุขัย(ตอนปลาย)
&^@#@
เกิดเสียงฮือฮาขึ้นมาทันทีหลังจากมนุษย์กิ้งก่าป่าวประกาศอายุขัยของตน เสียงส่วนใหญ่มาจากเผ่ามนุษย์ทั้งสิ้นพวกเขาล้วนแปลกใจมิต่างกับหลินหยาง
“ใช่แล้วพี่หยาง ข้ามีอายุขัยเจ็ดสิบสามปี อีกครึ่งปีข้าก็จะมีอายุเจ็ดสิบสี่ พี่หยางมีอะไรหรือเปล่า” ผู้นำเผ่ากึ่งมนุษย์กิ้งก่ากล่าวอธิบายด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเป็นมิตรผสมปนเปไปด้วยความสับสน
มันมิเข้าใจเหตุใดหลินหยางจึงเอ่ยเลขจำนวนอายุของมันขึ้นมา
“ม-ไม่มีอะไร คนต่อไป” หลินหยางกล่าวตะกุกตะกัก
มนุษยย์กิ้งก่าหนุ่มตรงหน้าเขานี้ดูไปแล้วเดิมทีเขาคิดว่าคงอายุคงมากกว่ายี่สิบห้าแต่มิเกินสามสิบ ทว่าเมื่อได้รับรู้อายุอานามที่แท้จริงของมันทำให้เขาตกใจมิได้
‘เจ้านี้มันอายุเยอะกว่าตาและยายผมซะอีก…’ เขาคิด
“ผ-ผมชื่อเจียวเป่า ผ-มพึ่งได้รับการแต่งตั้งจากพี่หยางให้เป็นผู้นำเมืองมนุษย์หมาป่า ค-ความสามารถพิเศษคือความคล่องตัว อายุสิบเก้าปีครับ” เจียวเป่ามนุษย์หมาป่ามันกล่าวด้วยความลุกลี้ลุกลน ดูแล้วมันคงจะตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย
‘เฮ้อ’ หลินหยางถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก
เขาคิดว่ามนุษย์หมาป่าอาจจะมีรูปลักษณ์ภายนอกผิดกับอายุจริงเสียอีก
โชคดีที่มิได้เป็นดังที่คิดมิฉะนั้นเขาคงทำตัวไม่ถูกเป็นแน่
มนุษย์หมาป่าในทีมระยะใกล้และไกลนั้นล้วนอยู่กับเขามาอย่างเนิ่นนานผ่านการต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่นับไม่ถ้วนแต่เขาก็มิเคยได้ถามอายุอานามของพวกเขา เพราะคิดว่ามันคงมิสำคัญอันใด
เด็กตัวน้อยจากเผ่ากึ่งมนุษย์ทั้งสองวิ่งเล่นกันอย่างซุกซน ดูท่าพวกเขาจะพอใจกับเมืองใหม่แห่งนี้ไม่ใช่น้อยเพราะได้พบเจอกับเพื่อนใหม่ต่างเผ่าพันธุ์ ทำให้วันเวลานั้นมิได้น่าเบื่ออีกต่อไป
“ว้าวว” เด็กเผ่ามนุษย์กิ้งก่าตนนึงตัวมันมีอายุราวเจ็ดถึงแปดขวบเท่านั้นไร้ความรอบรู้อยู่ในช่วงวัยกำลังโต มันร้องออกมาด้วยเสียงตื่นเต้นดีใจหลังจากพบเห็นสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่ยืนเคียงข้างอยู่กับผู้กุมอำนาจสูงสุดหลินหยาง
มนุษย์กิ้งก่าตัวน้อยมิรอช้ารีบวิ่งออกจากแถวเข้าไปหาสิ่งนั้นทันที เมื่อเข้าใกล้มากพอมนุษย์กิ้งก่าตัวน้อยเอื้อมมือหมายจะจับต้องสิ่งมีชีวิตประหลาดนั้นที่ตัวมันมิเคยพบเห็น
ตุบบ~
จู่ๆสิ่งมีชีวิตตัวนั้นกลับกระพรือปีกยักษ์ตบเข้าใส่ศรีษะของกิ้งก่าตัวน้อยจนล้มฟุบหน้าทิ่มพื้น
“ฮ-ฮึก…แง๊” กิ้งก่าตัวน้อยตะเบ็งเสียงร้องไห้จนกรบเสียงคนอื่นๆไปเสียหมด
พั่บๆ~
สิ่งมีชีวิตตัวนั้นกระพรือปีกราวกับว่าประกาศชัยชนะพลางปลายสายตามองกิ้งก่าตัวน้อยอย่างดูถูกดูแคลนและเลิกสนใจในที่สุดมันกลับมาเชิดหน้าไม่แยแสกิ้งก่าตัวน้อยที่ร้องไห้งอแงเลยแม้แต่น้อย
มันคือเจ้าเขียวเหยี่ยวมรกตนั่นเอง มันเป็นน้องเล็กของกลุ่มเขียว เจ้าเขียวเจ็ดเพศเมียเพียงตนเดียว
พวกมันทั้งเจ็ดคลอเคลียอยู่ข้างกายหลินหยางเบียดเสียดตัวกันเป็นก้อนกลม
หลังจากเห็นคนแปลกหน้าตัวน้อยวิ่งเข้าใกล้เจ้าเขียวเจ็ดมิรีรอใช้ปีกขนาดใหญ่ของตนตบใส่
เนื่องจากมันมิคุ้นเคยกับกิ้งก่าตัวน้อยตนนี้ สำหรับผู้คนที่มาใหม่เหล่านี้ก็ไม่ต่างจากคนแปลกหน้า
“…” หลินหยางยืนเงียบเมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น