เทพอสูรสยบโลกา - ตอนที่ 373-374
ตอนที่ 373 เสียสละ
หลังจากสอบถามหาเรื่องราวได้ความว่า ฉางเปาและพวกมันออกลาดตระเวนรอบๆเมืองตามคำแนะนำของหลินหยาง
พวกมันใช้เวลาทั้งวันในการเสาะหาแหล่งอาหารอย่างเอาเป็นเอาตายในที่สุดพวกเขาก็พบเข้ากับมอนสเตอร์ตัวยักษ์ที่มิขยับเขยื้อนเคลื่อนที่ไปจากจุดเดิมมันคือออร์ค
ด้วยประสบการณ์ของฉางเปามันจึงสันนิษฐานว่ามอนสเตอร์ตนนี้มันอาจจะปกปักษ์รักษาเฝ้าแหล่งอาหารอยู่
พวกเขาแอบมองมันอยู่ไกลๆรอคอยเวลาไม่นานก็มีไก่ตัวยักษ์โผล่ออกมาจากพื้น ไม่นานฝูงไก่ก็กรูกันออกมาเป็นขบวนและตกลงเป็นอาหารของออร์คตัวใหญ่ทันที
เป็นดังคาดมันคือแหล่งอาหารที่พวกเขาเฝ้าถวิลหา เมื่อทราบเช่นนั้นพวกมันระดมคนมาทั้งเมืองไม่เว้นแม้แต่เด็กหรือคนชราเพื่อร่วมแรงกำหราบมอนสเตอร์ตัวยักษ์นั้นเสีย และสุดท้ายแหล่งอาหารก็ตกอยู่กำมือของพวกมันในที่สุด
“ไม่เลว” หลินหยางกล่าวชื่นชม
เมืองของมันมีเพียงกลุ่มของฉางเปาเท่านั้นที่มีระดับสูง คนอื่นๆภายในเมืองล้วนแล้วแต่มีระดับต่ำ เขาจึงแปลกใจไม่น้อยที่พวกมันสามารถยึดครองแหล่งอาหารได้โดยมิต้องขอกำลังเสริมหรือความช่วยเหลือจากเมืองของเขา
“แล้วมีใครได้รับบาดเจ็บบ้างไหม” หลินหยางกล่าวถามตามประสาแสดงความเป็นห่วง
“ไม่มีครับ” ฉางเปากล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มภูมิใจ
“เยี่ยม! บอกวิธีการที่พวกนายใช้จัดการเจ้าออร์คตนนั้นให้ทีสิ” หลินหยางกล่าวอย่างตื่นเต้น
เขาอยากทราบวิธีที่ฉางเปาและพวกใช้ในการปลิดชีวิตออร์คตัวยักษ์ไปได้โดยไร้ผู้บาดเจ็บเช่นนี้
การต่อสู้แย่งชิงโพรงกระรอกมาจากเงื้อมมือของออร์คเมื่อคราก่อนยังเป็นบาปฝังใจของเขาอยู่เรื่อยมา เพราะความประมาทของเขานั้นทำให้มีพลทหารตกตายลงไปถึงสามนายเลยทีเดียว หากเขามีวิธีที่สามารถจัดการกับออร์คตัวใหญ่ได้โดยปลอดภัยมีหรือเขาจะไม่สนใจ
“พวกผมเข้าไปโจมตีมันในทุกทิศทางเลยครับ” ชายคนหนึ่งผู้จับไก่ยักษ์ไว้ในมือมันกล่าวออกมาด้วยความภาคภูมิใจ
“ห๊ะ? แล้วทำไมพวกเจ้าไม่เป็นอะไรเลยล่ะ” เวรยามผู้มาปลุกหลินหยางกล่าวถามด้วยความสงสัย
มันครั้งนึงเคยรวมตัวจัดการกับออร์คผู้เฝ้าโพรงกระรอกมาแล้วหนึ่งครา และครานั้นพวกมันพ่ายแพ้ยับเยินมีผู้เสียชีวิตตกตายไปหลายสิบคน จนกระทั่งออร์คตนนั้นถูกหลินหยางปราบลงในที่สุด
“นั่นต้องขอบคุณผู้เสียสละที่พลีชีพเปิดโอกาศให้พวกข้าได้เข้าไปโจมตีปลิดชีวิตพวกมันได้” ฉางเปากล่าวพลางยืดอก
“เสียสละ? เอ่อ..สรุปแล้วเมืองของพวกนายมีคนตายไปกี่คน” หลินหยางเปลี่ยนคำถามทันที ดูท่าเขาจะพลาดบางอย่างไปเสียแล้ว
“แปดนายครับ” ชายผู้ถือไก่มันกล่าวออกมาด้วยเสียงหนักแน่น คล้ายกับว่าเป็นการเชิดชูผู้เสียชีวิต
“…” เขาแทบจะหมดคำพูดเลยทีเดียว ประสบการณ์ที่เคยพบเจอมาของฉางเปานั้นมิได้ทำให้มันมีความนึกคิดขึ้นมาได้เลย..
“นำศพพวกเขาฝังไว้ภายในกำแพงเมืองพร้อมกับป้ายชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่พวกเขา หากสามารถกลับไปได้พวกนายควรช่วยเหลือครอบครัวของพวกเขา บอกเล่าวีรกรรมความกล้าหาญให้ครอบครัวเขาฟัง” หลินหยางกล่าวอย่างจนใจ
ถึงอย่างใดคนก็ตายไปแล้วสิ่งที่เขาทำได้ก็คงมีเพียงเท่านี้ ดูท่าเขาต้องให้ฉางเปามันมาเรียนรู้งานฝึกปัญญากับเทียนหนิงเจี้ยนซักช่วงใหญ่เลยทีเดียว…
ตอนที่ 374 แหล่งอาหาร
“แล้วจะทำยังไงกับศพที่เละไม่เหลือร่างให้เก็บกู้แล้วครับ” ฉางเปากล่าวด้วยใบหน้ามิรู้ร้อนรู้หนาวราวกับว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องปกติธรรมดามิแปลกใหม่สำหรับมัน
“…” หลินหยางหมดคำพูดกับมันทันที
สงสัยต้องเปลี่ยนความคิดของมันเสียหน่อยแล้ว
แม้มันจะเคยผ่านสมรภูมิมาอย่างโชกโชนอยู่มาอย่างยาวนานจนกระทั่งสูญเสียเมืองที่พึ่งพิงไป
ความคิดของมันคงจะเปลี่ยนแปรไปตามกาลเวลา การตายอย่างสยดสยองจนร่างเละเทะของพวกพ้องนั้นมิทำให้มันหวาดกลัววิตกกังวลอีกต่อไป
บางทีมันอาจจะคิดว่าเป็นการปลดปล่อยพวกเขาให้หลุดพ้นจากโลกที่แสนโหดร้ายแห่งนี้เสียยังดีกว่าต้องมาดิ้นรนเอาชีวิตรอดอาหารประทังชีวิตไปในแต่ละวันเช่นนี้
“เอาเถอะ เรามาคุยเรื่องแหล่งอาหารกันดีกว่า” หลินหยางเปลี่ยนบทสนทนาทันที
ถึงอย่างใดคนของฉางเปาก็ย่อมเป็นคนของฉางเปา เขามิมีสิทธิ์เข้าไปยุ่งก้าวก่ายอันใดแก่มัน
ถึงตอนนี้มันจะเป็นเมืองขึ้นให้แก่เขา แต่หลินหยางก็มิได้ทำเรื่องโหดร้ายหรือใช้งานมันอันใดเลย เขายังแบ่งปันอาหารและน้ำให้พวกมันอยู่ทุกวัน พวกเขาเหมือนพันธมิตรที่มีผลประโยชน์ร่วมกันเสียมากกว่า
หลินหยางลองจับไก่ตัวยักษ์ชั่งน้ำหนักมันด้วยมือของตน
น้ำหนักของไก่ตัวนี้มิต่างจากกระรอกตัวอ้วนจากแหล่งอาหารของพวกเขา หากพูดให้ถูกคือมันมีน้ำหนักเท่ากันเสียมากกว่า นั่นคือสัตว์ทั้งสองชนิดนั้นมีน้ำหนักตัวอยู่ราวสิบกิโลมิมากมิน้อยเกินไปกว่านี้ ถ้าอย่างนั้น…
“มันออกมาทุกหนึ่งชั่วโมง ครั้งละสิบตัวใช่ไหม?” หลินหยางถามเพื่อยืนยันความคิดของตน
“ใช่แล้วพี่หยาง” ฉางเปากล่าว
หลินหยางยิ้มรื่น
ในหนึ่งวันนั้นจะมีสัตว์ออกมาจำนวนสองร้อยสี่สิบตัว น้ำหนักของมันคือสองพันสี่ร้อยกิโล
เมื่อหักส่วนที่มิสามารถทานได้อย่างกระดูกของมันไปเสียซึ่งมิได้มากมายอันใด ภายในเมืองของเขาทุกคนล้วนได้อาหารเป็นเนื้อสัตว์หรือปลาจำนวนหนึ่งกิโลกรั่มต่อหนึ่งมื้อนั่นคือการแบ่งอาหารสำหรับผู้ที่มิได้ทำงานหนักอันใด
ส่วนใหญ่คือเหล่าคนชราและผู้ที่ร่างกายไม่เหมาะสมสำหรับการทำงานหนักซึ่งส่วนใหญ่พวกเขามิมีใครทานทั้งหนึ่งกิโลเข้าไปหมด
จะมีเพียงแต่ทีมระยะใกล้ทีมจู่โจมหรือทีมก่อสร้าง พวกเขาเหล่านี้จะทานอาหารมากเป็นพิเศษซึ่งไม่มีข้อจำกัดในการทานของพวกเขา เรียกได้ว่ากินกันเต็มที่เลยทีเดียว
เนื่องจากพวกเขาต้องใช้แรงกาย แรงใจในการทำงานในแต่ละวัน จึงต้องเติมเต็มกระเพาะอาหารของตนให้เต็มอยู่เสมอเพื่อทดแทนพละกำลังที่เสียไป
ส่วนเด็กนั้นจะได้รับอาหารมื้อละครึ่งกิโลกรัมซึ่งก็มากพอสำหรับปริมาณปกติ
เพียงแค่แหล่งอาหารอย่างโพรงกระรอกนั้นก็เพียงพอจะสามารถเลี้ยงคนของเขาได้ทั้งเมืองเลยทีเดียว
แต่เนื่องจากพวกเขาต้องแบ่งปันไปให้พันธมิตรอย่างเมืองคนแคระและหมู่บ้านเอลฟ์ อีกส่วนหนึ่งต้องเก็บเอาไว้ทำเนื้อตากแห้งเผื่อในยามฉุกเฉิน มันจึงมิพอเพียงสำหรับคนทั้งหมด
แต่ตอนนี้พวกเขามิต้องห่วงเรื่องอาอาหรอีกต่อไปเพราะบัดนี้ เมืองของเขาได้ยึดครองแหล่งอาหารขนาดใหญ่ มันมีปริมาณอาหารมากกว่าโพรงกระรอกถึงห้าเท่า นั่นคือถ้ำวัวนั่นเอง